[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
06 ธันวาคม 2567 06:16:20 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ยอดคำสอน หลวงปู่ชา สุภัทโท  (อ่าน 10413 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 6.0 Firefox 6.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 18 สิงหาคม 2554 09:08:58 »





ยอดคำสอน เป็นคำสอน เป็นคติ เป็นปรัชญาสั้น ๆ ที่คมลึกซึ้ง

ใครได้ฟังแล้วจะเกิดความรู้สึกซาบซึ้ง และบางครั้งอาจจะถึงกับอุทาน

ออกมาว่า ท่านคิดและกลั่นกรองคำเหล่านี้ออกมาจากจิตได้อย่างไร

ถ้าจิตนั้นไม่บริสุทธิ์แจ่มใสเยี่ยงผู้บรรลุธรรม ขอท่านได้สังเกตคำสอน ต่อไปนี้.........


ธรรมดา ๆ

ตามความเป็นจริงแล้ว โลกที่เราอยู่นี้ไม่มีอะไรทำไมใครเลย

ไม่มีอะไรจะเป็นที่วิตกวิจารย์เลย

ไม่มีอะไรที่น่าจะร้องไห้หรือหัวเราะ

เพราะมันเป็นเรื่องอย่างนั้นธรรมดา ๆ

แต่เราพูดธรรมดาได้ แต่มองไม่เห็นธรรมดา

แต่ถ้าเรารู้ธรรมะสม่ำเสมอ

ไม่มีอะไรเป็นอะไรแล้ว

การปฏิบัติคืออำนาจ

พระพุทธศาสนาไม่มีอำนาจอะไรเลย

แม้ก้อนทองคำก็ไม่มีราคา ถ้าเราไม่มารวมกันว่ามันเป็นโลหะที่ดีมีราคา

ทองคำมันก็ถูกทิ้งเหมือนก้อนตะกั่วเท่านั้นแหละ

พระพุทธศาสนาตั้งไว้มีอยู่

แต่ถ้าเราไม่ประพฤติปฏิบัติ จะไปมีอำนาจอะไรเล่า

อย่างธรรมะเรื่องขันติมีอยู่

แต่เราไม่อดทนกัน

มันจะมีอำนาจอะไรไหม?

มันเกิดมันดับของมันอยู่อย่างนั้น

เราก็สงบ


ชนะตนเอง

ถ้าเราเอาชนะตัวเอง

มันก็จะชนะทั้งตัวเองชนะทั้งคนอื่น

ชนะทั้งอารมณ์ ชนะทั้งรูป ทั้งเสียง ทั้งกลิ่น

ทั้งรส ทั้งโผฎัฐพพะ

เป็นอันว่าชนะทั้งหมด


สุขทุกข์

คนที่ไม่รู้จักสุข ไม่รู้จักทุกข์นั้น

ก็จะเห็นว่า.......สุขกับทุกข์นั้นมันคนละระดับ

มันคนละราคากัน

ถ้าผู้รู้ทั้งหลายแล้ว

ท่านจะเห็นว่า

สุขเวทนากับทุกขเวทนา

มันมีราคาเท่า ๆ กัน


Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 สิงหาคม 2554 10:01:22 โดย 時々Sometime » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 13.0.782.112 Chrome 13.0.782.112


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2554 09:42:17 »




เกิดตาย

เมื่อเราเกิดมาแล้วโยม ก็คือเราตายแล้วนั่นเอง

ความแก่กับความตายมันก็คืออันเดียวกันนั่นแหละ

เหมือนกับต้นไม้ อันหนึ่งต้น อันหนึ่งปลาย

เมื่อมีโคนมันก็มีปลาย

เมื่อมีปลายมันก็มีโคน

ไม่มีโคนปลายก็ไม่มี

มีปลายก็ต้องมีโคน

มีแต่ปลายโคนไม่มีก็ไม่ได้

มันเป็นอย่างนั้น

งูเห่า

อารมณ์นี้ก็เหมือนกับงูเห่าที่มีพิษร้ายนั้น

อารมณ์ที่พอใจก็มีพิษมาก

อารมณ์ที่ไม่พอใจก็มีพิษมาก

มันทำให้จิตใจของเราไม่เป็นเสรี
 
ทำให้จิตใจไขว้เขวจากหลักธรรมของพระพุทธเจ้า


ของจริง

ธรรมของจริงของแท้ที่ทำให้บุคคลเป็นอริยะได้

มิใช่เพียงศึกษาตามตำรา

และนึกคิดคาดคะเนเอาเท่านั้น

แต่จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามนั้นจริง ๆ

ของจริงจึงจะเป็นของจริงขึ้นมาได้

ได้เสีย

ทุกอย่างที่เรามีอยู่เป็นอยู่นั้น

มันเป็นสักแต่ว่า อาศัย เท่านั้นถ้ารู้ได้เช่นนี้ ท่านว่ารู้เท่าตามสังขาร

ที่นี้แม้จะมีอะไรอยู่ก็เหมือนไม่มี

ได้ก็เหมือนเสีย

เสียก็เหมือนได้

พิการ

เด็กทั้ง 2 พิการ เดินทางได้จะเข้ารกเข้าป่าก็รู้

แต่เราพิการใจ (ใจมีกิเลส)จะพาเข้ารกเข้าป่าหรือเปล่า

คนพิการกายอย่างเด็กนี้ มิได้เป็นพิษเป็นภัยกับใคร

แต่ถ้าคนพิการใจมาก ๆ

ย่อมสร้างความวุ่นวายยุ่งยากแก่มนุษย์และสัตว์

ให้ได้รับความเดือดร้อนมากทีเดียว



บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 13.0.782.112 Chrome 13.0.782.112


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2554 09:44:59 »




คนดีอยู่ไหน

คนดีอยู่ที่เรานี่แหละ

ถ้าเราไม่ดีแล้ว

เราจะอยู่ที่ไหนกับใคร

มันก็ไม่ดีทั้งนั้น

ชีวิต

เมื่อเราทอดอาลัยในชีวิต

วางวันเสีย ไม่เสียดาย

ไม่กลัวตาย

ก็ทำให้เราเกิดความสบาย และเบาใจจริงๆ

นั่งที่ไหนดี

จะนั่งหัวแถวหรือหางแถวก็ไม่แปลก

เหมือนเพชรนิลจินดา

จะวางไว้ที่ไหนก็มีราคาเท่าเดิม

และจะได้เป็นการลดทิฐิมานะให้น้อยลงไปด้วย

ไม่กลัวตาย

กลัวอะไร?

กลัวตายความตายมันอยู่ที่ไหน ?

อยู่ที่ตัวเราเอง

จะหนีพ้นมันได้ไหม ?

ไม่พ้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน

ในที่ มืด หรือในที่แจ้ง ก็ตายทั้งนั้น หนีไม่พ้นเลย

จะกลัวหรือไม่กลัวก็ไม่มีทางพ้น

เมื่อรู้อย่างนี้

ความกลัวไม่รู้หายไปไหน

เลยหยุดกลัว

เหมือนกับที่เราออกจากที่มืดสู่ที่สว่างนั่นแหละ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 สิงหาคม 2554 10:05:12 โดย 時々Sometime » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 13.0.782.112 Chrome 13.0.782.112


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2554 09:46:35 »





สอนคนอย่างไร

ทำตนให้ตั้งอยู่ในคุณอันสมควรเสียก่อนแล้ว

จึงสอนคนอื่นทีหลัง

จึงจักไม่เป็นบัณฑิตสกปรก

สอนคนด้วยการทำให้ดู

ทำเหมือนพูด

พูดเหมือนทำ

มนุษย์ศาสตร์

มนุษยศาสตร์ทั้งหลาย มีแต่ศาสตร์ที่ไม่มีคมทั้งนั้น

ไม่สามารถจะตัดทุกข์ได้

มีแต่ก่อให้เกิดทุกข์

ศาสตร์เหล่านั้น ถ้าไม่มาขึ้นกับพุทธศาสตร์แล้ว

มันจะไปไม่รอดทั้งนั้น

หลับ - ไม่หลับ

ถ้าหลับมันก็ไม่รู้

ถ้ารู้มันก็ไม่หลับ

มรรคผล

มรรคผลยังไม่พ้นสมัย

คนโง่เท่านั้นที่ปฏิเสธว่า

ในพื้นดินไม่มีน้ำแล้วไม่ยอมขุดบ่อ

ไม้คดคนงอ

ต้นไม้เถาวัลย์ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร

คนคดคนงอนั้น ร้ายนัก

เป็นพิษเป็นภัยทั้งอยู่บ้านและอยู่วัด



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 สิงหาคม 2554 10:07:28 โดย 時々Sometime » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 13.0.782.112 Chrome 13.0.782.112


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2554 09:48:40 »





หลง

คนหลงโลกคือคนหลงอารมณ์

คนหลงอารมณ์คือคนหลงโลก

นักปฏิบัติ

กินน้อย นอนน้อย พูดน้อย คือนักปฏิบัติ

กินมาก นอนมาก พูดมาก คือ คนโง่

แสดงอาการ

การหัวเราะเป็นอาการของคนบ้า

การร้องไห้เป็นอาการของทารก

ฉะนั้นท่านผู้ถึงสงบ

จะไม่หัวเราะไม่ร้องไห้

ความอาย

เมืองนี้ยังไม่เคยมีพระบิณฑบาตเลย

เพราะเขามีความอายกันเป็นส่วนมาก

แต่ตรงกันข้ามกับเรา

เราเห็นว่า

คำที่ว่าอายนี้

เราเห็นว่า อายต่อบาป

อายต่อความผิดท่านั้น

เมืองนอก

เราได้เดินทางไปเมืองนอก

และเมืองในนอก

และเมืองในใน

และเมืองนอกนอก

รวมสี่เมืองด้วยกัน

ที่รวมสมาธิ

เมื่อนั่งหลับตาให้ยกความรู้สึกขึ้นเฉพาะลมหายใจ

เอาลมหายใจเป็นประธาน

น้อมความรู้สึกตามลมหายใจ

เราจึงจะรู้ว่าสติมันรวมอยู่ตรงนี้

ความรู้มันจะมารวมอยู่ตรงนี้



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 สิงหาคม 2554 10:09:45 โดย 時々Sometime » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 13.0.782.112 Chrome 13.0.782.112


ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2554 09:50:21 »






เกาะสีชัง

เรามาอาศัยอยู่ที่เกาะนี้ คือที่พึ่งทางใน

ซึ่งเป็นที่อันน้ำคือกิเลสตัณหาท่วมไม่ถึง

แม้เราจะอยู่บนเกาะสีชัง

แต่ก็ยังค้นหาเกาะภายในอีกต่อไป

ผู้ที่ท่านได้พบ และอาศัยเกาะอยู่ได้นั้น

ท่านย่อมอยู่เป็นสุข

ต่างจากคนที่ลอยคออยู่ในทะเล คือความทุกข์

กินแบบไหน

ฉันอาหารไม่พิจารณา

จะเป็นเหมือนปลากินเหยื่อ

ย่อมติดเบ็ด

บริขาร

บริขารทั้งปวงเป็นเพียงเครื่องประดับขันธ์ห้าเท่านั้น

การไม่รู้จักประมาณในการบริโภคบริขาร

มีความกังวลในการจัดหา

ย่อมเป็นการยุ่งยาก

ขาดการปฏิบัติธรรม

ย่อมไม่ได้รับผลอันตนพึงปรารถนา

อยู่กับใคร

การคลุกคลีอยู่กับผู้มีปฏิปทาไม่เสมอกัน

ทำให้เกิดความลำบาก

ความรู้สึกจะมารวมอยู่ตรงนี้

อารมณ์เราเป็นอย่างนี้

เราจึงจะรู้จักที่รวมแห่งสมาธิ

ปล่อยลม - ได้สมาธิ - ปัญญา

เรากำหนดลมหายใจเข้าออกอย่างเดียว

เราปล่อยลมให้เป็นธรรมชาติ

อย่าไปบังคับลมให้มันยาว

อย่าไปบังคับลมให้มันสั้น

ปล่อยสภาพลมให้พอดี

แล้วดูลมหายใจเข้าออก

เมื่อปล่อยอารมณ์ได้

เสียอะไรก็ไม่ได้ยิน

ถ้าจิตเราวุ่นวายกับสิ่งต่าง ๆ

ไม่ยอมรวมเข้ามา

ก็ต้องสูดลมเข้าไปให้มากที่สุด

จนกว่าจะไม่มีที่เก็บ

แล้วก็ปล่อย ลมออกให้มากที่สุด

จนกว่าลมจะหมดในท้องสัก 3 ครั้งถ้าเรามีสติอย่างนี้

อย่างวันนี้ เข้าสมาธิสัก 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง

จิตใจของเรา จะมีความเยือกเย็น ไปตั้งหลายวัน

แล้วจิตจะสะอาด

เห็นอะไรจะรับพิจารณาทั้งนั้น

นี้เรียกว่าผลเกิดจากสมาธิ

สมาธิมีหน้าที่ทำให้สงบ

เมื่อจิตเราสงบแล้ว

จะมีการสังวร สำรวมด้วยปัญญา

เมื่อสำรวมเข้า ละเอียดเข้า

มันจะเป็นกำลังช่วยศีลให้บริสุทธิ์ขึ้นมาก

แล้วสมาธิก็จะเกิดขึ้นมาก

เมื่อสมาธิเต็มที่ก็จะเกิดปัญญา


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 สิงหาคม 2554 10:13:52 โดย 時々Sometime » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 13.0.782.112 Chrome 13.0.782.112


ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2554 09:52:04 »





ปลดทุกข์

ทุกข์มีเพราะยึด ทุกข์ยึดเพราะอยาก

ทุกข์มากเพราะพลอย ทุกข์น้อยเพราะหยุด

ทุกข์หลุดเพราะปล่อย

นักอุปมาอุปมัย

หลวงปู่ชา นับเป็นนักปฏิบัติธรรมที่ติดดินที่สุด ท่านสอนจากธรรมชาติที่ต่ำ

ที่สุดเพื่อให้เกิดสิ่งที่สุดคือมรรคผล โดยมีคนเปรียบเทียบแง่มุมนี้ว่าคล้ายกับแนว

คำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุ แต่จุดเด่นอันหนึ่งของแนวคำสอนของหลวงปู่ชาก็คือ

การเปรียบเทียบท่านหาเรื่องมาเปรียบเทียบเพื่ออธิบายคำสอนของท่าน

ได้อย่างเหมาะเจาะและเข้าใจง่าย ดังข้อเปรียบเทียบต่อไปนี้...................................................

มะม่วง

ถ้าพูดให้สั้นเข้ามา

ศีลก็ดี สมาธิก็ดี ปัญญาก็ดี มันก็เป็นอันเดียวกัน

ศีลก็คือ สมาธิ สมาธิ ก็คือศีล

สมาธิก็คือ ปัญญา ปัญญาก็คือสมาธิ

ก็เหมือนมะม่วงใบเดียวกัน

เมื่อมันเป็นดอกขึ้นมามันก็ดอกมะม่วง

เมื่อเป็นลูกเล็กก็เรียกว่าผลมะม่วง

เมื่อมันโตขึ้นมา ก็เรียกมะม่วงลูกโต

มันโตขึ้นไปอีกก็เรียกมะม่วงห่าม

เมื่อมันสุกก็คือมะม่วงสุก

มันก็มะม่วงลูกเดียวกันนั่นแหละ

มันเปลี่ยนไป

มันจะโตมันก็โตไปหาเล็ก

เมื่อมันเล็กมันก็เล็กไปหาโต

มีด

สมถกับวิปัสสนา

มันแยกกันไม่ได้หรอก

มันจะแยกกันได้ก็แต่คำพูด

เหมือนกับมีดเล่มหนึ่งนะ

คมมันก็อยู่ข้างหนึ่ง

สันมันก็อยู่ข้างหนึ่งนั่นแหละ

มันแยกกันไม่ได้หรอก

ถ้าเราจับด้ามมันขึ้นมาอันเดียวเท่านั้น

มันก็ติดมาทั้งคมทั้งสันนั่นแหละ

....งู...

มนุษย์เราทั้งหลายไม่ต้องการทุกข์

ต้องการแต่สุข

ความจริงสุขนั้นก็คือทุกข์อย่างละเอียด

เช่นเดียวกับทุกข์ก็คือ ทุกข์อย่างหยาบ

พูดอย่างง่าย ๆ

สุขและทุกข์ก็เปรียบเสมือนงูตัวหนึ่ง

ทางหัวมันเป็นทุกข์

ทางหางมันเป็นสุข

เพราะถ้าลูบทางหัวมันมีพิษ มันก็กัดเอา

ไปจับหางมันก็เหมือนเป็นสุข

แต่ถ้าจับไม่วาง มันก็หันกลับมากัดได้เหมือนกัน

เพราะทั้งหัวงูและหางงู

มันก็อยู่ในงูตัวเดียวกัน

เช่นเดียวกับสุขและทุกข์

ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกัน



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 สิงหาคม 2554 10:18:43 โดย 時々Sometime » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 13.0.782.112 Chrome 13.0.782.112


ดูรายละเอียด
« ตอบ #7 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2554 09:54:13 »





หมายังรู้

หมามันยังรู้จักอารมณ์ของมันเลย

เวลาหิวมันก็คราง หงิง ๆ ใครไม่รู้จักอารมณ์ของตัวเองก็ตายเสียดีกว่า

โคตรของสมาธิ

มีอุบาสกคนหนึ่งถาม หลวงพ่อว่า ถ้าทำสมาธินี้ เอาแต่ขณิกก็พอ ไม่จำเป็นต้อง

ไปไกลกว่านั่นใช่ไหมครับ หลวงพ่อชา ตอบว่า ก็ไม่เป็นไรอย่างนั้น คือหมายความว่า

มันต้องเดินไปถึงกรุงเทพฯ ก่อนว่ากรุงเทพมันเป็นอย่างนี้ อย่าไปถึงแค่โคราชซิ

คือไปให้ถึงกรุงเทพฯก่อน และเราก็ผ่านอุบลราชธานีด้วย ผ่านโคราชด้วย

ผ่านกรุงเทพฯ ด้วย คือเรียกว่าสมาธินะ ขณิกสมาธิ อัปปณาสมาธิ มันจะถึง

ที่ไหนก็ให้มันถึงที่ มันจึงจะรู้จักโคตรของสมาธิว่ามันเป็นอย่างไร

อัปปณาสมาธิที่มันมากกว่าอุปจารสมาธิ

หัวกลอย

ให้กลับความรักที่มีอยู่ให้กลายเป็นความรักสากล

ให้กลายเป็นความรักที่มีต่อสรรถสัตว์ทั้งหลาย

รักเหมือนแม่รักลูก พ่อรักลูก แม้ผมอยู่กับพวกท่าน

ผมก็รักท่านเหมือนเป็นลูกเป็นหลานให้ล้างความใคร่

ออกจากความรักเหมือนหัวกลอย ต้องแล่เอาพิษออกจึงกินได้

ความรักก็เช่นเดียวกัน ต้องพิจารณา มองให้เห็นทุกข์ของมัน

ค่อย ๆ ล้วงเอาเชื้อแห่งความมัวเมาออก เพื่อให้เหลือแต่ความ

รักล้วน ๆ เหมือนครูบาอาจารย์รักศิษย์

จิตคือควาย

เปรียบเสมือนกับการเลี้ยงควาย

จิตของเราก็เหมือนควาย

อารมณ์คือต้นข้าว

ผู้รู้เหมือนเจ้าของ

เวลาเราไปเลี้ยงควายทำอย่างไร

ปล่อยมันไป

แต่เราพยายามดูมันอยู่

ถ้ามันพยายามเดินไปใกล้ต้นข้าว

ก็ตวาดมัน

ควายได้ยินก็จะถอยออกไป

แต่เราอย่าเผลอะน่ะ

ถ้ามันดื้อไม่ฟังเสียง

ก็เอาไม้ฆ้องฟาดมันจริง ๆ

มันจะไปไหนเสีย

วัวไม่กินหญ้าก็คือหมู

ทุกวันนี้ อาตมาไม่ค่อยได้เทศน์มาก อยู่วัดอยู่วาก็เหมือนกัน

ปีนี้เทศน์ให้แม่ชีฟังถึงสองสามครั้งหรือเปล่า ก็จำไม่ได้

พระเจ้าพระสงฆ์ก็ให้อยู่เฉย ๆ ให้ดูเอาปฏิบัติเอง

ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

เพราะเข้าใจว่า คนมีศรัทธา จึงเข้ามาในวัด จึงมาบวชเป็นปะขาว

จึงมาบวชเป็นเณร จึงมาบวชเป็นพระ

เข้าใจอย่างนั้น

ถ้าเข้าใจอย่างนั้นก็เหมือนกันกับวัวเราน่ะแหละ

วัวมันกินอะไร

มันกินหญ้า

จับมันมาปล่อยใส่สนามหญ้าแล้ว

ถ้ามันไม่กินหญ้ามันก็เป็นหมูเท่านั้นแหละ

นักปฏิภาณ

บางครั้งหลวงพ่อชา ท่านมีจิตแจ่มใส เดาใจคนถามได้อย่างแม่นยำ จึงมักจะมีการ

ใช้ปฏิภาณโต้ตอบปัญหาอย่างเฉียบแหลมอยู่เสมอ

ใครรู้อัตตา

คนที่นับถือพระเจ้า ไม่ยอมรับคำสอนเรื่อง อนัตตา ของพุทธศาสนา

เหตุผลของเขาก็คือ จะเอาอะไรมารู้อนัตตาเล่า ถ้าไม่ใช่อัตตา

วันหนึ่ง มีชาวคริสต์มาถามหลวงพ่อว่า ใคร่รู้อนัตตา

หลวงพ่อถามกลับทันที ใครรู้อัตตา

นกไม่รู้เรื่องปลา

มีชาวต่างประเทศถามหลวงพ่อว่า ชีวิตพระเป็นอย่างไร?

หลวงพ่อคิดว่าตอบอย่างไรก็ไม่เข้าใจแน่ เพราะเขายังไม่รู้จักพระ

จึงตอบไปว่า..............................

ถึงปลาจะบอกว่าอยู่ในน้ำเป็นอย่างไร

นกก็ไม่มีทางจะรู้ได้

ตราบใดที่นกยังไม่เป็นปลา


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 สิงหาคม 2554 10:24:57 โดย 時々Sometime » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 13.0.782.112 Chrome 13.0.782.112


ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2554 09:58:46 »



ของแปลก

ในความเคร่งเครียดในการปฏิบัติธรรม หลวงพ่อก็ยังมีแง่มุมที่ขบขันให้เราได้เห็นบ้างเป็นการหักมุมที่ค่อนข้างจะตื่นเต้นมาก ดังที่ท่านบันทึกไว้ใน
การเดินทางไป ประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2520 ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการเดินทางในวันที่ 6 ในขณะที่บินอยู่ เครื่องบินได้เกิด

อุบัติเหตุยางระเบิด 1 เส้นบนอากาศ พนักงานการบินจึงได้ประกาศให้ผู้โดยสารเตรียมตัวรัดเข็มขัด มีฟันปลอมก็ต้องถอดออก แม้กระทั่งแว่นตาหรือรองเท้า เครื่องบริขารทุกอย่าง ต้องเตรียมพร้อมหมด ผู้โดยสารทุกคนเมื่อเก็บบริขารทุกอย่าง เสร็จแล้ว ต่างคนต่างก็เงียบ คงคิดว่าจะเป็นวาระสุดท้ายของพวก

เราทุกคนเสียแล้ว ขณะนั้นเราก็ให้คิดว่าเป็นครั้งแรกที่เราได้เดินทางมาเมืองนอก เพื่อสร้างประโยชน์แก่พระศาสนา จะเป็นผู้มีบุญอย่างนี้เทียวหรือ เมื่อระลึกได้เช่นนี้แล้ว ก็ตั้งสัตย์อธิษฐานมอบชีวิตให้พระพุทธ พระธรรมพระสงฆ์ แล้วก็กำหนดจิตรวมลงในสถานที่ควรอันหนึ่ง แล้วก็ได้รับความสงบเยือกเย็น ดูคล้ายกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น พักในที่ตรงนั้น จนกระทั่งเครื่องบินได้ลดระดับลงมาถึงแผ่นดินด้วยความปลอดภัย ฝ่ายคนโดยสารก็ปรบ

มือกันด้วยความดีใจ คงคิดว่าเราปลอดภัยแล้ว สิ่งที่แปลกก็คือ ขณะเมื่อเครื่องบินเกิดอุบัติเหตุ ต่างคนก็ร้องเรียกว่า หลวงพ่อช่วยปกป้องคุ้มครองพวกเราทุกคนด้วย แต่เมื่อพ้นอันตรายแล้ว เดินลงจากเครื่องบินเห็นประณมมือไหว้พระเพียงคนเดียวเท่านั้น นอกนั้นไหว้แอร์โฮสเตสทั้งหมดในที่นั้น นี้เป็นสิ่งที่แปลก


คัดลอกจาก...............http://www.dharma-gateway.com

<table class="maeva" cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" style="width: 800px" id="sae1"> <tr><td style="width: 800px; height: 576px" colspan="2" id="saeva1"><script type="text/javascript"><!-- // --><![CDATA[ var oldLoad = window.onload; window.onload = function() { if (typeof(oldLoad) == "function") oldLoad(); if (typeof(aevacopy) == "function") aevacopy(); } // ]]></script><embed type="application/x-mplayer2" src="http://www.fungdham.com/download/song/allhits/20.wma" width="800px" height="576px" wmode="transparent" quality="high" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" ShowControls="True" autostart="false" autoplay="false" /></td></tr> <tr><td class="aeva_t"><a href="http://www.fungdham.com/download/song/allhits/20.wma" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.fungdham.com/download/song/allhits/20.wma</a></td><td class="aeva_q" id="aqc1"></td></tr></table>

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 สิงหาคม 2554 10:01:52 โดย 時々Sometime » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 5.0 Firefox 5.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2554 11:39:16 »





 ยิ้ม  ยิ้ม  ยิ้ม

บันทึกการเข้า
時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 6.0 Firefox 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #10 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2554 12:18:06 »





 ยิ้ม  ยิ้ม  ยิ้ม

ได้เห็นคอมเมนท์ของ ป้า แป๋มแล้วชื่นจาย ถึงคอม ฯ จะตายก็ไม่เสียดายคอม ฯ ตัวเก่ง เจ๊งไปแล้ว


ร้องไห้ ร้องไห้ ร้องไห้

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 สิงหาคม 2554 16:31:05 โดย 時々Sometime » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 5.0 Firefox 5.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #11 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2554 12:50:42 »



เหงื่อตก  โอ๊ะ ร้องไห้   คอม ฯ ตัวเก่ง เจ๊งไปแล้วเหรอออ.. อยากมีกำลัง
หาคอมให้ใหม่จัง ยังไม่สามารถทำตามอยากได้.. ก่อทุกข์อย่างนี้เอง...
 ร้องไห้  ร้องไห้  ร้องไห้

บันทึกการเข้า
時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 13.0.782.112 Chrome 13.0.782.112


ดูรายละเอียด
« ตอบ #12 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2554 16:38:32 »



เหงื่อตก  โอ๊ะ ร้องไห้   คอม ฯ ตัวเก่ง เจ๊งไปแล้วเหรอออ.. อยากมีกำลัง
หาคอมให้ใหม่จัง ยังไม่สามารถทำตามอยากได้.. ก่อทุกข์อย่างนี้เอง...
 ร้องไห้  ร้องไห้  ร้องไห้




ป้า แป๋มเจ้าคอม ฯ เพื่อนยากของ(บางครั้ง)กำลังจะกลายเป็นเศษขณะรกโลกภายในไม่ช้านี้แล้ว รอซาเล้ง มารับ ซื้อ

ขายถูก ๆ จ้า คอม ฯ ดีมีประโยชน์ใช้ในการเผยแพร่พระธรรม ขายถูก ๆ ติดต่อได้จ้า.....สั่งซื้อภายใน 24 ชั่วโมงแถมจอมอนิเตอร์ฟรี


ร้องไห้ ร้องไห้ ร้องไห้

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 สิงหาคม 2554 16:46:05 โดย 時々Sometime » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 5.0 Firefox 5.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #13 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2554 18:28:00 »






บันทึกการเข้า
คำค้น: ชา 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.348 วินาที กับ 29 คำสั่ง

Google visited last this page 7 ชั่วโมงที่แล้ว