[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 01:02:21 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ตามรอยนักโบราณคดี ขุดสุสานฟาโรห์ “ทุทันคามุน” เผยวินาทีพบโลงพระศพ-สมบัติสุดอึ้ง!  (อ่าน 360 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2303


ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 101.0.4951.64 Chrome 101.0.4951.64


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2565 14:45:54 »


โฮวาร์ด คาร์เตอร์ ขณะกำลังขุดค้นสุสานฟาโรห์ทุทันคามุน

ตามรอยนักโบราณคดี
ขุดสุสานฟาโรห์ “ทุทันคามุน” เผยวินาทีพบโลงพระศพ-สมบัติสุดอึ้ง!

ที่มา - ศิลปวัฒนธรรม ฉบับพฤศจิกายน 2540
ผู้เขียน - บุญยก ตามไท
เผยแพร่ - วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ.2565


นักโบราณคดี คือนักสำรวจที่เดินทางไปทั่วกาลเวลา เพื่อค้นหาอดีต โดยศึกษาและขุดค้นโบราณวัตถุสถานของอารยธรรมที่สืบทอดมาเป็นมรดกโลก

ต่อไปนี้เป็นเรื่องราวสนุก ๆ แปลและเรียบเรียงจากเรื่อง Behind the Sealed Door เขียนโดย Irene และ Laurence Swinburne เกี่ยวกับนักโบราณคดีโลก โฮวาร์ด คาร์เตอร์ และการสำรวจขุดค้นอันยิ่งใหญ่ของเขา ซึ่งนำไปสู่โลกยุคอดีตที่ถูกฝังอยู่ใต้ดินมานานกว่า 3,000 ปี

คาร์เตอร์ก็เหมือนกับผู้อื่นก่อนหน้าเขา ผู้หลงใหลในเสน่ห์อียิปต์โบราณ เขาพิศวงในพีระมิดใหญ่โต ซากวิหารปรักหักพังและมัมมี่กษัตริย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาอยากรู้อยากเห็นอดีตซึ่งได้ทำให้เขากลายเป็นนักโบราณคดีผู้ยิ่งใหญ่

คาร์เตอร์เดินทางสู่อียิปต์เมื่อ ค.ศ.1890 ขณะอายุ 17 ปี มิใช่ในฐานะนักโบราณคดี แต่ในฐานะจิตรกรร่วมงานกับ เซอร์วิลเลียม ฟลินเดอร์ เพทริ นักโบราณคดีผู้มีชื่อเสียงของพิพิธภัณฑ์สถานบริติช

โลกเป็นหนี้บุญคุณอย่างใหญ่หลวงต่อเพทริ เนื่องจากเขาเป็นผู้เปลี่ยนแปลงศาสตร์แห่งวิชาโบราณคดี ซึ่งเดิมก่อนหน้านี้ไม่มีนักโบราณคดีคนใดให้ความสนใจศึกษาแหล่งโบราณวัตถุสถานอียิปต์มาก่อนเลย นอกจากไม่มีการบันทึกหลักฐานอย่างแม่นยำแล้ว ยังล่าสมบัติล้ำค่าที่ไม่ใช่ของตนไปเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ต่างชาติและสะสมเป็นของเก่าส่วนตัว โดยมักขุดหน้าดินทำลายมรดกวัฒนธรรมด้วย พลั่วและเสียมเปื้อนสกปรกอย่างไร้วิชา




บริเวณที่ขุดค้นสุสานฟาโรห์ทุทันคามุน อยู่ในบริเวณที่เรียกว่าหุบเขากษัตริย์ สถานที่ที่ฝังพระศพฟาโรห์แห่งอียิปต์

เพทริเปลี่ยนแปลงวิธีปฏิบัติโดยสิ้นเชิง เขายืนกรานว่าการสำรวจขุดค้นต้องกระทำด้วยความประณีตละเอียดอ่อนตามหลักวิชาการ เศษดินทุกก้อนต้องสังเกตดูด้วยความเอาใจใส่ เพราะบางทีอาจมีแหวนหรือชิ้นส่วนถ้วยชามติดอยู่ กล่าวกันว่าในอียิปต์ เพทริถึงกับร่อนทรายทุกช้อนที่เขาตักด้วยตะแกรง แม้จะเป็นคำกล่าวขวัญเกินเลย แต่ก็ไม่มีเศษชิ้นส่วนโบราณวัตถุใด ๆ ลอดสายตาเหยี่ยวของเขาไปได้

ภายหลังทำงานร่วมกับเพทริอยู่หลายปี คาร์เตอร์ถูกชักชวนให้ไปทำงานโบราณคดีร่วมกับ ธีโอดอร์ เดวิส ซึ่งกำลังขุดค้นอยู่ที่แหล่งโบราณคดีชื่อว่า หุบเขาแห่งกษัตริย์ เนื่องเพราะพระศพฟาโรห์ หรือกษัตริย์อียิปต์โบราณหลายพระองค์ถูกฝังอยู่ในสุสานห้องพระศพที่นั่น

ปลายทศวรรษของ ค.ศ.1800 หุบเขาแห่งกษัตริย์ถูกโจรขโมยขุดกรุมานานหลายสมัยแล้ว แม้กระทั่งถูกขุดคุ้ยไม่มีชิ้นดีโดยนักโบราณคดีตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน นักโบราณคดีหลายคนเชื่อว่าไม่มีทรัพย์สมบัติใด ๆ หลงเหลืออยู่อีกแล้ว แต่คาร์เตอร์เชื่อว่ายังมีหลักฐานโบราณวัตถุอีกมากมายให้ศึกษาขุดค้นที่หุบเขาแห่งกษัตริย์ เขาไม่ยอมละทิ้งโอกาสทองนี้ไปโดยยินยอมตอบรับคำชักชวนไปทำงานเป็นนักโบราณคดีกับเดวิสทันที

เมื่อ ค.ศ.1907 คาร์เตอร์พบกับ ลอร์ดคาร์นาร์วอน ขุนนางมหาเศรษฐีชาวอังกฤษผู้สนใจใฝ่รู้โบราณคดี ซึ่งประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จำต้องพักรักษาตัวในสภาพภูมิอากาศแห้งและอบอุ่นแบบอียิปต์ตามคำสั่งแพทย์

ความดูดดื่มในความรู้โบราณคดีอียิปต์ นอกจากจะช่วยให้ลอร์ดคาร์นาร์วอนลืมความเจ็บปวดทางร่างกายอันทุกข์ทรมานแล้ว ยังช่วยให้ลอร์ดคาร์นาร์วอนเล็งเห็นความสำคัญทางวิชาการถึงขนาดออกเงินสนับสนุนให้คาร์เตอร์สำรวจขุดค้นหุบเขาแห่งกษัตริย์




โฮวาร์ด คาร์เตอร์ และลอร์ดคาร์นาร์วอน ที่หลุมขุดค้นสุสานฟาโรห์ทุทันคามุน

คาร์เตอร์ทุ่มเทหัวใจขุดค้นหาสุสานห้องพระศพของกษัตริย์อียิปต์โบราณ พระนามว่า ทุทันคามุน ซึ่งเดวิสเคยอ้างว่า เป็นผู้ค้นพบสถานที่แห่งนี้มาก่อนจากร่องรอยของข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสามประการคือ

หนึ่ง – ใกล้บริเวณถ้ำขนาดเล็ก เขาค้นพบถ้วยจารึกพระนามทุทันคามุน

สอง – เดินไปไม่ไกลจากถ้ำมากนัก เขาค้นพบไหจารึกพระนามทุทันคามุน

สาม – ในถ้ำ เขาค้นพบทองแผ่นบางจารึกพระนามทุทันคามุน

แต่คาร์เตอร์ไม่เชื่อว่าเป็นถ้ำซึ่งข้างในเป็นสุสานห้องพระศพของทุทันคามุน เพราะถ้ำนี้มีขนาดเล็กเกินกว่าจะเฉลิมพระเกียรติฟาโรห์แห่งอียิปต์โบราณผู้บรรทมอย่างอมตะในพระที่สุดท้าย คาร์เตอร์กลับเชื่อว่าสุสานห้องพระศพของทุทันคามุนประดิษฐานอยู่ไม่ไกลนัก และดังนั้นเขาจึงมุ่งมั่นขุดค้นหาด้วยความยากลำบากโดยไม่ย่อท้อ

“ขุดเว้ยขุด…เข็นเว้ยเข็น…เปิดให้เห็นโบราณคดี”…แต่ไม่พบ!

ฤดูร้อนกลางปี ค.ศ.1922 ลอร์ดคาร์นาร์วอนเกิดท้อใจสิ้นอดทนจึงตัดสินใจสั่งยกเลิกการสำรวจขุดค้นสุสานห้องพระศพทุทันคามุน โดยเชิญคาร์เตอร์ให้ไปพบที่อังกฤษและบอกกล่าวความประสงค์ให้ฟัง คาร์เตอร์ไม่รู้สึกตกใจ แต่กลับชี้แจงความพร้อมของแผนการสำรวจขุดค้นหุบเขาแห่งกษัตริย์ ที่เตรียมมาโดยคลี่ผังแสดงพื้นที่บริเวณเล็ก ๆ ซึ่งยังไม่ได้ขุดค้นเลยให้ลอร์ดคาร์นาร์วอนดู เขาร้องขอขยายระยะเวลาการสำรวจขุดค้นออกไปอีกหนึ่งฤดูกาล ถ้าหากไม่พบสิ่งใด เขายินดีออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ลอร์ดคาร์นาร์วอนประทับใจในความมุ่งมั่นตั้งใจมุมานะของคาร์เตอร์ จึงยินดีตกลงให้เงินสนับสนุนเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการสำรวจขุดค้นหุบเขาแห่งกษัตริย์ต่อไปอีกหนึ่งฤดูกาล

ในสมัยโน้น ฤดูกาลสำรวจขุดค้นหุบเขาแห่งกษัตริย์อยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน หลังจากนั้นแล้วไม่สามารถทำได้เนื่องจากอากาศร้อน แต่คราวนี้ คาร์เตอร์มีเวลาน้อยลงเพราะสภาพการทำงานสำรวจขุดค้นของเขาขัดขวางทางเข้าสุสานห้องพระศพกษัตริย์ราเมสที่ 6 อันเป็นแหล่งท่องเที่ยวโบราณคดีมีชื่อเสียง ซึ่งทำให้เขาต้องหยุดทำงานในช่วงฤดูท่องเที่ยวตลอดเดือนธันวาคม




บริเวณที่คุดข้นสุสานฟาโรห์ทุทันคามุน

วันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ.1922 คาร์เตอร์เตรียมพร้อมในการสำรวจขุดค้นครั้งสุดท้าย โดยวันแรกเขาและคณะขุดลอกหน้าดินลึกลงไปพบกลุ่มกระท่อมเพิงพักของกรรมกร จวบจนถึงวันที่สี่พวกเขาเคลื่อนย้ายกระท่อมหลังแรกและขุดชั้นทรายที่ทับถมอยู่ในความลึกถัดลงไปออกจนหมด

เมื่อคาร์เตอร์ตื่นเช้ามาทำงานในวันนั้น เขาขุดค้นพบบันไดจำนวนสิบสองขั้นลึกลงไปใต้ดิน และแลเห็นขอบประตูด้านบนซึ่งดูเหมือนจะเป็นประตูทางเข้าสุสานห้องพระศพอย่างแน่นอน จนทำให้คาร์เตอร์ต้องควบคุมมิให้ขุดกระทบประตูเสียหาย

ภายหลังความอดทนต่อการสำรวจขุดค้นอยู่หลายปี ในที่สุดนี่คือการค้นพบสุสานห้องพระศพทุทันคามุน หรือคือการค้นพบประตูที่มีห้องว่างอยู่ข้างในเท่านั้น?

คาร์เตอร์มีเหตุผลที่จะสันนิษฐานว่าสิ่งที่เขาต้องการพบอาจอยู่ข้างหลังประตู หลายครั้งก่อนที่เขาและนักโบราณคดีผู้อื่นได้สำรวจขุดค้นพบสุสานห้องพระศพมาบ้างแล้วโดยคิดว่าจะมีทรัพย์สมบัติล้ำค่าจำนวนมาก แต่เมื่อเข้าไปข้างในแล้วกลับพบแต่ความว่างเปล่า ซึ่งย่อมหมายความว่าเคยมีโจรเข้ามาปล้นสะดมทรัพย์สมบัติไปก่อนหน้านี้แล้วจนหมดสิ้นโดยไม่รู้ว่าเมื่อใด แม้ในสมัยที่คาร์เตอร์กำลังขุดค้นอยู่ก็ยังปรากฏว่ามีโจรลักลอบขุดกรุสุสานห้องพระศพให้เห็นกันดาษดื่นเช่นกัน

เมื่อคาร์เตอร์ขุดค้นต่อไปอีกจนถึงประตูทางเข้า เขายืนตระหง่านอยู่หน้าประตูที่ปิดสนิท เขามีเหตุผลที่จะสงสัยต่อไปว่า เป็นไปได้หรือไม่ ที่สุสานห้องพระศพแห่งนี้ไม่เคยถูกใครค้นพบมานานกว่า 3,000 ปีแล้ว?

คาร์เตอร์ไม่ได้เข้าไปในสุสานห้องพระศพทันทีที่เขาค้นพบ เพราะสิ่งแรกที่เขาตั้งใจทำคือ การส่งโทรเลขไปแจ้งลอร์ดคาร์นาร์วอนที่ลอนดอนว่า “ในที่สุดผมก็ขุดค้นพบความมหัศจรรย์ในหุบเขาแห่งกษัตริย์ สุสานห้องพระศพยังคงปิดอยู่ในสภาพเดิม ผมกำลังรอคอยให้ท่านเดินทางมาถึง ผมขอแสดงความยินดี”

ถ้าสถานที่แห่งนี้คือสุสานห้องพระศพทุทันคามุนจริง ๆ แล้วล่ะก็ คาร์เตอร์ไม่ต้องการเห็นลอร์ดคาร์นาร์วอนพลาดโอกาสอันยิ่งใหญ่ในชีวิต จึงควรมอบเกียรติยศให้เป็นผู้เปิดประตูสุสานห้องพระศพทุทันคามุน ดังนั้นลอร์ดคาร์นาร์วอนและบุตรสาวจึงรีบรุดเดินทางถึงอียิปต์ในสามสัปดาห์ต่อมา


บริเวณที่คุดค้นสุสานฟาโรห์ทุทันคามุน

ณ สุสานห้องพระศพ – ขั้นตอนทุกอย่างเตรียมไว้พร้อมเสร็จสรรพ ประตูบานแรกด้านนอกค่อย ๆ ถูกเปิดออกช้า ๆ อย่างระมัดระวัง จนมองเห็นทางเดินทอดขวางอยู่ข้างหน้าไปสู่ประตูอีกบานหนึ่ง คาร์เตอร์เจาะช่องที่ประตูบานที่สองแล้วเดินเข้าไป มือถือเทียนไขส่องแสงสว่างวับแวม ก้าวเท้าช้า ๆ เดินเข้าไปอีก พลันที่แสงเทียนพุ่งไล่ความมืดมิดออกไป ก็ปรากฏประกายสีทองแวววาวอยู่ทั่วบริเวณห้อง!

“คุณเห็นอะไรไหม?” ลอร์ดคาร์นาร์วอนส่ง เสียงถามเบา ๆ คาร์เตอร์กลั้นใจตอบ “เห็นครับ…ช่างอัศจรรย์ จริง ๆ!” ซึ่งต่อมาคาร์เตอร์บันทึกว่า “ตั้งแต่เกิดมา ผมเพิ่งเคยเห็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดในชีวิตก็คราวนี้”

ห้องโถงข้างในดูเหมือนเป็นห้องเก็บของใต้ดิน สิ่งของที่วางทิ้งไว้ระเกะระกะ ดูราวกับว่าโจรได้เข้ามาทำลายสุสานห้องพระศพเพื่อขโมยทรัพย์สมบัติ หรือใครก็ตามผู้ค้นพบสุสานห้องพระศพแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็น-โจร-พระ-ยาม-ได้นำสิ่งของเหล่านี้กลับคืนมาเก็บไว้ที่เดิมอย่างรีบร้อน แล้วปิดประตูไว้อย่างแน่นหนาอีกครั้ง บางทีในสมัยนั้น สุสานห้องพระศพอาจถูกฝังดินไว้ข้างล่างแล้วปลูกกระท่อมเพิ่งพักให้กรรมกรอาศัยอยู่ข้างบน เพื่อเป็นกลลวงมิให้โจรล่วงรู้

คาร์เตอร์สันนิษฐานทันทีว่า อีกห้องหนึ่งถัดไปจากห้องแรก ต้องเป็นสถานที่บรรจุพระศพหรือมัมมี่ของกษัตริย์ทุทันคามุนอย่างแน่นอน เขาใช้เวลาไม่นานนักในการค้นพบห้องดังกล่าว หะแรกเขาคิดจะเปิดประตูบานที่สาม แต่คาร์เตอร์ซึ่งสมกับที่เป็นคนรอบคอบและเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่อุทิศตนเพื่อสำรวจขุดค้นทางโบราณคดี ได้เคลื่อนย้ายโบราณวัตถุที่วางกองอยู่ในห้องด้านนอกออกไปจนหมดก่อน แล้วจึงเข้าสำรวจดูห้องถัดไป



สุสานฟาโรห์ทุทันคามุน

ลอร์ดคาร์นาร์วอนและคาร์เตอร์ตระหนักว่า พวกเขาพร้อมคณะสำรวจขุดค้นชาวอียิปต์ต้องการกำลังคนช่วยเหลืองานด้านอื่นอีกมาก เช่น การจัดทำบัญชีรายชื่อแจ้งรายการโบราณวัตถุและการบรรจุหีบห่อให้เป็นระบบ ด้วยความระมัดระวังมิให้แตกชำรุดสูญเสียหาย

คาร์เตอร์ติดป้ายทำประวัติและถ่ายรูปโบราณวัตถุทุกชิ้นที่ค้นพบครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่เคยเห็นมาก่อนชั่วชีวิต หนังสือพิมพ์และนิตยสารต่างประโคมข่าวการสำรวจขุดค้นพบโบราณวัตถุอันยิ่งใหญ่ของโลกได้แก่ เก้าอี้นอนบุทอง หีบฝังลวดลายโลหะ ภาชนะดินเผา หีบพระศพ เตียงนอน เก้าอี้ ราชรถ บัลลังก์ทอง และวัสดุเครื่องใช้อื่น ๆ จำนวนมาก

ในห้องนี้ไม่มีโลงพระศพอยู่ มีแต่รูปปั้นคนยืนหันหน้าเข้าหากัน ดุจทวารบาลเฝ้าอยู่ตรงมุมห้อง ตรงกลางมีประตูทางเข้าถูกปิดไว้อย่างแน่นหนา ซึ่งคาร์เตอร์เชื่อว่า “ข้างในคงเป็นห้องหลายห้องและห้องหนึ่งอาจเป็นห้องพระศพของกษัตริย์ทุทันคามุน”




สมบัติบางส่วนภายในสุสานฟาโรห์ทุทันคามุน

สิ่งที่นำความประหลาดใจมาสู่คณะสำรวจขุดค้นโบราณคดีอียิปต์บริเวณหุบเขาแห่งกษัตริย์ ขณะกำลังเดินถือไฟส่องแสงสว่างไปยังปลายสุดของผนังห้องพระศพก็คือ สิ่งของเครื่องใช้อายุ 3,000 ปี ซึ่งล้วนแต่อยู่ในสภาพปราศจากฝุ่นละออง ทุกสิ่งทุกอย่างดูใหม่เหมือนเพิ่งนำมาวางกองไว้ในพระราชพิธีฝังพระศพเมื่อวานนี้เอง จนทำให้พวกเขารู้สึกตกตะลึงถึงกับอ้าปากค้าง

นักโบราณคดีจากพิพิธภัณฑสถานศิลปะแห่งมหานครนิวยอร์กจำนวนสามคนและโดยเฉพาะช่างภาพจำนวนหนึ่งคนซึ่งคาร์เตอร์ระบุชื่อขอยืมตัวมาช่วยงานเป็นกรณีพิเศษคือ แฮร์รี เบอร์ตัน

ก่อนที่โบราณวัตถุแต่ละชิ้นจะถูกเคลื่อนย้ายออกจากตำแหน่งเดิม ได้มีการถ่ายรูปและวาดภาพไว้เสมอทุกแง่มุม รูปถ่ายและภาพวาดจะเป็นหลักฐานอย่างดีบันทึกให้เห็นสภาพดั้งเดิมที่เป็นอยู่ เพราะบางครั้งโบราณวัตถุบางชิ้นเพียงแค่ถูกสัมผัสก็อาจแตกร้าวชำรุดได้

เบอร์ตันได้สร้างห้องมืดชั่วคราวสำหรับถ่ายรูปไว้ในบริเวณใกล้กับห้องพระศพ โดยเขาสามารถอัดล้างขยายภาพที่ถ่ายไว้ได้ทันที เพื่อประกันความมั่นใจว่า เขามีหลักฐานพยานรูปถ่ายโบราณวัตถุที่อยู่ในสภาพเดิมทุกชิ้นก่อนที่จะถูกโยกย้ายออกไป

โบราณวัตถุแต่ละชิ้นถูกลำเลียงไปวางบนเปลไม้ ผูกด้วยด้ายควั่นจากผ้าลินิน และหามออกจากสุสานห้องพระศพ แล้วนำไปยังห้องทดลองวิทยาศาสตร์ ซึ่งสร้างขึ้นเป็นพิเศษไว้ในห้องว่างอีกด้านหนึ่งข้างห้องพระศพ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบดูแลอย่างระมัดระวังเข้มงวดตลอดทาง

การถ่ายรูปโบราณวัตถุนับจำนวนร้อย ๆ ชิ้นที่พบในห้องด้านนอกต้องใช้เวลานานถึงเจ็ดสัปดาห์กว่าจะเสร็จ และเมื่อโบราณวัตถุผ่านขั้นตอนการตรวจสอบ บันทึก จัดหมวดหมู่ ซ่อมแซมและสร้างรูปพรรณสัณฐานใหม่จากห้องทดลองวิทยาศาสตร์เรียบร้อยแล้ว จึงนำส่งไปยังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไคโร



สมบัติบางส่วนภายในสุสานฟาโรห์ทุทันคามุน

พิธีเปิดห้องพระศพเต็มไปด้วยความระทึกใจและยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น เมื่อเสี่ยงดวงว่าข้างในห้องจะมีหรือไม่มีโลงพระศพกษัตริย์ทุทันคามุน? บางทีโจรอาจปล้นทรัพย์สมบัติล้ำค่าในห้องพระศพไปหมดแล้ว คงเหลือทิ้งไว้จำนวนหนึ่งเท่าที่พบในห้องด้านนอก

คราวนี้คาร์เตอร์และลอร์ดคาร์นาร์วอนมิได้อยู่ในห้องพระศพเพียงสองคนเท่านั้น แต่ยังมีข้าราชการและนักโบราณคดีเต็มห้อง ทุกคนกำลังจ้องมองคาร์เตอร์ตาไม่กะพริบ ขณะที่เขาค่อย ๆ บรรจงใช้ค้อนทุบประตูทางเข้าที่ปิดแน่นอย่างช้า ๆ เมื่อเขาสามารถทุบประตูแตกจนได้ช่องขนาดใหญ่พอสมควรแล้ว คาร์เตอร์ส่องไฟฉายเพ่งมองฝ่าความมืดเข้าไปในห้องพระศพ

สิ่งที่มองเห็นเกือบทำให้หัวใจเขาหยุดเต้น ซึ่งคาร์เตอร์บันทึกว่า “ตอนแรกคิดว่าเป็นผนังทอง แต่เมื่อมองดูอีกที กลับเป็นหีบทองใบใหญ่โตเต็มห้องพระศพ”

เมื่อประตูถูกเปิดออกแล้ว คาร์เตอร์และลอร์ดคาร์นาร์วอนได้รับเกียรติให้ก้าวเข้าไปในห้องพระศพพร้อมกันสองคนแรก คาร์เตอร์เดินวนรอบหีบทองไปตามช่องแคบ ๆ ที่อยู่เกือบติดผนังห้องพระศพ ในที่สุดก็พบฝาหีบซึ่งทำให้เขาใจหายวูบด้วยความผิดหวัง เพราะฝาหีบปิดไว้ไม่แน่นหนา สามารถเปิดออกได้อย่างง่ายดาย! คาร์เตอร์จึงคิดเลยเถิดไปว่า โจรได้เข้ามาถึงในห้องนี้แล้วได้ขโมยทรัพย์สมบัติไปจนหมดสิ้น? ชายทั้งสองค่อย ๆ ช่วยกันดึงฝาหีบให้เปิดออก และก็แลเห็นฝาหีบทองซ้อนอยู่ข้างในอีก




โฮวาร์ด คาร์เตอร์ ขณะกำลังขุดค้นสุสานฟาโรห์ทุทันคามุน

พวกเขาดีใจสุดขีดที่เห็นฝาหีบทองใบที่สองซึ่งมือจับที่ฝาสองบานถูกผูกคาดด้วยเชือกและประทับตราครั่งโดยราชองครักษ์ที่เฝ้าดูแลหุบเขาแห่งกษัตริย์ โจรคงไม่ได้เข้ามาถึงในห้องพระศพนี้ คาร์เตอร์และลอร์ดคาร์นาร์วอนสันนิษฐานว่า ภายในหีบทองใบที่สองนี้คงจะบรรจุพระศพซึ่งยังไม่ได้เปิดเผยให้โลกเห็นมานานกว่า 3,000 ปี

กษัตริย์อียิปต์โบราณหลายพระองค์ถูกฝังและถูกขุดพบในหุบเขาแห่งกษัตริย์แล้ว ยังคงเหลือแต่ทุทันคามุนพระองค์เดียวที่พระศพไม่เคยถูกขุดพบมาก่อน เป็นเวลานานนับพันปี

คาร์เตอร์และลอร์ดคาร์นาร์วอนเดินออกจากห้องพระศพกลับไปยังห้องด้านนอก โดยอนุญาตให้ข้าราชการและนักโบราณคดีที่รออยู่เข้าไปในห้องพระศพได้ ไม่มีใครพูดหรือแม้แต่รำพึงอะไรออกมาสักคำ เมื่อทุกคนออกไปรวมกันอยู่นอกสุสานห้องพระศพท่ามกลางแสงอาทิตย์แผดจ้าแล้ว ก็ยังไม่มีผู้ใดสามารถกล่าวบรรยายถึงความมหัศจรรย์ของสิ่งที่พบเห็นมาได้เลย

คาร์เตอร์ไม่สามารถถอดฝาหีบแต่ละด้านที่ประกอบซ้อนอยู่ด้านนอกออกได้อีกต่อไป จนกว่าจะถึงฤดูกาลหน้า ลาร์ดคาร์นาร์วอนไม่มีโอกาสได้เห็นสิ่งที่บรรจุอยู่ข้างในหีบทอง เพราะหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วันเขาเป็นไข้ตาย ซึ่งนำความโศกเศร้าเสียใจสู่คาร์เตอร์และบรรดามิตรสหายนักวิชาการอย่างมาก

ฤดูกาลถัดมา คาร์เตอร์ทำงานด้วยความยากลำบาก เนื่องจากต้องถอดฝาหีบทองซึ่งมีขนาดความยาว 17 ฟุต ความกว้าง 11 ฟุต และความสูง 9 ฟุต ออกจากห้องพระศพ ด้วยการติดตั้งนั่งร้าน กว้านและอุปกรณ์เครื่องมือกล เพื่อให้คนจำนวนมากสามารถชักรอกฝาหีบแต่ละด้านซึ่งหนัก 1,500 ปอนด์

เมื่อฝาหีบด้านนอกถูกรื้อถอดออกไปแล้ว คาร์เตอร์สามารถตรวจสอบหีบใบที่สองที่อยู่ภายใน ซึ่งด้านข้างแต่ละด้านประดับประดาด้วยลักษณะลวดลายสวยงามเหมือนกับใบแรกได้อย่างถนัดถนี่ คาร์เตอร์ตัดเชือกและทำลายตราประทับครั่งที่ผูกคาดมือจับบานฝาหีบใบที่สองออกอย่างบรรจง เมื่อเปิดฝาหีบออกแล้ว คาร์เตอร์ก็พบหีบใบที่สามซึ่งมีมือจับบานฝาหีบถูกผูกคาดด้วยเชือก และประทับตราครั่งเช่นเดียวกับใบที่สอง และเมื่อตัดเชือกและทำลายตราประทับครั้งแล้วก็ปรากฏให้เห็นหีบใบที่สี่ซึ่งอยู่ข้างในสุดและมีลวดลายสวยงามยิ่งกว่าใบอื่น

คาร์เตอร์ตื่นเต้นจนสุดจะพรรณนาอย่างใดได้อีก หีบใบที่สี่บรรจุอะไรอยู่ข้างใน? เมื่อเขาค่อย ๆ เปิดฝาหีบออกช้า ๆ ทันใดนั้นเขามองเห็นกำปั้นหรือโลงพระศพแกะจากหินขนาดใหญ่ปิดด้วยฝาแกะจากหิน โดยมีขอบมุมทั้งสี่สลักเสลารูปเทพธิดากางปีกและกางแขนล้อมรอบโลงพระศพดุจกำลังปกปักรักษาภยันตรายและขับไล่ผู้บุกรุก

เป็นเวลานานนับเดือนทีเดียว กว่าจะเคลื่อนย้ายฝาหีบแต่ละใบออกจากห้องพระศพได้ และกว่าฝาหินโลงพระศพจะถูกเปิดออก คาร์เตอร์และผู้ช่วยยืนสงบนิ่งแสดงความเคารพขณะเมื่อฝาหินโลงพระศพถูกชักรอกยกขึ้นช้า ๆ ไปในอากาศ พวกเขาเห็นประจักษ์ตาแล้วว่า กษัตริย์อียิปต์โบราณถูกฝังพระศพอย่างไร และอะไรเล่าคือสิ่งที่รอคอยให้พวกเขาค้นพบอยู่ในฝาครอบโค้งมานานกว่า 3,000 ปี




โลงพระศพทองคำของฟาโรห์ทุทันคามุน จัดเก็บรักษาที่พิพิธภัณฑสถานกรุงไคโร ประเทศอียิปต์
(Photo by CRIS BOURONCLE / AFP)

สิ่งที่เห็นครั้งแรกเมื่อเปิดฝาครอบโค้งออก คือ ห่อผ้าลินินหุ้มอะไรสักอย่างอยู่ข้างใน แต่เมื่อแก้ห่อผ้าออกก็เห็นโลงพระศพไม้รูปเทพเจ้าโอซิริส หรือเทพเจ้าแห่งความตาย ผิวโลงหุ้มด้วยทองแผ่นแกะสลักสวยงาม โดยมีพระพักตร์อ่อนโยน รูปกษัตริย์ทุทันคามุน พระกรดูอ่อนนุ่ม บนพระนลาฏประดิษฐ์รูปงูเห่าและแร้งอันเป็นสัญลักษณ์ของอียิปต์ตอนบนและอียิปต์ตอนล่าง โลงพระศพยาว 7 ฟุต

คาร์เตอร์บันทึกเหตุการณ์ช่วงนี้ว่า “ในความเงียบงัน เราได้ยินเสียงก้าวเท้าเดินของเหล่าบรรดาพระญาติ ผู้ลาโลกสู่สวรรค์”

เมื่อถึงฤดูกาลสุดท้าย งานที่ต้องทำก่อนคือ การใช้กว้านชักรอกยกฝาหินโลงพระศพอันหนักอึ้งออก เมื่อยกฝาหินได้สำเร็จ พวกเขาเห็นห่อผ้าลินินหุ้มบางสิ่งบางอย่างไว้และมีดอกไม้แห้งโปรยปรายอยู่ทั่ว เมื่อแก้ห่อผ้าลินินออก สิ่งที่พวกเขาเห็นกลับไม่ใช่มัมมี่ของกษัตริย์ แต่เป็นโลงพระศพไม้ หุ้มด้วยทองแผ่นฝังแก้วกระจกสีตามแถบทอง อีกโลงหนึ่งรูปเทพเจ้าโอซิริสและมีพระพักตร์รูปกษัตริย์ทุทันคามุน โลงพระศพโลงที่สองนี้สวยงามยิ่งกว่าโลงแรก

ถึงแม้ฝาโลงจะถูกยกออกด้วยความยากลำบาก แต่ก็คือการค้นพบอันยิ่งใหญ่ เพราะภายในโลงพระศพยังพบโลงที่สามซึ่งคือสถานที่พักชั่วนิรันดร์ของกษัตริย์ โลงพระศพนี้ยาว 5 ฟุต ทำจากทองหนัก 222 ปอนด์ ข้างในบรรจุมัมมี่ของกษัตริย์ทุทันคามุน คลุมพระเศียรและพระอังสาด้วยหน้ากากอันงามวิจิตรทำจากทองเช่นกัน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญโบราณคดียกย่องว่าคือประดิษฐกรรมแห่งศิลปะที่ยิ่งใหญ่เท่าที่เคยค้นพบมาในโลก ท่อนล่างของพระศพมัมมี่ห่อหุ้มด้วยผ้าลินินประดับด้วยเพชรพลอยและดาบสั้นสองคมทำจากทอง ทั้งนี้ ไม่เคยปรากฏว่ามีกษัตริย์พระองค์ใดในประวัติศาสตร์โลกทรงได้รับการถวายพระเกียรติยศเฉกเช่นนี้เมื่อเสด็จสวรรคต



โฮวาร์ด คาร์เตอร์ ขณะกำลังขุดแต่งโลงพระศพสุสานฟาโรห์ทุทันคามุน

เมื่อคาร์เตอร์และผู้ช่วยค้นพบวัตถุล้ำค่าชิ้นอื่นอีกมากในสุสานสองห้องนี้แล้ว คาร์เตอร์ตั้งชื่อห้องด้านนอกห้องพระศพว่า ห้องมหาสมบัติ ตามที่เห็นครั้งแรก เขาเริ่มสะสางห้องสุดท้ายที่เป็นห้องติดกับห้องมหาสมบัติ เขาค้นพบโบราณวัตถุที่มิอาจประเมินค่าได้อีกจำนวนสามร้อยชิ้น ก่อนที่งานสำรวจขุดค้นของคาร์เตอร์จะสำเร็จเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์

คาร์เตอร์ได้อุทิศตนเพื่อศึกษาและค้นคว้าวิชาการด้านโบราณคดีอียิปต์ โดยเปิดเผยให้ชาวโลกได้เรียนรู้เกี่ยวกับกษัตริย์ทุทันคามุน ซึ่งแม้ว่าไม่ใช่กษัตริย์ที่มีความสำคัญอะไรมากนักต่ออียิปต์ก็ตาม

กษัตริย์อียิปต์โบราณทุกพระองค์มักจะมีสุสานห้องพระศพขนาดใหญ่โตและมากด้วยทรัพย์สมบัติยิ่งกว่าทุทันคามุน แต่อย่างไรก็ตาม ทรัพย์สมบัติเหล่านั้นมิได้คงสภาพตกทอดมายาวนานภายหลังการสิ้นพระชนม์ เพราะถูกโจรลักลอบขุดกรุปล้นเอาไปจนหมดสิ้น ยกเว้นทรัพย์สมบัติของทุทันคามุนเท่านั้นที่ยังคงเหลืออยู่

ทุทันคามุนเสด็จขึ้นครองราชย์ขณะพระชนมายุเพียง 9 พรรษา เมื่อ 1,334 ปีก่อนคริสตกาล และสวรรคตภายหลังการอยู่ในราชบัลลังก์ได้เพียง 9 หรือ 10 ปีเท่านั้น จึงไม่ต้องสงสัยว่าผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้ปกครองแผ่นดินเป็นระยะเวลายาวนานในรัชสมัยของพระองค์

ศิลาจำหลักอักษรภาพอียิปต์โบราณซึ่งค้นพบในสุสานห้องพระศพทุทันคามุน จารึกว่าพระองค์ทรงอภิเษกสมรสเมื่อเยาว์วัยทรงมีพระวรกายกำยำ สูง 5 ฟุต 6 นิ้ว ทรงโปรดการเล่นกีฬา การล่าสัตว์ และการทรงราชรถ นอกจากนี้ยังมีภาพจำหลักแสดงรูปพระมเหสีกำลังทรงพระเกษมสำราญในหมู่ข้าราชบริพาร




ไม้แกะสลักพระพักตร์ฟาโรห์ทุทันคามุน หนึ่งในสมบัติล้ำค่าของสุสานแห่งนี้

พวงหรีดดอกไม้แห้งร่วงโรยที่เห็นวางอยู่บนโลงพระศพโลงแรกมานานนับพันๆ ปี สันนิษฐานว่า พระมเหสีทรงนำมาวางไว้เพื่อแสดงความเศร้าโศกต่อการจากไปของพระสวามี ไม่มีใครรู้ว่าอะไรคือสาเหตุแห่งการสวรรคตของทุทันคามุน นักโบราณคดีลางคนเชื่อว่า พระองค์ทรงถูกลอบวางยาพิษ แต่ไม่มีหลักฐานสนับสนุน

พระราชทรัพย์ของเล่นที่ทรงโปรด ปอยพระเกศาในกล่อง พระเก้าอี้ประทับนั่งสมัยทรงพระเยาว์วัย หน้ากากและโลงพระศพทอง รวมทั้งสิ่งของเครื่องใช้ประจำพระองค์จำนวนมากวางกองล้อมพระวรกาย ล้วนแต่สะท้อนให้เห็นถึงการยกย่องสรรเสริญอันสูงสุดที่มีต่อกษัตริย์ทุทันคามุน อันเป็นที่รักและบูชาของปวงชนชาวอียิปต์โบราณ

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 พฤษภาคม 2565 15:10:50 โดย ใบบุญ » บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.643 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 14 มีนาคม 2567 16:00:31