[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
28 มีนาคม 2567 18:24:21 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: การอนุโมทนาบุญ : พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี  (อ่าน 717 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Maintenence
ผู้ดูแลระบบ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออนไลน์ ออนไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 992


[• บำรุงรักษา •]

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 90.0.4430.93 Chrome 90.0.4430.93


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 28 เมษายน 2564 19:08:49 »




การอนุโมทนาบุญ
โดย พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร  อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี

ผู้ที่มีสัมมาทิฏฐิมีความเห็นที่ถูกต้องก็จะไม่กล้าทำบาป แล้วก็จะรวยหรือจะจนก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ สำคัญอยู่ที่ว่าใจมีความสุขหรือมีความทุกข์มากกว่า ถ้ารวยแล้วใจมีความทุกข์ก็จะรวยไปทำไม สู้จนแล้วมีความสุขดีกว่าเพราะความสุขทางจิตใจนี้สำคัญกว่าความสุขทางร่างกาย ความสุขของร่างกายนี้เป็นส่วนย่อยเมื่อมาเปรียบเทียบกับความสุขของจิตใจที่เป็นส่วนที่ใหญ่กว่า เช่นเดียวกับความทุกข์ของร่างกายกับความทุกข์ของใจก็เช่นเดียวกัน ความทุกข์ของร่างกายนี้เป็นส่วนย่อยแต่ความทุกข์ของใจนี้เป็นส่วนใหญ่ แล้วถ้ารู้ว่าอะไรเป็นเหตุที่ทำให้เกิดความทุกข์ทางจิตใจ ผู้ที่มีสีมมาทิฏฐิมีความเห็นที่ถูกต้องก็จะไม่กล้าทำ ถ้าต้องทุกข์ทางร่างกายก็ยินดีจะทุกข์ดีกว่าที่จะมากำจัดความทุกข์ทางร่างกายแล้วมาสร้างความทุกข์ทางจิตใจแทน เช่น เวลาอดอยากขาดแคลนก็ไปลักขโมยหรือไปฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเพื่อเอามาเป็นอาหารยังชีพ อันนี้เป็นการบำบัดความทุกข์ทางร่างกายแต่กลับเป็นการไปสร้างความทุกข์ทางจิตใจ ทำให้จิตใจทุกข์ที่เกิดจากการทำบาป และรับผลของบาปที่ยาวนานกว่ารับผลของความสุขทางร่างกายที่ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องตายไปอยู่ดี

ผู้ที่มีความเห็นที่ถูกต้องนี้จะไม่กระทำบาป เช่น พระอริยสงฆ์สาวกทุกๆ รูปนี้ท่านมีดวงตาเห็นธรรม เห็นความเป็นจริงของเรื่องของจิตใจว่าสุขเกิดจากอะไรและทุกข์เกิดจากอะไร ท่านก็จะไม่ทำสิ่งที่จะทำให้ใจเป็นทุกข์ ท่านก็จะทำแต่สิ่งที่ทำให้ใจเป็นสุข เช่น ทำทาน รักษาศีลไม่ทำบาป ภาวนา แล้วก็ทำบุญอย่างอื่นตามโอกาส เช่น ถ้าอยากจะให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วมีความสุขก็ทำบุญทำทานแล้วก็อุทิศบุญนั้นให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ถ้ามีผู้ที่อยากจะทำบุญก็ร่วมอนุโมทนาบุญ คือ สนับสนุนการทำบุญของท่านผู้นั้น เช่น เรามีลูกน้องอยากจะบวชอยากจะขอลาบวช เราก็สนับสนุนเปิดโอกาสยินดีให้เขาลาบวชได้ และอาจจะให้เงินเดือนด้วยเพราะเห็นว่าเป็นการกระทำที่ดี สนับสนุนผู้ที่กระทำความดี เช่น ไปบวช อย่างนี้เรียกว่า “อนุโมทนาบุญ” เวลาใครเขาทำบุญอย่าไปขัดขวาง อย่าไปห้ามเขา เช่น ลาไม่ได้ต้องทำงาน ถ้าจะไปบวชก็ต้องลาออก อย่างนี้เรียกว่าไม่อนุโมทนา ถ้าอยากจะอนุโมทนาอยากจะสนับสนุนให้เขาได้มีโอกาสได้ไปทำบุญได้ไปบวช ก็อนุญาตให้เขาลาบวชได้และให้เงินเดือนเขาด้วยในขณะที่เขาไปบวช เราก็จะได้บุญได้ความสุขใจที่เราได้สนับสนุนคนให้เป็นคนดี เพราะการไปบวชนี้ไม่ได้ทำให้กลายเป็นคนร้ายเพราะไปเรียนรู้ในสิ่งที่จะทำแต่สิ่งที่เป็นคุณเป็นประโยชน์กับตนเองและกับผู้อื่นนั่นเอง เช่น เมืองไทยเราเป็นเมืองพุทธนี่ ทางราชการเลยมีการอนุญาตให้ผู้ที่รับราชการลาบวชได้ ๙๐ วัน ใครรับราชการแล้วถึงเวลาอยากจะบวชนี้ขอลาบวชได้ ๙๐ วัน ไม่ตัดเงินเดือนด้วย ได้เงินเดือน

นี่แหละคือรูปแบบของการอนุโมทนาบุญ เวลาที่มีใครที่เกี่ยวข้องกับเราต้องการทำบุญและต้องผ่านความเห็นชอบของเรา เราควรที่จะส่งเสริมสนับสนุน ไม่ใช่ไปห้ามไปขัดขวางเขาเพื่อรักษาประโยชน์ของเรา เช่น การงานของเราขาดคนไปก็อาจจะทำให้การงานของเราสะดุดบ้าง แต่ถ้าเรามองถึงผลที่ดีทางจิตใจทั้งกับเขาและกับเรา เราก็ควรที่จะอนุโมทนาบุญ นี่คือลักษณะเรื่องของการอนุโมทนาบุญที่เป็นผลจริงๆ ไม่ใช่เวลาใครไปทำบุญเสร็จกลับมาบอกว่าได้ไปทำบุญมาก็สาธุ สาธุ กันไป อันนั้นมันก็สาธุทางปากเท่านั้นเอง แต่มันไม่ได้ประโยชน์อะไรทางจิตใจเพราะไม่ได้มีการเสียสละเพื่อทำให้เกิดความสุขของใจของเราขึ้นมา นี่การอนุโมทนาบุญที่แท้จริงนี้ต้องเกิดจากการที่เราได้เสียสละประโยชน์สุขของเราเพื่อประโยชน์สุขของผู้อื่น เพื่อให้เขาได้ทำบุญได้ทำสิ่งที่ดีทั้งกับตัวเขาเองทั้งกับผู้อื่น นี่ก็เป็นบุญอีกชนิดหนึ่งเรียกว่าการอนุโมทนาบุญ


Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 พฤษภาคม 2564 16:19:57 โดย Maintenence » บันทึกการเข้า

[• สุขใจ บำรุงรักษาระบบ •]
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
“กระบวนการของการชำระจิตใจ” พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี
สมถภาวนา - อภิญญาจิต
Maintenence 0 1027 กระทู้ล่าสุด 08 กันยายน 2562 11:10:15
โดย Maintenence
การทำบุญไม่ได้เป็นการสูญเปล่า พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี
สมถภาวนา - อภิญญาจิต
Maintenence 0 894 กระทู้ล่าสุด 14 กันยายน 2562 09:54:00
โดย Maintenence
เจริญมรรคให้สมบูรณ์ พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี
สมถภาวนา - อภิญญาจิต
Maintenence 0 781 กระทู้ล่าสุด 18 กันยายน 2562 18:32:14
โดย Maintenence
การฝึกฝนอบรมจิตใจ : พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี
สมถภาวนา - อภิญญาจิต
Maintenence 0 741 กระทู้ล่าสุด 08 ตุลาคม 2562 16:35:13
โดย Maintenence
ปัญหาของคนที่ไม่มีธรรมะ - พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี
สมถภาวนา - อภิญญาจิต
Maintenence 0 762 กระทู้ล่าสุด 21 พฤศจิกายน 2562 15:56:07
โดย Maintenence
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.256 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 20 มีนาคม 2567 01:22:44