[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
10 ธันวาคม 2567 16:32:19 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หลวงพ่อเกษม เขมโก ไม่ใช้มุ้ง หมอน ผ้าห่ม มีแต่เสื่อปูนั่ง ใช้จีวรเป็นผ้าห่ม  (อ่าน 1065 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2487


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2564 13:34:31 »

.



หลวงพ่อเกษม เขมโก ไม่ใช้มุ้ง ไม่มีหมอนหนุนนอน ไม่มีผ้าห่ม มีแต่เสื่อปูนั่ง ใช้จีวรเป็นผ้าห่ม เป็นมุ้ง

หลวงพ่อเกษม เขมโก พำนักอยู่ในป่าช้าตลอดมา อาศัยอยู่ตามศาลาในป่าช้า ในกระท่อมหรือในเสนาสนะที่ผู้อื่นปลูกสร้างให้อยู่เท่านั้น ดำรงชีพด้วยการบิณฑบาต เจริญวิิปัสสนากัมมัฏฐานเพื่อขัดเกลากิเลสให้สิ้นไปจากจิตและมักน้อยสันโดษอยู่อย่างสงบปฏิบัติธรรมอย่างเดียว หลวงพ่อไม่ใช้มุ้งกางกันยุงกัด ไม่มีหมอนหนุนนอน ไม่มีผ้าห่มมีแต่เสื่อปูนั่ง ใช้จีวรเป็นผ้าห่ม เป็นมุ้ง สาเหตุที่หลวงพ่อไม่กางมุ้งนอน ไม่ใช้หมอน ไม่ใช้ผ้าห่ม ก็คงมาจากเรื่องนี้..

มีอยู่วันหนึ่ง ขณะที่ท่านกำลังนั่งบำเพ็ญภาวนาอยู่ในอาศรมของท่าน ณ ป่าช้าศาลาวังทาน เวลาจวนพลบค่ำ เจ้าหัวขโมยคนหนึ่งได้แฝงกายเข้ามาในความมืดสลัว มันคงตั้งใจมาเพื่อขโมยของๆ หลวงพ่อ แล้วก็เป็นความจริง มันมาเพื่อขโมยมุ้งของหลวงพ่อ ขณะที่มันกำลังใช้ความพยายามแก้และดึงเชือกสายมุ้งเพื่อให้ขาดนั้น มันไม่สามารถที่จะปฏิบัติหน้าที่ของมันให้สำเร็จโดยสะดวกดั่งใจนึก หลวงพ่อคงจะได้ยินเสียงดึงสายมุ้งของท่าน ท่านจึงปลงวิปัสสนาแล้วช่วยแก้เชือกข้างฝาที่ผูกหูมุ้งไว้ เมื่อหลวงพ่อแก้เชือกสายมุ้งเสร็จเรียบร้อย หลวงพ่อก็ยื่นมุ้งพร้อมด้วยผ้าห่ม หมอน ส่งให้เจ้าหัวขโมย พร้อมกันนั้น หลวงพ่อก็รีบโบกมือไล่ บอกให้เจ้าหัวขโมยรีบเอาข้าวของหนีไปโดยเร็ว ที่หลวงพ่อได้โบกมือไล่บอกให้ขโมยรีบหนีนั้น เพราะเกรงว่าคนอื่นจะมาพบเห็นเข้า และเกรงว่าขโมยจะได้รับเคราะห์กรรมหรือถูกประชาทัณฑ์นั่นเอง ขโมยรายนี้น้ำใจของมันช่างดำเหมือนถ่าน เห็นหลวงพ่อช่วยแก้สายมุ้งให้ มันก็ยังเอามุ้ง หมอน ผ้าห่มของหลวงพ่อไปได้ลงคอ มิใช่การขโมยเสียแล้ว จะเรียกว่ามันมาปล้นทรัพย์ของหลวงพ่อก็ประณามได้ จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาในครั้งนั้นจนถึงปัจจุบันนี้ (พ.ศ.๒๕๓๘) หลวงพ่อจึงได้สละมุ้ง ผ้าห่ม หมอน ตราบเท่าทุกวันนี้

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.255 วินาที กับ 28 คำสั่ง

Google visited last this page 20 พฤศจิกายน 2567 05:06:43