ศาลธนบุรีลงโทษจำคุก ‘โสภณ’ 3 ปี ม.112 ปราศรัยม็อบใครฆ่าพระเจ้าตาก แต่ยกฟ้อง 'โจเซฟ'
<span class="submitted-by">Submitted on Wed, 2023-12-27 16:45</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพจาก Mob Data Thailand</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ศาลอาญาธนบุรีพิพากษาคดีม.112 ของ “โสภณ” และ “โจเซฟ” กรณีปราศรัยกิจกรรม “ใครฆ่าพระเจ้าตาก” ศาลลงโทษจำคุกโสภณ 3 ปี ปรับ 200 บาท เพราะมีการกล่าวถึง ร.10 ว่าไม่ทรงงานลุ่มหลงในไสยศาสตร์ทำให้ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ส่วนโจเซฟศาลยกฟ้องข้อหาม. 112 เพราะเป็นการพูดเรื่องประวัติศาสตร์เรื่องการตายของพระเจ้าตากที่ยังไม่มีข้อยุติทางประวัติศาสตร์ ปรับแค่ 200 บาทเพราะใช้เครื่องขยายเสียง</p>
<p>27 ธ.ค.2566
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า วันนี้ที่ศาลอาญาธนบุรีมีนัดอ่านคำพิพากษาในคดีของ โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง หรือ เก็ต จากกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ และโจเซฟ (นามสมมติ) ที่อัยการฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากการปราศรัยในที่ชุมนุม “ฟื้นฝอยหาตะเข็บ 240 ปี ใครฆ่าพระเจ้าตาก” เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2565 บริเวณอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน วงเวียนใหญ่</p>
<p>คดีนี้เดิมมีผู้ที่ถูกดำเนินคดีรวม 3 คน โดยมี “มิ้น” นักกิจกรรมกลุ่มนาดสินปฏิวัติ เป็นจำเลยในคดีคนที่สาม แต่เนื่องจากเธอลี้ภัยทางการเมืองไปแล้วทำให้คดีนี้มีจำเลยเหลือเพียงสองคน</p>
<div class="more-story">
<ul>
<li>
ประชาชนร่วมกันชำระประวัติศาสตร์ “ใครฆ่าพระเจ้าตาก”</li>
<li>
'เก็ท' นั่งหันหลังให้ศาลตลอดสืบพยานคดี 112 #ม็อบ6เมษา65 ก่อนลุกแถลงทวงสิทธิประกันตัว-ยุติคดี 112</li>
<li>
ตร.จับ 'โจเซฟ' คดีม.112 ปราศรัยงาน 'ใครฆ่าพระเจ้าตาก' ส่งตัวไปกองปราบยาเสพติด</li>
<li>
ศาลธนบุรีให้ 'มิ้นท์' ประกันตัวคดีม.112 ปราศรัยเวที 'ใครฆ่าพระเจ้าตาก' วางเงิน 2 แสน</li>
</ul>
</div>
<p>ศูนย์ทนายความฯ รายงานด้วยว่าการรักษาความปลอดภัยของศาลวันนี้มีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากว่างกำลังภายในอาคารศาลตลอดทางไปห้องพิจารณา และยังให้ผู้ที่เข้าร่วมฟังคำพิพากษาเข้าไปในห้องพิจารณาคดีได้เพียงแค่จำเลยทั้งสองคน ครอบครัวและคนใกล้อีก 3 คนเท่านั้น ส่วนคนที่ให้กำลังใจคนอื่นๆ ต้องไปฟังจากการถ่ายทอดผ่านวิดีโอในอีกห้องหนึ่งและต้องฝากโทรศัพท์ไว้กับเจ้าหน้าที่เท่านั้นอีกด้วย</p>
<p>ส่วนคำพิพากษาตามที่ศูนย์ทนายความฯ รายงานสรุปได้ว่า ศาลรับฟังข้อเท็จจริงว่า ก่อนวันเกิดเหตุมีการนัดหมายชุมนุมจริงตามสื่อออนไลน์ โดยไม่มีข้อเท็จจริงว่ามีบุคคลมาขอใช้เครื่องขยายเสียงก่อนจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และในวันเกิดเหตุพยานโจทก์เบิกความสอดคล้องกันว่า จำเลยทั้งสองได้ขึ้นปราศรัยโดยใช้ไมค์ขยายเสียง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ห่างไปถึง 20 เมตรได้ยินเสียง จึงฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ จึงถือว่าร่วมกันกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง มาตรา 4 วรรคแรก, มาตรา 9 วรรคแรก ประกอบมาตรา 83 ปรับคนละ 200 บาท</p>
<p>ส่วนประเด็นว่าเนื้อหาการปราศรัยของทั้งสองคนเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 112 หรือไม่นั้น ศาลเห็นว่าในกรณีของโสภณซึ่งเป็นจำเลยที่ 1 มีการกล่าวถึงรัชกาลที่ 10 จึงต้องพิจารณาโดยคำนึงถึงสถานะของสถาบันกษัตริย์และความรู้สึกของบุคคลประกอบด้วย พยานโจทก์เบิกความไปในทางสอดคล้องกันว่าคำปราศรัยของโสภณนั้นยืนยันข้อเท็จจริงว่ารัชกาลที่ 10 ไม่ทรงงาน และยังลุ่มหลงในไสยศาสตร์ เห็นว่าคำปราศรัยดังกล่าวทำให้พระมหากษัตริย์ถูกดูหมิ่นเกลียดชังจึงมีความผิดตามกฎหมาย</p>
<p>แต่ในส่วนของโจเซฟที่เป็นจำเลยที่ 2 นั้น ไม่ได้มีการกล่าวถึงรัชกาลที่ 10 แต่กล่าวถึงรัชกาลที่ 1 ศาลเห็นว่าแม้การกระทำความผิดจะกระทบต่อกษัตริย์เพียงพระองค์เดียว ย่อมส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งประเทศไทยปกครองโดยพระมหากษัตริย์มาตั้งแต่ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ จนกระทั่งถึงระบอบประชาธิปไตย พระมหกษัตริย์ยังคงได้รับการเคารพสักการะให้ทรงเป็นประมุขของประเทศ ทรงงานโดยใช้อํานาจนิติบัญญัติผ่านทางรัฐสภา อํานาจบริหารผ่านทางคณะรัฐมนตรี และอํานาจตุลาการผ่านทางศาล มีการสืบราชสันตติวงศ์ตามรัฐธรรมนูญ โดยประชาชนทุกคนยังคงผูกพันกับสถาบันกษัตริย์ตลอดมา</p>
<p>ส่วนข้อความที่จำเลยที่ 2 ปราศรัยโดยสรุปว่า ชนชั้นนำ ชนชั้นปกครอง หมายถึงกษัตริย์เป็นเทวราชา เป็นเทพอวตารมาจุติ ประชาชนต้องหมอบกราบ และราชวงศ์เก่าในอดีตมีการฆ่าเพื่อแย่งชิงราชสมบัติ ทั้งหมดควรเป็นการกระทำของเทวราชา เทพอวตารหรือไม่ ให้พี่น้องไปไตร่ตรองเอาเอง</p>
<p>ศาลเห็นว่าคำกล่าวของจำเลยที่ 2 เป็นข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ไม่ได้ยืนยันข้อเท็จจริง และข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่ว่าพระมหากษัตริย์มีเมียหลายคนหรือมีการแย่งชิงทรัพย์สมบัติกันก็เป็นเรื่องทั่วไป ส่วนที่จำเลยที่ 2 กล่าวถึงสาเหตุการตายของพระเจ้าตากสินก็เป็นข้อมูลที่ไม่มีข้อยุติทางประวัติศาสตร์ ทำให้จำเลยที่ 2 เชื่อแบบนั้นได้ การกล่าวถึงเทพอวตารไม่ได้เป็นการยืนยันข้อเท็จจริง โดยจำเลยที่ 2 ได้ให้ผู้ฟังที่เป็นประชาชนไปคิดเองต่อ ศาลเห็นว่าจำเลยที่ 2 ไม่ได้ยืนยันข้อเท็จจริงอะไร และเลือกหยิบบางประเด็นมาปราศรัยเท่านั้น จึงไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้เห็นว่าจำเลยได้กระทำให้พระมหากษัตริย์ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จึงไม่มีความผิดตามกฎหมาย</p>
<p>ศาลจึงพิพากษาว่าโสภณได้ทำความผิดหลายกรรมต่างให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป โดยข้อหามาตรา 112 ให้จำคุก 3 ปี และข้อหาเครื่องใช้เครื่องขยายเสียงให้ปรับ 200 บาท โดยโทษจำคุกให้นับต่อจากคดีการปราศรัยในกิจกรรม #ทัวร์มูล่าผัว ที่ศาลอาญามีคำพิพากษาไปก่อนหน้านี้ที่ให้ลงโทษจำคุก 3 ปีตามข้อหามาตรา 112 และจำคุกอีก 6 เดือนจากข้อหาใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งเป็นการตัดสินเกินกว่ากฎหมายกำหนด ทำให้ตอนนี้โสภณจะมีโทษจำคุกรวมทั้งหมดแล้วเป็น 6 ปี 6 เดือน</p>
<p>ส่วนของโจเซฟศาลยกฟ้องข้อหามาตรา 112 แต่ให้ปรับ 200 บาทจากพความผิดใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต</p>
<p>ศูนย์ทนายความฯ รายงานเพิ่มเติมว่าหลังศาลอ่านคำพิพากษา โจเซฟได้จ่ายค่าปรับต่อศาลเป็นที่เรียบร้อย ส่วนเก็ทปฎิเสธที่จะจ่ายค่าปรับและไม่ขอประกันตัวในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ให้เวลาบางส่วนต่อเก็ทได้พูดคุยกับครอบครัวและผู้ที่ศาลอนุญาตให้เข้าห้องพิจารณาได้ จากนั้นเก็ทถูกนำตัวออกจากห้องพิจารณาเพื่อเดินทางกลับไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ด้วยกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2023/12/107403