28 มีนาคม 2567 23:58:54
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
สุขใจในธรรม
เกร็ดศาสนา
.:::
ทำไมถึงมี “วงรัศมี” รอบศีรษะบุคคลสำคัญทางศาสนา
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: ทำไมถึงมี “วงรัศมี” รอบศีรษะบุคคลสำคัญทางศาสนา (อ่าน 537 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 2303
ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 91.0.4472.124
ทำไมถึงมี “วงรัศมี” รอบศีรษะบุคคลสำคัญทางศาสนา
«
เมื่อ:
14 กรกฎาคม 2564 14:03:13 »
Tweet
ภาพประกอบเนื้อหา
ทำไมถึงมี “วงรัศมี” รอบศีรษะบุคคลสำคัญทางศาสนา
ทั้งฝั่งตะวันตก-ตะวันออก ?
ที่มา - ศิลปวัฒนธรรม
เผยแพร่ - วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2564
ศาสนาหรือลัทธิความเชื่อต่างๆ ทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นศาสนาพุทธ คริสต์ ฮินดู โซโรคัสเตอร์ หรือแม้แต่เทพปกรณัมของกรีก มักถูกมองว่าล้วนมีเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป แต่เมื่อดูงานศิลปะอันเกี่ยวเนื่องกับศาสนาต่างๆ เหล่านี้แล้วกลับพบว่า ยังมีบางสิ่งที่พอจะเชื่อมโยงความเชื่อทางศาสนาเหล่านั้นเข้าด้วยกัน สิ่งนั้นก็คือ
สัญลักษณ์วงรัศมี
หากสังเกตในงานศิลปะทางศาสนา หลายคนน่าจะพอจำสัญลักษณ์วงรัศมีซึ่งปรากฏอยู่รอบศีรษะของบุคคลซึ่งถูกมองว่ามีสถานะความศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของแต่ละกลุ่ม
วงรัศมีในงานศิลปะมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งที่เป็นประกายแบบที่ปรากฏในเทพีเสรีภาพ หรือแบบที่เป็นลักษณะเปลวเพลิงในงานศิลปะแบบอิสลาม ทั้งในจักรวรรดิออตโตมัน จักรวรรดิโมกุล กระทั่งจักรวรรดิเปอร์เซีย
เหตุผลในการประดิษฐ์สัญลักษณ์วงรัศมีนี้ มีผู้สันนิษฐานไปในทิศทางต่างๆ นานา โดยแหล่งข้อมูลบางแห่งอ้างว่า เดิมทีวงรัศมีนี้เป็นรูปแบบของมงกุฎ หรือบ้างก็ว่าเป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งโรจน์ที่แผ่ออกมาจากจิตใจของผู้มีความศักดิ์สิทธิ์ หรืออาจเป็นข้อเสนอที่เรียบง่ายกว่านั้น โดยอ้างว่าเป็นเพียงการประดับตกแต่ง
นอกจากนี้ยังมีข้อสันนิษฐานที่แหวกแนวออกไปอีกว่า วงรัศมีนี้พัฒนามาจากแผ่นที่ติดอยู่กับรูปปั้นเพื่อป้องกันมูลนกตกใส่ศีรษะของรูปปั้นทวยเทพ
แมทธิว วิลสัน (
Matthew Wilson
) ผู้เขียนบทความเรื่อง “สัญลักษณ์วงรัศมีซึ่งแพร่กระจายไปทั่วโลก” ในเว็บไซต์
BBC
อธิบายว่า การค้นคว้าศึกษาเกี่ยวกับแนวคิดเชิง “หน้าที่” ของสัญลักษณ์วงรัศมีในงานศิลปะทางศาสนาที่ผ่านมาพบว่า สามารถสืบข้อมูลย้อนกลับไปได้ไกลถึงแค่ช่วงระหว่าง 100 ปีก่อนคริสตกาลถึงช่วง 1 ปีก่อนคริสตกาล และแม้ว่าวงรัศมีนี้จะไม่มีปรากฏอย่างโดดเด่นในศาสนาใดๆ มาก่อนหน้านี้ แต่เพียงไม่กี่ศตวรรษถัดมา มันได้กลายส่วนหนึ่งของศาสนาต่างๆ ไปทั่วยูเรเซีย
ตามมุมมองของแมทธิว วิลสัน เขาอธิบายว่า สัญลักษณ์วงรัศมีนี้มีแนวโน้มว่าวิวัฒนาการมาจากศิลปะในยุคแรกๆ ของอียิปต์โบราณ ซึ่งมีเทพรา (
Ra
) ผู้เป็นสุริยเทพที่มักจะมีรูปทรงกลมอันเป็นตัวแทนแห่งดวงอาทิตย์ปรากฎอยู่บริเวณเหรือศีรษะ
โดยลักษณะในทำนองเดียวกันนี้ยังพบที่เมือง
Mohejo-daro
(ในหุบเขา I
ndus
ปากีสถาน) ช่วงทศวรรษ 2,000s ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งรัศมีเหล่านี้ปรากฏลักษณะประกายแบบเปล่งออร่าทั่วร่างกาย ไม่ได้เป็นแค่เพียงบริเวณศีรษะเท่านั้น
หรือแม้แต่ในศิลปะของกรีกโบราณยังสามารถพบมงกุฎที่แผ่รัศมีออกมาจากบริเวณศีรษะของวีรบุรุษในตำนาน ซึ่งเป็นการชี้ให้เห็นพลังอันศักดิ์สิทธิ์ แต่วงรัศมีที่พบเห็นในปัจจุบันนี้ แมทธิว มองว่าเป็นผลมาจากการประดิษฐ์ในยุคหลัง ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากแนวคิดทางศาสนาที่เฉพาะตัว
ตัวอย่างแรกสุดของวงรัศมียุคแรกๆ ที่เป็นลักษณะจานทรงกลมมาจากในงานศิลปะทางศาสนาของอิหร่านโบราณเมื่อทศวรรษ 300s ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งมักจะถูกรับรู้ว่าเป็นลักษณะเด่นของ
Mithra
ผู้เป็นเทพแห่งแสงในศาสนาโซโรคัสเตอร์ มีข้อเสนอแนะว่า แนวคิดเรื่องความรุ่งโรจน์อันศักดิ์สิทธิ์ในโซโรคัสเตอร์เกี่ยวพันเชื่อมโยงกับแนวคิดการแผ่รัศมีของดวงอาทิตย์ ซึ่งการใช้วงรัศมีในบริบทนี้เป็นการสื่อสารเชิงภาพในแง่ที่พยายามเชื่อมโยงคุณลักษณะของวงรัศมี(เชิงดวงอาทิตย์)มาผูกเข้ากับลักษณะของ
Mithra
แบบเดียวกับที่เกิดขึ้นกับเทพรา (
Ra
)
เมื่อเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 100 เริ่มพบสัญลักษณ์วงรัศมีในสถานที่ที่กว้างไกลออกไป เช่น เมือง
El Djem
ในตูนิเซีย เมือง
Samosata
ในตุรกี หรือเมือง Sahri-Bahlol ของปากีสถาน เรื่อยมาจนถึงช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 400 สัญลักษณ์วงรัศมีถูกผนวกเข้ากับศิลปะแบบคริสเตียนในกรุงโรม รวมถึงศิลปะทางพุทธศาสนาในประเทศจีน ในระยะเวลาเพียงไม่กี่ศตวรรษ สัญลักษณ์วงรัศมีก็กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งความศักดิ์สิทธิ์ในหลายศาสนาแถบยูเรเซียไป
Matthew Wilson
อธิบายอีกว่า อิทธิพลของสัญลักษณ์วงรัศมีที่แพร่กระจายไปทั่วโลก เริ่มจากการเคลื่อนตัวออกจากอิหร่าน ซึ่งอาจถือว่าเป็นถิ่นกำเนิดของมันออกไปสู่ทั้งแถบตะวันออกและตะวันตก ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 1 เมื่อชาวอินโด-ไซเธียน (ชนเผ่าเร่ร่อนจากอิหร่าน) และคูชาน (จากบักเตรียในอัฟกานิสถาน) รุกรานพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ดินแดนที่ปัจจุบันคือพื้นที่ของปากีสถาน อัฟกานิสถาน และอินเดียตอนเหนือในปัจจุบัน ทั้งสองอาณาจักรซึ่งอยู่ท่ามกลางวัฒนธรรมอิหร่านโบราณ นำระบบเงินตราที่ปรากฏเหรียญซึ่งสื่อถึงเทพ Mithra อันมีวงรัศมีปรากฏอยู่เข้ามาด้วย
เทพซึ่งมีลักษณะน่าสนใจและมีรัศมีแห่งเทพเจ้าเป็นสิ่งที่ชวนดึงดูดความสนใจผู้คนในแถบเทือกเขาฮินดูกูช (
Hindu Kush
) แมทธิว ชี้ว่า แม้แต่ภาพของพระพุทธองค์ที่เชื่อกันว่าเป็นงานภาพยุคแรกๆ ที่นำเสนอภาพของพระพุทธองค์อย่างภาพภายนอกที่เก็บพระธาตุ
Bimaran
(ซึ่งอาจมีขึ้นตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 1) ยังแสดงให้เห็นพระพุทธเจ้าพร้อมวงรัศมี แบบที่พบในความเชื่อของกลุ่ม Mithra
เวลาต่อมา
Mithras
ยังมีอิทธิพลต่อการเขียนรูปลักษณ์ของของเทพโรมันอีกองค์หนึ่ง คือ
Sol Invictus
เทพเจ้าทั้งสององค์ล้วนผนวกเอาร่างกายที่สง่างามเข้ากับพลังศักดิ์สิทธิ์ โดยเชื่อมโยงกับการแผ่รัศมีและอำนาจของดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชนชั้นนำในสังคมเคารพบูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับจักรพรรดิแห่งโรมันอย่างคอนสแตนติน (จักรพรรดิในปี ค.ศ.306-337) ซึ่งยอมรับสัญลักษณ์ของวงรัศมีในเชิงอำนาจของมัน คอนสแตนตินกับทายาทจึงใช้วงรัศมีนี้ในงานศิลปะที่แสดงให้เห็นภาพของพวกเขา
จากนั้น เมื่อศาสนาคริสต์ในจักรวรรดิโรมันเริ่มได้การยอมรับมากขึ้น ศิลปินจึงเริ่มสร้างงานศิลปะแบบที่นำเสนอภาพของพระเยซูพร้อมวงรัศมี การประยุกต์ใหม่ในทางสัญลักษณ์ในหมู่คริสเตียนนี้ปรากฏขึ้นในช่วงราวทศวรรษที่ 300s หลังจากมันปรากฏในศาสนาพุทธมากกว่า 200 ปี
สัญลักษณ์วงรัศมีนั้นคงอยู่ในงานศิลปะของคริสเตียนนับแต่นั้นมา แม้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนดัดแปลงบ้างในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
สำหรับศาสนาพุทธ เชน และฮินดู ทั้งสามศาสนาปรากฏที่ทางอยู่ในอินเดียร่วมกันได้ในช่วงพันปีแรกของคริสต์ศตวรรษ ทั้งสามความเชื่อแชร์ไอเดียและการเขียนรูปลักษณ์ในงานศิลปะรวมถึงสัญลักษณ์วงรัศมีด้วย
งานแกะสลักยุคแรกๆ ที่ปรากฏรูปวงรัศมีจากศาสนาในอินเดียมาจากศูนย์กลางการผลิตงานศิลปะที่ยิ่งใหญ่สองแห่ง ได้แก่
Gandhara
(ที่ชายแดนของปากีสถานและอัฟกานิสถาน) และ
Mathura
(ห่างจากทางตอนใต้ของเมืองเดลี 90 ไมล์)
ในยุคโบราณตอนปลายและยุคกลาง
Gandhara
อยู่ในบริเวณศูนย์กลางของเครือข่ายเส้นทางการค้าขนาดใหญ่ที่ทอดยาวไปถึงจีนทางตะวันออกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางตะวันตก
วัดทางพุทธศาสนาจึงปรากฏขึ้นตามจุดเชื่อมต่อหลักของเส้นทางการค้า และวัดทางพุทธศาสนานี้เอง เป็นสถานที่ให้เหล่าพ่อค้าได้พักผ่อน สวดมนต์ และพักฟื้น กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่พระพุทธศาสนาแผ่ขยายวงกว้างไปทั่วจีน รวมทั้งการเขียนรูปลักษณ์ทางศาสนาในงานศิลปะ เมื่อเวลาผ่านไป สัญลักษณ์วงรัศมีก็ปรากฏในงานศิลปะในแถบเกาหลีและญี่ปุ่น ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 500
การเผยแพร่แบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับศาสนาฮินดูเช่นกัน โดยแพร่กระจายไปทั่วเอเชียผ่านเส้นทางการค้าทางบกและทางทะเล รวมถึงได้นำแนวคิดความเชื่อทางศาสนาและรูปแบบศิลปะมาสู่อินโดนีเซีย มาเลเซีย และดินแดนอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...