[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
19 เมษายน 2567 04:29:42 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: แบบธรรมเนียมพุทธศาสนา ไทย ลาว กัมพูชา  (อ่าน 651 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5436


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2564 15:03:59 »


ขอขอบคุณเว็บไซท์ http://2.bp.blogspot.com (ที่มาภาพ)

   พระพุทธศาสนา ไทย ลาว กัมพูชา



การเรียนหนังสือของเด็กผู้ชายในสมัยก่อน อาศัยวัดเป็นหลัก โดยมีพระภิกษุเป็นผู้อบรมสั่งสอน



เจดีย์วัดมหาธาตุ หรือวัดธาตุน้อย เมืองหลวงพระบาง  
จากอักษรในพระเจดีย์ว่าสร้างด้วยพระราชศรัทธาของพระราชอัยกามหาเทวีเจ้า
ในพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชแห่งล้านช้าง ในปี พ.ศ.๒๐๙๑ บูรณะใหม่ในปี พ.ศ.๒๕๓๔




สมเด็จพระมหาสังฆราช (นิล เตียง สุวณฺณเกสโร)
สมเด็จพระมหาสังฆราช (นิล เตียง สุวณฺณเกสโร) แห่งกัมพูชา เป็นสมเด็จพระมหาสังฆราชฝ่ายมหานิกายที่สำคัญในรัชกาลสมเด็จพระนโรดม ประสูติเมื่อวันเสาร์ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือนแปด(๘) ปีวอก พ.ศ.๒๓๖๘ ตรงกับวันที่ ๓กรกฏาคม ค.ศ.๑๘๒๔ ที่เมืองโพธิบาท เขตเคียนสวาย เมื่ออายุได้ ๑๑ ปี เกิดสงครามสยาม-เวียดนาม ท่านถูกกวาดต้อนมาประเทศไทยพร้อมครอบครัว

ต่อมาเมื่อ พ.ศ.๒๓๗๘ ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดมหาธาตุท่าพระจันทร์ กรุงเทพ ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมเรื่อยมาและเข้าสอบเปรียญ๑-๒ ถึงเปรียญ ๙ ใน พ.ศ.๒๓๘๘ และได้อุปสมบทเป็นนาคหลวงในสมัยรัชกาลที่ ๓ เมื่อ พ.ศ.๒๓๘๘ ปีเดียวกัน

ต่อมาเมือพระองค์ด้วงได้ครองราชย์สมบัติในกัมพูชาได้นิมนต์ไปสืบศาสนาในกัมพูชาเมื่อ พ.ศ.๒๓๙๓ ท่านได้เลื่อนสมณศักดิ์จนได้เป็นพระสังฆราชเมื่อ พ.ศ.๒๔๐๒ ท่านมีบทบาทในการบูรณะวัดโบราณ และสร้างวิหารพระแก้วมรกต และสร้างวัดเพิ่มเติมขึ้น ท่านสิ้นพระชนม์เมื่อ ๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๒๖




การตีคลีในบุญนมัสการพระธาตุหลวง
กีฬาตีคลี เป็นการละเล่นพื้นบ้านอย่างหนึ่งที่มีมาช้านาน เเละจัดการละเล่นในบุญนมัสการพระธาตุหลวงตั้งเเต่อดีตกาลมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อเสริมสร้างให้เกิดความสามัคคีกัน โดยอุปกรณ์ในการตีคลีนั้นได้เเก่ ไม้ตีที่ทำจากตอไม้ไผ่รูปทรงแบบไม้ฮอกกี้ ลูกคลีกลึงเป็นรูปทรงกลมจากไม้มีน้ำหนักเบา
 
การปฏิบัติในการตีคลีในบุญนมัสการพระธาตุหลวงนี้ จะเเบ่งเป็นสองฝ่าย ระหว่างฝ่ายรัฐกับฝ่ายประชาชน มีความเชื่อกันว่า หากปีไหนฝ่ายรัฐชนะ จะทำให้ประชาชนทุกข์ยากลำบาก ไม่มีความสุขในปีนั้นๆ แต่ถ้าว่าฝ่ายประชาชนชนะ บ้านเมืองจะมีความสุข อุดมสมบูรณ์ทั้งพืชพรรณธัญญาหาร มีความสุขบริบูณร์ดีในปีนั้นๆ ดังนั้นทุกครั้งฝ่ายประชาชนต้องเอาชนะให้ได้เสมอ

กติกาในการเล่นก็คล้ายๆ ฟุตบอล คือฝ่ายใดสามารถตีเข้าประตูของฝ่ายตรงข้ามได้มากกว่าก็ชนะไป




เจดีย์หลวงพ่อแสง วัดมณีชลขัณฑ์
เจดีย์หลวงพ่อแสง วัดมณีชลขัณฑ์ อ.เมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี เป็นเจดีย์ฐานเล็กแต่ทรงสูง อยู่ทางด้านใต้ของวัด สามารถมองเห็นได้แต่ไกล และถือเป็นสัญลักษณ์ตราประจำวัดด้วย

เจดีย์นี้มีลักษณะองค์เจดีย์เป็นรูปสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสองทรงสูงชลูด ฐานขนาด ๑๕.๔๐ เมตร ทำเป็น ๓ ชั้น มีซุ้มประตูยอดแหลมอยู่ด้านข้างทั้ง ๔ ด้าน ชั้นที่ ๔ ตอนบนเป็นองค์ระฆัง ส่วนยอดทำเป็นแท่นบัลลังก์ และปล้องไฉนขึ้นไป เจดีย์หลวงพ่อแสงนี้เป็นที่เคารพสักการะของชาวจังหวัดลพบุรีและใกล้เคียงเป็นอันมาก

สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย ได้เขียนถึงเจดีย์หลวงพ่อแสงว่าผู้สร้าง คือ พระอาจารย์แสง ดังปรากฏในตำนานเมืองลพบุรีว่า ที่ท้องทุ่งพรหมาศอยู่ใกล้เมือง มีพระเจดีย์สูงที่วัดมณีชลขัณฑ์ องค์ ๑ แลเห็นได้แต่ไกล ชวนให้สำคัญว่าเป็นของสร้างไว้แต่โบราณ แต่แท้จริงเป็นของพระภิกษุองค์ ๑ ชื่อพระอาจารย์แสง เป็นผู้คิดแบบสร้างขึ้นเมื่อรัชกาลที่ ๔ ซึ่งเป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองทรงชลูด กำลังเอนไปทางทิศใต้จนมีผุ้ให้สมญานามว่า หอเอนเมืองลพบุรี เล่ากันว่า หลวงพ่อแสงผู้สร้างวัดนี้ สร้างเจดีย์ความสูงขนาด ๕-๖ ชั้น โดยไม่ใช้นั่งร้าน สร้างเสร็จแล้วก็กระโดดลงมาแล้วหายตัวไป




วัดพระพุทธโฆสาจารย์
วัดพระพุทธโฆสาจารย์ กรุงพนมเปญนี้ เป็นวัดโบราณ ตามประวัติว่า เจ้าพญายาต (พระบรมราชา) ผู้สถาปนาพนมเปญเป็นราชธานีครั้งเเรก โปรดให้สร้างขึ้น เมื่อครั้งย้ายมาจากบาสาณ (ศรีสันธร) ในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๒๐ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของคลองเจินด็อมแฎม(จีนตีเหล็ก) ทางทิศเหนือของพนมโฎนปึญ (วัดพนม)

เจ้าพระยาบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เป็นแม่ทัพเอกของสยามสมัยรัชกาลที่ ๓ ช่วงหนึ่งได้นำทัพไปขับไล่กองทัพญวนที่เข้ามาก่อความวุ่นวายในกรุงพนมเปญ ซึ่งสมัยนั้นยังอยู่ในขอบขัณฑสีมาของสยาม ครั้นสำเร็จแล้ว ท่านก็บูรณะวัดวาอาราม พร้อมจารึกเรื่องราวไว้ ณ วัดพุทธโฆสาจารย์




นามสมเด็จพระราชาคณะ กรุงกัมพูชา
นามสมเด็จพระราชาคณะ กรุงกัมพูชา ในอดีต
ปัจจุบัน ยังใช้อยู่ไม่กี่ชื่อ เเบ่งเป็นสำรับ ดังนี้
๑.สำรับเอก
-ศักดินา ๑๐๐๐๐
         สมเด็จพระสังฆราชาธิบดี
         สมเด็จพระสุคนธาธิบดี
         สมเด็จพระธรรมลิขิต
         สมเด็จพระโพธิวงศ์
         สมเด็จพระวันรัตน
-ศักดินา ๙๐๐๐
         สมเด็จพระมหาพรหม
         สมเด็จพระมหาธาตุ
-ศักดินา ๘๐๐๐
         สมเด็จพระศีลสิทธิวาตม์
๒. สำรับโท ศักดินา ๑๐๐๐๐
         สมเด็จพระมหาปัญญาวงศา
         สมเด็จพระพุทธวงศ์
         สมเด็จพระธรรมโฆษา
         สมเด็จพระสารีบุตร
         สมเด็จพระมัคญาณ
๓. สำรับตรี ศักดินา ๑๐๐๐๐
         สมเด็จพระอริยวงศา
         สมเด็จพระพุทธโฆษา
         สมเด็จพระธรรมเสนาบดี
         สมเด็จพระนิโรธ
         สมเด็จพระมุนีปทุม
.
จากทำเนียบนาม ภาคที่ ๓ ตำราทำเนียบบันดาศักดิ์กรุงกัมพูชา หนังสืออนุสรณ์งานศพเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ (ชุ่ม อภัยวงศ์) พิมพ์ปี ๒๔๖๕




ฌาปนกิจพระเถระ (ไม่ทราบชื่อ) ที่จังหวัดกันดาลในอดีต



ขบวนแห่พระเถระ ให้พุทธศาสนิกชนได้สรงน้ำ ในวันขึ้นปีใหม่ลาว หลวงพระบาง



กุฏิพระ ที่เมืองสุย เชียงขวาง ลาว ถ่ายเมื่อปี ๑๙๓๓ ภาพถ่ายโดย Ecole  





พระภิกษุทางเหนือของลาว
พระภิกษุทางเหนือของลาวสวมหมวกกาบ (ขะโจมหัว, โจมหัว,หว่อม )
เป็นเครื่องประกอบสมณศักดิ์จากการเถราภิเษก ทั้งยังป้องกันความหนาวด้วย
เพราะทางเหนือจะหนาวมากในฤดูหนาว



ขอขอบคุณที่มา : เพจบรรณาลัย & พุทธศาสนาไทย ลาว กัมพูชา

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 กรกฎาคม 2564 15:06:08 โดย Kimleng » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
คนไทยไม่ทิ้งกัน เชิญร่วมบริจาคช่วยเหลือ ทหารและผู้ประสบภัย ชายแดนไทย-กัมพูชา
ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
หมีงงในพงหญ้า 4 4725 กระทู้ล่าสุด 28 เมษายน 2554 12:42:29
โดย หมีงงในพงหญ้า
ปราสาทหินพิมาย จ.นครราชสีมา : สถาปัตยกรรมต้นแบบปราสาทนครวัด กัมพูชา
สุขใจ ไปเที่ยว
Kimleng 3 6265 กระทู้ล่าสุด 09 มีนาคม 2566 19:26:08
โดย Kimleng
สารคดี 1000 สถานที่ ต้องไปให้ได้ก่อนตาย ตอน กัมพูชา
สุขใจ ไปเที่ยว
มดเอ๊ก 0 1074 กระทู้ล่าสุด 12 กรกฎาคม 2559 07:52:48
โดย มดเอ๊ก
[ไทยรัฐ] - มีฮอนดะแล้วไง สื่อเวียดนาม วิเคราะห์สาเหตุ ไทย U23 จะอัด กัมพูชา ขาดลอยในซีเกมส์
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 208 กระทู้ล่าสุด 14 พฤษภาคม 2565 15:02:43
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวด่วน] - กัมพูชา MOU ซิโนแวคของจีนตั้ง รง.บรรจุ-ปิดผนึกวัคซีนโควิดในประเทศ
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 174 กระทู้ล่าสุด 03 มิถุนายน 2565 09:50:51
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.346 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 13 เมษายน 2567 18:53:44