[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 เมษายน 2567 03:03:50 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - ‘ชลน่าน’ ยอมรับยาจิตเวชมีปัญหาจริง เร่งดันเข้าบัญชียาหลัก  (อ่าน 34 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สุขใจ ข่าวสด
I'm Robot
สุขใจ บอทนักข่าว
นักโพสท์ระดับ 15
****

คะแนนความดี: +101/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Italy Italy

กระทู้: มากเกินบรรยาย


บอท @ สุขใจ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 06 มกราคม 2567 15:06:54 »

‘ชลน่าน’ ยอมรับยาจิตเวชมีปัญหาจริง เร่งดันเข้าบัญชียาหลัก
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sat, 2024-01-06 14:42</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>‘ชลน่าน’ ยอมรับยาจิตเวชมีปัญหาจริง หลังก้าวไกลอภิปรายปัญหาผู้ป่วยจิตเวช - เร่งดันเข้าบัญชียาหลัก เข็มละ 5 พันบาทก็ยอม เพื่อให้ผู้ป่วยไม่มีอาการเป็นอันตรายต่อสังคม</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/5050/5242760927_27c33264c4_k_d.jpg" />
<span style="color:#f39c12;">ที่มาภาพประกอบ: Firesam! (CC BY-ND 2.0)</span></p>
<p>ทีมสื่อพรรคก้าวไกลรายงานว่าในการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาร่างงบประมาณ 2567 เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2567 สิริลภัส กองตระการ สส.กรุงเทพฯ เขต 14 พรรคก้าวไกล อภิปรายเกี่ยวกับงบสาธารณสุข โดยระบุว่า รมว.สาธารณสุข จากพรรคเพื่อไทยได้ยกประเด็นเรื่องสุขภาพจิตและยาเสพติด เป็นนโยบายสำคัญ 1 ใน 13 นโยบาย แต่ดูเหมือนรัฐบาลเน้นให้ความสำคัญกับปัญหาผู้ป่วยจิตเวชจากยาเสพติด แต่ยังให้น้ำหนักกับปัญหาสุขภาพจิตน้อยเกินไป</p>
<p>เมื่อดูข้อมูลจะเห็นว่า ผู้ป่วยสุขภาพจิตที่เกิดจากสารเสพติดมีจำนวน 2 แสนกว่าคน ขณะที่ผู้ป่วยทางสุขภาพจิตอื่นๆ มีจำนวนกว่า 1 ล้านคน แตกต่างกันถึง 5 เท่า เฉพาะจำนวนผู้ป่วยโรคซึมเศร้านั้นเพิ่มขึ้นทุกปี สถิติปีล่าสุดมีจำนวนมากถึง 360,000 คน ตนจึงต้องตั้งคำถามว่ารัฐบาลนี้ ให้ความสำคัญกับปัญหาสุขภาพจิตของประชาชนหรือไม่</p>
<p>สิริลภัส กล่าวต่อว่า แนวนโยบายของรัฐบาล ทั้งมินิธัญญารักษ์ หอผู้ป่วยจิตเวชหรือศูนย์บำบัดในชุมชน มีแนวปฏิบัติที่เน้นอาการจิตเวชที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่กลับไม่ได้สะท้อนถึงเรื่องปัญหาสุขภาพจิต ซึ่งเป็นวิกฤตที่ใหญ่และหนักขึ้นทุกปี</p>
<p>จากข้อมูล อัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จในประเทศไทยปี 2565 อยู่ที่ 7.97 คนต่อประชากรแสนคน มีจำนวนคนที่ฆ่าตัวตายสำเร็จถึง 5,260 คน หรือทุกๆ วันจะมีคนไทยฆ่าตัวตายสำเร็จ 14 คน โดยพบว่าผู้ฆ่าตัวตายสําเร็จประมาณ 9 ใน 10 คน มีความเจ็บป่วยทางจิตเวชอย่างใดอย่างหนึ่งขณะทําการฆ่าตัวตาย</p>
<p>เหตุการณ์รุนแรงที่สร้างความสูญเสีย สาเหตุหนึ่งมาจากผู้ป่วยจิตเวชที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ถึงแม้จะได้รับการรักษากลับออกมาแล้วแต่ไม่มีคนคอยดูแล กำชับเรื่องการรับประทานยา อาการก็อาจกลับมากำเริบอีก อาจกลับไปก่อเหตุความรุนแรงได้อีก ทั้งที่ปัญหารุนแรงขึ้น แต่ประชาชนกลับเข้าถึงบริการสาธารณสุขอย่างค่อนข้างจำกัด นักจิตวิทยาคลินิกขาดแคลน เช่น ในภาคอีสาน มีจิตแพทย์และนักจิตวิทยาคลินิกต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมาก</p>
<p>นี่คือวิกฤตสุขภาพจิตของประชาชน แต่เมื่อดูการจัดสรรงบประมาณปี 2567 กรมสุขภาพจิตได้รับเพียง 1.80% ของงบกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น ทั้งที่กรมฯ ขอไปประมาณ 4,300 ล้านบาท แต่ได้จัดสรรงบมาเพียง 2,999 ล้านบาท โดนตัดออกไปกว่า 69.4%</p>
<p>หากตัดงบแผนงานบุคลากรภาครัฐออกไป จะเห็นว่างบที่จัดสรรให้โครงการที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจิตปี 67 อยู่ที่ 693 ล้านบาท และเมื่อเจาะดูรายโครงการที่ดูแลสุขภาพจิตวัยรุ่นและวัยทำงานที่มีตัวเลขการพยายามฆ่าตัวตายสูง พบว่ามีเพียงโครงการเสริมสร้างศักยภาพวัยเรียนและวัยรุ่น 3.6 ล้านบาท และโครงการเสริมสร้างสุขภาพจิตวัยทำงาน 2.8 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุ ที่มีสถิติการฆ่าตัวตายสำเร็จสูงถึง 9.47 ต่อประชากรแสนคน แต่โครงการเสริมสร้างสุขภาพจิตวัยสูงอายุ ให้งบเพียง 7.6 ล้านบาทเท่านั้น รัฐบาลจะสร้างเกราะด้านสุขภาพจิตให้วัยรุ่น วัยทำงาน และผู้สูงอายุได้อย่างไร ในการจัดสรรงบประมาณเท่านี้</p>
<p>ส่วนที่เป็นงบประมาณจัดสรรใหม่และดูจะเป็นความหวังของประชาชน คืองบประมาณของสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ที่ปีนี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 21 ล้านบาท และงบสนับสนุนจาก สปสช. อีก 5 ล้านบาท ทำให้จะสามารถรองรับได้ 520,000 กว่าสาย จากเดิมที่ให้บริการได้ไม่เกิน 1 แสนสายต่อปี</p>
<p>แต่เมื่อมาดูค่าบริการให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์ที่จ่ายแบบเหมาจ่ายให้กับบุคลากรด่านหน้าที่ต้องให้คำปรึกษาต่อประชาชนกลุ่มเสี่ยง อยู่ที่เพียง 50 บาทต่อครั้ง โดยจ่ายเฉพาะรายที่สามารถพิสูจน์ตัวตนได้ ส่วนกรณีที่ผู้รับบริการไม่สะดวกใจที่จะบอกชื่อนามสกุลจริง แบบนี้ก็อาจไม่ได้รับค่าตอบแทนหรือไม่</p>
<p>“ในค่าตอบแทนเท่านี้ กับภาระงานของบุคลากรด่านหน้าที่ต้องรับผิดชอบกับชีวิตและความรู้สึกของคน ท่านควรกลับไปทบทวนถึงค่าตอบแทนที่คุ้มค่าและสร้างแรงจูงใจให้กับคนที่ทำงานบริการสายด่วนสุขภาพจิตใหม่ ถ้าท่านมีงบเพื่อขยายคู่สายแต่ไม่มีคนทำงาน สุดท้ายแล้วการขยายคู่สายนั้นก็เปล่าประโยชน์” สิริลภัสกล่าว</p>
<p>ดังนั้น สิ่งที่เราต้องการจริงๆ จากรัฐบาล คือการจัดสรรงบประมาณที่แก้ปัญหาให้ตรงจุด สิ่งที่รัฐบาลต้องใส่ใจ คือคำนึงถึงปัญหาจริงที่เกิดขึ้นกับผู้ที่ใช้บริการ รวมถึงแก้ไขปัญหาภาระงานบุคลากรทางแพทย์</p>
<p>รัฐควรจัดสรรงบเพื่อเพิ่มบุคลากรด่านหน้าและสร้างแรงจูงใจด้านค่าตอบแทน เช่น การอุดหนุน อัตราค่าบริการสายด่วนสุขภาพจิต หรือผลิตนักบำบัดที่เป็นบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อสร้างด่านกลั่นกรองให้กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงได้เข้าถึงการบำบัดรักษาฟื้นฟูสภาพจิตใจในระยะเบื้องต้นได้ก่อน หรือ โดยที่ไม่ต้องส่งต่อไปถึงจิตแพทย์ด้วยซ้ำ</p>
<p>รัฐควรจัดสรรงบเพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ในการรักษา เช่น สิทธิการพบนักจิตวิทยา ควรมีสิทธิการรักษาครอบคลุมเหมือนกับการพบจิตแพทย์ ประชาชนไม่ต้องจ่ายส่วนต่าง</p>
<p>รัฐควรจัดสรรงบเพื่อเพิ่มบัญชียาหลักให้กับผู้ป่วยที่ใช้สิทธิการรักษาพยาบาล เพราะปัจจุบันผู้ป่วยบางคนไม่สามารถใช้ยาที่อยู่ในบัญชียาหลักได้ เนื่องจากผลข้างเคียงของยามีผลในการใช้ชีวิต ทำให้ต้องออกค่าใช้จ่ายในการซื้อยาตัวอื่นที่ไม่มีผลข้างเคียงแทน ถ้าเพิ่มบัญชียาหลักได้ ผู้ป่วยก็มีทางเลือกมากขึ้น ไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายเอง</p>
<p>“อยากให้รัฐบาลชุดนี้ ให้ความสำคัญกับทุกปัญหาเท่าๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาเสพติดและผู้ป่วยจิตเวช หรือปัญหาด้านสุขภาพจิต เพราะจำนวนผู้ป่วย ไม่ใช่แค่สถิติตัวเลข แต่คือชีวิต คือพ่อแม่ของใครสักคน คือลูกที่เป็นที่รักของครอบครัว คือเพื่อนที่เป็นที่รักของคนรอบข้าง เป็นบุคลากรที่ขับเคลื่อนประเทศในอนาคต” สิริลภัสกล่าว</p>
<h2><span style="color:#3498db;">‘ชลน่าน’ ยอมรับยาจิตเวชมีปัญหาจริง </span></h2>
<p>เว็บไซต์ข่าวสด รายงานเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2567 ว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ลุกขึ้นชี้แจงถึงงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข 3 แสนกว่าล้านบาทว่า มี 16 หน่วยรับงบประมาณ มีเม็ดเงินเพิ่มขึ้น 2 หมื่นกว่าล้านบาท เม็ดเงินที่เพิ่มขึ้นในส่วนของค่าป่วยการของ อสม.จากเดิมที่ได้เดือนละ 1 พันบาทเป็น 2 พันบาท ซึ่งการจัดสรรงบสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในมิติการดูแลสุขภาพ เพื่อสุขภาวะที่ดีของประชาชน งบที่เพิ่มขึ้นในปีงบประมาณ 67 สอดรับกับนโยบายใหม่ 13 ประเด็น 10 ควิกวิน เราจัดสรรงบรองรับ 6,200 กว่าล้านบาท บางนโยบายเราสามารถใช้เม็ดเงินไปพลางก่อนจากแผนงานเดิมของงบประมาณปี 66</p>
<p>นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ส่วนที่เพื่อนสมาชิกไม่เห็นด้วย มีการตั้งข้อสังเกตก็ถือเป็นความสวยงามในระบอบประชาธิปไตย เรายังมีโอกาสในวาระสอง ที่จะช่วยกันเติมเต็มเพื่อประโยชน์ของประชาชน ยอมรับว่ากระทรวงสาธารณสุขได้เม็ดเงินลงทุนลดลงและลดลงทุกปี ซึ่งสัดส่วนที่ลดลงก็กระทบกับการจัดการบริการดูแลประชาชนพอสมควร แต่กระทรวงสาธารณสุขโชคดีที่สามารถใช้เงินนอกงบประมาณได้บางส่วน</p>
<p>นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า เรื่องการแก้ไขยาเสพติดและจิตเวชนั้น ต้องขอบคุณเพื่อนสมาชิกที่ให้ข้อมูลซึ่งเป็นประโยชน์ยิ่ง เพราะเราเห็นว่าเป็นงานสำคัญระดับชาติ เป็นแนวโน้มใหม่ที่เยาวชนได้รับผลกระทบ อย่างเช่นเหตุการณ์กราดยิงในห้างสรรพสินค้า เราจึงถือเป็นควิกวินที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 100 วัน ส่วนเรื่องยาเสพติด ท่านนายกฯ ให้ความสำคัญเป็นวาระแห่งชาติ เร่งรัดให้ดำเนินการแก้ปัญหาให้เห็นผลภายใน 1 ปี</p>
<p>“ส่วนข้อกังวลเกี่ยวกับเรื่องยาของกลุ่มจิตเวชนั้นมีปัญหาจริงๆ ผมยอมรับ ได้รับเรื่องและจะเริ่มดำเนินการให้ โดยยาที่จำเป็นเราจะผลักดันเข้าสู่กรรมการยาแห่งชาติ เพื่อให้กรรมการฯ พิจารณาเป็นยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ เพื่อให้เป็นสิทธิประโยชน์ในการเบิกจ่าย แต่ช่วงที่ต้องรอ ผมได้กำชับให้ผู้เกี่ยวข้องใช้กลไกบริหารจัดการ แม้เข็มละ 5 พันบาทเราก็ยอมที่จะใช้กลไกการบริหารจัดการเพื่อให้ยากับผู้ที่ปฏิเสธกินยา เพื่อให้เขาไม่มีอาการที่เป็นอันตรายต่อสังคม ซึ่งเราให้ความสำคัญเช่นกัน” นพ.ชลน่าน ระบุ</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/01/107527
 

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

นักข่าวหัวเห็ด แห่งเวบสุขใจ
อัพเดตข่าวทันใจ ตลอด 24 ชั่วโมง

>> http://www.SookJai.com <<
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
[ข่าวมาแรง] - 'ชลน่าน' แจง 3 ข้อครหา 'เศรษฐา' เชื่อหนุน พท.เป็นนายกฯ เริ่มต้นเปลี่ยนความเห
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 156 กระทู้ล่าสุด 22 สิงหาคม 2566 18:08:50
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - 'ชลน่าน' ลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตามสัจจะวาจา หลังพรรคจับมือ 'พลังประ
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 63 กระทู้ล่าสุด 30 สิงหาคม 2566 22:48:08
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - ย้อนดู เมื่อ 'ชลน่าน' บอกไม่เคย 'สัญญาว่าแก้รัฐธรรมนูญแล้วจะยุบสภา' แต่แถ
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 55 กระทู้ล่าสุด 16 กันยายน 2566 07:52:34
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - ภาค ปชช. ยื่น 7 ข้อเสนอถึง ‘ชลน่าน’ ผลักดันยาต้านเศร้า-ยาจิตเวช เข้าบัญชียาหลักแห
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 50 กระทู้ล่าสุด 25 ธันวาคม 2566 23:15:02
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - ‘ชลน่าน’แจงกรณีข้อมูล 2 ล้านคนหลุด ไม่ใช่จาก สธ. มีระบบป้องกันอยู่ ‘แพทย์ชนบท’ ช
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 36 กระทู้ล่าสุด 19 มีนาคม 2567 17:00:14
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.134 วินาที กับ 32 คำสั่ง