[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 20:09:01 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ข้อสันนิษฐานสุดสะพรึง ตำนาน “โกศอาถรรพ์” พระเจ้าตาก?  (อ่าน 168 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2304


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2566 18:53:37 »


พระเจ้าตากสินมหาราช

ข้อสันนิษฐานสุดสะพรึง ตำนาน “โกศอาถรรพ์” พระเจ้าตาก?


ผู้เขียน - สุทธาสินี จิตรกรรมไทย เจียจันทร์พงษ์
เผยแพร่ - ศิลปวัฒนธรรม วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566


โกศ หมายถึงสิ่งที่ทำขึ้นสำหรับประกอบนอกพระลองหรือลองที่ใส่พระบรมศพ พระศพ หรือศพ รูปทรงกระบอก ก้นสอบ ปากผาย มีฐาน และมีฝาครอบเป็นเครื่องยอด ลักษณะต่างกันไปตามอิสริยยศ โกศมักถูกโยงกับเรื่องลี้ลับ เช่น โกศ บรรจุศพเจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อย) ที่ไปทับภูษามาลาเสียชีวิตที่เมืองนครฯ มีข้อสันนิษฐานว่าโกศใบนี้เคยใช้บรรจุพระบรมศพ “พระเจ้าตาก” มาก่อน จึงร่ำลือว่าโกศดังกล่าวเป็นโกศอาถรรพ์ ตามที่ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเขียนเล่าถึงความคิดของผู้ที่ได้ยินเรื่องนี้ว่า “มาซ้ำทับภูษามาลาตายก็เลยถือกันว่าเป็นโกศผีสิง”

ใน “สาส์นสมเด็จ” ซึ่งรวบรวมจดหมายของ “กรมดำรง” และ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ หรือ “กรมนริศ” ที่ส่งถึงกัน มีหลายฉบับที่ทั้งสองพระองค์ทรงแลกเปลี่ยนความรู้และข้อคิดเห็นเรื่องโกศ เช่น จดหมายที่กรมดำรงทรงมีลายพระหัตถ์ถึงกรมนริศ ลงวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2477 ตอนหนึ่งระบุว่า

โกศต่างกันเป็น 3 ชั้น คือ โกศสำหรับทรงพระบรมศพทำฝาเป็นทรงมงกุฎ โกศสำหรับทรงพระศพเจ้านายทำฝาเป็นทรงยอดปราสาท และโกศสำหรับศพขุนนางทำฝาเป็นทรงปริก เป็นแบบมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา

กรมดำรงทรงเล่าต่อไปว่า ข้อนี้รู้ได้ด้วยมี “โกศ” สร้างสมัยกรุงธนบุรีอยู่ 2 ใบ ใบหนึ่งเป็นโกศทรงกลมฝาทรงมงกุฎ อีกใบหนึ่งเป็นโกศแปดเหลี่ยม ฝาเป็นทรงยอดปราสาท มีเรื่องในพงศาวดารส่อให้เห็นว่าโกศฝาทรงมงกุฎ พระเจ้ากรุงธนบุรีคงโปรดให้สร้างสำหรับทรงพระศพพระราชชนนีของพระองค์ ส่วนโกศใบที่ยอดเป็นทรงยอดปราสาทก็คงให้สร้างสำหรับทรงพระศพเจ้านายครั้งกรุงธนบุรี ตามแบบอย่างครั้งกรุงศรีอยุธยา

พระองค์ทรงมีลายพระหัตถ์อีกว่า ถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จึงโปรดฯ ให้สร้างโกศตามแบบเดียวกันสืบมา เป็นแต่แก้พระโกศทองใหญ่เป็นแปดเหลี่ยม และแก้แบบโกศแปดเหลี่ยมฝาทรงยอดปราสาท สำหรับทรงพระศพเจ้านาย ซึ่งของเดิมตัวโกศเป็นแต่จำหลักปิดทอง ให้ประดับกระจกเพิ่มขึ้น จึงเรียกว่า “โกศกุดั่น”

เมื่อมีพระโกศกุดั่นขึ้นแล้ว โกศแปดเหลี่ยมฝาทรงยอดปราสาทของเดิมก็ลดศักดิ์ลงมาสำหรับเจ้านายสามัญ และที่สุดเอาไปใช้ใส่ศพเจ้าพระยาและสตรีมีบรรดาศักดิ์สูง คงเริ่มด้วยพระราชทานเฉพาะแต่ศพที่เป็นพระญาติ แล้วจึงเลยกลายเป็นไปตามยศ


ส่วนเรื่องโกศพระเจ้าตาก (?) ปรากฏอยู่ในจดหมายที่กรมดำรงทรงมีถึงกรมนริศ ลงวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ.2477 ระบุว่า

เมื่อราชบัณฑิตยสภาจัดพิพิธภัณฑสถานสำหรับพระนคร ได้ขอโกศโถใบหนึ่ง กับหีบศพจำหลักลายมังกรใบหนึ่งมาจากกระทรวงวัง เอามาตั้งในพิพิธภัณฑสถาน และได้ขอหีบศพประดับกระจกเป็นลายยามาจากวัดบวรนิเวศฯ อีกใบหนึ่ง เอามาตั้งไว้ด้วยกัน ด้วยเห็นว่าเป็นของอย่างวิสามัญและมีเรื่องเนื่องกับพงศาวดาร สมควรจะรักษาไว้มิให้สูญเสีย แต่เรื่องประวัติของ 3 สิ่งนั้นไม่มีในจดหมายเหตุเก่า หากรู้ได้ด้วยพิจารณาหาหลักฐานในที่ต่างๆ มาประกอบกัน จึงเขียนวินิจฉัยไว้ให้ปรากฏ

กรมดำรงทรงเขียนว่า โกศโถเอาไว้สำหรับใส่ศพขุนนาง มีอยู่ในคลังโกศหลายใบ แต่ใบที่เอามาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแปลกไปจากโกศโถใบอื่นๆ เพราะเป็นของเก่ากว่าและรูปทรงงามกว่าเพื่อน มีฝาเป็นทรงมงกุฎ แต่โกศโถใบอื่นฝาเป็นทรงปริกทั้งนั้น และคนเฝ้าคลังโกศกลัวโกศโถใบนี้ ถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์

ที่เป็นเช่นนั้น เนื่องจากพนักงานรักษาบอกว่าโกศใบดังกล่าวเคยเอาออกไปใส่ศพเจ้าพระยานคร (น้อย) ที่เมืองนครศรีธรรมราช ไปตกจากเกรินทับภูษามาลาตาย ตัวโกศแตกร้าวเป็นหลายซีก เมื่อตรวจดูข้างในโกศเห็นรอยแตกร้าว มีเหล็กปริงยึดไว้หลายแห่งจริง และข้อที่ว่าโกศตกทับภูษามาลาตายที่เมืองนครฯ ก็มีเรื่องปรากฏจริง

เมื่อพิจารณาแล้ว เห็นว่าโกศโถใบนี้เป็นของสร้างเมื่อครั้งกรุงธนบุรี ที่ทำฝาเป็นทรงมงกุฎส่อว่าเดิมสร้างสำหรับพระศพเจ้านายที่ทรงศักดิ์ชั้นสูงสุด เทียบกับเรื่องพงศาวดาร เห็นว่าพระเจ้ากรุงธนบุรีคงโปรดให้สร้างสำหรับพระศพพระราชชนนี

“สันนิษฐานต่อมาว่าเมื่องานพระศพพระเจ้ากรุงธนบุรี ก็คงใช้พระโกศใบนี้เองทรงพระศพเมื่อตั้งในพระเมรุ เพราะเป็นโกศชั้นสูงของพระเจ้ากรุงธนบุรีมีอยู่แล้วในเวลานั้น เห็นจะไม่สร้างพระโกศขึ้นใหม่ และอาจเป็นด้วยเหตุนั้นเมื่องานศพเจ้าพระยานคร (น้อย) พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดฯ ให้เอาโกศใบนี้ไปใส่ศพ ด้วยทรงยกย่องว่าเป็นโอรสของพระเจ้ากรุงธนบุรี

ที่คนกลัวกัน ก็อาจจะกลัวมาแต่แรกทรงพระศพพระเจ้ากรุงธนบุรี เหมือนเช่นกลัวพระแท่นและอะไรอื่นๆ ของพระเจ้ากรุงธนบุรี มาซ้ำทับภูษามาลาตายก็เลยถือกันว่าเป็นโกศผีสิง เรื่องตำนานน่าจะมีดังกล่าวนี้ แต่เดิมเห็นจะไม่ใช้พร่ำเพรื่อ ต่อเมื่อผู้รู้เรื่องเดิมของโกศหมดตัวไป ยังรู้กันแต่ว่าเคยใส่ศพเจ้าพระยานครฯ…”

หมายเหตุ: ในเครื่องหมายคำพูดมีการจัดย่อหน้าใหม่โดยผู้เขียนบทความ

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 กุมภาพันธ์ 2566 19:00:07 โดย ใบบุญ » บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.46 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 17 มีนาคม 2567 23:04:45