[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
28 เมษายน 2567 13:19:04 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ญาคูขี้หอม (เจ้าราชครูหลวงโพนสะเม็ก หรือ พระครูยอดแก้วโพนเสม็ด)  (อ่าน 100 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออนไลน์ ออนไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5462


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 109.0.0.0 Chrome 109.0.0.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2567 15:31:24 »



สถูปยาคูขี้หอม




ญาคูขี้หอม
(เจ้าราชครูหลวงโพนสะเม็ก หรือ พระครูยอดแก้วโพนเสม็ด)

เจ้าราชครูหลวงโพนสะเม็ก หรือ พระครูยอดแก้วโพนเสม็ด หรือ ญาคูขี้หอม เป็นพระเถระองค์สำคัญในสมัยอาณาจักรล้านช้างจำปาศักดิ์ เกิดที่บ้านกะลึม เมืองพาน (ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี) เมื่อปีมะแม พ.ศ.๒๑๗๔ ตรงกับรัชสมัยแผ่นดินพระเจ้าปราสาททองของกรุงศรีอยุธยา และตรงกับสมัยพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราชแห่งอาณาจักรล้านช้าง

พ.ศ.๒๑๘๖ ก่อนที่ท่านจะมาศึกษาพระธรรมในนครหลวงเวียงจันทน์ มีพระครูท่านหนึ่งชื่อพระครูยอดแก้วที่อยู่นครหลวงเวียงจันทน์ ในเวลากลางคืนขณะที่พระครูฯ ท่านจำวัดได้นิมิตต์ฝันว่า มีช้างพลายตัวใหญ่เข้ามาในวัดและได้ทำลายวิหาร และช้างได้ขึ้นไปบนกุฎีได้แทงหอไตรทำลายลง ช้างจึงจับหนังสือกินเป็นอาหารหมดทั้งหีบ พอรุ่งสว่างพระครูฯ ก็ตกใจตื่นขึ้น ท่านจึงเล่านิมิตให้สงฆ์ท่านอื่นๆ ฟัง พอถึงเวลาสายหลังกลับจากบิณฑบาต พระสงฆ์ได้เห็นสามเณรโพนสะเม็กอายุขณะนั้นประมาณ ๑๓-๑๔ ปีต้องการมาศึกษาธรรมวินัยได้มานั่งอยู่ในวัด พระสงฆ์จึงถามที่มาที่ไปได้แจ้งแก่พระครูยอดแก้ว พระครูยอดแก้วจึงให้สามเณรเล่าเรียนสวดมนต์ ศึกษาพระปาฏิโมกข์พระไตรปิฎกและคัมภีร์ต่างๆ จนชำนาญโดยไม่มีผู้ใดจะเปรียบได้ กิติศัพท์ของสามเณรได้ยินเลื่องลือถึงพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช พระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านช้าง จึงพระราชทานผ้าไตรมาถวายยกชื่อขึ้นให้เป็นราชาจั่ว

เมื่อสามเณรอายุ ๒๑ ปีครบอุปสมบท พระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราชจึงนิมนต์พระสงฆ์ ๕๐๐ รูปและจัดหาแพมาต่อเป็นโบสถ์กลางน้ำหรืออุทกุกเขปสีมา ตามความประสงค์ของสามเณร เมื่อถึงวันอุปสมบทพระอุปัชฌาย์อนุกรรมวาจากับพระสงฆ์ ๕๐๐ รูป ก็พร้อมกันอุปสมบทสามเณรขึ้นเป็นภิกษุ เมื่อพระอนุกรรมวาจาจะให้อนุศาสน์ อุทกสีมาก็เกิดจมลง ทำให้พระสงฆ์ทั้งปวงต่างก็ต้องว่ายน้ำขึ้นฝั่งไป ผ้าไตรจีวรก็เปียกทุกองค์ มีเพียงพระที่บวชใหม่เท่านั้นที่ผ้าไตรจีวรไม่เปียก สร้างความอัศจรรย์ต่อผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ยิ่งนัก

ครั้นเมื่อบวชได้ ๑ พรรษา พระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราชจึงจัดหาเครื่องไตรอัฏฐบริขารครบเสร็จแล้วพร้อมด้วยคณะสงฆ์ จึงตั้งให้ท่านขึ้นเป็นพระครูจำพรรษาอยู่วัดโพนเสม็ด ท่านจึงได้สมญานามว่า พระครูโพนเสม็ด ท่านเป็นพระซึ่งดำรงพระธรรมวินัย มีอภิญญาไม่ว่าสิ่งใดก็แม่นยำด้วยบุญบารมีธรรมสำเร็จดังใจนึก คนทั้งปวงต่างก็นับถือท่านเป็นอันมาก ทั้งพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราชก็โปรดเป็นผู้อุปัฏฐากท่าน

อพยพ
เมื่อพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราชเสด็จสวรรคตเมื่อปี พ.ศ.๒๒๓๘ เกิดความวุ่นวายในการสืบราชสมบัติ พระยาเมืองจันเสนาบดีจึงได้ชิงเอาราชสมบัติ และจะเอาพระนางสุมังคลา พระราชธิดาของสมเด็จพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช ซึ่งเป็นแม่หม้ายมีบุตรคือพระองค์หล่อและบุตรในครรภ์ขึ้นเป็นเมีย แต่นางไม่ยอมจึงได้มาขอความช่วยเหลือจากพระครูยอดแก้วโพนสะเม็ก พระครูจึงให้พระนางสุมังคลาหนีออกจากเวียงจันทน์ไปซ่อนอยู่ที่ ภูซ่อง่อ ห่อคำ บริเวณเมืองบริคัณฑนิคม แล้วจึงให้กำเนิดบุตรชายนามว่า เจ้าหน่อกษัตริย์

ต่อมาพระยาเมืองจันเกิดหวาดละแวงพระครูยอดแก้วโพนสะเม็ก เนื่องจากประชาชนให้การนับถือพระครูเป็นอันมาก ก็คิดจะกำจัดพระครูยอดแก้วด้วย แต่ท่านพระครูรู้ตัวเสียก่อน พระครูจึงไปนำเจ้าหน่อกษัตริย์ และพระนางสุมังคลา และญาติโยมประมาณ ๓,๐๐๐ คน อพยพออกจากเวียงจันทน์ไปอยู่ที่บ้านงิ้วพันลำโสมสนุก แล้วพระครูโพนสะเม็กเดินทางไปตามลำน้ำชี เมื่อพระครูหยุดพักอยู่ที่แห่งใดญาติโยมก็ติดตามไปด้วย ขณะที่พระครูโพนสะเม็กเดินทางไปถึงอาณาจักรเขมรอุดงฦๅไชย ครอบครัวที่ติดตามท่านไม่ทันก็ตั้งชุมชนลาวตามสองฝั่งแม่น้ำโขงและลำน้ำสาขาตลอดทาง

ขณะที่เจ้าราชครูหลวงโพนสะเม็กดำรงตำแหน่งฝ่ายสงฆ์ ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยการสร้างพระพุทธรูป สร้างวัดวาอารามหลายแห่ง ที่สำคัญตามตำนานพระธาตุพนม ระบุว่า ช่วงปลายศตวรรษที่ ๒๒ ประมาณ พ.ศ.๒๒๓๓-๒๒๓๕ พระครูขี้หอม หรือ เจ้าราชครูหลวงโพนสะเม็ก ได้มาบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุพนม ครั้งที่ ๕ เป็นเวลานานถึง ๓ ปีจึงแล้วเสร็จ หลังจากที่เจ้าครูหลวงโพนสะเม็ก ได้มรณภาพลง สิริอายุ ๙๐ ปี หรือประมาณ พ.ศ.๒๒๖๓ ศิษยานุศิษย์ ได้นำอัฐิธาตุส่วนหนึ่งได้บรรจุไว้ในเจดีย์ นอกกำแพงแก้วชั้นที่ ๒ มีรูปหล่อหน้าเจดีย์ อยู่ด้านข้างองค์พระธาตุพนม

ตำนานเจดีย์วัดพนมและพระแสน
พงศาวดารนครจำปาศักดิ์ ฉะบับพระยามหาอำมาตยาธิบดี ได้ให้ข้อมูลต่างจากตำนานกระแสหลักไว้ว่า เมื่อพระครูโพนสะเม็กและลูกศิษย์ญาติโยมเดินทางมาถึงหางตุยจังวะสุดแดน(จะโรยจังวา) พระครูได้เห็นที่พื้นที่นี้เป็นชัยภูมิกว้างขวางเหมาะสม จึงได้พักญาติโยมศิษย์สานุศิษย์อยู่ที่นั้น แล้วพระครูโพนสะเม็กจึงสร้างพระเจดีย์องค์หนึ่งบนเขานั้น เมื่อเจดีย์สร้างไกล้เสร็จได้มีหญิงชราชาวเขมรคนหนึ่งชื่อยายเพ็ญ ยายเพ็ญได้ลงไปอาบน้ำในแม่น้ำและเห็นพระบรมธาตุเลื่อนไหลมาบนน้ำ มีพระรัศมีสวยงาม ยายเพ็ญเห็นจึงเอาขันน้ำรองรับพระบรมธาตุแล้วขึ้นไปถวายแก่พระครูโพนสะเม็ก พระครูโพนสะเม็กจึงได้อัญเชิญพระบรมสาริกธาตุบรรจุไว้ในพระเจดีย์ เนื่องจากเจดีย์นี้อยู่บนภูเขา ภูเขาในภาษาเขมรเรียกว่าพนม ผู้ที่เจอพระบรมสารีริกธาตุชื่อยายเพ็ญ พระครูโพนสะเม็กจึงให้ชื่อเจดีย์นี้ว่าพนมเพ็ญหรือพนมเปญ ครั้นเมื่ออาณาจักรเขมรย้ายเมืองหลวงมาอยู่พื้นที่นี้จึงเรียกว่าพนมเปญ

หลังจากพระครูโพนสะเม็กสร้างพระเจดีย์วัดพนมแล้ว จึงได้หล่อพระพุทธรูปองค์หนึ่งแต่ยังไม่ทันแล้วเสร็จ พระเจ้ากรุงเขมรอุดงฦๅไชยแจ้งว่าพระครูโพนสะเม็กพาครอบครัวญาติโยมเข้ามาอยู่ในเขตแดน จึงให้พระยาพระเขมรไปตรวจบัญชีครอบครัว และจะเก็บเงินครัวละ ๘ บาท พระครูโพนสะเม็กเห็นว่าเป็นความลำบากแก่ญาติโยม จึงอพยพพาครอบครัวญาติโยมหนีขึ้นไปตามลำน้ำโขงถึงบริเวณเมืองสมบูรณ์ แต่ยังไม้พ้นเขตแดนเขมร พระยาพระเขมรจึงยกทัพมาขับไล่ พระครูโพนสะเม็กและครอบครัวญาติโยมจึงได้อพยพขึ้นเหนือตามลำน้ำโขง จนถึงเกาะทรายกลางแม่น้ำแห่งหนึ่งจึงได้ตั้งพักพื้นที่นี้ และหล่อพระพุทธรูปที่ยังหล่อไม่เสร็จตั้งแต่ที่เจดีย์วัดพนมให้เสร็จสมบูรณ์ แล้วพระครูโพนสะเม็กจึงพาลูกศิษย์ญาติโยมแห่พระขึ้นมาถึงบริเวณหางโค ปากน้ำเซกองฝั่งตะวันออก (ปัจจุบันคือเมืองเชียงแตง) พระครูโพนสะเม็กเห็นภูมิสถานเหมาะแก่การตั้งบ้านเมือง จึงพาลูกศิษย์ญาติโยมสร้างพระวิหารไว้ แล้วอัญเชิญพระพุทธรูปปฏิมากรให้นามว่าพระแสนและประดิษฐานไว้ในพระวิหารนั้น แล้วก่อพระเจดีย์องค์หนึ่ง พระครูโพนสะเม็กจึงให้ลูกศิษย์และครอบครัวผู้นั้นเป็นผู้ดูแลพระพุทธรูปพระแสนและพระวิหาร

อาณาจักรล้านช้างจำปาสัก มีความผูกพันกับพระครูยอดแก้วโพนสะเม็ก ซึ่งเป็นพระครูที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่เคารพศรัทธาสูงสุดของชาวลาวตอนล่าง จนได้รับฉายาว่า “พระครูขี้หอม” หรือ “ญาคูขี้หอม” ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาอย่างสุดซึ้ง ส่งผลให้ผู้คนเก็บสิ่งของเครื่องใช้ของท่านพระครูมาบูชา แม้แต่อุจจาระของท่านก็ไม่รังเกียจ เนื่องจากพระครูยอดแก้วโพนสะเม็กฉันอาหารมังสวิรัติประเภท เผือก มัน งา มะตูม จึงทำให้อุจจาระของท่านไม่มีกลิ่นเหม็น

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
มันดาลา หรือ เบญจคุณ พลวัตแห่งความว่าง: ปัญจพุทธกุล หรือ พลังปัญญาห้าสี
กระบวนการ NEW AGE
มดเอ๊ก 6 13055 กระทู้ล่าสุด 13 มิถุนายน 2553 14:51:03
โดย มดเอ๊ก
คน หรือ เทียน เล่มหนึ่ง ?? ..
ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
เงาฝัน 0 5382 กระทู้ล่าสุด 28 พฤษภาคม 2554 15:04:02
โดย เงาฝัน
เป็นมนุษย์ หรือ เป็นคน
ธรรมะจากพระอาจารย์
วันศุกร์ นัดทานข้าว 0 1971 กระทู้ล่าสุด 05 กรกฎาคม 2555 03:08:16
โดย วันศุกร์ นัดทานข้าว
เจ้าราชครูหลวงโพนสะเม็ก หรือ หลวงพ่อขี้หอม (ญาคูขี้หอม) อริยะสงฆ์สองฝั่งโขง
พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
มดเอ๊ก 0 3077 กระทู้ล่าสุด 29 กรกฎาคม 2559 01:22:13
โดย มดเอ๊ก
เจ้าราชครูหลวงโพนสะเม็ก (พระครูขี้หอม) สังฆราชแห่งนครจำปาสัก
ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
ใบบุญ 0 977 กระทู้ล่าสุด 26 พฤศจิกายน 2562 18:59:04
โดย ใบบุญ
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.342 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 10 มีนาคม 2567 18:54:52