[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
27 เมษายน 2567 11:16:45 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า:  1 [2]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วันวิสาขบูชา  (อ่าน 22136 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 11.0.696.65 Chrome 11.0.696.65


ดูรายละเอียด
« ตอบ #20 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2554 11:58:02 »





พุทธดุริยางคศิลป์ยิ่งใหญ่ฉลองสองวาระ

คมชัดลึก : ความสัมพันธ์ไทย-จีนกระชับแน่นยิ่งขึ้น เมื่อสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน จับมือกระทรวงวัฒนธรรมสาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะกรรมการจัดงานวันวิสาขบูชาโลก 2011 ร่วมกันจัดงานเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสปีมหามงคล 84 พรรษามหาราชา ด้วยการแสดง “พุทธดุริยางคศิลป์

       การแสดงวงดนตรีดุริยางซิมโฟนี่ครั้งยิ่งใหญ่ที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากจีน เนื่องในโอกาสที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการจัดงานวันวิสาขบูชาโลกครั้งที่ 8 โดยแถลงข่าวที่โรงแรมสวิสโซเทล เลอคองคอร์ด กรุงเทพฯ เมื่อวันก่อน

      พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงานวันวิสาขบูชาโลก 2011 ที่ประเทศไทย กล่าวว่า งานวันวิสาขบูชาโลกปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 พฤษภาคม โดยจะเปิดงานที่หอประชุมใหญ่ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และปิดงานที่หอประชุมองค์การสหประชาชาติ ถนนราชดำเนิน ขณะนี้มีตัวแทนพุทธศาสนิกชนตอบรับเข้าร่วมงานแล้ว 86 ประเทศ จำนวนกว่า 1,500 คน มีกิจกรรมเกี่ยวกับพระพุทธศาสนามากมาย อาทิ การประชุม การหารือ และไฮไลท์สำคัญคือ การแสดงของวงดนตรีพุทธดุริยางคศิลป์จากประเทศจีน นอกจากจะเป็นการเฉลิมฉลองวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาระดับโลกแล้ว ยังถือโอกาสเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบ 7 รอบอีกด้วย

              

      ด้านนายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน พินิจ จารุสมบัติ โต้โผใหญ่นำการแสดงทรงคุณค่านี้มาทำการแสดงในเมืองไทย เปิดเผยว่า การเดินทางมาทำการแสดงของวงดุริยางพุทธดุริยางคศิลป์เกิดจากการประชุมของคณะกรรมการสมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติ ร่วมกับคณะกรรมการสมาคมสภาสากลวันวิสาขบูชาโลก ได้มีมติให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดงานวันวิสาขบูชาโลกครั้งที่ 8 กระทรวงวัฒนธรรมสาธารณรัฐประชาชนจีนจึงส่งวงพุทธดุริยางคศิลป์ “เสินโจว” มาร่วมเปิดการแสดง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ได้ออกมาทำการแสดงนอกประเทศ และประเทศไทยก็ได้รับเกียรตินี้


      ขณะที่ ฯพณฯ ก่วน มู่ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประไทศไทย ให้ข้อมูลเกี่ยวกับแสดงทางวัฒนธรรมนี้ว่า ไทย-จีนมีวัฒนธรรมใกล้เคียงกัน ความพิเศษของวงดนตรีนี้เป็นการแสดงครั้งยิ่งใหญ่ เป็นดนตรีศักดิ์สิทธิ์จากสมาชิกของวง ทั้งพระภิกษุ นักร้อง และนักดนตรีกว่า 180 คน ที่ชีวิตหนึ่งไม่อาจได้รับชมได้บ่อยนัก ถือเป็นการประสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกคือบทสวดทางพระพุทธศาสนา และการบรรเลงเพลงซิมโฟนี่อย่างตะวันตกได้อย่างกลมกลืน

     “เป็นการอนุมานถึงพระพุทธศาสนาที่แทรกอยู่ในวัฒนธรรมจีนผ่านบทเพลง 5 ช่วง ความยาว 80 นาที ทั้งยังเป็นการถ่ายทอดวัฒนธรรมทางศาสนาของจีนสู่สายตาชาวโลกผ่านดนตรี แสดงให้โลกเห็นถึงคติความคิดเรื่อง “สามัคคี” และ “การเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกันระหว่างมนุษย์” ที่มีในวัฒนธรรมจีนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งเผยให้เห็นถึงแนวคิด “ฟื้นคืนสันติ” ของชาวจีนในยุคปัจจุบัน และ “โลกสันติ” อันเป็นแนวคิดในอุดมคติ ซึ่งผู้คนแสดงหามายาวนาน เชื่อว่าการแสดงครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการนำเสน่ห์ทางดนตรีมานำเสนอ ยังนำมิตรภาพมาสู่ชาวไทย ชาวจีน และผู้คนทั่วโลกอีกด้วย”

     ทั้งนี้ การแสดงพุทธดุริยางคศิลป์จะเปิดรอบการแสดงระหว่างวันที่ 11-13 พฤษภาคมนี้ โดยวันพุธที่ 11 พฤษภาคม เวลา 14.00 น. ได้รับพระกรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จมาทรงเป็นประธานเปิดการแสดง ณ โรงละครสยามนิรมิต รายได้จะนำขึ้นถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี และเพื่อนำไปบูรณปฏิสังขรณ์สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ณ ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล และวันที่ 12-13 พฤษภาคม จะแสดงที่หอประชุมใหญ่ ,มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย


ที่มา;หนังสือพิมพ์คมชัดลึก วันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม 2554
ข้อมูล; สมหมาย  สุภาษิต
แหล่งข่าว : ส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 พฤศจิกายน 2554 04:32:56 โดย เงาฝัน, เหตุผลที่แก้ไข: jpg » บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 11.0.696.65 Chrome 11.0.696.65


ดูรายละเอียด
« ตอบ #21 เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2554 08:46:40 »





ภาพประทับใจ หญิงชาวมุสลิมร่วมใส่บาตรแก่พระสงฆ์ เนื่องในวันวิสาขบูชา

 รัก  http://www.sookjai.com/index.php?topic=20060.0



บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 5.0 Firefox 5.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #22 เมื่อ: 08 สิงหาคม 2554 19:42:55 »





เมื่อพระโพธิสัตว์ประสูติแล้ว (โดยอาการที่พระบาทออกจากพระครรภ์ก่อน)
พระโพธิสัตว์ได้ทรงพระดำเนินไปได้ 7 ก้าว
และได้ทรงเปล่งอาสภิวาจา (วาจาประกาศความเป็นผู้สูงสุด) ขึ้นว่า

อคฺโคหมสฺมิ โลกสฺส เชฏฺโฐหมสฺมิ โลกสฺส เสฏฺโฐหมสฺมิ โลกสฺส.
อยมนฺติมา ชาติ. นตฺถิทานิ ปุนพฺภโว.
คำแปล : เราเป็นผู้เลิศแห่งโลก, เราเป็นผู้เจริญที่สุดแห่งโลก,
เราเป็นผู้ประเสริฐที่สุดแห่งโลก. ชาตินี้ เป็นชาติสุดท้าย. บัดนี้ ภพใหม่ย่อมไม่มี ดังนี้

— สยามรฏฺฐเตปิฏกํ ปาลี. อจฺฉริยอพฺภูตธมฺมสุตฺต อุปริ.
ม. ๑๔/๒๔๙-๒๕๑/๓๖๖-๗-๘-๙, ๓๗๑



วันวิสาขบูชา หรือ วันเพ็ญเดือน 6 นับเป็นวันที่สำคัญที่สุดในพระพุทธศาสนา
เพราะเป็นวันคล้ายวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญของพระพุทธศาสนา
มากถึง 3 เหตุการณ์ คือ เป็นวันคล้ายวันประสูติ, ตรัสรู้ และปรินิพพาน
ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ดังนั้นจึงมีคำเรียกวันนี้อีกอย่างหนึ่งว่า " วันพระพุทธเจ้า "


ประทานพระปัจฉิมโอวาท
จากนั้น พระองค์ทรงอนุญาตให้พวกมัลละกษัตริย์เข้าเฝ้าและได้ตรัสแก้ปัญหาของสุภัททะปริพาชก จนเกิดศรัทธาขอบรรพชาด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทาเป็นพระสาวกองค์สุดท้ายในบรรดาสาวกที่ทันเห็นพระพุทธองค์ แล้วทรงตรัสให้พระธรรมคำสั่งสอนของพระองค์เป็นผู้สืบศาสดาไว้ว่า

...อานนท์! ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ที่เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอทั้งหลาย ธรรมวินัยนั้น จักเป็นองค์ศาสดาของพวกเธอทั้งหลาย เมื่อเราล่วงลับไปแล้ว...
— สยามรฏฺฐเตปิฏกํ ปาลี. มหาปรินิพฺพานสุตฺต มหา. ที. ๑๐/๑๔๙/๑๑๗

จากนั้นทรงตรัสพระโอวาทที่สำคัญ ๆ อีก 4-5 เรื่อง จนในที่สุดทรงตรัสพระปัจฉิมโอวาทเตือนเป็นครั้งสุดท้ายว่า

...หนฺททานิ ภิกฺขเว อามนฺตยามิ โว วยธมฺมา สงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ...
แปลว่า : ภิกษุทั้งหลาย! บัดนี้ เราจักเตือนพวกเธอทั้งหลายว่า "สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา. พวกเธอทั้งหลาย จงยังประโยชน์ตนและท่าน ให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด"
— สยามรฏฺฐเตปิฏกํ ปาลี. มหาปรินิพฺพานสุตฺต มหา. ที. ๑๐/๑๔๙/๑๑๗

ปรินิพพาน
จากนั้น พระองค์ทรงนิ่งเงียบ เข้าปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌาน อากาสานัญจายตนฌาน วิญญาณัญจายตนฌาน อากิญจัญญายตนฌาน เนวสัญญานาสัญญายตนฌาน สัญญาเวทยิตนิโรธ แล้วย้อนลงมาตามลำดับ ถึงปฐมฌาน แล้วย้อนขึ้นอีกโดยลำดับจนถึงจตุตถฌาน เมื่อออกจากจตุตถฌานนั้นจึง "เสด็จดับขันธปรินิพพาน"
พระพุทธองค์ทรงตรัสถึงความดับสมุทัยอันเป็นเหตุแห่งความดับทุกข์ (เสด็จดับขันธปรินิพพาน) ไว้เมื่อคราวทรงพระชนม์อยู่ว่า

...ต้นไม้ เมื่อโคนต้นยังอยู่ ไม่มีอุปัทวะ แม้ถูกตัด (ส่วนบน) แล้ว ก็งอกได้อีกอยู่นั่น
ฉันใดก็ดี แม้ทุกข์นี้ก็ฉันนั้น เมื่อตัณหานุสัยยังมิได้ถูกถอนทิ้งแล้ว ก็ได้เกิดร่ำไป...
— สยามรฏฺฐเตปิฏกํ ปาลี. ขุ. ธ. ๒๕/๓๓๘/๑๓๘

กล่าวคือ พระพุทธองค์ทรงเสด็จดับขันธปรินิพพานเพราะความดับไปแห่งสมุทัย คือ ได้ทรงถอนเสียสิ้นซึ่งต้นและราก กิเลสตัณหาอันเป็นสาเหตุแห่งทุกข์ทั้งปวงนี้แล้วเมื่อในวันตรัสรู้ การเสด็๋จดับขันธปรินิพพานนี้จึงเป็นการตายครั้งสุดท้ายของพระพุทธองค์ โดย "สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ" (สิ้นตัณหาเมื่อคราวตรัสรู้ และสิ้นขันธ์ห้า เมื่อคราวปรินิพพาน)
เมื่อนั้นได้เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ โลมชาติลุกขึ้นชูชัน กลองทิพย์บรรลือลั่นไปในอากาศ ไว้อาลัยแด่การจากไปของพระพุทธองค์ ผู้ทรงเป็นบรมครูของโลก กายของพระองค์สิ้นเชื้อคือตัณหาที่จะนำไปเกิดในภพใหม่ ครั้นกายแตกดับแล้ว ถึงความเป็นของว่าง ไม่มีอะไรเหลือสำหรับส่วนผสมของกายในภพต่อไป พระพุทธองค์ทรงจากไป ณ ยามสุดท้ายแห่งราตรี วันอังคารขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ก่อนพุทธศก (ตามการนับของไทย) 1 ปี

วันวิสาขบูชาในปฏิทินสุริยคติไทย
การกำหนดวันวิสาขบูชาในแต่ละประเทศนั้น บางประเทศที่นับถือพุทธศาสนาอาจกำหนดวันไม่ตรงกับของไทยในบางปี เนื่องจากประเทศเหล่านั้นอยู่ในตำแหน่งบนโลกที่ต่างไปจากประเทศไทย ทำให้วันเวลาคลาดเคลื่อนไป





http://swhappinessss.blogspot.com/2010/05/vesak-3-15-6-6-8-7-6-8-3-6-3-6-3-15-6.html
อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ

บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 19.0.1084.52 Chrome 19.0.1084.52


ดูรายละเอียด
« ตอบ #23 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2555 10:25:11 »












นางสุชาดาถวายข้าวมธุปายาส
ก่อนพระพุทธองค์จะตรัสรู้ในวันเพ็ญเดือน6


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม  
วันวิสาขบูชา 2555 ตรงกับวันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน
ในปีนี้นับเป็นอภิลักขิตกาลพิเศษ คือเป็นปีที่ครบ 2,600 พุทธศตวรรษ
หรือ 2,600 ปี แห่งการอุบัติขึ้นของพระพุทธศาสนา



ประวัติวันวิสาขบูชา และความสำคัญของ วันวิสาขบูชา



วันวิสาขบูชา ถือเป็นวันสำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา เพราะเป็นวันที่
เกิด 3 เหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เวียนมาบรรจบกันในวันเพ็ญเดือน 6 แม้จะมีช่วงระยะเวลาห่างกันนับเวลา
หลายสิบปี ซึ่งเหตุการณ์อัศจรรย์ 3 ประการ ได้แก่...



1. วันวิสาขบูชา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ
          เมื่อพระนางสิริมหามายา พระมเหสีของพระเจ้าสุทโธทนะ แห่งกรุงกบิลพัสดุ์ ทรงพระครรภ์แก่จวนจะประสูติ พระนางแปรพระราชฐานไปประทับ ณ กรุงเทวทหะ เพื่อประสูติในตระกูลของพระนางตามประเพณีนิยมในสมัยนั้น ขณะเสด็จแวะพักผ่อนพระอิริยาบถใต้ต้นสาละ ณ สวนลุมพินีวัน พระนางก็ได้ประสูติพระโอรส ณ ใต้ต้นสาละนั้น ซึ่งตรงกับวันเพ็ญเดือน 6 ก่อนพุทธศักราช 80 ปี ครั้นพระกุมารประสูติได้ 5 วัน ก็ได้รับการถวายพระนามว่า "สิทธัตถะ" แปลว่า "สมปรารถนา"

          เมื่อข่าวการประสูติแพร่ไปถึงอสิตดาบส 4 ผู้อาศัยอยู่ในอาศรมเชิงเขาหิมาลัย และมีความคุ้นเคยกับพระเจ้าสุทโธทนะ ดาบสจึงเดินทางไปเข้าเฝ้า และเมื่อเห็นพระราชกุมารก็ทำนายได้ทันทีว่า นี่คือผู้จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงกล่าวพยากรณ์ว่า "พระราชกุมารนี้จักบรรลุพระสัพพัญญุตญาณ เห็นแจ้งพระนิพพานอันบริสุทธ์อย่างยิ่ง ทรงยังประโยชน์แก่ชนเป็นอันมาก จะประกาศธรรมจักรพรหมจรรย์ของพระกุมารนี้จักแพร่หลาย" แล้วกราบลงแทบพระบาทของพระกุมาร พระเจ้าสุทโธทนะทอดพระเนตรเห็นเหตุการณ์นั้นทรงรู้สึกอัศจรรย์และเปี่ยมล้นด้วยปีติ ถึงกับทรุดพระองค์ลงอภิวาทพระราชกุมารตามอย่างดาบส


2. วันวิสาขบูชา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้อนุตตรสัมโพธิญาณ
          หลังจากออกผนวชได้ 6 ปี จนเมื่อพระชนมายุ 35 พรรษา เจ้าชายสิทธัตถะก็ทรงตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ณ ใต้ร่มไม้ศรีมหาโพธิ์ ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ในตอนเช้ามืดของวันพุธ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีระกา ก่อนพุทธศักราช 45 ปี ปัจจุบันสถานที่ตรัสรู้แห่งนี้เรียกว่า พุทธคยา เป็นตำบลหนึ่งของเมืองคยา แห่งรัฐพิหารของอินเดีย
          สิ่งที่ตรัสรู้ คือ อริยสัจสี่ เป็นความจริงอันประเสริฐ 4 ประการของพระพุทธเจ้า ซึ่งพระพุทธเจ้าเสด็จไปที่ต้นมหาโพธิ์ และทรงเจริญสมาธิภาวนาจนจิตเป็นสมาธิได้ฌานที่ 4 แล้วบำเพ็ญภาวนาต่อไปจนได้ฌาน 3 คือ
          
           ยามต้น : ทรงบรรลุ "ปุพเพนิวาสานุติญาณ" คือ ทรงระลึกชาติในอดีตทั้งของตนเองและผู้อื่นได้
           ยามสอง : ทรงบรรลุ "จุตูปปาตญาณ" คือ การรู้แจ้งการเกิดและดับของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ด้วยการมีตาทิพย์สามารถเห็นการจุติและอุบัติของวิญญาณทั้งหลาย
           ยามสาม หรือยามสุดท้าย : ทรงบรรลุ "อาสวักขญาณ" คือ รู้วิธีกำจัดกิเลสด้วย อริยสัจ 4 (ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค) ได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในคืนวันเพ็ญเดือน 6 ซึ่งขณะนั้นพระพุทธองค์มีพระชนมายุได้ 35 พรรษา


3. วันวิสาขบูชา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จเข้าสู่ปรินิพพาน (ดับสังขารไม่กลับมาเกิดสร้างชาติ สร้างภพอีกต่อไป)
          เมื่อพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้และแสดงธรรมเป็นเวลานานถึง 45 ปี จนมีพระชนมายุได้ 80 พรรษา ได้ประทับจำพรรษา ณ เวฬุคาม ใกล้เมืองเวสาลี แคว้นวัชชี ในระหว่างนั้นทรงประชวรอย่างหนัก ครั้นเมื่อถึงวันเพ็ญเดือน 6 พระพุทธองค์กับพระภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย ก็ไปรับภัตตาหารบิณฑบาตที่บ้านนายจุนทะ ตามคำกราบทูลนิมนต์ พระองค์เสวยสุกรมัททวะที่นายจุนทะตั้งใจทำถวายก็เกิดอาพาธลง แต่ทรงอดกลั้นมุ่งเสด็จไปยังเมืองกุสินารา ประทับ ณ ป่าสาละ เพื่อเสด็จดับขันธุ์ปรินิพพาน



          เมื่อถึงยามสุดท้ายของคืนนั้น พระพุทธองค์ก็ทรงประทานปัจฉิมโอวาทว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลายอันว่าสังขารทั้งหลายย่อมมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังกิจทั้งปวงอันเป็นประโยชน์ของตนและประโยชน์ของผู้อื่น ให้บริบูรณ์ ด้วยความไม่ประมาทเถิด" หลังจากนั้นก็เสด็จเข้าดับขันธุ์ปรินิพพาน ในราตรีเพ็ญเดือน 6 นั้น


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 พฤษภาคม 2555 11:40:36 โดย เงาฝัน, เหตุผลที่แก้ไข: jpg » บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า:  1 [2]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
แสดงธรรม ณ.วัดอ้อน้อย วันวิสาขบูชา 28.05.2553 9.30 น.
ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
มดเอ๊ก 0 1940 กระทู้ล่าสุด 18 มีนาคม 2555 15:15:54
โดย มดเอ๊ก
ในเวลาเช้าของวันเพ็ญ เดือน 6 วันวิสาขบูชา
ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
時々๛कभी कभी๛ 0 1528 กระทู้ล่าสุด 28 พฤษภาคม 2555 23:30:34
โดย 時々๛कभी कभी๛
วันวิสาขบูชา - การสร้างรูปเคารพ
เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
ใบบุญ 0 1815 กระทู้ล่าสุด 12 กันยายน 2560 15:51:11
โดย ใบบุญ
[ไทยรัฐ] - วันวิสาขบูชา 2566 มีกิจกรรมอะไรบ้าง พร้อม 6 ข้อปฏิบัติชาวพุทธ ช่วยเสริมสิริมงคลให้ชี
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 80 กระทู้ล่าสุด 31 พฤษภาคม 2566 09:44:25
โดย สุขใจ ข่าวสด
วันวิสาขบูชา
เกร็ดศาสนา
ใบบุญ 0 198 กระทู้ล่าสุด 02 มิถุนายน 2566 15:31:57
โดย ใบบุญ
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.442 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 13 กุมภาพันธ์ 2567 01:34:03