แถลงการณ์ถึง 175 ประเทศที่ร่วมร่างสนธิสัญญาพลาสติกโลก เพื่อสร้างโลกไร้มลพิษพลาสติก
<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2024-03-26 00:20</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพประกอบ/ภาพปก:
เฟซบุ๊ก มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH)</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>เครือข่ายรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม แถลงข้อเสนอรัฐบาลไทยและ 175 ประเทศที่มีส่วนร่วมกับการร่างสนธิสัญญาพลาสติกโลก โดยมีหลักสำคัญคือนโยบายควบคุมตลอดวงจรพลาสติก ต้องมีการกำหนดเป้าหมาย กรอบระยะเวลา มีระบบกลไกทางเงินที่ยั่งยืน เพื่อบรรลุเป้าหมายโลกที่ไร้มลพิษจากพลาสติก </p>
<p> </p>
<p>25 มี.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (25 มี.ค.) เวลาประมาณ 14.00 น. ที่ Creative Space ณ สำนักกลางนักเรียนคริสเตียน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ องค์กรภาคประชาสังคมเพื่อยุติมลพิษพลาสติกจากหลากหลายมิติในประเทศไทย ประกอบด้วย มูลนิธิความยุติธรรมเชิงสิ่งแวดล้อม (Environmental Justice Foundation - EJF) กรีนพีซ ประเทศไทย (Greenpeace Thailand) และมูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH) ร่วมกันจัดงานเสวนาหัวข้อ "สนธิสัญญาพลาสติกโลก สู่การยุติมลพิษพลาสติก สำคัญอย่างไรต่อสังคมไทย"</p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="autoplay; clipboard-write; encrypted-media; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="true" frameborder="0" height="314" scrolling="no" src="
https://www.facebook.com/plugins/video.php?height=314&href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2FEarthEcoAlert%2Fvideos%2F1126188085496396%2F&show_text=false&width=560&t=0" style="border:none;overflow:hidden" width="560"></iframe></p>
<p>บรรยากาศกิจกรรมวันนี้ก่อนเข้าสู่วงเสวนา จะมีการทำความเข้าใจเบื้องต้นให้เห็นความสำคัญและที่มาที่ไปของสนธิสัญญาพลาสติกโลก โดยปุญณธร จึงสมาน นักวิจัยด้านนโยบายพลาสติกจาก EJF</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ที่มาที่ไปของสนธิสัญญาพลาสติกโลก </span></h2>
<p>ปุญณธร กล่าวว่า ที่มาที่ไปของสนธิสัญญาพลาสติกโลกมาจากมลพิษจากขยะพลาสติกปัจจุบันกำลังคุกคามโลก ทั้งไมโครพลาสติกที่เข้าไปในร่างกาย การเผาขยะพลาสติกก็ทำให้เกิดมลพิษได้เหมือนกัน แม้กระทั่งสารเคมีที่ใช้ในพลาสติก ก็ส่งผลกระทบต่อเด็กและประชาชนได้ และด้วยเหตุนี้เมื่อ 2 มี.ค. 2565 การประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 5 (UNEA 5) ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา ได้มีมติเห็นชอบร่วมกันกับสมาชิก 175 ประเทศ ให้มีการจัดทำมาตรการที่มีผลผูกพันทางกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษจากพลาสติก รวมทั้งสิ่งแวดล้อมทางทะเล โดยตั้งเป้าให้แล้วเสร็จภายในปี 2567 การร่างสนธิสัญญาที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย (legally binding) มุ่งเน้นแนวทางการจัดการพลาสติกที่ครอบคลุมและ "ตลอดวงจรชีวิต" อยากเน้นตรงนี้ </p>
<p>ปุญณธร กล่าวว่า คำว่า "ตลอดวงจรชีวิต" คือตั้งแต่ขั้นตอนการขุดเจาะ เพราะพลาสติกส่วนใหญ่มาจากน้ำมัน หรือในกรณีพลาสติกที่ผลิตจากพืช การปลูกพืชหรือ้อยก็เป็นขั้นแรกของการผลิตเช่นกัน ต่อมา การควบคุมปริมาณการผลิตและการขนส่งเม็ดพลาสติก การจำหน่ายการใช้งาน อุปกรณ์มือถือมีชิ้นส่วนพลาสติก และเห็นภาพคือการจัดการมลพิษ หรือการฝังกลบ และอื่นๆ ดังนั้น สนธิสัญญานี้จะจัดการพลาสติกตั้งแต่ต้นจนจบ </p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53610629636_0cae7b3278_b.jpg" /></p>
<p>อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนจนกว่าการจัดทำสนธิสัญญาจะแล้วเสร็จนั้น คณะกรรมการเจรจาระหว่างรัฐบาล (INC) จะต้องเจรจาผ่านการประชุม 5 รอบ โดยผลการประชุมครั้งที่ 2 (INC-2) ได้มีการปล่อยร่างเอกสารฉบับแรกออกมา (Zero Draft) และในการประชุมครั้งที่ 3 (INC-3) ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อ ธ.ค. 2566 ได้มีการเผยแพร่ร่างสนธิสัญญาฉบับแรกที่เป็นฉบับปรับปรุง (Revised Zero Draft) ซึ่งเป็นร่างที่น่าจับตามอง เนื่องจากมีการถกเถียงกันเยอะระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ยกตัวอย่าง บริษัทด้านปิโตรเคมีก็จะไม่เห็นด้วยกับมาตรการที่เข้มงวด เนื่องจากจะทำให้เขาเสียประโยชน์ ขณะที่ประเทศกลุ่มเอเชียแปซิฟิก และแอฟริกา ถือเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากมลพิษพลาสติกก็อยากให้มีการบังคับใช้อย่างเข้มงวด ซึ่งปัจจุบันยังตกลงกันไม่ได้ และจะนำมาคุยกันใน INC-4 ที่เมืองออตตาวา ประเทศแคนาดา ในระหว่างวันที่ 23-29 เม.ย. 2567 ซึ่งจะเป็นการเจรจาก่อนการเจรจารอบสุดท้าย (INC-5) ที่มีความสำคัญและเป็นที่คาดหวังว่าเอกสารร่างสนธิสัญญาจะต้องแล้วเสร็จและจะกลายเป็นร่างฉบับแรก (First Draft) และปี 2568 จะเปิดให้มีการลงนามสนธิสัญญาพลาสติกโลกดังกล่าว </p>
<p>ทั้งนี้ เงื่อนไขหลักในการที่ประเทศต่างๆ จะให้สัตยาบันได้ คือการมีกฎหมายในประเทศที่สอดรับกับสนธิสัญญาฯ ซึ่งก็ต้องการเจตจำนงจากคณะรัฐมนตรี </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">มาตราไหนที่เราต้องสนใจ</span></h2>
<p>นักวิจัยนโยบายพลาสติก กล่าวว่า ปัจจุบัน แม้ว่าสนธิสัญญาฯ ยังเป็น ‘zero draft’ หรือร่างเอกสารฉบับแรก แต่มีมาตราไหนที่ควรจับตามองบ้าง 1. การลดการใช้พลาสติก 2. เลิกผลิตและใช้พลาสติกบางประเภท 3. การเลิก/ลดสารเคมีแต่งเติมในพลาสติก 4. การกำหนดมาตรการเป้าหมายการรีไซเคิลพลาสติก และการควบคุมอันตรายจากการรีไซเคิล 5. การใช้พลาสติกทางเลือก อย่างพลาสติกจากการเกษตร หรือพลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ ซึ่งยังเป็นข้อถกเถียงว่าจะเป็นทางออกของการแก้ไขมลพิษจากพลาสติกหรือไม่</p>
<p>6. ตั้งเป้าการจัดระบบใช้ซ้ำ การเติม และการซ่อมแซมสิ่งต่างๆ 7. การขยายความรับผิดชอบต่อผู้ผลิตพลาสติก (EPR) 8. การจัดการขยะ และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม 9. การเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรม คือเราจะทำให้การเปลี่ยนผ่านสู่โลกที่ไร้มลพิษพลาสติกเป็นธรรมกับทุกภาคส่วนที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องเข้าถึงได้ </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">อ่านแถลงการณ์</span></h2>
<p>กำหนดการต่อมา เป็นเวทีเสวนาหัวข้อ "สนธิสัญญาพลาสติกโลกสู่การยุติมลพิษพลาสติก สำคัญอย่างไรต่อสังคมไทย" ซึ่งมีองค์กรภาคประชาสังคมจากหลายภาคส่วนร่วมสะท้อนความหวังถึงสนธิสัญญาพลาสติกโลกนี้ควรมีหน้าตา หรือมีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง เพื่อทำให้เกิดโลกที่ไร้มลพิษจากพลาสติกได้จริง </p>
<p>ต่อมา องค์กรภาคประชาสังคมเพื่อยุติมลพิษพลาสติกจากหลากหลายมิติในประเทศไทย ประกอบด้วย EJF กรีนพีชฯ และบูรณะนิเวศ ได้ร่วมอ่านแถลงการณ์ โดยมีข้อเสนอถึงประเทศไทยให้ร่วมกับ 175 ประเทศ ร่วมร่างสนธิสัญญาพลาสติกโลก ที่มีการกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจน มีการใช้ระบบกลไกการเงินที่โปร่งใสยั่งยืน และเป็นธรรม เปิดพื้นที่ให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการบรรลุเป้าหมายทั้ง 10 ประการ รายละเอียดดังนี้ </p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53610968329_e0297dd07d_b.jpg" /></p>
<ol>
<li>ลดการผลิตพลาสติกอย่างจริงจัง ยกเลิกการผลิตและการใช้พลาสติกที่เป็นปัญหา จัดการได้ยาก สามารถหลีกเลี่ยงการใช้ได้ </li>
<li>กำหนดให้มีการเลิกใช้สารเคมีอันตรายตลอดวงจรชีวิตของพลาสติก พิจารณาการใช้สารเคมีทดแทนที่ปลอดภัยและไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ</li>
<li>กำหนดให้มีโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการลดการใช้พลาสติก การใช้ซ้ำ การเติม การซ่อมแซม ที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย และเข้าถึงได้โดยมนุษย์ทุกคน </li>
<li>กำหนดให้มีการพัฒนากฎหมายการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต (Extended Producer Responsibility: EPR) ที่ครอบคลุมตลอดวงจรชีวิตของพลาสติกและค่าความเสียหายทางสิ่งแวดล้อม </li>
<li>กำหนดให้ผู้ผลิตพลาสติกรายงานข้อมูลสารเคมีในวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการรายงานข้อมูลการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายสารเคมีและมลพิษสู่สิ่งแวดล้อมจากอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับพลาสติก สู่สาธารณะ</li>
<li>กำหนดให้มีมาตรฐานสากลในการจัดการพลาสติกที่ใช้แล้ว ที่ให้ความสำคัญกับการลดพลาสติกแต่ต้นทาง การห้ามเผาขยะพลาสติก การกำหนดมาตรฐานการจัดการขยะที่เข้มงวด รวมไปถึงการรีไซเคิลและการผลิตพลังงาน และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชน</li>
<li>ไม่สนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่ผิดทาง รวมไปถึงการรีไซเคิลสกปรก <strong>(1)</strong> การขยายโรงไฟฟ้าขยะ และพลาสติกทางเลือกที่ก่อให้เกิดปัญหาอื่น</li>
<li>ไม่สนับสนุนการเคลื่อนย้ายพลาสติกใช้แล้วข้ามพรมแดน และการส่งออกเทคโนโลยีที่ก่อมลพิษ อันเป็นการผลักภาระมลพิษไปยังประเทศกำลังพัฒนา </li>
<li>กำหนดให้มีการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการเยียวยาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษพลาสติก</li>
<li>กำหนดให้มีการเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรม โดยให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากทุกภาคส่วน รวมไปถึง ชุมชนผู้ได้รับผลกระทบทั้งในด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคม ผู้ปฏิบัติงานและแรงงานที่เกี่ยวข้องกับพลาสติก เข้าไปมีส่วนร่วมในการออกแบบอนาคตที่ปลอดมลพิษพลาสติก โดยคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์</li>
</ol>
<div class="ืnore-box">
<div class="note-box">
<p><strong>(1)</strong> <strong>"การรีไซเคิลสกปรก"</strong> หมายถึงการรีไซเคิลของเสียและวัสดุที่ไม่ใช้แล้วโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพและสังคม ไม่คำนึงถึงหลักการบริหารจัดการทางสิ่งแวดล้อมและสังคมที่ดี (Environmentally and Socially Sound Management) ก่อให้เกิดมลพิษและละเมิดสิทธิมนุษยชน และหมายรวมถึงการที่ประเทศที่พัฒนาแล้วส่งออกของเสียมารีไซเคิลในประเทศที่กำลังพัฒนา อันเป็นการลดต้นทุนในการบริหารจัดการของเสียในประเทศของตนด้วยการผลักภาระมลพิษมายังกลุ่มประเทศที่มีเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานในการจัดการของเสียที่ยังด้อยกว่า</p>
</div>
</div>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2024/03/108576