ร้อง กมธ.แรงงาน ช่วยอดีตคนงาน 'บอดี้แฟชั่น' ถูกนายจ้างลอยแพ ค้างค่าจ้าง-เงินชดเชย ราว 209 ล้าน
<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2024-02-04 01:31</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพปก: ที่มา: สหภาพคนทำงาน</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>อดีตคนงาน 'บอดี้แฟชั่น' ซึ่งถูกนายจ้างลอยแพ ยื่นหนังสือร้องเรียนถึง กมธ.การแรงงาน ขอให้บังคับใช้กฎหมายแรงงาน ช่วยทวงเงินค่าชดเชย โบนัส ดอกเบี้ย เงินค่าจ้างให้คนงาน และอื่นๆ รวมกว่า 209 ล้านบาท</p>
<p> </p>
<p>4 ก.พ. 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานเมื่อ 1 ก.พ. 2567 ที่อาคารรัฐสภา แยกเกียกกาย อดีตคนงาน บริษัทบอดี้แฟชั่น (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย ปีใหม่ รัฐวงษา ตัวแทนอดีตคนงาน ยื่นหนังสือถึง ประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร เรื่อง ขอให้บังคับใช้กฎหมายแรงงาน เพื่อทวงสิทธิและเงินค้างจ่ายจำนวนมากของอดีตคนงาน โดยวันนี้ สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ประธาน กมธ.การแรงงาน พร้อมด้วย เซีย จำปาทอง รองประธาน กมธ.การแรงงาน เป็นผู้มารับหนังสือ </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53506916655_fcfd951936_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">(ที่มา: สหภาพคนทำงาน)</span></p>
<p>ทั้งนี้ โรงงานของบริษัทบอดี้แฟชั่น เป็นโรงงานที่ผลิตชุดชั้นในให้กับแบรนด์ชั้นนำมากมาย เช่น Victoria’s Secret Triumph และ Huber กรณีนี้มีอดีตพนักงานบอดี้แฟชั่น สาขาบางพลี จ.สมุทรปราการ และนครสวรรค์ เป็นผู้เสียหายรวม 932 ราย ถูกค้างค่าจ้าง เงินชดเชยเลิกจ้าง ดอกเบี้ย โบนัส และอื่นๆ รวมระยะเวลา 4 ปี (ตั้งแต่บริษัททยอยเลิกจ้างตั้งแต่ปี 2562) โดยคิดเป็นเงิน 209 ล้านบาท พนักงานที่ผู้สื่อข่าวเคยสัมภาษณ์ถูกค้างค่าจ้างและเงินชดเชยสูงถึง 1 แสนบาท ขณะที่กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง จ่ายเงินค่าชดเชยให้ 43 ล้านบาท</p>
<p>ก่อนหน้านี้เมื่อ 22 ธ.ค. 2566 กลุ่มอดีตคนงานบอดี้แฟชั่น, เอเอ็มซี สปินนิ่ง, และแอลฟ่าสปินนิ่ง เคยเดินขบวนมาขอให้กระทรวงแรงงานช่วยเหลือแล้ว โดยให้เพิ่มเพดานเงินชดเชยจากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง เดิม 70 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ และขอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณกลางช่วยลูกจ้างที่ถูกลอยแพ แต่ไม่ปรากฏว่ารัฐบาลช่วยเหลือลูกจ้างเพิ่มเติมแต่อย่างใด จึงเป็นเหตุให้ทางอดีตพนักงานโรงงานบอดี้แฟชั่น เดินทางมายื่นหนังสือต่อ ประธานกรรมาธิการการแรงงานตามที่รายงานข้างต้น </p>
<div class="note-box">
<h2><span style="color:#2980b9;">รายละเอียดหนังสือ</span></h2>
<p>เรียน ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร </p>
<p>เรื่อง ขอให้บังคับใช้กฎหมายแรงงานเพื่อทวงสิทธิและเงินค้างจ่ายจำนวนมากของอดีตคนงาน</p>
<p>สืบเนื่องจากการที่บริษัทบอดี้แฟชั่นไทยแลนด์ ผู้ผลิตชุดชั้นในชื่อดังของโลก อาทิเช่น Victoria’s Secret, Triumph และ Huber ได้ทยอยปิดกิจการสาขานิคมเมืองใหม่บางพลี สาขาบางปลา จังหวัดสมุทรปราการ และสาขาจังหวัดนครสวรรค์ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา เลิกจ้างคนงานทั้งหมดราวหนึ่งพันคน ไม่จ่ายเงินค่าจ้างค้างจ่าย ค่าชดเชย เงินโบนัส และเงินอื่น ๆ รวมเป็นจำนวนเงินมากกว่า 200 ล้านบาท แม้มีการฟ้องร้องต่อศาลแรงงานจนคดีถึงที่สุดและมีคำสั่งให้จ่ายเงินกับลูกจ้างแล้วก็ตาม</p>
<p>กระทรวงแรงงานไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน และได้ปล่อยให้การดำเนินคดีอาญาต่อนายจ้างเป็นไปอย่างล่าช้า รวมถึงขาดการติดตามการบังคับคดีอายัดทรัพย์นายจ้างจนทำให้มีการโยกย้ายทรัพย์สินออกไปหมด ในขณะที่กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างได้จ่ายเงินให้คนงานไปทั้งหมดเพียง 43 ล้านบาท ซึ่งขัดต่อสิทธิแรงงานและส่งผลให้คนงานต้องใช้ชีวิตอย่างทุกข์ยาก</p>
<p>อีกเรื่องหนึ่ง ในวันที่ 21 ธันวาคม 2566 อดีตคนงานบริษัทแอลฟ่าสปินนิ่ง บริษัทเอเอ็มซีสปินนิ่งและบริษัทบอดี้แฟชั่นไทยแลนด์ ได้เดินทางไปร้องเรียนต่อกระทรวงแรงงานและนอนค้างคืนด้านนอกรั้วกระทรวงหนึ่งคืน โดยมีนายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีฯ และที่ปรึกษา รวมไปถึงรองปลัดกระทรวงแรงงานและผู้ตรวจราชการกรมฯ ที่ได้มารับเรื่องในฐานะตัวแทนรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน ซึ่งต่อมาในการประชุมวันที่ 22 ธันวาคม 2566 ได้มีข้อสรุปร่วมกันเป็นลายลักษณ์อักษรว่า</p>
<ol>
<li>กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจะจัดประชุมคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างในวันที่ 28 ธันวาคม 2566 เพื่อแก้ไขระเบียบว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์อัตราเงินที่จะจ่ายและระยะเวลาการจ่าย พ.ศ. 2565 ให้อัตราที่สูงขึ้นกว่าระเบียบเดิม </li>
<li>กระทรวงแรงงานเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นมาจ่ายให้ลูกจ้างทั้ง 3 บริษัท เพื่อให้ลูกจ้างได้รับเงินตามสิทธิครบถ้วนตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด </li>
</ol>
<p>แต่จากการติดตามผลการประชุมดังนี้ ปรากฏว่าไม่มีการดำเนินการตามที่ได้ประชุมหารือและไม่มีการกระทำอื่นใด เพื่อช่วยเหลือคนงานที่ได้ประสบความเดือดร้อนมาเป็นเวลานาน</p>
<p>เราจึงเรียนมายังคณะกรรมาธิการการแรงงานให้ตรวจสอบรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เลขานุการรัฐมนตรี นายอารี ไกรนรา คณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์และผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ซึ่งล้มเหลวทางหน้าที่ในประเด็นดังต่อไปนี้</p>
<ul>
<li>ไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายแรงงานให้ลูกจ้างได้รับสิทธิตามที่กฎหมายกำหนด</li>
<li>ละเลยการติดตามและบังคับให้นายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน</li>
<li>ละเลยการดำเนินคดีอาญากับนายจ้างที่ทำผิดกฎหมายและหลบหนีอย่างชัดเจน</li>
<li>ไม่ปฏิบัติดังคำสัญญาตามข้อสรุปการประชุมในวันที่ 22 ธันวาคม 2566 </li>
</ul>
<p>ทั้งนี้เพื่อให้คนงานทั้ง 3 บริษัทได้รับเงินครบถ้วนเต็มจำนวนตามสิทธิที่ผู้ใช้แรงงานพึงมีภายใต้กฎหมายแรงงานปัจจุบันเสียทีและเพื่อมิให้อยุติธรรมต่อคนงานเช่นนี้กลายเป็นเรื่องปกติในสังคม</p>
<p style="text-align: center;">ขอแสดงความนับถืออย่างสูง
ปีใหม่ รัฐวงษา ตัวแทนกลุ่มอดีตคนงานบอดี้แฟชั่น
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567</p>
</div>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2024/02/107916