[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
28 มีนาคม 2567 20:15:46 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ว่าด้วย ศิวลึงค์ เคยสงสัยหรือไม่ ว่าทำไมคนอินเดียถึงบูชาพระศิวะแบบนี้ ?  (อ่าน 1556 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 91.0.4472.77 Chrome 91.0.4472.77


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 08 มิถุนายน 2564 21:46:26 »

ว่าด้วย “ศิวลึงค์”



เคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมคนอินเดียถึงบูชาพระศิวะผ่านสิ่งๆนึงที่เรียกว่า “ศิวลึงค์”?
แล้วทำไมต้องแทนพระศิวะด้วยลึงค์ล่ะ? วันนี้ผมจะให้คำตอบในประเด็นนี้ครับ

คำว่า “ลึงค์” แปลว่า อวัยวะเพศชาย ดังนั้น คำว่า “ศิวลึงค์” ก็แปลแบบตรงๆ เลยว่า “อวัยวะเพศของพระศิวะ” นั่นแหละครับ
ทีนี้ก็ต้องอธิบายก่อนว่า คติการบูชารูปเคารพที่เกี่ยวเนื่องกับอวัยวะเพศนั้นมีมาตั้งแต่โบราณ และมีอยู่ในทั่วทุกภูมิภาค
ทั่วโลกครับ เช่น เทพมิน (Min) ของอิยิปต์โบราณ ซึ่งเป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์และการเจริญพันธุ์
โดยมีรูปเคารพเป็นเทพที่มีอวัยวะเพศชายยื่นออกมา หรือแม้แต่เทพพรีอาปัสซึ่งเป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์เช่นกัน
โดยมีลักษณะเป็นชายที่มีอวัยวะเพศที่แข็งตัวตลอดเวลาแถมยังใหญ่โตมากอีกด้วย
เอาตัวอย่างประมาณนี้ก่อนนะ เพราะเราจะโฟกัสที่เรื่องของศิวลึงค์กันครับ

ในส่วนของอินเดียนั้น ก็มีคติการบูชาอวัยวะเพศมาก่อนหน้าที่ศาสนาฮินดูจะเข้ามาหลอมรวมความเชื่อไป
โดยมองว่า อวัยวะเพศเป็นสิ่งที่สื่อถึงการกำเนิดของมนุษย์ จึงถือว่าเป็นเรื่องที่ศักดิ์สิทธิ์
ไม่เป็นเรื่องหยาบคายแต่อย่างใด เพราะหากไม่มีอวัยวะเพศ ก็จะไม่มีการกำเนิดนั่นเอง โดยลักษณะรูปเคารพของศิวลึงค์นั้น
จะเป็นหินปลายมน ตั้งอยู่บนฐานซึ่งสมมติว่าเป็น “โยนี” (ก็คืออวัยวะเพศหญิง) ซึ่งเป็นสิ่งแทนของพระแม่อุมา
อันเป็นศักติ (คือกำลัง) ของพระศิวะ ซึ่งก็แสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวของหญิงชายอันจะแยกจากกันไม่ได้
หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปก็จะไม่มีการกำเนิดใหม่ การสร้างสรรค์ต่างๆ ก็ย่อมจะไม่เกิดขึ้นเช่นกัน


ทีนี้ เรามาดูกันว่า ในเทพปกรณัมของอินเดียนั้นพูดถึงการเกิดขึ้นของศิวลึงค์ไว้อย่างไรกันบ้าง ซึ่งก็ยกตัวอย่างมา ดังนี้

1. ลิงคปุราณะ : เริ่มด้วยเมื่อพระนารายณ์และพระพรหมเถียงกันว่าใครเป็นเทพเจ้าสูงสุดกันแน่
อยู่ดีๆ ก็มีศิวลึงค์ขนาดยักษ์ที่มีไฟห้อมล้อมผุดขึ้นมาเอง โดยไม่มีใครรู้จุดเริ่มต้นและจุดสูงสุด
เทพทั้งสองจึงตกลงว่าให้ไปหาจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด โดยพระนารายณ์แปลงเป็นหมูป่าขุดลงไปใตดินเพื่อหาจุดเริ่มต้น
ส่วนพระพรหมจะขึ้นไปหาจุดสูงสุด แต่พระพรหมนึกอยากจะโกง เลย deal กับดอกเกดว่าให้จุดที่ดอกเกดอยู่เนี่ย
เป็นจุดที่สูงสุดแล้วจะไปโกหกพระนารายณ์ แต่พระศิวะล่วงรู้กลโกงนั้น จึงปรากฎตัวและสาปพระพรหม
ให้ไม่มีเทวาลัยของตัวเอง อีกทั้งสาปดอกเกดไม่ให้ใช้บูชาเทพเจ้า และให้พรพระนารายณ์
ว่าหากบูชาพระนารายณ์ก็เสมือนบูชาตน

2. วามนปุราณะ : เล่าว่า อยู่ดีๆ ลึงค์ของพระศิวะก็ตกลงมายังโลกมนุษย์ โดยที่ฐานของศิวลึงค์จมอยู่ใต้มหาสมุทร
ส่วนยอดของลึงค์นั้นสูงไปถึงแดนสวรรค์เลยทีเดียว ซึ่งทำให้โลกมนุษย์ปั่นป่วนอย่างมาก พระพรหมกับพระนารายณ์
ก็ปรึกษากันว่าจะทำอย่างไร จึงตกลงพระนารายณ์จะลงไปที่ก้นมหาสมุทร ส่วนพระพรหมจะอยู่บนยอดลึงค์
แล้วบูชาพระศิวะ เวลาผ่านไป ลึงค์ยักษ์นั้นก็แปลงเป็นพระศิวะปรากฎต่อหน้าพระนารายณ์ พระพรหม
และเหล่าเทพทั้งหลาย พร้อมกับว่า หากผู้ใดบูชาศิวลึงค์ด้วยใจจริงแล้ว พระศิวะก็จะประทานพรให้สมตามปรารถนา
นับแต่นั้นมา เหล่ามนุษย์และเทวดาจึงบูชาพระศิวะด้วยศิวลึงค์นั่นเอง

3. พราหมณปุราณะ : เล่าว่า ครั้งหนึ่ง พระศิวะกับปารวตีกำลังเสพสุราและเสพเมถุน กันอย่างเมามันส์ในตำหนัก
เผอิญว่าพระนารายณ์และเหล่าเทพได้เข้ามาหาในขณะที่ทั้งสองยังคงมึนเมาทั้งฤทธิ์สุราและฤทธิ์แห่งกาม
ทำให้เหล่าเทพทั้งหลายต่างก็ติฉินนินทากันอย่างหนักแล้วจากไป เมื่อพระศิวะและปารวตีสร่างเมา
แล้วรู้ข่าวการติฉินนินทาเข้า ต่างก็รู้สึกละอายใจและเสียใจอย่างมาก มากถึงขนาดที่ตรอมใจตายกันเลยทีเดียวครับ
แต่ก่อนที่พระศิวะจะเสียชีวิตก็ได้สั่งเสียไว้ นับแต่นี้ต่อไป สิ่งที่จะแทนพระศิวะและปารวตีก็คือศิวลึงค์และโยนี
หากผู้ใดบูชาสิ่งนั้นด้วยใจจริง ก็จะได้รับความปรารถนานั้นครบถ้วนทุกประการ
ยังมีตำนานว่าด้วยศิวลึงค์เล็กๆ น้อยๆ อีก เช่น ครั้งหนึ่งพระสรัสวดีไม่เข้าร่วมพิธียัญชยะพร้อมกับพระพรหม
เหล่าเทพทั้งหลายจึงสมรู้ร่วมคิดโดยการให้พระพรหมแต่งงานกับนางคัยตรีแล้วเข้าร่วมพิธีแทนพระสรัสวดีเสีย
เมื่อพระสรัสวดีรู้เข้าก็โกรธมาก จึงสาปให้พระศิวะต้องถูกบูชาด้วยรูปศิวลึงค์ สาปพระนายณ์ให้ต้องไปเกิดเป็นมนุษย์
แล้วต้องทนทุกข์จากการพรากจากคนรัก (ก็คือพระรามที่ต้องพรากจากสีดานั่นเอง) ส่วนสามีตัวดีอย่างพระพรหมนั้น
ก็ถูกสาปให้ไม่มีเทวาลัยเป็นของตัวเอง

อีกเรื่องนึงก็คือ ครั้งหนึ่งฤาษีภฤคุ (บิดาของพระศุกร์) ไปหาพระศิวะที่ไกรลาส แต่ขณะนั้น พระศิวะมัวแต่สนุนสนาน
กับการร่ายรำกับปารวตีจนไม่สนใจแขกเหรื่อที่มาหา ฤาษีภฤคุก็โกรธสิครับ ก็เลยสาปพระศิวะว่าเขาจะต้องถูกบูชา
ด้วยรูปของศิวลึงค์แทน เป็นต้น





Writer BenzKaweewut
ที่มา : เจาะเวลาหาอดีต
ภาพ : เว็บไซท์ museumthailand.com

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.424 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 25 มีนาคม 2567 14:27:12