29 มีนาคม 2567 17:27:23
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
สุขใจในธรรม
เกร็ดศาสนา
.:::
คำว่า “สาธุ” และวิธีใช้
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: คำว่า “สาธุ” และวิธีใช้ (อ่าน 367 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Maintenence
ผู้ดูแลระบบ
นักโพสท์ระดับ 10
คะแนนความดี: +0/-0
ออนไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 992
[• บำรุงรักษา •]
ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 105.0.0.0
คำว่า “สาธุ” และวิธีใช้
«
เมื่อ:
23 กันยายน 2565 17:01:31 »
Tweet
ความเป็นมาของ สาธุ
นมตฺถุ รตนตฺตยสฺส ขอความนอบน้อม จงมีแด่พระรัตนตรัย
ขอโอกาสพระเถรานุเถระเพื่อนสหธรรมมิกกล่าวธรรมวินัย เจริญธรรมน้องเณร และเจริญพร ญาติโยมสาธุชนทุกท่าน อาตมาภาพในนามตัวแทนของคณะสงฆ์วัดจากแดง ขออนุโมทนากับเจ้าภาพทุกท่าน ที่มาร่วมกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ด้วยการอุปถัมภ์ด้วยปัจจัย ๔ แก่พระภิกษุสามเณรที่่านกำลังทำหน้าที่ของท่าน คือ คันถธุระ หมายถึงการศึกษาเล่าเรียนพระพุทธพจน์ ทรงจำ แล้วกล่าวเทศน์บรรยายต่อไป เพื่อเป็นการสืบทอดอายุของพระพุทธศาสนา
โอกาสต่อจากนี้ไปพวกเราทั้งหลาย จะได้มีโอกาสทำบุญร่วมกัน โดยอาตมาในฐานะที่เป็นผู้พูดจะได้ทำบุญโดยการให้ธรรมะเป็นทาน เรียกว่า ธรรมเทศนามัย และญาติโยมทั้งหลายในฐานะที่เป็นผู้ฟังก็จะได้ทำบุญโดยการฟังธรรมที่เรียกว่า ธรรมสวนมัยต่อไป
วันนี้อาตมาจะนำเอาความหมายของคำว่า “สาธุ” และวิธีใช้มากล่าวให้ญาติโยมทั้งหลายได้ฟังกัน เพราะเราท่านทั้งหลาย เมื่อมาทำบุญถวายภัตตาหารในศาลาหอฉันแห่งนี้แล้ว พระสงฆ์ท่านก็จะกล่าวรายชื่อเจ้าภาพให้เราท่านทั้งหลายได้อนุโมทนากัน และในการอนุโมทนานั้น เราก็จะกล่าวกันว่า สาธุๆ กัน ฉะนั้นในวันนี้อาตมาจึงอยากจะอธิบายขยายความเนื้อหาของคำว่า สาธุ ให้ญาติโยมได้เข้าใจยิ่งขึ้นอีก เพื่อที่จะทำให้เมื่อเรากล่าว
สาธุ
แล้ว จะได้ตื้นตันใจ มีปีติสุขใจเพิ่มมากขึ้น
คำว่าสาธุนั้น
เป็นภาษาบาลี มาจากสาธธาตุในอรรถสสิทฺธิย ํ ํแปลว่ าดีงามสวยน่าชอบใจ หรือลงในอรรถว่า
สาธเน
ในความสำเร็จก็ได้ ลงอุปัจจัยสำเร็จรูปคำเป็นสาธุ มีรูปวิเคราะห์หรือคำจำกัดความว่าสกตฺถปรตฺถํ สาเธตีติ สาธุแปลว่า ผู้ยังประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่นให้สำเร็จชื่อว่า สาธุ
คำว่าสาธุนั้น ในคัมภีร์อรรถกถา ท่านกล่าวไว้ถึง ๑๑ ความหมาย อย่างไรก็ตาม ในคัมภีร์อภิธานัปปทีปิกา ท่านได้รวบรวมสงเคราะห์เข้าด้วยกัน เหลือ ๖ ความหมาย ดังในคัมภีร์อภิธานัปปทีปิกา คาถาที่ ๗๙๐ ว่า สุนฺทเร ทฬฺหิกมฺเม จา ยาจเน สมฺปฏิจฺฉเน สชฺชเน สมฺปหํสายํ สาธุวาภิเธยฺย ลิงฺคิกํ
สาธุ ศัพท์มีอรรถ ๖ อย่าง คือ ดีงาม (สุนฺทร) ย้ำให้หนักแน่น (ทฬฺหีกมฺม) อ้อนวอน (อายาจน) ตอบรับ (สมฺปฏิจฺฉน) สัตบุรุษ (สชฺชน) เบิกบานใจ (สมฺปหํสา)
ความหมายที่ ๑
ใช้ในอรรถว่า สุนฺทร (ดีงาม) พระองค์ได้ตรัสไว้ใน ขุททกนิกายธรรมบทว่า
สาธุ ธมฺมรุจิ ราชา สาธุ ปญฺญาณวา นโร
สาธุ มิตฺตานมทฺทุพฺโภ ปาปสฺสากรณํ สุขํ
พระราชาผู้ยินดีในธรรม เป็นผู้ดีงาม นรชนผู้มีปัญญา เป็นผู้ดีงาม การไม่ประทุษร้ายมิตร เป็นสิ่งดีงาม การไม่ทำบาป เป็นความสุข คำว ่าสิ่งดีงามนั้น พระองค์ใช้ศัพท์ว่า สาธุแทนทั้ง ๓ คำ
ความหมายที่ ๒
ใช้แสดงการย้ำให้หนักแน่น (ทฬฺหีกมฺม) เช่น
เตน หิ โทณ สุโณหิ สาธุกํ มนสิกโรหิ, ภาสิสฺสามิ
ดูก่อนโทณะ ถ้าเช่นนั้น เธอจงฟัง จงตั้งใจอย่างดี เราจักกล่าว คำว่า สาธุกํ ในที่นี้แสดงการย้ำว่า ควรตั้งใจให้แน่วแน่จริงๆ
ความหมายที่ ๓
ใช้ในการแสดงการอ้อนวอน (อายาจน) เช่น
สาธุ เม ภนฺเต ภควา สํขิตฺเตน ธมฺมํ เทเสตุ
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานวโรกาส ขอพระผู้มีพระภาค โปรดแสดงธรรมแก่ ข้าพระองค์โดยสังเขปเถิด ในที่นี้สาธุ แสดงการอ้อนวอน จึงแปลว่า “ขอประทานวโรกาส”
ความหมายที่ ๔
ใช้เป็นคำตอบรับ (สมฺปฏิจฺฉน) เช่น
สาธุ ภนฺเตติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา
ภิกษุนั้น กล่าวชื่นชมยินดีภาษิตของพระผู้มีพระภาคว่า “ชอบแล้วพระเจ้าข้า” พระภิกษุรับคำของพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยคำว่า สาธุ ในที่นี้จึงแปลว่า ชอบแล้ว
ความหมายที่ ๕
ใช้ในอรรถ สัตบุรุษ (สชฺชน) เช่น
อตฺตโน ปเรสญฺจ หิตํ สาเธตีติ สาธุ, สมฺมาปฏิปนฺโน
บุคคลใดยังประโยชน์ตน และประโยชน์ผู้อื่นให้สำเร็จ เพราะเหตุนั้น บุคคลนั้น จึงชื่อว่าสัตบุรุษ คือ ผู้ปฏิบัติชอบ
ความหมายที่ ๖
ใช้ในอรรถเบิกบานใจ (สมฺปหํสน) เช่น
สาธุ สาธุ สารีปุตฺต, สาธุ โข ตฺวํ สารีปุตฺต ภิกฺขูนํ สงฺคีติปริยายํ อภาสิ
ดีแล้ว ดีแล้ว สารีบุตร เธอได้กล่าวสังคีติเทศนาแก่ภิกษุทั้งหลาย เป็นการดีแล้ว
สารีบุตร ในที่นี้สาธุ ศัพท์แสดงความเบิกบานพระทัยของพระพุทธเจ้า จึงแปลว ่า “ดีแล้ว ดีแล้ว”
การใช้สาธุ ศัพท์ทั้ง ๖ ความหมายนั้น ๕ อย่างแรกมักจะกล่าวเพียงครั้งเดียว ส่วนอย่างที่ ๖ มักกล่าว ๒ ถึง ๓ ครั้งติดต่อกัน ดังที่ได้ยกตัวอย่างสมัยพุทธกาลมา
ตัวอย่างในสมัยพุทธกาล
ต่อไปจะนำเอาเรื่องที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนให้ภิกษุทั้งหลายกล่าวคำสาธุ มาให้ญาติโยมฟังเพิ่มเติมอีก
สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมา แล้วกล่าวสอนว่า ถ้าหากมีใครที่พูดว ่าตนได้บรรลุพระอรหันต์แล้ว ก็อย่าเพิ่งเชื่อหรืออย่าพึ่งคัดค้าน ให้สอบถามสภาวะอย่างนี้ๆ ถ้าหากพระรูปนั้นตอบถูกตามสภาวะ ให้เธอทั้งหลายกล่าวคำว่า สาธุนี่คือตัวอย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนภิกษุให้กล่าวสาธุกัน และอีกครั้งหนึ่งที่พระองค์ทรงกล่าวสาธุการเอง เมื่อครั้งมีพระรูปหนึ่งท่านกลับมาจากป่า หลังจากได้บำเพ็ญเพียรจนบรรลุอรหันต์ แต่พระภิกษุผู้ที่เป็นเพื่อนไม่เชื่อเพราะคิดว่าไม่ได้เรียนอะไร บวชแล้วก็เข้าป่าเลยจะสำเร็จอรหันต์ได้อย่างไรจึงคิดจะถามปัญหาพระรูปนั้น แต่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเกรงว ่า ถ้าหากพระรูปนี้เบียดเบียนพระอรหันต์ ด้วยการถามปัญหาจะทำให้เป็นบาปหนัก พระองค์จึงเสด็จมาถามปัญหาเอง พระองค์ทรงถามปัญหาตั้งแต่ในวิสัยพระโสดาบัน ไล่ไปจนถึงพระอรหันต์ พระรูปนั้นก็ตอบได้ทุกข้อ และทุกๆ ข้อที่พระอรหันต์รูปนั้นตอบ พระองค์จะกล่าวคำว่าสาธุทุกครั้ง นี่แสดงให้เห็นว่า แม้แต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ขณะที่พระองค์ทรงพระชนม์ชีพอยู่นั้นก็ได้ตรัสคำว่า สาธุ อยู่บ่อยๆ อย่างตอนทำสังคายนาครั้งที่ ๑ พระมหากัสสปะเห็นพระอานนท์ซึ่งบรรลุพระอรหันต์แล้วเดินมา ท่านคิดว ่า พระอานนท์ผู้บรรลุอรหันต์แล้ว งดงามจริงหนอ ถ้าพระศาสดายังดำรงพระชนม์อยู่จะต้องกล่าว สาธุการ แก่พระอานนท์แน่แท้ เอาเถิด ในเวลานี้เราจะกล่าวสาธุการให้พระอานนท์แทนพระศาสดาเอง แล้วท่านก็กล่าวสาธุการ ๓ ครั้ง นี่เป็นเพราะพระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนให้กล่าว และทำให้ดูบ่อยๆ พระอัครสาวกทั้งหลายก็ได้ทำตาม
อานิสงส์ของการกล่าวสาธุ
เมื่อเรารู้ความเป็นมาของการสาธุแล้ว ทีนี้เรามาฟังอานิสงส์ของการกล่าวสาธุกัน เมื่อพระพุทธเจ้าประทับที่เมืองสาวัตถีแคว้นโกศล มีชายคนหนึ่งได้ฟังเทศน์ของพระพุทธเจ้าแล้วเห็นโทษในการอยู่ครองเรือน จึงขออนุญาตภรรยาออกบวช ภรรยาถึงแม้ยังรักอยู่ ก็ไม่สามารถที่จะห้ามความต้องการของสามีได้ จึงให้สามีออกบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ท่านก็ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรม ต่อมาพระเจ้าปเสนทิโกศลมาเห็นภรรยาของภิกษุนั้นจึงเกิดความสงสาร และได้รับสั่งให้นำหญิงนั้นเข้ามาเลี้ยงในพระราชวัง ให้เป็นนางสนมกำนัล
วันหนึ่งมีราชบุรุษนำดอกบัวนิลุบลมาถวายกำมือหนึ่ง จึงได้รับไว้แล้วให้นางกำนัลคนละดอก หญิงที่สามีไปบวชนั้น เมื่อได้ดอกบัวก็ยิ้มด้วยความดีใจ แต่พอดมแล้ว นางก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ต้องร้องไห้ออกมา ฝ่ายพระราชาเห็นจึงถามว่า ทำไมจึงยิ้มแล้วร้องไห้ นางตอบว่าทีแรกดีใจที่ได้ดอกไม้แต่พอดมแล้ว มีกลิ่นหอมเหมือนกลิ่นปากของสามีที่หนีไปบวช จึงร้องไห้เพราะคิดถึง
พระเจ้าปเสนทิโกศลอยากจะพิสูจน์ความจริง จึงให้ประดับดอกไม้ของหอมไว้ทั่วพระราชวัง เว้นไว้แต่ดอกบัวนิลุบล แล้วนิมนต์พระพุทธเจ้า พร้อมทั้งหมู่สงฆ์มาฉันภัตตาหารในพระราชวัง ช่วงที่พระกำลังฉันภัตตาหารอยู่ พระเจ้าปเสนทิโกศลก็ถามหญิงที่สามีไปบวชว่าภิกษุรูปไหนคืออดีตสามีของเธอ เธอจึงชี้มือไปที่ภิกษุรูปหนึ่ง หลังเสร็จสิ้นภัตตกิจแล้ว พระเจ้าปเสนทิโกศลจึงได้กราบทูลขอพระพุทธเจ้าให้พระรูปนั้นทำการอนุโมทนากถา เมื่อพระรูปนั้นทำการกล่าวอนุโมทนากถา กลิ่นหอมคล้ายกลิ่นดอกบัวนิลุบลจากปากของพระภิกษุนั้นได้ฟุ้งกลบกลิ่นของหอมและดอกไม้ไปทั่วพระราชวัง ทำให้คนทั้งหลายในวังและพระเจ้าปเสนทิโกศลโสมนัสยิ่งนัก หลังสิ้นการกล่าวอนุโมทนา ท่านก็กลับวัดไป
พอวันรุ่งเช้า พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จไปสู่วิหารแล้วกราบทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า เหตุใดปากของพระเถระจึงหอมนักหนา ท่านได้สร้างกุศลใดมา พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่าเพราะชาติปางก่อน ภิกษุรูปนี้เคยฟังพระสัทธรรม อันไพเราะจับใจ จึงตื้นตันด้วยปีติยินดีกล่าววาจาว่า สาธุ เท่านั้น
นี้เป็น อานิสงส์ของการกล่าวคำสาธุ การกล่าวคำว่าสาธุนั้น จะเห็นได้ว่า ไม่ใช่กล่าวขึ้นมาลอยๆ เฉยๆ อย่างตัวอย่างที่ได้นำมาเล่าให้ญาติโยมทั้งหลายฟังนี้อดีตของภิกษุรูปนั้นท่านได้ฟังธรรมจนเกิดความปีติตื้นตันใจ แล้วกล่าวสาธุ ทำให้ได้อานิสงส์มาก
หรือการกล่าวอนุโมทนาก็ดีการกล่าวอนุโมทนานี้ก็จัดเป็นปัตตานุโมทนามัยคือบุญสำเร็จด้วยการอนุโมทนา ฉะนั้น เราต้องยินดีกับบุคคลคนนั้นจริงๆ แล้วกล่าวอนุโมทนากับเขา ก็จะทำให้การกล่าวสาธุนั้น มีอานิสงส์เพิ่มมากขึ้น เพราะการกล่าวนั้น ไม่ได้ออกมาแค่ปาก แต่การกล่าวสาธุนั้น ต้องออกมาจากใจ
การที่อาตมาได้ชี้แจงแสดงธรรมมาแล้วนั้นก็สมควรแก่เวลาแล้ว ท้ายสุดแห่งการกล่าวสัมโมทนียกถานี้ขออานุภาพแห่งคุณของพระศรีรัตนตรัย กล่าวคือ คุณของพระพุทธ คุณของพระธรรม คุณของพระสงฆ์จงปกปักรักษาคุ้มครองให้ญาติโยมคณะศรัทธาสาธุชนทุกท่านจงปราศจากอุปัทวันตราย ประสบแต่จตุรพิธพรชัยทั้ง ๔ ประการคืออายุ วัณณ ะสุขะ พละ ปรารถนาสิ่งหนึ่งประการใด อันเป็นไปในทางที่ชอบ ประกอบด้วยธรรม นำตนให้พ้นทุกข์ประสบสันติสุขแล้วไซร้ขอความปรารถนานั้นๆ จงพลันสำเร็จ จงพลันสำเร็จ จงพลันสำเร็จด้วยกันทุกท่าน เทอญ...เจริญพร
ที่มา : วารสารโพธิยาลัย ฉบับที่ ๔๒ ประจำเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๑
บันทึกการเข้า
[• สุขใจ บำรุงรักษาระบบ •]
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ
เริ่มโดย
ตอบ
อ่าน
กระทู้ล่าสุด
คำว่า ขอบคุณ
สุขใจ ใต้เงาไม้
PETER
4
3054
03 มีนาคม 2553 06:14:29
โดย
เงาฝัน
คำว่า ร้อนตับแตก มีที่มาอย่างไร ?
สุขใจ ห้องสมุด
หมีงงในพงหญ้า
2
3015
18 ธันวาคม 2553 16:48:55
โดย
หมีงงในพงหญ้า
คำว่า{แม่}ที่ท่านยังไม่รู้จักโดยท่าน พุทธทาส อินทปัญโญ
ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
時々๛कभी कभी๛
1
3679
11 กรกฎาคม 2554 06:01:17
โดย
เงาฝัน
คำว่า Jumbo จริงๆแล้วไม่มีความหมาย
สุขใจ จิบกาแฟ
ฉงน ฉงาย
1
1480
29 กรกฎาคม 2563 22:03:14
โดย
ฉงน ฉงาย
คำว่า “สังฆราช”
เกร็ดศาสนา
Kimleng
1
2653
14 กันยายน 2563 08:48:27
โดย
ฉงน ฉงาย
กำลังโหลด...