[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 พฤษภาคม 2567 10:16:22 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ 24-31 ธ.ค. 2566  (อ่าน 47 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สุขใจ ข่าวสด
I'm Robot
สุขใจ บอทนักข่าว
นักโพสท์ระดับ 15
****

คะแนนความดี: +101/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Italy Italy

กระทู้: มากเกินบรรยาย


บอท @ สุขใจ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 31 ธันวาคม 2566 13:22:12 »

สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ 24-31 ธ.ค. 2566
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2023-12-31 12:29</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p><strong>เตือนรถโดยสารสาธารณะช่วงปีใหม่หากพบทำผิดลงโทษขั้นสุด</strong></p>
<p>นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เนื่องด้วยช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ที่จะมาถึงนี้เป็นวันหยุดยาวต่อเนื่อง (ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2566 - 1 มกราคม 2567) โดยคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณผู้โดยสารที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ โดยการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะเป็นจำนวนมาก กระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกกำกับ ดูแล และคุ้มเข้มการปฏิบัติหน้าที่ของรถโดยสารสาธารณะอย่างเคร่งครัด</p>
<p>ทั้งนี้รมช. กระทรวงคมนาคม ได้เตือนผู้ประกอบการและพนักงานขับรถต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดและอย่าฉวยโอกาสในช่วงวันหยุดยาวเอาเปรียบผู้โดยสาร กรณีรถโดยสาร พนักงานขับรถต้องมีความพร้อมสำหรับการบริการตามมาตรการด้านความปลอดภัย ปฏิบัติตามเงื่อนไขการเดินรถ ห้ามบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่กำหนด ห้ามเรียกค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด สภาพรถต้องมีความพร้อม</p>
<p>ส่วนพนักงานขับรถต้องมีความพร้อมก่อนออกปฏิบัติหน้าที่ โดยต้องมีค่าแอลกอฮอล์เป็นศูนย์และขับรถไม่เกินชั่วโมงการทำงานตามที่กฎหมายกำหนด กรณีรถแท็กซี่ รถสามล้อสาธารณะ รถจักรยานยนต์สาธารณะ ห้ามปฏิเสธผู้โดยสาร ต้องส่งผู้โดยสารตามสถานที่ที่ได้ตกลงกันไว้ เมื่อรับผู้โดยสารต้องกดมิเตอร์ทุกครั้งและไม่เก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด และต้องไม่เมาสุราหรือของมึนเมาขณะขับรถ ทั้งนี้ พนักงานขับรถโดยสารธารณะต้องมีใบอนุญาตขับรถถูกต้องและตัวรถต้องจดทะเบียนเป็นรถโดยสารสาธารณะ (ป้ายเหลือง)</p>
<p>นายสุรพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกกำกับ ดูแล จัดรถโดยสารให้เพียงพอต่อการเดินทางของประชาชนและจัดผู้ตรวจการลงพื้นที่ออกตรวจตามสถานีขนส่งผู้โดยสาร จุดจอด รวมถึงจุดที่มีประชาชนเรียกใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ</p>
<p>ในส่วนของรถโดยสารสาธารณะ ที่ทำผิดกฎหมายกรมการขนส่งทางบกจะนำระบบการตัดคะแนนใบอนุญาตรถสาธารณะมาบังคับใช้ เพื่อกำกับดูแลให้ผู้ให้บริการขับรถโดยสารสาธารณะปฏิบัติตามกฎหมาย หากพบพนักงานขับรถทำผิดจนทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงจะดำเนินการลงโทษผู้ฝ่าฝืนขั้นสูงสุดและมีโอกาสถูกพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถได้ ถ้าประชาชนพบปัญหาจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะสามารถแจ้งสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง</p>
<p>ที่มา: โพสต์ทูเดย์, 30/12/2566</p>
<p><strong>คนไทยความพร้อมก่อนวัยเกษียณต่ำ เงินออมน้อย 10% อยู่รอดวัยชราต้องใช้เงิน 3-5 ล้านบาท</strong></p>
<p>ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. รัฐชัย ศีลาเจริญ หัวหน้าภาควิชาการธนาคารและการเงิน คณะบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ผลสำรวจจากประชาชนวัยทำงาน ปี พ.ศ. 2566 ทั่วทุกภาคของประเทศไทยกว่า 2,400 คน ชี้ให้เห็นว่า ตัวเลขดัชนีความพร้อมในการเกษียณอายุ (NRRI) ของคนไทยอยู่ที่ระดับ 49.3%</p>
<p>สะท้อนว่าคนไทยมี ความพร้อมก่อนวัยเกษียณ ในระดับปานกลาง และสูงขึ้นเล็กน้อยจากผลสำรวจในปี พ.ศ. 2564 ที่อยู่ระดับ 48.4%</p>
<p>ทั้งนี้ ดัชนีความพร้อมเพื่อการเกษียณ จำแนกตามกลุ่ม พบว่า</p>
<p>1.ปัจจัยเรื่องเพศ “ไม่มีผล“ ต่อความแตกต่างของค่าเฉลี่ย ทั้งด้านความพร้อมด้านการเงิน และความมั่นคงในชีวิต</p>
<p>2.ปัจจัยเรื่องอายุ มีผลต่อความแตกต่างของค่าเฉลี่ย “เล็กน้อยมาก” โดยกลุ่มอายุ 50-59 ปี มีความพร้อมด้านการเงินและความมั่นคงในชีวิตมากกว่ากลุ่มอายุ 18-29 ปี และภาพรวมกลุ่มอายุ 50-59 ปี ในผลสำรวจปี 2566 ดีขึ้นในทุกมิติเมื่อเทียบกับปี 2564</p>
<p>3.ปัจจัยภูมิภาค “ไม่ใช่คีย์หลักที่สร้างความแตกต่างในความพร้อม” แต่จากผลสำรวจ พบว่า ภาคกลางและภาคใต้ ในปี 2566 มีความพร้อมด้านการเงิน (F-RRI) สูงขึ้น ขณะที่ภาครวมกรุงเทพดีขึ้น</p>
<p>4.ปัจจัยอาชีพ “มีผลมากสุด” ต่อความพร้อมในวัยเกษียณ โดยพบว่า เจ้าของกิจการ ข้าราชการ และ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พร้อมในแทบทุกด้านดีกว่า ลูกจ้าง อาชีพอิสระ และอื่น ๆ</p>
<p>ตัวอย่างกลุ่มข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 17.3 มีการออมเงินมากกว่า 15% ของรายได้ และมีค่ามัธยฐานรายได้หลังเกษียณที่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 20,000 บาท/เดือน</p>
<p>ตัวอย่างกลุ่มเจ้าของกิจการ ร้อยละ 24 ออมเงิน 10-15% ของรายได้ และมีค่ามัธยฐานรายได้หลังเกษียณที่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 10,000 บาท/เดือน</p>
<p>ตัวอย่างกลุ่มพนักงานบริษัทเอกชน ร้อยละ 29.9% ออมเงินไม่เกิน 5% ของรายได้ และมีค่ามัธยฐานรายได้หลังเกษียณที่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 5,000-9,000 บาท/เดือน</p>
<p>ตัวอย่างกลุ่มอาชีพอิสระ รับจ้างทั่วไป และลูกจ้าง ร้อยละ 28.7 ไม่มีเงินออมเลย และมีค่ามัธยฐานรายได้หลังเกษียณที่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 5,000-9,000 บาท/เดือน</p>
<p>ผศ. ดร. รัฐชัย กล่าวต่อไปว่า ความพร้อม “ด้านการเงิน” ของคนไทยยังอยู่ในระดับต่ำที่น่ากังวล โดยพบว่า วัยทำงานออมเงินค่อนข้างน้อย ไม่ถึง 10% ของเงินเดือน</p>
<p>“นโยบายความพร้อมทางด้านการเงินแห่งชาติ เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจาก ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ ประชากรสูงวัยจะมีโอกาสประสบปัญหาด้านรายจ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น อาทิ ค่ารักษาพยาบาล ในขณะที่รายได้คงที่หรือลดลง ทำให้เกิดความยากลำบากด้านการเงิน”</p>
<p>ขณะที่เมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายสำหรับผู้สูงอายุที่จะใช้ได้เพียงพอจนถึงอายุ 80-85 ปี ต้องมีเงินเก็บไม่น้อยกว่า 3-5 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 10,000-15,000 บาท/เดือน ซึ่งคำนวณโดยใช้ค่าเงินปัจจุบันและการคิดเผื่อเงินเฟ้อในอนาคต</p>
<p>โดยปัจจัยสำคัญที่ควรได้รับการสนับสนุนอย่างเร่งด่วน ได้แก่ การพัฒนาทักษะทางการเงินและการลงทุนของประชาชน และการสนับสนุนด้านการออมอย่างทั่วถึงจากภาครัฐและภาคเอกชน</p>
<p>ที่มา: การเงินการธนาคาร, 29/12/2566</p>
<p><strong>รมว.แรงงานเผยมีแรงงานไทยกลับจากอิสราเอลขอเงินเยียวยาแล้ว 81.04%</strong></p>
<p>นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ระบุว่า มีแรงงานไทยที่กลับจากอิสราเอล ยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยาจากสถานการณ์ไม่สงบในอิสราเอล รายละ 50,000 บาทแล้ว จำนวน 8,032 ราย จากจำนวนทั้งหมด 9,697 คน คิดเป็น ร้อยละ 81.04 โดยผ่านการพิจารณาจากคณะทำงาน กระทรวง/จังหวัด แล้ว 4,192 ราย และหน่วยงานตรวจสอบและขออนุมัติการจ่ายเงินแล้ว 193 ราย ซึ่งขณะนี้เริ่มทยอยโอนเงินเข้าบัญชีให้ผู้มีสิทธิ หรือทายาทของแรงงานแล้ว</p>
<p>ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์, 29/12/2566</p>
<p><strong>จับแรงงานจีนลอบทำงานก่อสร้างในภูเก็ต ค่าแรงวันละ 3,000 บาท</strong></p>
<p>เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2566 ตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมเจ้าหน้าที่จัดหางานจังหวัดภูเก็ต บุกเข้าจับกุมแรงงานข้ามชาติสัญชาติจีน ทั้งชายและหญิง 28 คน ซึ่งลักลอบเข้ามาทำงานในแคมป์คนงานก่อสร้าง ที่กำลังสร้างโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านลายัน ต.เชิงทะเล อ.ถลาง</p>
<p>หลังเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายสืบว่าสถานที่ก่อสร้างแห่งนี้ มีชาวจีนเข้ามาทำงานก่อสร้างและตกแต่งภายในเป็นจำนวนมาก เมื่อเข้าไปตรวจตรวจสอบ พบกลุ่มคนงานชาวจีนกำลังทำงานก่อสร้างและตกแต่งภายใน ตำรวจจึงได้เข้าแสดงตัว โดยพบว่าแรงงานบางส่วนแสดงท่าทางลุกลี้ลุกลน พยายามหลบหนี</p>
<p>หลังเจ้าหน้าที่สอบสวนกลุ่มแรงงานผ่านล่ามแปลภาษา โดยชาวจีนทั้ง 28 คน อ้างว่า เดินทางมาจากประเทศจีนในรูปแบบนักท่องเที่ยว และมี "นายเหอ" ซึ่งเป็นชาวจีน เป็นคนมารับจากสนามบินภูเก็ต งานที่ต้องรับผิดชอบ คือก่อสร้างอาคารและตกแต่งภายใน มีหน้าที่แตกต่างกันไปตามได้รับมอบหมาย โดยไม่มีการบังคับขู่เข็ญ</p>
<p>พวกเขาจะเริ่มทำงานตอน 8 โมงเช้า จากนั้นพักเที่ยง และกลับมาทำงานช่วงบ่าย ตั้งแต่บ่ายโมงครึ่งจนถึง 5 โมงเย็น จากนั้นจะกลับเข้าที่พักซึ่งอยู่ใกล้ๆ ที่น่าสนใจคือ แต่ละคนได้ตกลงค่าแรงสูงถึงวันละ 500-600 หยวน ซึ่งคิดเป็นเงินไทยคือประมาณ 2,500-3,000 บาท/วัน และเมื่อครบกำหนด 2 เดือนจะได้รับค่าแรง โดย "นายเหอ" จะเป็นผู้จัดการทั้งเรื่องที่พัก อาหาร และความเป็นอยู่ทั้งหมด</p>
<p>ล่าสุดเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม แต่เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา "เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต" พร้อมคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชิงทะเล เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย</p>
<p>ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจสอบสวนกลางและกองบังคับการตำรวจทางหลวง เพิ่งจับกุมผู้ต้องหาขนแรงงาน พร้อมกับแรงงานข้ามชาติได้ในพื้นที่ ต.หนองบัวใต้ ต่อเนื่อง ต.น้ำรึม อำเภอเมืองตาก หลังตำรวจทางหลวงออกตรวจพื้นที่ในเขตความรับผิดชอบ แล้วไปพบรถกระบะ 2 คันขับมาด้วยความเร็ว จึงขอให้หยุดเพื่อขอตรวจสอบ จากการตรวจค้นพบกลุ่มแรงงานโดยสารมาเกือบ 20 คน โดยในจำนวนนี้เป็นชาวจีนถึง 4 คน</p>
<p>ที่มา: Thai PBS, 28/12/2566</p>
<p><strong>นายกฯ รับไม่มีความสุขหลังค่าแรงขึ้นน้อย ถามกลับไตรภาคี ให้นึกถึงใจเขาใจเรา ไม่เอาเรื่องกฎหมายมาคุยอย่างเดียว</strong></p>
<p>นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานการประชุมกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 2/2566 ถึงกรณีที่ไม่เห็นด้วยกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ว่า ต้องพิจารณาตามบริบทของโลกที่เปลี่ยนไป เพราะทุกอย่างเปลี่ยนไปตลอดเวลา และเชื่อว่าทุกท่านก็เห็นอยู่ว่าโลกเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก หลายๆเรื่องที่จะดึงผู้ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาในประเทศก็มี War of Talent มันคือสงครามที่ดึงคนเก่ง ขณะเดียวกันสมัยก่อนเวลาออกไปดึงดูดนักลงทุนไม่มีใครพูดเรื่องพลังงานสะอาดเลย แต่วันนี้เรื่องนี้กลับมามีความสำคัญ</p>
<p>ส่วนที่ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีถูกล็อกด้วยธรรมนูญจะมีการทำอย่างไรนั้น เห็นว่ามันกว้าง มันมีขอบเขตพื้นที่ให้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่าการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำยังไม่จบ ซึ่งเมื่อวานนี้หลังจากประชุมครม. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้แจ้งไปแล้วในเบื้องต้น ซึ่งจะต้องดูแลแต่ละอาชีพแตกต่างกันออกไป</p>
<p>“ผมไม่มีความสุข ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานก็ไม่ได้มีความสุขและอึดอัดเช่นกัน แต่ยอมรับว่า มันก็มีกลไกในการกำหนดค่าแรงอยู่ อย่างที่ผมบอกว่ามันเป็นเรื่องจิตใต้สำนึกความเหมาะสม ของแต่ละประเทศ ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาก็ได้เจอกับ นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย ยังบอกกับผมว่าถ้าเกิดไม่สามารถยกค่าแรงขั้นต่ำ ความเจริญเติบโตของประเทศก็จะต่ำไปด้วย ซึ่งเมื่อคืนได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว” นายกรัฐมนตรี กล่าว</p>
<p>นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ค่าแรงขั้นต่ำเมื่อ 9 ปีที่ผ่านมา  300 บาท วันนี้ 337 บาท ขึ้นไป 12% ซึ่งได้เปรียบเทียบ ว่าในทางกลับกัน หากลูกของผู้ประกอบกิจการทั้งหลาย  หรือคนที่เรียนจบเมืองนอกเมื่อ 9 ปีที่แล้วเงินเดือน 30,000 บาท  มาถึงวันนี้เงินเดือนขึ้นเพียง 33,700 บาท จึงถามกลับว่า ขึ้นมาแค่กว่า 10% แฮปปี้ไหม อยากให้นึกถึงใจเขาใจเรา เรื่องของไตรภาคีก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องของกฎหมายและข้อบังคับก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง หลายหลายเรื่องคนไทยอยู่ด้วยกัน ด้วยความอยากให้ทุกคนมีความสุข และมีกินมีใช้ตามความเหมาะสม</p>
<p>“พื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ค่าแรงขึ้นไปเพียงแค่ 2 บาทต่อเดือน ซึ่งทุกคนจะพูดว่าตนหรือนายกไม่มีอำนาจ แต่การขึ้นค่าแรงมันเป็นเรื่องของไตรภาคี ส่วนตัวเข้าใจหมดทุกอย่าง แล้วก็รู้ว่าทุกคนเข้าใจเรื่องกฎหมาย แต่เรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนมันไม่ใช่แค่เรื่องกฎหมาย จึงอยากให้เอาความเข้าใจซึ่งกันและกันมาพูดคุยกันได้ไหม ในภาวะที่เดือดร้อน” นายกรัฐมนตรี กล่าว</p>
<p>ผู้สื่อข่าวถามว่าเงื่อนไขในเรื่องการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนายกไม่มีอำนาจกับไตรภาคี ซึ่งจะมีการหารือกันแบบผู้ใหญ่คุยกับผู้ใหญ่หรือไม่  นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องพยายามต่อไป ในการแก้ไขปัญหา  ซึ่งก็ต้องพูดจาให้มันมีความชัดเจนและต้องขอร้องอ้อนวอน วิงวอน ถึงเหตุผล แล้วอย่าเอาเรื่องที่ไม่เป็นความจริงมาพูด เช่นประเด็นการย้ายฐานการผลิตมาพูด เพราะมันไม่ใช่</p>
<p>เมื่อถามว่าการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในแต่ละปีสามารถขึ้นได้หลายหลายรอบใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สามารถปรับได้หลายรอบตามความเหมาะสม จากที่ผ่านมาเราเคยพูดรายจังหวัดรายอำเภอ ซึ่งบางอำเภอนั้น ก็อาจจะมีความต้องการแรงงานที่แตกต่างกันออกไป เราเองก็ต้องฟังจากฝั่งนายจ้างเช่นเดียวกัน ไม่ใช่จะไม่ฟัง และต้องฟังตามอาชีพตามความต้องการตามความชำนาญด้วย  ซึ่งมีหลายมิติที่จะต้องพูดคุยกัน ส่วนตัวไม่ได้อยากใช้พื้นที่ของสื่อมวลชนมากดดันทุก ๆ ฝ่าย เราควรพูดจากันด้วยจิตใจอุปมาปราศรัย เราก็เห็นใจซึ่งกันและกัน</p>
<p>ส่วนความคาดหวังกับเศรษฐกิจในปีหน้าอย่างไรบ้าง  นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หวังว่าจะดีขึ้น ตนมาทำงาน และมาอยู่ตรงนี้ เพื่อต้องการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ให้ดีขึ้น ก็ต้องทำให้ดีขึ้นในหลายหลายมิติตนไม่ได้มาทำแค่ เรื่องค่าแรงขั้นต่ำอย่างเดียว ยังต้องดูเรื่องการลงทุน การเจรจา สนธิสัญญาการค้า และต้องดูเรื่องสิทธิพื้นฐาน เพศสภาพ การประกอบอาชีพ หรือแม้กระทั่งสิทธิเสรีภาพเล็ก ๆ เช่นเรื่องของสภาพอากาศที่สะอาด ซึ่งทุกคนล้วนต้องการสิ่งเหล่านี้</p>
<p>ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากวันหยุดปีใหม่ นายกรัฐมนตรียังมีกำหนดการที่จะเดินทางไปพื้นที่ภาคเหนือ ไปช่วยกำกับ ว่า เรื่องสภาพอากาศต้องดีขึ้น ซึ่งมีหลายมิติที่ต้องทำ ทั้งนี้หลังปีใหม่ ก็ถือว่าเป็นนิมิตหมายใหม่ ที่จะต้องช่วยทำงานและช่วยดูแลพี่น้องประชาชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น</p>
<p>ที่มา: สำนักข่าวไทย, 27/12/2566</p>
<p><strong>แรงงานไทยจากอิสราเอลยื่นขอรับเงินเยียวยาแล้ว 7,622 ราย</strong></p>
<p>นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา มีแรงงานมายื่นคำร้องเพื่อขอรับเงินเยียวยารายละ 50,000 บาท จากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลแล้ว 7,622 ราย จากจำนวนทั้งหมด 9,697 ราย คิดเป็น 78.60% แยกเป็น กรณีมายื่นด้วยตนเอง 7,575 ราย กรณีเสียชีวิต 22 ราย กรณี Re-Entry 25 ราย สำหรับจังหวัดที่มีผู้มายื่นคำร้องมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อุดรธานี 1,061 ราย เชียงราย 932 ราย นครพนม 595 ราย นครราชสีมา 470 ราย น่าน 421 ราย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้เร่งทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้แรงงานไทยได้รับสิทธิครบทุกราย โดยจะเร่งดำเนินงานให้เร็วที่สุด</p>
<p>ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์, 27/12/2566</p>
<p><strong>ครม.เคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 2-16 บาท เริ่ม 1 ม.ค. ตั้ง กก.พิจารณาอีกครั้ง มี.ค. 67</strong></p>
<p>นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการรัฐมนตรีว่าในวันนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ได้นำมติของคณะกรรมการไตรภาคี เสนอเพื่อทราบผลที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยยืนยันตามมติเดิมคือขึ้นค่าแรงขั้นต่ำระหว่าง 2-16 บาท ทั่วประเทศ โดยมีลำดับค่าจ้าง 17 ขั้น โดยขึ้นจาก 328 บาทเป็น 330 บาท ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และขั้นที่ 1 เพิ่มขึ้นสูงสุดที่ จ.ภูเก็ต เป็น 370 บาท จาก 354 บาท</p>
<p>โดยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุอีกว่า รมว.แรงงาน ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าถึงแม้ค่าจ้างขั้นต่ำนี้ จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามมติกรรมการไตรภาคีเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2567 แต่วันที่ 17 ม.ค.2567 จะมีการเรียกประชุมคณะกรรมการไตรภาคีอีกครั้ง เพื่อตั้งอนุกรรมการ ขึ้นมาเพื่อจะพิจารณา รายละเอียดของค่าจ้างขั้นต่ำ โดยต้องลงลึกรายละเอียดทุกสาขาอาชีพ</p>
<p>โดย รมว.แรงงาน อยากได้ตัวแทนของสภาพัฒน์ฯ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการท่องเที่ยว และธนาคารแห่งประเทศไทย เข้ามาพิจารณาเพื่อลงลึกรายละเอียดถึงค่าแรงขั้นต่ำ ในแต่ละสาขาที่ต่างๆ จะต้องปฏิรูปให้มากขึ้น และ รมว.แรงงาน ได้ให้คำมั่นที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า การตั้งอนุกรรมการชุดพิเศษขึ้นมานี้ จะนำไปสู่ข้อสรุป เพื่อเสนอค่าแรงขั้นต่ำรอบใหม่ ไม่เกินสิ้นเดือน มี.ค.2567</p>
<p>ที่มา: Thai PBS, 26/12/2566</p>
<p><strong>เผยประชุม คกก.ไตรภาคีชุดใหญ่ 17 ม.ค. 67 ตั้งอนุ กก. ศึกษาค่าจ้างขั้นต่ำรายเทศบาล-รายอาชีพ</strong></p>
<p>นายพิพัฒน์  รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า วันนี้ได้นำเรื่องค่าแรงขั้นต่ำให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) รับทราบอีกครั้ง ซึ่งมติคณะกรรมการไตรภาคียังคงยืนยันเหมือนเดิม ซึ่งที่ประชุมครม.รับทราบเรียบร้อย และแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบว่าในวันที่ 17 มกราคม 2567 คณะกรรมการไตรภาคีจะประชุมอีกครั้ง เพื่อแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไตรภาคี ซึ่งจะลงไปศึกษาให้ลึกถึงระดับจังหวัด อำเภอ ตำบลและเทศบาล หากประกาศเป็นรายจังหวัดจะสะท้อนภาพที่เป็นจริงมากกว่า อย่างกรณีประกาศค่าแรงขั้นต่ำทางจังหวัดในเทศบาลมีสภาวะเศรษฐกิจที่ดี แต่เมื่อออกจากอำเภอเมืองก็จะเข้าสู่สังคมชนบท ซึ่งเศรษฐกิจคงจะไม่ดีเหมือนกับที่เห็นในตัวอำเภอเมือง</p>
<p>“จะให้คณะอนุกรรมการไตรภาคีขอข้อมูลจากทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สภาพัฒน์ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อเป็นองค์ประกอบการพิจารณาอีกครั้งหนึ่งซึ่งจะสามารถประชุมแล้วเสร็จ และนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการไตรภาคีชุดใหญ่ภายในเดือนมีนาคม เพื่อจะประกาศให้เป็นของขวัญวันปีใหม่ไทยช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งจะสะท้อนภาพสาขาอาชีพใดที่ไหนที่สามารถปรับค่าแรงขั้นต่ำให้ได้สูงกว่าปัจจุบัน ซึ่งการหารือระหว่างสภาพัฒน์ กับที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการคณะกรรมการไตรภาคีชุดใหญ่จะไม่เอาปี 2563 และ 2564 มาเป็นตัวคำนวณแน่นอน เพราะเมื่อคำนวณอย่างไรก็จะกลับไปที่เดิม เหมือนที่ประกาศ จึงจะขอเอาข้อมูล ปี 2565 เป็นเกณฑ์และข้อมูลดิบในปี 2566 เป็นตัวชี้วัดอีกแนวทางหนึ่งประกอบ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว</p>
<p>นายพิพัฒน์ กล่าวว่า  ส่วนประเด็นข้อกฎหมายไม่ขัดข้อง แต่คณะกรรมการไทยภาคีชุดใหญ่ไม่สามารถก้าวข้ามคณะกรรมการไตรภาคีจังหวัดที่นำเสนอขึ้นมาในการประชุมวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งจะยืนยันเหมือนเดิม แต่เมื่อตั้งคณะอนุกรรมการมาศึกษาใหม่จะต้องลงไปหารือถึงได้จังหวัดด้วย โดยสรุปว่าภายในจังหวัดจะขึ้นค่าแรงไม่เท่ากัน</p>
<p>ที่มา: สำนักข่าวไทย, 26/12/2566</p>
<p><strong>เผยตลาดแรงงานปี 2567 สิ่งที่นายจ้างและลูกจ้างต้องการ</strong></p>
<p>ดวงพร พรหมอ่อน กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จากัด เผยผลสำรวจ จาก Global Talent Survey ซึ่งเป็นการสำรวจผ่านเว็บไซต์และการวิเคราะห์ ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของ Boston Consulting Group (BCG) และTheNetworkในปี2565 ซึ่งมีผู้ร่วมตอบแบบสอบถามทั้งสิ้น 90,547 คน จาก 160 ประเทศ ในหลากหลาย อุตสาหกรรม แบบสำรวจยังยังโฟกัสตลาดแรงงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีตอบแบบสำรวจจำนวน 97,324 คน จาก 6 ประเทศในภูมิภาคเอเชียโดยที่ประเทศไทยมีจำนวนผู้ร่วมตอบแบบสำรวจชดุนี้ทั้งสิ้น 2,636 คน ผลสำรวจเป็นดังนี้</p>
<p>สำหรับตำแหน่งงานที่เป็นที่ต้องการระดับโลก เอเชีย รวมถึงประเทศไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ดิจิทัล การจัดการและวิเคราะห์ข้อมูล และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐหรือ AI คิดเป็น 37% 2. งานด้านสื่อ ศิลปะ และการออกแบบ 36% 3. งานการบริการและการต้อนรับ 34% 4.งานบริการทางการเงิน 30% และ 5.งานบริการด้านสุขภาพและสังคม 30%</p>
<p>“5 สายงานดังกล่าว มาแรงและเป็นที่ต้องการของตลาด สอดรับกับประเทศไทยที่กำลังเดินหน้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ ทำให้ทุกธุรกิจต้องการบุคลากรที่เข้าใจงาน และพร้อมเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ 5 สายงานยังมีจุดเชื่อมโยงด้านทักษะการวางแผน การสื่อสาร เกี่ยวเนื่องถึงการเงิน สุขภาพ ซึ่งปีหน้าอาจพบธุรกิจใหม่มากขึ้น”</p>
<p>บริษัท นายจ้างมองหาและอยากได้คนเก่งด้านดิจิทัล เอไอ หรือทักษะอื่นๆที่ตอบโจทย์ธุรกิจแต่ละเซ็กเตอร์ ทว่า ฝั่งลูกจ้าง พนักงาน ฯ ยุคนี้ ไม่ได้มองแค่ผลตอบแทน เงินเดือน ความมั่นคงอีกต่อไป แต่มีองค์ประกอบอื่นๆที่เติมเต็มการใช้ชีวิตด้วย โดย 3 อันดับแรกที่จะจูงใจ มัดใจผู้สมัครอยู่กันยาวๆ ได้แก่ อันดับ 1 งานที่มั่นคงและมีสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานหรือ Work Life Balance สัดส่วนสูงถึง 77% อันดับ 2 ทำงานในบริษัทที่ดี และมีโอกาสเติบโตสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น 55% อันดับ 3 ต้องการมี “ธุรกิจส่วนตัว” ที่ประสบความสำเร็จเป็นของตัวเองด้วย</p>
<p>“ปัจจัยหลักที่ทำให้ปฏิเสธงานทันที คือ ค่าตอบแทนและความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน และยังเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจรับข้อเสนองานเช่นเดียวกับผู้สมัครงานทั่วโลก ส่วนคุณค่าของการได้ร่วมงานกบัองคก์รที่มีชื่อชื่อเสียงหรือความหมายของงานเป็นข้อพิจารณาที่ใหค้วามสำคัญน้อยลงมา”</p>
<p>ดังนั้น รูปแบบการทำงานของผู้ประกอบการไทยจึงต้องปรับตัว โดยเฉพาะระบบทำงานเต็มเวลาที่สำนักงานหรือออฟิศ เพราะปัจจุบันจากผลสำรวจพบว่าบุคลากรมีการคำนึงถึงเวลาทางานที่มีความต้องการแบบ hybrid working สูงมากขึ้น ทั้งนี้ เจาะลึกผู้ตอบแบบสำรวจชาวไทย “ลังเล” ที่จะกลับไปทางานเต็มเวลาที่ออฟฟิศ โดยมีเพียง 22% เท่าน้ันที่ต้องการกลับไปทางานที่ออฟฟิศ ต่างจากทั่วโลกที่ผู้ตอบแบบสำรวจ 35% พร้อมทำงานเต็มเวลาที่ออฟฟิศมากกว่าทำงานที่บ้าน นอกจากนี้ คนไทย 69% ต้องการทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ และ 21% ต้องการทำงานแบบพาร์ทไทม์</p>
<p>“ถ้าผู้ประกอบการกำลังมองหาวิธีดึงดูดผู้สมัครที่ตรงกับความต้องการ ต้องมีข้อเสนอที่ดี เงินเดือนและสิทธิประโยชนท์ที่ดีกว่าบริษัทเดิม ตำแหน่งงานที่สูงกว่า และทำให้ผู้สมัครงานเห็นว่าโอกาสก้าวหน้าในที่ทำงานดีกว่าเดิม”</p>
<p>นอกจากข้อเสนอที่ดีแล้ว ประสบการณ์ที่ดีในระหว่างกระบวนการสมัครงานและการ คัดเลือกเข้าทำงาาน วิธีการและช่องทางที่ผู้สมัครให้ความสนใจ และมีอิทธิพลในการตัดสินใจ หากผู้ประกอบการหรือองค์กรละเลยประเด็นดังกล่าว อาจเป็นข้อผิดพลาดได้ ดังนั้น การพฒันากระบวนการสรรหาที่ตรงกับความตอ้งการของแรงงานในปัจจุบันสามารถเพิ่มความโดดเด่นให้กับองค์กรได้ด้วย โดย 59% ของผู้ตอบแบบสำรวจพึงพอใจมาก หากข้ันตอนการสรรหา สมัครงานมีความราบรื่น มี ระยะเวลาที่เหมาะสม และ 35% มองว่าประสบการณเ์ชิงลบระหว่างการสมัครงานเป็นเหตุผลสาคัญที่ปฏิเสธงานแม้ข้อเสนอจะน่าสนใจก็ตาม</p>
<p>“แม้ผลสำรวจจะสามารถวิเคราะห์ได้ว่า ผู้สมัครงานจะมีอานาจต่อรองสูง มีโอกาสเลือกข้อเสนองาน แต่ผู้ประกอบการไม่ต้องวิตกกังวลกับข้อต่อรองต่างๆ ควรเปิดโอกาสให้เสนอและต่อรอง ให้พื้นที่และเวลาในการตัดสินใจแก่ผู้สมัครงานและติดต่อกลับเพื่อพูดคุยหลังจากนั้น ไม่ควรคิดว่ากระบวนสรรหาจบลงที่ขั้นตอนการเสนองานเท่านั้น”</p>
<p>ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ, 25/12/2566</p>
<p><strong>ผลการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมไม่เป็นทางการ ทีมประกันสังคมก้าวหน้ากวาด 6 จาก 7 ที่นั่ง</strong></p>
<p>ผลการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมอย่างไม่เป็นทางการครั้งแรกของประเทศไทย มีผู้ประกันตนใช้สิทธิเลือกตั้งเพียงประมาณ 150,000 คน หรือ 18.36 เปอร์เซ็นต์ ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ 50 เปอร์เซ็นต์ จากยอดผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิกว่า 850,000 คน</p>
<p>ผู้สมัครเป็นคณะกรรมการสำนักประกันสังคมที่ได้รับชัยชนะอย่างไม่เป็นทางการในการเลือกตั้งครั้งนี้ ทั้งหมด 14 คน ได้แก่</p>
<p>ผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน</p>
<p>1. รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี อาจารย์ประจำวิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 71,917 คะแนน</p>
<p>2. ธนพงษ์ เชื้อเมืองพาน ประธานกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิต 69,403 คะแนน</p>
<p>3. ชลิต รัษฐปานะ สมาชิกสหภาพคนทำงาน 69,264 คะแนน</p>
<p>4. ศิววงศ์ สุขทวี ที่ปรึกษาเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ 69,256 คะแนน</p>
<p>5. นลัทพร ไกรฤกษ์ นักสื่อสาร-นักรณรงค์เรื่องสิทธิความเท่าเทียมสำหรับผู้พิการ 68,133 คะแนน</p>
<p>6. ลักษมี สุวรรณภักดี ประธานสหภาพแรงงาน มอลลิเก้ เฮลท์ แคร์ ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ 67,113 คะแนน</p>
<p>7. ปรารถนา โพธิ์ดี ประธานเครือข่ายพนักงานราชการไทย 15,080 คะแนน</p>
<p>โดยอันดับ 1-6 เป็นผู้สมัครจากทีมประกันสังคมก้าวหน้า ที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ส่วนอันดับที่ 7 มาจากทีมสมานฉันท์ร่วมกันปฏิรูปประกันสังคม</p>
<p>ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง</p>
<p>1. ดร.มนตรี ฐิรโฆไท บริษัท กะรัต เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) 409 คะแนน</p>
<p>2. วิภาพรรณ มาประเสริฐ  บจก.รักษาความปลอดภัย ดูอิ้งเวล แอนด์ ฟาซิลิตี้ เซอร์วิสเซส 403 คะแนน</p>
<p>3. สิริวัน ร่มฉัตรทอง บจก.อีคอท ดีเวลลอปเม้นท์ เซ็นเตอร์ 368 คะแนน</p>
<p>4. สมพงศ์ นครศรี  บจก.สายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล 319 คะแนน</p>
<p>5. สุวิทย์ ศรีเพียร บจก.ไทยจิระพัฒน์ 315 คะแนน</p>
<p>6. ทวีเกียรติ รองสวัสดิ์ บจก.นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศไทย อินเตอร์ซิตี้ 258 คะแนน</p>
<p>7. เพชรรัตน์ เอกแสงกุล บมจ.อีซึ่น แอนด์ โค 252 คะแนน</p>
<p>พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แถลงถึงภาพรวมการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่สำนักงานประกันสังคมสำนักงานใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ว่า สำหรับบอร์ดชุดนี้จะมีวาระ 2 ปี โดยการเลือกตั้งครั้งหน้าจะต้องปรับวิธีการเลือกตั้งใหม่ และต้องมีการประชาสัมพันธ์มากขึ้น เพื่อให้ผู้ประกันตนและนายจ้างตระหนักถึงสิทธิและหน้าที่</p>
<p>"ครั้งนี้เป็นครั้งแรก นายจ้างและลูกจ้างอาจยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องแสดงตนใช้สิทธิเลือกตั้ง อย่าลืมว่าผู้ประกันตนทุกมาตราต้องส่งเงินสมทบทุกเดือน การออกมาเลือกตั้งผู้แทนของท่านจะช่วยรักษาสิทธิประโยชน์ของท่านได้"</p>
<p>ทั้งนี้ บุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เผยว่า สำนักงานประกันสังคมจะประกาศผลการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมอย่างเป็นทางการ หลังจากมีการประชุมการเลือกตั้งระหว่างสำนักประกันสังคมและกระทรวงแรงงาน เพื่อพิจารณารับรองผลภายในสัปดาห์หน้า ประมาณวันที่ 26-28 ม.ค. 2566 หลังจากพิจารณารับรองแล้วจึงประกาศผล และจะมีการประชุมบอร์ดครั้งแรกภายใน 30 วัน หรือช่วง ม.ค. 2567</p>
<p>อย่างไรก็ตาม จะมีระยะเวลาในการพิจารณาการยื่นอุทธรณ์หรือยื่นคำร้อง เพื่อทบทวนผู้สมัครแต่ละรายว่าสมควรได้รับการเลือกตั้งหรือไม่</p>
<p>ที่มา: ไทยรัฐพลัส, 25/12/2566</p>
<p><strong>เผยภาพรวมเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมต่ำกว่าคาด ใช้สิทธิแค่ 18.36%</strong></p>
<p>นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) และเจ้าหน้าที่ ข้าราชการในสังกัด สปส.ไปตรวจเยี่ยมศูนย์อำนวยการจัดการเลือกตั้งคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) ที่สำนักงานประกันสังคม จ.นนทบุรี พร้อมรับฟังรายงานภาพรวมการใช้สิทธิเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมครั้งแรกของประเทศไทย ภายหลังการปิดหน่วยเลือกตั้งในเวลา 16.00 น.</p>
<p>ทั้งนี้ ภาพรวมการใช้สิทธิเลือกตั้งวันนี้ มีนายจ้างและผู้ประกันตนไปใช้สิทธิเลือกตั้งรวม 158,335 คน จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 958,819 คน แบ่งเป็น 1.ฝ่ายผู้ประกันตน มีผู้ลงทะเบียนเลือกตั้ง 854,414 คน โดยมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 156,870 คน คิดเป็นร้อยละ 18.36 โดยสถานที่ที่มีผู้ประกันตนมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุด คิดจากสัดส่วนผู้มีสิทธิต่อผู้มาใช้สิทธิในหน่วยเลือกตั้ง 5 อันดับ ได้แก่ 1.โรงเรียนสมุทรปราการ จำนวน 7,526 คน 2.สำนักงานเทศบาลนนทบุรี 4,014 คน 3.ศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ 5,177 คน 4.โลตัส สาขามีนบุรี 4,577 คน และ 5.เทศบาลเมืองบ้านสวน 4,436 คน</p>
<p>ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์, 24/12/2566</p>
<p> </p>
<p> </p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่า
บันทึกการเข้า

นักข่าวหัวเห็ด แห่งเวบสุขใจ
อัพเดตข่าวทันใจ ตลอด 24 ชั่วโมง

>> http://www.SookJai.com <<
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
[ข่าวมาแรง] - สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ 30 ก.ค.-5 ส.ค. 2566
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 94 กระทู้ล่าสุด 05 สิงหาคม 2566 14:00:54
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ 10-16 ก.ย. 2566
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 75 กระทู้ล่าสุด 16 กันยายน 2566 13:59:51
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ 17-23 ก.ย. 2566
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 108 กระทู้ล่าสุด 24 กันยายน 2566 04:36:02
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ 24-30 ก.ย. 2566
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 105 กระทู้ล่าสุด 30 กันยายน 2566 12:31:36
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ 1-7 ต.ค. 2566
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 80 กระทู้ล่าสุด 08 ตุลาคม 2566 02:42:25
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 1.139 วินาที กับ 29 คำสั่ง

Google visited last this page 02 เมษายน 2567 13:59:51