[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
15 ธันวาคม 2567 02:15:57 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: “ซุ้มช้าง” สูงเท่าตึก 7 ชั้น สร้างรับเสด็จรัชกาลที่ 5 ทำจากอะไร?  (อ่าน 737 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2490


ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 100.0.4896.75 Chrome 100.0.4896.75


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 18 เมษายน 2565 14:43:23 »

         
          ภาพซุ้มช้างของกรมยุทธนาธิการ ในงานรับเสด็จรัชกาลที่ 5
          กลับจากประพาสยุโรปครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ. 2450
          (ภาพจาก หอจดหมายเหตุแห่งชาติ)


“ซุ้มช้าง” สูงเท่าตึก 7 ชั้น สร้างรับเสด็จรัชกาลที่ 5 ทำจากอะไร?

ผยแพร่ - ศิลปวัฒนธรรม
วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ.2565


เมื่อ พ.ศ.2450 พสกนิกรชาวไทยได้ร่วมมือร่วมใจกันสร้างซุ้มขนาดมหึมาขนาดสูงเท่าตึก 7 ชั้น จำนวนกว่า 10 ซุ้ม ที่บริเวณถนนราชดำเนิน เพื่อถวายการต้อนรับแก่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เนื่องในโอกาสที่เสด็จนิวัติพระนครจากการเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2

งานต้อนรับการเสด็จครั้งนี้ เรียกได้ว่าสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับประชาชนเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะที่ “ซุ้มกรมยุทธนาธิการ” หรือ “ซุ้มช้าง” ซึ่งหนังสือพิมพ์บางกอกไทม์ได้กล่าวถึงไว้ว่า “เป็นซุ้มที่คนส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นซุ้มที่สวยงามที่สุด” นอกจากนี้ก็ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า “เข้าใจว่าซุ้มนี้ได้รับการออกแบบโดยสมเด็จเจ้าฟ้ากรมทหาร (สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงษ์วรเดช)”



สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงษ์วรเดช นายกองในการจัดการรับเสด็จในคราวนี้
(ภาพจาก หอจดหมายเหตุแห่งชาติ)

ซุ้มช้างในงานต้อนรับกลายเป็นภาพประวัติศาสตร์ ความสูงใหญ่ที่คนไทยเมื่อราว 100 ปีที่แล้วช่วยกันสร้างขึ้นจนแล้วเสร็จภายในเวลาแค่ 2 เดือน ยังคงสร้างความแปลกใจให้คนในยุคปัจจุบันว่า ซุ้มนี้สร้างด้วยวัสดุอะไร? คนไทยสมัยก่อนทำได้อย่างไรกัน?

คำตอบของคำถามนี้อยู่ในตอนหนึ่งของหนังสือ ซุ้มรับเสด็จพระพุทธเจ้าหลวง ซึ่ง ยุวดี ศิริ ผู้เขียนเล่มนี้ได้รวบรวมข้อมูลมาให้อ่านแก้สงสัยเอาไว้ ดังที่ได้คัดลอกมาส่วนหนึ่งดังนี้

จากภาพถ่ายซุ้มรับเสด็จตามที่ปรากฏนั้น ครั้งหนึ่งคณะผู้วิจัยใน “โครงการวิจัยภาพถ่ายโบราณชุดพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จนิวัตพระนครจากการประพาสยุโรป ร.ศ.126” ซึ่งได้รับ เงินทุนสนับสนุนการวิจัยจากกองทุนรัชดาสมโภช จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เรียนเชิญผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา มาร่วมให้ความคิดเห็น อันประกอบด้วย ม.ร.ว. ศุภวัฒย์ เกษมศรี ม.ร.ว. แน่งน้อย ศักดิ์ศรี อาจารย์ทองต่อ กล้วยไม้ ณ อยุธยา อาจารย์อาวุธ เงินชูกลิ่น และอาจารย์ ดร.ประเวศ ลิมปรังษี โดยท่านผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ได้ให้ข้อ สังเกตว่า

วัสดุที่ใช้ประดิษฐ์เป็นตัวช้างและพระเกี้ยวยอดนั้น น่าจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ วัสดุด้านนอก (เปลือก) และวัสดุด้านใน (โครงสร้าง)

วัสดุด้านนอก ในส่วนที่เป็นตัวช้าง น่าจะประกอบจากกระดาษว่าวจีน หรือกระดาษประเภทอื่น ในขณะเดียวกันก็มีผู้เชี่ยวชาญบางท่านที่ตั้งข้อสังเกตว่า วัสดุบางส่วนก็อาจจะประดิษฐ์ขึ้นจากปูนปลาสเตอร์ก็เป็นได้เช่นเดียวกัน อันน่าจะสอดคล้องกับรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์บางกอกไทม์ที่รายงานข่าวว่าในวันรับเสด็จนั้น“ทุกคนคาดหวังว่า จะไม่มีฝนตกลงมาทําความเสียหายแก่ปะรําพิธีและซุ้มต่างๆ ก่อนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะได้ทอดพระเนตรเห็น” ซึ่งไม่ว่าวัสดุด้านนอกจะประดิษฐ์จากกระดาษก็ดี หรือปูนปลาสเตอร์ก็ดี ก็อาจจะเป็นเหตุให้ฝนสามารถทําความเสียหายได้ทั้งสิ้น

และน่าจะสอดคล้องกับความคิดเห็นของคุณสุพจน์ แจ้งเร็ว บรรณาธิการหนังสือศิลปวัฒนธรรม ที่ได้ให้ข้อสังเกตว่า

“การประดิษฐ์รูปตุ๊กตาหรือหุ่นใดๆ จากกระดาษนั้น เป็นสิ่งที่คนไทยคุ้นเคยอยู่ก่อนแล้ว โดยดูได้จากการประดิษฐ์หัวโขนของคนไทย”

และน่าจะมีความเป็นไปได้เป็นอย่างยิ่ง หากได้มีการพิจารณาลึกลงไปถึงรายละเอียดของช้างและคนที่นั่งอยู่บนคอช้าง ที่ได้มีการลงสีและตกแต่งหน้าตาให้เหมือนคนจริงๆ เพราะหากเป็นวัสดุประเภทอื่น ก็คงยากที่จะวาดลายละเอียดลงไปได้ ในขณะเดียวกันก่อนวันเสด็จพระราชดําเนินเข้าพระนครเพียงหนึ่งวัน (16 พฤศจิกายน) รายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์บางกอกไทม์ รายงานว่า ได้มีฝนตกลงมาบางส่วน แต่ไม่รุนแรงนัก ซึ่งด้วยเหตุนี้เอง จึงทําให้ตัวช้างที่ได้เห็นจากรูปถ่ายในวันรับเสด็จมีลักษณะเหมือนกระดาษที่พองจากการโดนน้ำฝนในบางส่วน แต่กลับเป็นผลดีที่ทําให้เห็นช้างคล้ายความเป็นจริงมากขึ้น คือ มีลักษณะของการยับย่น จนเหมือนเป็นรอยผิวหยาบๆ ของช้าง

ส่วนที่เป็นพระเกี้ยวยอดนั้น ผู้เชี่ยวชาญได้ให้ความคิดเห็นว่า เนื่องจากมีลักษณะของการสะท้อนแสง หากมิได้ประดิษฐ์ขึ้นจากกระดาษที่ติดประดับกระจก ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า ประดิษฐ์ขึ้นจากสังกะสีแบบบาง เพราะในสมัยนั้นประเทศไทยได้มีการนําเข้าแผ่นสังกะสีเข้ามาใช้ในการก่อสร้างบ้านเรือนบ้างแล้ว อันปรากฎเห็นสังกะสีลักษณะดังกล่าวนํามาประดิษฐ์เป็นธงฉัตรที่ปักอยู่ระหว่างทางเสด็จพระราชดําเนิน แต่ไม่ว่าจะเป็นวัสดุใดก็ตาม สิ่งที่สันนิษฐานได้ก็คือต้องเป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบา เพื่อให้งาช้างและงวงช้างสามารถเป็นพระเกี้ยวยอดที่อยู่ด้านบนเอาไว้ได้

ส่วนวัสดุด้านในที่เป็นโครงสร้างนั้น ผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐานว่า อาจจะเป็นได้ทั้งไม้ไผ่ ไม้จริงและโครงสร้างเหล็ก เพราะในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น ได้มีการนําเข้าเหล็กมาใช้บ้างแล้ว แต่เมื่อพิจารณาร่วมกับวัสดุด้านนอกว่าหากประดิษฐ์จากกระดาษ วัสดุโครงสร้างด้านในน่าจะทําจากไม้ไผ่มากกว่า เพราะช่างจีนซึ่งเข้ามารับงานก่อสร้างในยุคสมัยนั้น น่าจะมีความชํานาญในการใช้ ไม้ไผ่เป็นส่วนประกอบมากกว่าการใช้เหล็ก อีกทั้งไม้ไผ่มีความอ่อนตัว และยืดหยุ่นสามารถดัดเป็นรูปทรงได้ง่าย แต่ถึงกระนั้นก็เชื่อว่าตัวเสาซึ่งเป็นแกนหลักนั้นก็น่าจะยังใช้วัสดุที่แข็งแรง ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งไม้จริง หรือเหล็ก โดยปักแกนหลักลึกลงไปในพื้นดินโดยสังเกตได้จากเชือกที่ มีการยึดโยงตัวช้างกับแกนนี้ไว้ซึ่งค่อนข้างจะแน่นหนาและแข็งแรงพอสมควร

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.257 วินาที กับ 28 คำสั่ง

Google visited last this page 17 พฤศจิกายน 2567 04:45:22