[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
26 เมษายน 2567 22:57:07 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: The origin of roti….โรตีนี่นี้มาจากไหน  (อ่าน 581 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2325


ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 91.0.4472.124 Chrome 91.0.4472.124


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2564 15:48:57 »

https://www.sarakadee.com/wp-content/uploads/roti00.jpg
The origin of roti….โรตีนี่นี้มาจากไหน


The origin of roti….โรตีนี่นี้มาจากไหน

ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ภาพจำของคำว่า “โรตี” กับ “อินเดีย” กลายเป็นของคู่กัน แต่วัฒนธรรมการกินโรตีของเราสนุกสนานและมีลูกเล่นตราบใดที่สตรีทฟูดยังอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นการซื้อโรตีกรอบใส่นมน้ำตาลตามรถเข็น นั่งสั่งหน้านูเทลล่า, กล้วยช็อกโกแลตตามร้านนม โรตีมะตะบะที่ออกจะเป็นเมนูของคาวเสียหน่อย หรืออีกแบบไปเลยคือสายแข็งแห่งอาหารอินเดีย นั่งกินแป้งโรตีที่เรียกว่า ‘นาน’ ในร้านอาหารคู่กับแกงไก่มาซาลาหรือแกงกุรุหม่า

แต่ในสเกลโลก เรื่องราวของโรตีนั้นซับซ้อนและหลากหลายมากจนยากจะบอกว่าชาติใดเป็นคนนำเข้ามา ตั้งแต่ชาวอียิปต์โบราณในลุ่มแม่น้ำสินธุเมื่อ 5,000 ปีที่แล้ว บ้างบอกว่ามาจากเปอร์เซีย ทำมาจากแป้งไมดา(แป้งจากอินเดีย ทำจากข้าวสาลี) บ้างบอกว่าชาวแอฟริกาตะวันออกนำเข้ามาในอินเดีย เพราะยุคนั้นมีหลักฐานว่าที่นั่นผลิตข้าวสาลีและแป้งแผ่นกลมบางกรอบกันเยอะโดยไม่ต้องใช้การหมัก แถมยังเป็นอาหารหลักในหมู่ชาวแอฟริกันตะวันออกที่พูดภาษาสวาฮีลีด้วย

แต่เหตุผลที่เราคุ้นเคยภาพของโรตีกับอินเดียก็ไม่แปลกเพราะหลักฐานทางประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ระบุไว้ว่า ‘โรตี’หรือ ‘จาปาตี’ ถูกพบเจอที่อินเดียตอนใต้

ยุคที่อินเดียทำอาชีพเกษตรกรรมกันเป็นหลัก ชาวอินเดียก็ปลูกข้าวกับพืชพันธุ์ที่เป็นพวกของแห้งไปตามเรื่องตามราว แต่ก็ยังไม่มีพืชผลหลากหลายมากนัก ชาวบ้านเลยเริ่มปลูกข้าวฟ่างและธัญพืชบดละเอียดเข้าด้วยกันแล้วนำไปผสมน้ำ จาปาตีเลยเกิดขึ้นจากการที่ชาวบ้านหยิบนู่นผสมนี่ นำข้าวสาลีและแป้งผสมเข้าด้วยกันจนอร่อยกว่าพืชผลต่างๆ ที่ตัวเองปลูกเสียอีก

ว่ากันว่าพวกนักเดินทางใช้เจ้าแป้งบางกรอบนี่ห่อแกงกะหรี่ไปแทนภาชนะเลยเพราะสามารถบรรจุอาหารกับน้ำได้ แถมกินได้อีกต่างหาก

จากนั้นแป้งจาปาตีมหัศจรรย์ก็ป๊อปไปตามเส้นทางความกินง่าย มิกซ์กับอะไรก็อร่อยจนป๊อปเป็นพิเศษในหมู่พวกทหารชาวบริติชในช่วงสงครามประกาศอิสรภาพปี 1857 ซึ่งมักจะชอบแป้งมากกว่าข้าวด้วยซ้ำ จาปาตีกลายเป็นอาหารแห่งนวัตกรรมไปในหลายประเทศเพราะผู้อพยพนำสูตรเข้ามาในอเมริกาและอังกฤษจนเมนูที่เกี่ยวข้องพัฒนาไปไกลมาก สูตรแป้งก็หลากหลาย แถมรสชาติก็ยังน่าสนใจแตกต่างกัน แค่ลองชิมจาปาตีในแต่ละพื้นที่ของอินเดียรสชาติก็แปลกลิ้นแตกต่างกันแล้ว

ในแต่ละประเทศก็มี signature โรตี หรือจาปาตีในแบบของตัวเอง สื่อสารได้ถึงการอยู่ร่วมกันทางวัฒนธรรมโดยมีอาหารง่ายๆ เป็นตัวแทนของความหลากหลายในสังคม สนุกและมีนัยยะทางวัฒนธรรมตั้งแต่วัตถุดิบไปจนถึงวิธีการกิน คนไทยอาจจะไม่ค่อยใช้มือจกแป้งปาดแกงกะหรี่กันมากนัก แต่ลองไปนั่งท่ามกลางโรงอาหารอินเดียสิ ลองสังเกตสีหน้าแห่งความสาแก่ใจตอนที่คนดูดนิ้วที่ติดแกงอยู่เพื่อปิดจ็อบหนึ่งมื้อดูสิ

มาเลเซียมีโรตีจาไนที่อยู่มาตั้งแต่ยุคจักรวรรดิบริติช แป้งสะบัดหมุนลอยในอากาศตวัดเป็นวงกลมคล้ายแผ่นซีดีขนาดเล็ก ใส่เนยกี(ทำจากนมวัว/นมควาย) ทอดจนกรอบแต่เคี้ยวแล้วยังนุ่มละมุนอยู่ สิงคโปร์มี โรตีปราตาไว้กินคู่กับแกงกะหรี่หรือแกงเนื้อรสจัด หรือในสายของหวานแบบที่เราคุ้นเคยกัน ใส่ชีส ใส่นม ใส่ไอศกรีมก็ยังได้ ลูกเล่นมีสารพัดและหากินได้ง่ายตามท้องถนนอีกต่างหาก ถือว่าเป็นวัตถุดิบแห่งการผจญภัยสืบเนื่องมาหลายศตวรรษจริงๆ

รู้เกร็ดคร่าวๆ เกี่ยวกับโรตีในประวัติศาสตร์โลกกันไปแล้ว ลองย่อขนาดแผนที่ให้เล็กลงมาที่แง่มุมของโรตีและชีวิตจริงของคนฟาดแป้งกันดูบ้าง นอกจากเรื่องกระบวนการ อาหารก็เป็นกระบอกเสียงเล่าเร่องราวของวัฒนธรรมและกิจกรรมของคนแต่ละยุคสมัยได้มาก ถ้าพูดถึงโรตีกับมุสลิม คนมุสลิมเองก็กินโรตีต่างข้าวดุๆ เหมือนกัน ยิ่งถ้าใครเคยไปมัสยิดหรือสุเหร่าก็อาจจะคุ้นเคยดีเพราะในแต่ละพื้นที่จะมีร้านโรตีตั้งอยู่ประปรายตามโอกาส

ผลงานชิ้นแรกพาไปสำรวจเรื่องราวของโรตีที่โรยชีวิตลงไปในนั้นแทนน้ำตาล ตอนที่คลิกอ่านก็อย่าลืมไปซื้อโรตีใส่ไข่แถวบ้านมานั่งกินแกล้มไปด้วยนะ


ที่มา นิตยสารสารคดี

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
เล่าต้นกำเนิดมวยฆ่าสิงโต โบกาตอร์ The origin of Bokator
ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
มดเอ๊ก 0 304 กระทู้ล่าสุด 23 กุมภาพันธ์ 2566 10:27:59
โดย มดเอ๊ก
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.229 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 24 กันยายน 2566 23:00:05