[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
19 เมษายน 2567 20:29:55 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ทางเลือก ๓ ทาง : พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี  (อ่าน 974 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Maintenence
ผู้ดูแลระบบ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออนไลน์ ออนไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 1006


[• บำรุงรักษา •]

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 28 สิงหาคม 2564 15:27:56 »



ทางเลือก ๓ ทาง
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี

จิตของพวกเรามีทางเลือกอยู่ ๓ ทาง ทางไปสู่อบาย ไปสู่ความทุกข์ต่างๆ ไปสู่การเป็นเดรัจฉาน เป็นเปรต เป็นอสูรกาย ไปนรก เกิดจากการกระทำบาปต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดประเวณี พูดปดโกหกหลอกลวง ดื่มสุรายาเมา เสพอบายมุขต่างๆ การกระทำเหล่านี้จะพาให้เราไปสู่อบายกัน ไปเวียนว่ายตายเกิดในอบาย พอหมดบาปก็กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่ แล้วก็มาทำแบบเดิม เพราะเราเคยมีนิสัยที่ทำแบบไหน เราก็จะกลับมาทำต่อไปถ้าเราไม่เปลี่ยน เปลี่ยนได้นิสัยของเราเปลี่ยนได้ แต่ถ้าเรายังไม่เปลี่ยนเราก็จะกลับมาทำแบบเดิม เคยทำบาป พอกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่ก็จะมาทำบาปใหม่ เคยเสพอบายมุขก็จะกลับมาเสพอบายมุขใหม่ เช่นเดียวกับนิสัยของการทำบุญ ถ้าเคยทำบุญเวลากลับมาเกิดเป็นมนุษย์ก็จะมาทำบุญใหม่ มารักษาศีลใหม่ อันนี้มันเป็นนิสัยที่เราปลูกฝังไว้ในใจของพวกเรากัน แต่นิสัยเหล่านี้เราเปลี่ยนได้ หรือเพิ่มให้มันดีขึ้นได้ถ้ามันดีน้อยก็เพิ่มให้มันดีมากได้ นิสัยบาปที่มันบาปมาก จะให้มันบาปน้อยลงก็ได้อยู่ที่เรา ทีนี้เราจะรู้หรือไม่รู้ เราจะเปลี่ยนไม่เปลี่ยนนี้เราจะต้องรู้ว่าทำไมเราจะต้องเปลี่ยนกัน ก็ต้องรู้ว่านิสัยทำบาปมันไม่ดี ทำบาปแล้วมันทำให้เราทุกข์ มีเรื่องมีปัญหาไม่รู้จักจบจักสิ้น เลิกทำบาปดีกว่า หรือลดการทำบาปให้น้อยลงดีกว่า อย่างนี้เราก็จะเปลี่ยนนิสัยได้ พอคิดจะโกหกก็ เอ้อ โกหกไม่ดี อย่าโกหกดีกว่า ไม่ต้องพูดอะไรก็ได้ ถ้าพูดความจริงไม่ได้ก็เฉยๆ ไว้ ไม่มีใครมาบังคับให้เราพูดได้ ก็บอกเขาว่าไม่ขอตอบแค่นี้เอง เราก็ไม่ได้พูดโกหกแล้ว ถึงแม้เขาจะรู้ว่า การไม่ขอตอบของเรานี้เป็นการตอบก็ไม่เป็นไร แต่ไม่โกหก ดีกว่าไปโกหกว่าไม่ได้ทำ อย่างนี้ เขาถามว่าทำหรือเปล่า อันนี้ขอปฏิเสธคำถามนี้ก่อนก็แล้วกัน ไม่ขอตอบ อย่างนี้เขาจะสรุปว่าเราทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้ แต่อย่างน้อยเราไม่ได้โกหก

นี่คือวิธีแก้ปัญหาเรื่องโกหกง่ายๆ คือหุบปากไว้เสีย อย่าพูด ถ้าไม่พูดแล้ว ถือว่าไม่โกหก ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าเราทำหรือไม่ทำก็ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยเราไม่ได้โกหกเขา ถ้าเขาถามแล้ว ถ้าเราตอบไม่ได้ก็บอก ขอผ่านก่อน คำถามข้อนี้ขอผ่านก่อน ขอหาคำตอบก่อน ตอนนี้ไม่รู้คำตอบอยู่ที่ไหน มีโวหารพูดซะหน่อยก็ได้ แล้วก็เขามาบีบบังคับเราไม่ได้หรอก เราฝึกได้ฝืนได้ ทุกครั้งที่เราจะหยิบของของคนอื่น ก็คิดว่าถ้าเป็นของของเรา เราจะรู้สึกอย่างไรบ้าง ถ้าเราวางโทรศัพท์มือถือไว้ ลืม คนอื่นคว้าไปมับเลย เราจะรู้สึกอย่างไร เราต้องเดือดร้อนแล้ว เราต้องเสียใจ เราต้องไปซื้อเครื่องใหม่ ถ้าคิดถึงความเดือดร้อนที่จะเกิดขึ้น เราอาจจะสงสารเขาก็ได้ว่า เอ้อ เราไม่น่าทำเขาเลย ก็อาจจะไม่ทำก็ได้ต่อไป นะมันมีวิธีการที่เราจะเปลี่ยนนิสัยได้ วิธีหนึ่งก็อยู่กับคนที่มีนิสัยที่เราต้องการจะเปลี่ยน ถ้าเราทำบาป ไม่อยากจะทำบาป ก็พยายามอยู่กับคนที่ไม่ทำบาป พอไปอยู่กับคนที่ไม่ทำบาปก็ไม่มีใครมาชวน หรือมาบังคับให้เราทำบาป ถ้าเราอยากจะทำบุญก็ไปอยู่กับคนที่ชอบทำบุญกัน เขาก็จะชวนเราทำบุญกัน นี่ถ้ามาวัดนี่ มีบุญให้ทำอยู่เรื่อยๆ มีศีลให้รักษา มีสมาธิให้นั่ง มีธรรมะให้ฟังให้เกิดปัญญา มีสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ ถ้าเรายังมีนิสัยที่ไม่ดี เราก็อาศัยวัดนี่แหละเป็นโรงเรียนดัดสันดาน วัดนี้เป็นเหมือนสถานที่ดัดสันดาน ดัดนิสัยที่ไม่ดีต่างๆ ของเรา ให้เป็นนิสัยที่ดีได้ เพราะที่วัดนี้จะสอนให้เราละการกระทำบาป ละเสพอบายมุขกัน สอนให้เรามาทำบุญกัน มาทำความดีกัน มาช่วยเหลือกัน มาให้ความสุขต่อกัน แล้วก็สอนให้เรามาหัดนั่งสมาธิ ทำใจให้สงบกัน แล้วก็สอนให้เรามีปัญญากัน ด้วยการคิดถึงไตรลักษณ์กันอยู่เรื่อยๆ คิดถึงอนิจจัง ความไม่เที่ยงแท้แน่นอนของสิ่งต่างๆ มีการเกิดก็มีการดับ มีการเปลี่ยนแปลง มีขึ้นมีลง มีมามีไป เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงความทุกข์ก็ย่อมตามมา เพราะเราไม่ต้องการการเปลี่ยนแปลง เราต้องการความสุข พอความสุขหมดไปเราก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา ถ้าเราไม่อยากจะทุกข์ใจ เราก็อย่าไปยุ่งกับสิ่งที่มันไม่เที่ยงแท้แน่นอน อย่าไปอาศัยสิ่งที่ไม่เที่ยงแท้แน่นอนมาให้ความสุขกับเรา อาศัยสิ่งที่จะให้ความสุขแบบถาวรดีกว่า ความสุขที่ถาวรก็คือความสุขที่เกิดจากการตัดความอยากให้หมดจากใจนี่เอง พอเราตัดความอยากได้แต่ละครั้งนี่ ใจเราเบาขึ้นเลย อยากดื่มสุราแล้วเลิกดื่มสุราได้นี้รู้สึก โอ๊ย เบา สบายใจขึ้นมา อยากเที่ยวเราตัดใจไม่ไปเที่ยวได้ปั๊บ ใจจะเบาขึ้น สบายขึ้น ต่อไปพอเราตัดความอยากทั้งหลายได้หมดนี้ ใจของเราก็จะเหลือแต่ความสุขสบายใจอยู่เพียงอย่างเดียว และเป็นความสุขสบายใจแบบถาวร แบบไม่มีวันสิ้นสุด เพราะไม่มีอะไรจะมาทำลายความสุขใจของเราได้ นอกจากความอยากเท่านั้น แต่เมื่อความอยากได้ถูกกำจัดให้หมดไปจากใจแล้ว ก็จะไม่มีอะไรมาทำลายความสุขของใจเราไปได้ ความสุขของใจเราก็จะเป็นความสุขที่ถาวร ที่พระพุทธเจ้าตั้งชื่อว่า “นิพพาน” นี่เอง “นิพพานัง ปรมัง สุขัง” ความสุขของพระนิพพานเป็นความสุขที่ถาวร ที่เป็นบรมสุข เป็นความสุขที่เหนือกว่าความสุขทั้งปวง เพราะความสุขทั้งปวงนี้เป็นความสุขที่ชั่วคราว ไม่ถาวรนั่นเอง

นี่คือทิศทางที่ ๓ ที่พระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้ค้นพบ ถ้าไม่มีพระพุทธเจ้า ไม่มีตัวแทนของพระพุทธเจ้า เราจะไม่ได้รู้จักทิศทางนี้ เราก็จะรู้จักเพียง ๒ ทิศทาง ทิศทางที่เกิดจากการทำบาป และทิศทางที่เกิดจากการทำบุญ ทั้ง ๒ ทิศทางนี้ยังจะต้องดึงให้พวกเรากลับมาเวียนว่ายตายเกิดกันอยู่เรื่อยๆ ถ้าต้องการที่จะไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิด ไม่ต้องมาทุกข์กับการแก่การเจ็บการตาย การพลัดพรากจากกัน เราก็ต้องรอพบกับผู้ที่รู้ทิศทางที่ ๓ คือพระพุทธเจ้า หรือพระอริยสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า คือเราต้องมาพบกับพระพุทธศาสนา ภพนี้ชาตินี้พวกเราโชคดีได้มาพบกับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้ว จึงไม่ควรปล่อยโอกาสอันดีนี้ให้หลุดมือไป พยายามเข้าหาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ศึกษาดูแผนที่อยู่เรื่อยๆ ให้จดให้จำให้ได้ว่าทิศทางที่ ๓ นี้ไปได้อย่างไรบ้าง พอรู้แล้วเราก็จะได้เดินทางไปสู่ทิศทางที่ ๓ ที่วิเศษนี้ได้ แล้วเราจะได้พบกับพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ที่รอเราอยู่ข้างหน้า


Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

[• สุขใจ บำรุงรักษาระบบ •]
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
สร้างธรรมะให้เป็นที่พึ่งกับใจ พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี
สมถภาวนา - อภิญญาจิต
Maintenence 0 933 กระทู้ล่าสุด 02 กันยายน 2562 16:17:35
โดย Maintenence
“อานิสงส์ของความเมตตา” พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี
สมถภาวนา - อภิญญาจิต
Maintenence 0 977 กระทู้ล่าสุด 04 กันยายน 2562 17:24:35
โดย Maintenence
“ทุกวันนี้เราทุกข์กับอะไร” พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี
สมถภาวนา - อภิญญาจิต
Maintenence 0 886 กระทู้ล่าสุด 06 กันยายน 2562 09:54:10
โดย Maintenence
“ทำใจให้สงบ” พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี
สมถภาวนา - อภิญญาจิต
Maintenence 0 855 กระทู้ล่าสุด 07 กันยายน 2562 12:56:44
โดย Maintenence
“กระบวนการของการชำระจิตใจ” พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี
สมถภาวนา - อภิญญาจิต
Maintenence 0 1038 กระทู้ล่าสุด 08 กันยายน 2562 11:10:15
โดย Maintenence
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.296 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 30 มีนาคม 2567 17:16:18