[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
25 เมษายน 2567 15:27:44 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คนไทยสมัย ร. 4 หลงใหล “L-POP” หนักหนา เคยนิยมกันมาก่อน K-POP ฮิตกันสมัยนี้  (อ่าน 287 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออนไลน์ ออนไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2325


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 31 สิงหาคม 2565 19:46:57 »


ลาวแคน (หรือลาวแพน) คือลาวเป่าแคน หรือขับฟ้อนในกรุงเทพฯ
[ภาพและคำบรรยายภาพจาก “พลังลาว” ชาวอีสาน มาจากไหน--สุจิตต์ วงษ์เทศ]


คนไทยสมัย ร. 4 หลงใหล “L-POP” หนักหนา เคยนิยมกันมาก่อน K-POP ฮิตกันสมัยนี้

ผู้เขียน - เสมียนอัคนี
เผยแพร่ - ศิลปวัฒนธรรม วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ.2565


ปรากฏการณ์คนไทยหลงใหลวัฒนธรรมต่างชาติ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมานานแล้ว เห็นได้จากศิลปกรรมและวัฒนธรรมหลายๆ อย่างของบ้านเราที่มีลักษณะใกล้เคียงกับศิลปะจากประเทศ หรืออาณาจักรเพื่อนบ้าน ซึ่งแม้แต่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ก็ทรงชื่นชมในศิลปะเขมรโบราณเป็นอย่างยิ่ง จนเคยมีพระราชดำริให้รื้อปราสาทเขมรมาไว้ในกรุงเทพฯ มาแล้ว ด้วยทรงเห็นว่า “จะเป็นเกียรติยศไปภายหน้า”

แต่เมื่อรัชกาลที่ 4 ทรงเห็นว่า ชาวบ้านชาวช่องพากันแห่แหน “วัฒนธรรมลาว” โดยเฉพาะดนตรีแบบลาว ก็ทำให้พระองค์ทรงไม่สบายพระราชหฤทัยแม้จะทรงเห็นว่า การมีวัฒนธรรมที่หลากหลายจะเป็น “เกียรติยศบ้านเมือง” แต่ก็ต้องยึด “ไทย” เป็นพื้น ดังพระบรมราชโองการดำรัสแก่ข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยว่า

“เมืองไทยเป็นที่ประชุมชาวต่างเพศต่างภาษาใกล้ไกลมากด้วยกันมานานแล้ว การเล่นการฟ้อนรำขับร้องของภาษาอย่างต่างๆ เคยมีมาปะปนเป็นที่ดูเล่นฟังเล่นต่างๆ สำราญ เป็นเกียรติยศบ้านเมืองก็ดีอยู่ แต่ถ้าของเหล่านั้นคงอยู่ตามเพศตามภาษาของคนนั้นๆ ก็สมควร หรือไทยจะเลียนเอามาเล่นได้บ้าง ก็เป็นดีอยู่ว่าไทยเลียน ใครเลียนได้เหมือนหนึ่งพระเทศนามหาชาติว่าอย่างลาวก็ได้ ว่าอย่างมอญก็ได้ ว่าอย่างพม่าก็ได้ ว่าอย่างเขมรได้ก็เป็นดี แต่จะเอามาเป็นพื้นไม่ควร ต้องเอาอย่างไทยเป็นพื้น อย่างอื่นๆ ว่าเล่นได้แต่แหล่หนึ่งสองแหล่”

กระแสความนิยมในดนตรีลาว หรือจะเรียกโดยอนุโลมตามสมัยปัจจุบันได้ว่า “L-POP” คงจะหนักหนาเอาการในสมัยรัชกาลที่ 4 ถึงขนาดที่นักดนตรีไทยต้องขายเครื่องไม้เครื่องมือทำกิน เพราะคนหันไปนิยม “ลาวแคน” กันเสียหมด ดังความที่ทรงบรรยายว่า

“ชาวไทยทั้งปวงละทิ้งการเล่นสำหรับเมืองตัวคือปี่พาทย์มโหรีเสภาครึ่งท่อน ปรบไก่สักรวาเพลงไก่ป่าเกี่ยวข้าวแลละครร้องเสียหมด พากันเล่นแต่ลาวแคนไปทุกหนทุกแห่งทุกตำบลทั้งผู้ชายผู้หญิง จนท่านที่มีปี่พาทย์มโหรีไม่มีผู้ใดหา ต้องบอกขายเครื่องปี่พาทย์เครื่องมโหรี ในที่มีงานโกนจุกบวชนาคก็หาลาวแคนเล่นเสียหมดทุกแห่ง ราคาหางานหนึ่งแรงถึงสิบตำลึง สิบสองตำลึง”

พระองค์ยังทรงเห็นว่า การที่ไทยไปเอาการละเล่นแบบลาวมาเป็น “พื้นเมือง” เป็นการไม่เหมาะสม เนื่องจากไทยไม่เคยเป็นเมืองขึ้นลาว และยังทรงกังวลว่า การที่คนไทยหันไปเล่นลาวแคนยังมีผลทำให้ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาลด้วย

“การที่เป็นอย่างนี้ ทรงพระราชดำริเห็นว่าไม่สู้งามไม่สู้ควรที่การเล่นอย่างลาวจะมาเป็นพื้นเมืองไทย ลาวแคนเป็นข้าของไทยๆ ไม่เคยเป็นข้าลาว จะเอาอย่างลาวมาเป็นพื้นเมืองไทยไม่สมควร ตั้งแต่พากันเล่นลาวแคนมาอย่างเดียวก็กว่าสิบปีแล้ว จนการตกเป็นพื้นเมือง แลสังเกตดูการเล่นลาวแคนชุกชุมที่ไหน ฝนก็ตกน้อยร่วงโรยไป ถึงปีนี้ข้าวในนารอดตัวก็เพราะน้ำป่ามาช่วย”

ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงทรงมีพระบรมราชโองการขอให้คนไทยงดการเล่นลาวแคนเสียสักหนึ่งถึงสองปี เพื่อดูว่า “ฟ้าฝนจะงามไม่งามอย่างไรต่อไปข้างหน้า” ผู้ใดมิฟังยังขืนเล่นลาวแคนอยู่ “จะให้เรียกภาษีให้แรง ใครเล่นที่ไหนจะให้เรียกเจ้าของที่แลผู้เล่น ถ้าลักเล่นจะต้องจับปรับให้เสียภาษีสองต่อสามต่อ”
 
ฟังดูแล้วน่าจะพอกล่าวได้ว่า “K-POP” ที่ว่าหลงใหลในสมัยนี้ ในอดีตก็ต้องบอกว่ามี “ลาวแคน” หรือ “L-POP” สมัยรัชกาลที่ 4 ที่ได้รับความนิยมสูงถึงขนาดนักดนตรีไทยตกอับต้องขายเครื่องมือทำมาหากินทิ้ง แถมยังมีผลถึงฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาลอีก จนรัชกาลที่ 4 ต้องทรงสั่งห้ามเล่นจริงจังถึงขั้นกำหนดบทลงโทษมาแล้ว และแม้ว่าทุกวันนี้ คนไทย (ในเมือง) จะไม่นิยม “ลาวแคน” สักเท่าไร แต่ความนิยมนี้ก็ยังลงเหลือตกทอดอยู่ในแผ่นดินไทยมาได้อีกนับร้อยปีมาจนถึงปัจจุบัน

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.272 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 11 กุมภาพันธ์ 2567 01:55:26