กระทรวงแรงงาน อัพเดท มีชาวไทย บาดเจ็บ 1 ราย ถูกจับ 2 ราย หลัง 'ฮามาส' ถล่มจรวด บุกเข้าอิสราเอล
<span class="submitted-by">Submitted on Sat, 2023-10-07 22:32</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>อัพเดทรายงานข่าวเมื่อ 7 ต.ค. 2566 เวลา 22.57 น.</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>กระทรวงแรงงานอัพเดท มีแรงงานบาดเจ็บ 1 ราย และถูกจับตัวไป 2 ราย ขอให้ชาวไทยปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด หลัง 'ฮามาส' ถล่มจรวดกว่า 5,000 ลูก และบุกอิสราเอล ด้าน กต.ร่วมประณามเหตุความรุนแรง และขอให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว</p>
<p> </p>
<p>สืบเนื่องจาก
กรุณา บัวคำศรี นักข่าวอาวุโส รายงานวันนี้ (7 ต.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ระบุว่า ที่ประเทศอิสราเอลเมื่อช่วงเวลาเช้าตรู่ตามเวลาในประเทศไทย กลุ่มฮามาส (ได้ออกมาแสดงตัวรับผิดชอบ) จากการยิงจรวดราว 5,000 ลูก เข้ามาในอิสราเอล ก่อนส่งนักรบบุกฝ่าพรมแดนความมั่นคงของประเทศอิสราเอล เข้ามายึดหมู่บ้าน และชุมชนหลายแห่งทางตอนใต้ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีแรงงานไทยอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ขณะที่ทางสถานทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ประกาศเตือนให้คนไทยในอิสราเอลอยู่ในที่ปลอดภัย </p>
<p>7 ต.ค. 2566 เว็บไซต์
กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ประเทศไทย รายงานวันนี้ (7 ต.ค.) เมื่อ 18.44 น. ออกแถลงการณ์ของไทยต่อสถานการณ์การโจมตีอิสราเอล โดยมีรายละเอียดดังนี้</p>
<p>ในนามของรัฐบาลและประชาชนคนไทย กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาล และประชาชนอิสราเอล สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ซึ่งก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์ และความเสียหายต่อทรัพย์สิน ฝ่ายไทยขอแสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อผู้บาดเจ็บ โดยเฉพาะคนไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงและการโจมตีที่ไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมในครั้งนี้</p>
<p>รัฐบาลไทยขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่จะสร้างความตึงเครียดเพิ่มขึ้น และขอร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศในการประณามการใช้ความรุนแรงและการโจมตีในครั้งนี้ รวมทั้งขอแสดงความหวังให้รัฐบาลอิสราเอลสามารถควบคุมสถานการณ์ให้กลับคืนสู่ปกติโดยเร็ว</p>
<p>ด้าน
เว็บไซต์กระทรวงแรงงาน เผยแพร่ข่าวเมื่อเวลา 20.57 น. ระบุว่า พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้แสดงความห่วงใยแรงงานไทยที่ทำงานในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของกลุ่มฮามาส และสั่งการให้อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เร่งตรวจสอบและดูแลแรงงานอย่างใกล้ชิดทันที ซึ่งจากรายงานของ กิตติ์ธนา ศรีสุริยะ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เบื้องต้นพบว่ามีแรงงานไทยถูกยิงที่ขาได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 ราย ทราบชื่อคือ นายชาตรี ชาศรี อายุ 38 ปี เดินทางโดยกรมการจัดหางานจัดส่งไปทำงานเกษตรมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่จังหวัดนครพนม จากการตรวจสอบของกรมการจัดหางาน พบว่าเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ </p>
<p>นอกจากนี้ ยังพบว่ามีแรงงานไทยอีก 2 ราย ซึ่งเป็นสามีภรรยาถูกจับตัวไว้ ทราบชื่อคือ บุญถม พันธ์ฆ้อง อายุ 39 ปี และ ศศิวรรณ พันธ์ฆ้อง อายุ 36 ปี ทั้งคู่มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี ส่วนรายละเอียดอื่นๆ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ</p>
<p>พิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการดำเนินการที่ประเทศไทยตนได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดนครพนม และจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เป็นภูมิลำเนาของแรงงานไทยที่บาดเจ็บ 1 ราย และแรงงานไทยที่ถูกจับตัวไว้ 2 ราย ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารสร้างขวัญกำลังใจ พร้อมชี้แจงการให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับตามกฎหมายให้แก่ญาติทราบในทันที อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในประเทศอิสราเอลรวมทั้งสิ้นประมาณ 29,900 คน โดยเป็นแรงงานที่อยู่อาศัยบริเวณเมือง Netivot, Sderot, Ashkelo และพื้นที่ใกล้เคียง ประมาณ 5,000 คน</p>
<p>"ขอให้ญาติของแรงงานไทยที่ไปทำงานในประเทศอิสราเอล อย่าเพิ่งตื่นตระหนก ขอให้มั่นใจว่า รัฐบาลไทยทั้งสถานทูต และกระทรวงแรงงานจะให้การคุ้มครอง ดูแล อย่างดีที่สุด และจะเร่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอให้แรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด และแจ้งข้อมูลมายังฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เพื่อจะได้วางแผนในการให้ความช่วยเหลือต่อไป" พิพัฒน์ กล่าวท้ายสุด</p>
<p>ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ออกประกาศเตือนคนไทยในอิสราเอล โดยขอให้คนไทยเข้าห้องหลบภัยทันทีที่ได้ยินเสียงไซเรน หากไม่ทัน ให้หมอบราบลงกับพื้น ไม่ถ่ายรูป ไม่วิ่งไปที่โล่ง ปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด และขอให้ทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อาศัยในเขตภาคใต้ใกล้เคียงฉนวนกาซา และภาคกลาง รวมถึงกรุงเทลอาวีฟ ไม่ออกจากที่พักอาศัย สำหรับคนไทยที่ได้รับผลกระทบโปรดติดต่อได้ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ หมายเลขโทรศัพท์ (+972) 5 4636 8150 กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ หมายเลข 0 2575 1047-51 ฝ่ายแรงงานไทย ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ โทร : +972 544693476 What app ID : 0544693476 Line ID : 0544693476 (ตลอด 24 ชั่วโมง)</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ทอ.เตรียมอพยพคนไทยออกจากอิสราเอล</span></h2>
<p>เมื่อเวลา 22.27 น.
เฟซบุ๊กกระทรวงการต่างประเทศ รายงานว่า สืบเนื่องจากกรณีรายงานข่าวแรงงานไทยในอิสราเอลถูกกองกำลังติดอาวุธจับกุมตัว สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ กำลังพยายามประสานกับทุกหน่วยงานอย่างใกล้ชิด มิได้นิ่งนอนใจ ทางการอิสราเอลรับปากว่าจะดูแลคนต่างชาติเทียบเท่าคนอิสราเอล ตอนนี้ อิสราเอลอยู่ในสภาวะสงคราม ทางการอิสราเอลห้ามการเคลื่อนไหวของพลเรือนนอกเคหสถาน</p>
<p>นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ติดตามอย่างเต็มที่ และได้สั่งการให้ ทอ. เตรียมพร้อมอพยพคนไทย</p>
<p>พรุ่งนี้ (8 ต.ค.) จะมีการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินที่กรมการกงสุล</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">'เศรษฐา' ระบุขอให้อิสราเอลเช็กข้อมูลที่คนไทยถูกจับ ขอประณามการโจมตีอิสราเอล</span></h2>
<p><span style="color:null;">
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความบนบัญชี X "@Thavisin" ระบุว่า ขอประณามการโจมตีอิสราเอล การโจมตีที่ไร้มนุษยธรรมที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาลและประชาชนอิสราเอล เหตุการณ์นี้ไม่สมควรเกิดขึ้น และผมขอร่วมกับประชาคมโลกประณามการกระทำดังกล่าว</span></p>
<p style="text-align: center;"> </p>
<blockquote class="twitter-tweet"><p dir="ltr" lang="th" xml:lang="th">ผมขอประณามการโจมตีอิสราเอล การโจมตีที่ไร้มนุษยธรรมที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาลและประชาชนอิสราเอล เหตุการณ์นี้ไม่สมควรเกิดขึ้น และผมขอร่วมกับประชาคมโลกประณามการกระทำดังกล่าว</p>
<p>ผมได้สั่งการให้กองทัพอากาศเตรียมพร้อมเครื่อง…
https://t.co/ILnb0lH6HJ</p>
<p>— Srettha Thavisin (@Thavisin)
October 7, 2023</p>
<script async="" src="
https://platform.twitter.com/widgets.js" charset="utf-8"></script><p> </p>
<p><span style="color:null;">เศรษฐา ระบุต่อว่า ได้สั่งการให้กองทัพอากาศเตรียมพร้อมเครื่อง Airbus A340 และ C-130 อพยพคนไทยออกจาก อิสราเอลทันที ทาง พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) รับทราบและพร้อมปฏิบัติการ</span></p>
<p><span style="color:null;">"ผมติดตามสถานการณ์ร่วมกับกระทรวงต่างประเทศอย่างใกล้ชิด และมีความกังวลใจที่เห็นรายงานเข้ามาว่ามีแรงงานไทยถูกจับไป 2 คน หรือมากกว่า ตอนนี้กำลังยืนยันข้อมูลจากทางการอิสราเอลอยู่ ทางกองทัพและหน่วยแพทย์ฉุกเฉินเตรียมความพร้อม ผมต้องการให้คนไทยทุกคนได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย" โพสต์เศรษฐา ระบุ</span></p>
<p>ย้อนไปเมื่อปี 2564 <a href="http://‘กระทรวงแรงงาน’ อัพเดท มีชาวไทย บาดเจ็บ 1 ราย ถูกจับ 2 ราย หลัง ‘ฮามาส’ ถล่มจรวด บุกเข้าอิสราเอล กระทรวงแรงงานอัพเดท มีแรงงานบาดเจ็บ 1 ราย และถูกจับตัวไป 2 ราย ขอให้ชาวไทยปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด ด้าน กต.ประณามเหตุความรุนแรง และขอให้อิสราเอลกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเวลาสายๆ ตามเวลาในประเทศไทย กลุ่มฮามาส (ได้ออกมาแสดงตัวรับผิดชอบ) จากการยิงจรวดราว 5,000 ลูก เข้ามาในอิสราเอล ก่อนส่งนักรบบุกฝ่าพรมแดนความมั่นคงของประเทศอิสราเอล เข้ามายึดหมู่บ้าน และชุมชนหลายแห่งทางตอนใต้ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีแรงงานไทยอาศัย อยู่เป็นจำนวนมาก ขณะที่ทางสถานทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ประกาศเตือนให้คนไทยในอิสราเอลอยู่ในที่ปลอดภัย 7 ต.ค. 2566 เว็บไซต์ กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ประเทศไทย รายงานวันนี้ (7 ต.ค.) เมื่อ 18.44 น. ออกแถลงการณ์ของไทยต่อสถานการณ์การโจมตีอิสราเอล ในนามของรัฐบาลและประชาชนคนไทย กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาล และประชาชนอิสราเอล สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ซึ่งก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์ และความเสียหายต่อทรัพย์สิน ฝ่ายไทยขอแสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อผู้บาดเจ็บ โดยเฉพาะคนไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงและการโจมตีที่ไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมในครั้งนี้ รัฐบาลไทยขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่จะสร้างความตึงเครียดเพิ่มขึ้น และขอร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศในการประณามการใช้ความรุนแรงและการโจมตีในครั้งนี้ รวมทั้งขอแสดงความหวังให้รัฐบาลอิสราเอลสามารถควบคุมสถานการณ์ให้กลับคืนสู่ปกติโดยเร็ว ด้านเว็บไซต์ ‘กระทรวงแรงงาน’ เผยแพร่ข่าวเมื่อเวลา 20.57 น. ระบุว่า พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้แสดงความห่วงใยแรงงานไทยที่ทำงานในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของกลุ่มฮามาส และสั่งการให้อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เร่งตรวจสอบและดูแลแรงงานอย่างใกล้ชิดทันที ซึ่งจากรายงานของ กิตติ์ธนา ศรีสุริยะ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เบื้องต้นพบว่ามีแรงงานไทยถูกยิงที่ขาได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 ราย ทราบชื่อคือ นายชาตรี ชาศรี อายุ 38 ปี เดินทางโดยกรมการจัดหางานจัดส่งไปทำงานเกษตรมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่จังหวัดนครพนม จากการตรวจสอบของกรมการจัดหางาน พบว่าเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีแรงงานไทยอีก 2 ราย ซึ่งเป็นสามีภรรยาถูกจับตัวไว้ ทราบชื่อคือ บุญถม พันธ์ฆ้อง อายุ 39 ปี และ ศศิวรรณ พันธ์ฆ้อง อายุ 36 ปี ทั้งคู่มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี ส่วนรายละเอียดอื่นๆ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ พิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการดำเนินการที่ประเทศไทยตนได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดนครพนม และจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เป็นภูมิลำเนาของแรงงานไทยที่บาดเจ็บ 1 ราย และแรงงานไทยที่ถูกจับตัวไว้ 2 ราย ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารสร้างขวัญกำลังใจ พร้อมชี้แจงการให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับตามกฎหมายให้แก่ญาติทราบในทันที อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในประเทศอิสราเอลรวมทั้งสิ้นประมาณ 29,900 คน โดยเป็นแรงงานที่อยู่อาศัยบริเวณเมือง Netivot , Sderot, Ashkelo และพื้นที่ใกล้เคียง ประมาณ 5,000 คน “ขอให้ญาติของแรงงานไทยที่ไปทำงานในประเทศอิสราเอล อย่าเพิ่งตื่นตระหนก ขอให้มั่นใจว่า รัฐบาลไทยทั้งสถานทูต และกระทรวงแรงงานจะให้การคุ้มครอง ดูแล อย่างดีที่สุด และจะเร่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอให้แรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด และแจ้งข้อมูลมายังฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เพื่อจะได้วางแผนในการให้ความช่วยเหลือต่อไป” พิพัฒน์ กล่าวท้ายสุด ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ออกประกาศเตือนคนไทยในอิสราเอล โดยขอให้คนไทยเข้าห้องหลบภัยทันทีที่ได้ยินเสียงไซเรน หากไม่ทัน ให้หมอบราบลงกับพื้น ไม่ถ่ายรูป ไม่วิ่งไปที่โล่ง ปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด และขอให้ทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อาศัยในเขตภาคใต้ใกล้เคียงฉนวนกาซา และภาคกลาง รวมถึงกรุงเทลอาวีฟ ไม่ออกจากที่พักอาศัย สำหรับคนไทยที่ได้รับผลกระทบโปรดติดต่อได้ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ หมายเลขโทรศัพท์ (+972) 5 4636 8150 กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ หมายเลข 0 2575 1047-51 ฝ่ายแรงงานไทย ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ โทร : +972 544693476 What app ID : 0544693476 Line ID : 0544693476 (ตลอด 24 ชั่วโมง) ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2564 กลุ่มนักรบฮามาส เคยใช้ยุทธวิธีเดียวกันในการโจมตีอิสราเอล โดยยิงจรวดเข้ามาในพื้นที่อิสราเอล ราว 4,000 ลูก และในเหตุการณ์ครั้งนั้น มีชาวไทยได้เสียชีวิต 2 ราย">กลุ่มนักรบฮ
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2023/10/106264