พระพรหมมุนี (ผิน สุวโจ) วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร กรุงเทพฯ

พระพรหมมุนี (ผิน สุวโจ)
วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร กรุงเทพฯ

พระพรหมมุนี (ผิน สุวโจ อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร และอดีตสังฆมนตรีช่วยว่าการองค์การเผยแผ่ฯ

เกิดในสกุล ธรรมประทีป เมื่อวันศุกร์ที่ 21 ก.ย.2437 ที่ ต.บ้านแหลมใหญ่ อ.บ้านปรก (ปัจจุบันเป็นอำเภอเมือง) จ.สมุทรสงคราม บิดา-มารดา ชื่อ นายห้อยและนางฮวด ธรรมประทีป

ครั้นอายุ 16 ปี เข้าพิธีบรรพชา โดยมีพระครูธรรมธร (แก้ว พรหมสาโร) วัดพวงมาลัย อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เล่าเรียนอยู่ในวัดแห่งนั้นเป็นเวลาปีเศษ ก็ลาสิกขาออกไปเรียนภาษาไทยที่วัดเกตุการาม

อายุ 19 ปี กลับเข้ามาบรรพชาอีกครั้งหนึ่งกับพระมหาสมณวงศ์ (แท่น โสมทัตโต) วัดเกตุการาม และอยู่มาจนอายุครบ 20 ปี บริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดเกตุการาม มีพระพุทธวิริยากร (จิตต ฉันโน) วัดสัตตนารถปริวัตร เจ้าคณะจังหวัดราชบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูอุดมธีรคุณ (เพิ่ม อุชุโก), พระครูธรรมธรอินทร์ (ภาสกโร) วัดเกตุการาม เป็นพระกรรมวาจาจารย์

ภายหลังอุปสมบทศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติที่วัดเกตุการาม สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี

พ.ศ.2461 ย้ายเข้าอยู่วัดบวรนิเวศวิหารเพื่อศึกษาเล่าเรียนต่อในสมัยสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงครองวัดและอยู่ในความดูแลของพระมหานายก (มณี ลิมกุล) ซึ่งเป็นชาวจังหวัดเดียวกัน การขบฉันในสมัยนั้นนับว่าอัตคัด สมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ จึงต้องทรงแบ่งเครื่องเสวยประทานเป็นครั้งคราวเสมอ การศึกษาเล่าเรียนของท่านก็เจริญก้าวหน้าไปเป็นลำดับ สอบได้ชั้นและประโยคต่างๆ ดังนี้

พ.ศ.2464 สอบได้นักธรรมชั้นโท และเปรียญธรรม 3 ประโยค พ.ศ. 2467 สอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค พ.ศ. 2469 สอบได้นักธรรมชั้นเอก

ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2477 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสเป็นวัดบวรนิเวศวิหาร

พ.ศ.2479 ได้รับมอบหมายจากคณะสงฆ์ให้ เดินทางไปตรวจการ คณะสงฆ์ภาคอีสาน คือ นครราชสีมา อุบลราชธานีนครพนม หนองคาย แล้วข้ามไปเวียงจันทน์ โดยมี พระราชเวที (สมเด็จพระอริยวงศาจารย์ จวนอุฏฺฐายี) เป็นหัวหน้าคณะ พร้อมด้วยพระมหาทองสืบ จารุวัณโณ วัดมกุฏกษัตริยาราม

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2477 ได้รับ พระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะที่ พระสุพจนมุนี พ.ศ.2489 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพมุนี พ.ศ.2490 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมปาโมกข์

พ.ศ.2492 ได้รับพระราชทานสถาปนาเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองที่ พระพรหมมุนี

บำเพ็ญกรณียกิจที่สำคัญหลายประการ ตั้งแต่ครั้งยังเป็นพระผู้น้อยเป็นต้นมา

ในยุคที่คณะสงฆ์ปกครองโดยมีคณะสังฆมนตรีบริหารองค์การต่างๆ ในระหว่างที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงผนวชและประทับ ณ วัดบวรนิเวศวิหารเป็นพระอาจารย์ถวายการสอนธรรมตลอดจนถึงทรงลาผนวช

ปกครองวัดบวรนิเวศวิหารอยู่ 4 ปี มรณภาพเมื่อวันที่ 22 ม.ค.2504 สิริอายุ 67 ปี ข่าวสดออนไลน์