[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
28 เมษายน 2567 03:32:28 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - 'บาดเจ็บ พิการ เสียชีวิต' การเยียวยาเหตุสลายชุมนุมปี'63-65 ที่ยังมีคำถาม  (อ่าน 28 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สุขใจ ข่าวสด
I'm Robot
สุขใจ บอทนักข่าว
นักโพสท์ระดับ 15
****

คะแนนความดี: +101/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Italy Italy

กระทู้: มากเกินบรรยาย


บอท @ สุขใจ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 27 มีนาคม 2567 01:55:45 »

'บาดเจ็บ พิการ เสียชีวิต' การเยียวยาเหตุสลายชุมนุมปี'63-65 ที่ยังมีคำถาม
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2024-03-26 21:56</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>รายงาน: ณัฐพล เมฆโสภณ</p>
<p>กราฟิก: กิตติยา อรอินทร์</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ช่วงรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีการใช้กฎหมายจำกัดเสรีภาพการชุมนุมมากมายทั้ง พ.ร.บ.ห้ามชุมนุมสาธารณะ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ช่วงโควิด-19 อันนำมาสู่การสลายการชุมนุมช่วงปี 2563-2565 แต่เมื่อรัฐบาลยึดโยงกับประชาชนน้อยเท่าไร จึงทำให้การใช้กำลังสลายการชุมนุม ถูกใช้อย่างเข้มข้นมากขึ้น </p>
<p>รายงานจาก MOB DATA ซึ่งเป็นการทำงานของภาคประชาสังคม เพื่อคอยสังเกตการณ์และเก็บข้อมูลการชุมนุมทางการเมืองของประชาชน เปิดเผยว่า ระหว่างปี 2563-2566 มีการชุมนุมทั้งน้อยและใหญ่เกิดขึ้นทั่วประเทศทั้งหมด 3,582 ครั้ง ในจำนวนนี้มีการสลายการชุมนุมอย่างน้อย 74 ครั้ง โดยสลายการชุมนุมโดยใช้กระสุนยางอย่างน้อย 29 ครั้ง แก๊สน้ำตาไม่ต่ำกว่า 13 ครั้ง และรถฉีดน้ำแรงดันสูง ไม่ต่ำกว่า 15 ครั้ง</p>
<p>แต่อย่างไรก็ตาม รายงานของภาคประชาสังคม และสื่อต่างๆ พบว่า การสลายการชุมนุมไม่เป็นไปตามหลักการสากล ส่งผลให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยมีอย่างน้อย 3 รายต้องกลายเป็นผู้พิการสูญเสียการมองเห็น และมีผู้เสียชีวิตมีอย่างน้อย 1 ราย </p>
<p>แม้ว่าหลังการเลือกตั้งปี 2566 มีการเปลี่ยนรัฐบาลนำโดย เศรษฐา ทวีสิน พรรคเพื่อไทย แต่การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุม หรือตามหาความยุติธรรม ยังคงมีเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่</p>
<p>รายงานเชิงลึกชิ้นนี้พยายามสำรวจผลกระทบจากการใช้อุปกรณ์ควบคุมฝูงชนที่ไม่เป็นไปตามหลักการทางกฎหมายไทยและหลักสากลช่วง 2563-2565 พร้อมสัมภาษณ์ผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุมที่บางคนต้องกลายเป็นผู้พิการ และพูดคุยกับนักการเมืองต่อการควานหาผู้กระทำผิดและรับผิดชอบ ไปจนถึงมาตรการผลักดันการเยียวยาให้พวกเขาเหล่านี้</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ย้อนความการสลายการชุมนุม ม็อบ APEC 2022 การสูญเสียการมองเห็นของ 'พายุ'</span></h2>
<p>ย้อนไปเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2565 พายุ บุญโสภณ นักกิจกรรมจากอีสาน อาสาทำหน้าที่เป็นการ์ดดูแลความปลอดภัยการชุมนุมม็อบ "ราษฎรหยุด APEC 2022" เดินนำหน้าขบวนประชาชนออกเดินทางจากลานคนเมือง เขตพระนคร กรุงเทพฯ เพื่อไปให้ใกล้ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดประชุมนานาชาติ APEC 2022 ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยมีเป้าหมายหลักคือการสื่อสารปัญหานโยบายที่ชื่อว่า 'เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว' (BCG) ซึ่งเป็นหนึ่งวาระที่นำขึ้นโต๊ะหารือในวงประชุมดังกล่าว (1)</p>
<p>พายุ นักกิจกรรมกลุ่ม 'ดาวดิน' เล่าย้อนความให้ฟังว่า วันนั้นตอนเวลาราว 7.00-8.00 น. ประชาชนเดินออกมาจากลานคนเมือง มุ่งเข้าสู่ถนนดินสอ และเดินเท้าต่อไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แต่พวกเขาก็ต้องเผชิญกับด่านสกัดของตำรวจ และไม่สามารถเดินต่อไปได้ </p>
<p>ผู้จัดจึงมีการประสานให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมพักทานข้าวกลางวันระหว่างเจรจาให้ตำรวจเปิดทาง โดยด้านหลังขบวนรณรงค์เป็นชาวบ้านและผู้สูงอายุกำลังนั่งทานข้าว ขณะเดียวกัน ผู้ชุมนุมและคนรุ่นใหม่ก็มีการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ที่แนวหน้าขบวน อย่างน้อยเพื่อสื่อสารให้กับผู้สื่อข่าวได้ทราบว่านโยบาย BCG สร้างผลกระทบต่อประชาชนอย่างไร และเพื่อไม่ให้กิจกรรมเว้นว่าง </p>
<p>ต่อมา ได้เกิดการกระทบกระทั่งระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ชุมนุม และเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ คฝ.เข้ามาสลายการชุมนุมโดยไม่แจ้งเตือนการใช้อุปกรณ์ควบคุมฝูงชน </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ไม่มีสัญญาณเตือนใช้อุปกรณ์ควบคุมฝูงชน </span></h2>
<p>พายุ ยืนยันว่าไม่มีการแจ้งเตือนว่าจะมีการสลายการชุมนุมโดยใช้อุปกรณ์ควบคุมฝูงชนและไม่มีการไล่ระดับการใช้อุปกรณ์อีกด้วย </p>
<p>"ช่วงที่ระหว่างพักกินข้าว เขามีการประกาศว่าการชุมนุมของเราเป็นการชุมนุมผิดกฎหมาย แต่ไม่มีการบอกเหนือจากนั้นเลยว่าจะมีการสลายการชุมนุม </p>
<p>"ไม่มีการบอกว่าถ้าไม่เลิกตอนนี้จะมีการยกระดับ จะมีการสลายจะมีการความรุนแรง ใช้เครื่องมือควบคุมฝูงชน หรือตามสากล จะมีการไล่ขั้นตอน (step) ทำอะไรบ้างในเบื้องต้น ถ้าทางฝ่ายผู้ชุมนุมไม่ยอม ก็จะมีการยกระดับอะไร" พายุ กล่าว</p>
<p>พายุ ไม่ทราบว่าตำรวจอ้างกฎหมายข้อไหนในการสลายการชุมนม เพราะก่อนหน้านี้ผู้จัดได้มีการจดแจ้งการชุมนุมตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 เรียบร้อยแล้ว และวันที่ 17 พ.ย. ก่อนวันเริ่มเดินขบวน ตำรวจยังมาถามผู้จัดอยู่เลยว่าจะใช้เส้นทางเดินขบวนนี้จริงหรือไม่ ทำให้เขามองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบล่วงหน้าอยู่แล้ว</p>
<p>พายุ ยืนยันว่า นอกเหนือจากการใช้กระบองตีทำร้ายผู้ชุมนุมจนได้รับบาดเจ็บแล้ว คฝ.มีการใช้แก๊สน้ำตาจำนวนมาก และกระสุนยางยิงเข้าใส่ผู้ชุมนุมหลายนัด ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการใช้อย่างปนเป และไม่มีการไล่ระดับ</p>
<p>"เพื่อนที่มาด้วยกันถูกกระสุนยางที่เด้งจากพื้นขึ้นมาโดนคิ้ว และมีอาการบาดเจ็บหัวโน นั่นทำให้เราเห็นว่าตำรวจมีการยิงกระสุนยาง และอีกเหตุการณ์คือรถเครื่องเสียงที่มาด้วย เขาบอกว่าเขาเห็นกระสุนยางยิงใส่กระจกหน้ารถ 2-3 นัด" นักกิจกรรมกลุ่มดาวดิน เล่าให้ฟัง </p>
<p>ช่วงก่อนที่เขาจะโดนกระสุนยาง พายุ เผยว่า เขากำลังวิ่งไปคุยกับรถเครื่องเสียงที่จ้างมา เพราะคนขับตกใจมาก เพราะมีกระสุนยางยิงโดนกระจกหน้ารถเครื่องเสียง คนขับจึงพยายามขับรถถอยหลังด้วยความตกใจ แต่ว่าด้านหลังชาวบ้านกำลังทานข้าวอยู่ และอาจถูกรถถอยทับได้ ทำให้เขาต้องรุดไปห้ามรถ แต่พอหันกลับมาก็โดนกระสุนยางเข้าที่เบ้าตาขวา</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/52506861717_3de514ae87_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล ให้สัมภาษณ์สื่อโชว์ภาพปลอกกระสุนยางให้ผู้สื่อข่าว (เมื่อ 18 พ.ย. 2565)</span></p>
<p>"พอโดนมันรู้สึกตัวอยู่ มันวิ๊งๆ เซไปอยู่บนฟุตบาธเพื่อเช็กว่าตัวเองโดนอะไร พอเลือดมันไหลเยอะผิดปกติเกินไป จับที่ตาแล้วหนักแน่ เราก็เลยเดินไปหาเจ้าหน้าที่ คฝ. เปิดให้เขาดูเลยว่าโดนยิง เจ้าหน้าที่ คฝ. เขากำลังเดินง้างกระบองมา 2 คนเลย เขาตกใจสะดุ้ง และก็วิ่งไปข้างหลังผมต่อ" พายุ กล่าว</p>
<p>หลังจากนั้น พายุจำได้ว่ามีคนมาสะกิดบอกว่าจะพาไปส่งโรงพยาบาล หลังจากนั้น จำเหตุการณ์ไม่ได้เลย แต่ตัวเองยังมีสติอยู่ </p>
<p>หลังจากได้รับการรักษาที่โรงพยาบาล แพทย์วินิจฉัยว่าอาการของพายุได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงจากการถูกกระสุนยางยิงเข้าที่บริเวณหางคิ้วด้านขวา และมีโอกาสกลับมามองเห็นปกติแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/52507838394_cbbd264ba0_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">พายุ บุญโสภณ หลังถูกกระสุนยางเข้าที่ดวงตาขวา</span></p>
<p>รายงานจากโครงการอินเทอร์เน็ตกฎหมายเพื่อประชาชน (iLaw) ระบุว่า วันนั้นมีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บจำนวนอย่างน้อย 31 ราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้รับบาดเจ็บ 14 นาย และอีก 1 นายได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาถูกน้ำมันก๊าดจากผู้ชุมนุมสาดใส่ และข้อมูลจาก The Matter เผยว่ามีสื่อมวลชนได้รับบาดเจ็บ อย่างน้อย 4 ราย</p>
<p>ปัจจุบัน พายุก็สูญเสียการมองเห็นที่ดวงตาด้านขวา มองเห็นแสงเพียงเลือนลางเท่านั้น และเขากำลังปรับตัวในการใช้ชีวิตหลังจากนี้</p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>#ม็อบ18พฤศจิกา65 คฝ. ยิง 'กระสุนยาง' ใส่ผู้ชุมนุม เสี่ยงเสียดวงตา 1 ราย ถูกจับกว่า 20 คน - ตร.เจ็บ 14 ราย</li>
<li>ตั้งข้อสังเกต ตร.สลายม็อบ18พฤศจิกา65 หลังแจ้งทีมเจรจาจะมีขบวนเสด็จผ่านถนนราชดำเนิน</li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">ไม่เป็นไปตามสากล และแผนปฏิบัติในประเทศ</span></h2>
<p>รายงานจาก iLaw และ<a href="http://กสม. ชี้ คฝ. 'ใช้ความรุนแรง' สลายม็อบ 'ราษฎรหยุด APEC 2022' ละเมิดสิทธิ กระทบเสรีภาพสื่อ">คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)[/url] ทำให้เห็นว่า แม้ว่าในประเทศไทย จะมีแผนการดูแลชุมนุมสาธารณะปี 2565 และแนวปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยการใช้อาวุธที่มีความร้ายแรงต่ำในการบังคับใช้กฎหมาย แต่ตลอดปี 2564-2565 กลับมีการสลายการชุมนุมโดยไม่ได้เป็นไปตามหลักการอย่างต่อเนื่อง </p>
<p>ตามแผนการดูแลการชุมนุมสาธารณะ เมื่อปี 2565 อ้างอิงจากบทที่ 6 ว่าด้วยเรื่อง "การใช้กำลัง เครื่องมือ อุปกรณ์และอาวุธ" ระบุว่า ต้องมีการเจรจาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ก่อน หากยังไม่มีการยุติให้แสดงท่าเตรียมพร้อมใช้กำกลัง มาตรการ และอุปกรณ์หรือเครื่องมือ และหากยังไม่หยุดอีก จึงได้ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม</p>
<p>การสลายการชุมนุมต้องเหมาะสมแก่สถานการณ์ การควบคุมฝูงชนต้องมีการไล่มาตรการจากเบาไปหาหนัก โดยเริ่มจากการเจรจา ใช้โล่และกระบองผลักดัน การใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูง และถึงใช้กระสุนยาง </p>
<p>โดยเหตุการณ์เมื่อ 18 พ.ย. 2567 ตามคำสัมภาษณ์ของพายุ จะพบว่าตำรวจไม่ได้มีการแจ้งเตือนก่อนใช้อุปกรณ์ควบคุมฝูงชน และไม่ได้มีการไล่ระดับมาตรการการใช้อุปกรณ์ควบคุมฝูงชน</p>
<p>ในเหตุการณ์เดียวกัน ตำรวจยังมีการยิงกระสุนยางในระดับเดียวกับ ‘ศีรษะ’ ซึ่งขัดต่อแผนการดูแลการชุมนุมสาธารณะ ซึ่งระบุว่า ให้ "ยิงส่วนล่างของร่างกาย" และใช้กับเป้าหมายที่กระทำการหรือมีท่าทีคุกคามต่อชีวิตของผู้อื่น ต้องกำหนดเป้าหมายโดยชัดเจน ไม่สามารถยิงโดยไม่เลือกเป้าหมายได้ </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53612486806_282b0ddf3c_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ตามแผนการดูแลการชุมนุมสาธารณะ เมื่อปี 2565 บทที่ 6 "การใช้กำลัง เครื่องมือ อุปกรณ์และอาวุธ" หน้าที่ 25</span></p>
<p>แนวปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยการใช้อาวุธที่มีความร้ายแรงต่ำในการบังคับใช้กฎหมาย (United Nations Human Rights Guidance on Less-Lethal Weapons in Law Enforcement) ของข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) และ ซึ่งระบุอย่างชัดเจนว่าควรยิงกระสุนยางที่ “ท้องส่วนล่าง และขา” ห้ามยิงระนาบเดียวกับศีรษะ หรือร่างกายส่วนบน เพราะอาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต หรือทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส</p>
<p>ระหว่างการจับกุมหลายสถานการณ์ เจ้าหน้าที่มีการทำร้ายร่างกายประชาชนระหว่างการจับกุม เช่น การผลักจนล้มหรือการรุมเตะและชกทั้งที่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าผู้ถูกจับกุมบางรายมีท่าทีที่ยอมจำนนและไม่ขัดขืน และแม้บางรายจะแสดงอาการขัดขืนอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มีอาวุธที่จะใช้ต่อต้านจนถึงขนาดที่ตำรวจจะต้องทำร้ายร่างกาย ซึ่งกรณีนี้ขัดกฎหมายและแนวปฏิบัติสากลอย่างชัดเจน </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ซ้ำแล้วซ้ำเล่า</span></h2>
<p>ระหว่างปลายปี 2563-2565 มีการสลายการชุมนุมไม่เป็นไปตามหลักการสากลหลายครั้ง รายงาน MOB DATA ระบุว่า เฉพาะในปี 2564 ซึ่งมีการใช้กำลังสลายการชุมนุมมากที่สุดเมื่อเทียบกับปีอื่นๆ ราว 60 ครั้งจาก 74 ครั้ง</p>
<p>รายงานของ iLaw ที่ได้บันทึกการสลายการชุมนุมที่แยกดินแดงเมื่อ ส.ค. 2564 พบว่าเจ้าหน้าที่มีการสลายการชุมนุมโดยไม่เป็นไปตามหลักการสากล และแผนปฏิบัติการควบคุมการชุมนุม ยกตัวอย่าง แม้นว่ามีหลักกำหนดให้ตำรวจต้องเจรจาก่อนใช้อุปกรณ์ควบคุมฝูงชน แต่เจ้าหน้าที่ไม่มีการเจรจาหรือไม่เคยขอเจรจากับผู้ชุมนุม แม้ว่าจะมีผู้แสดงตัวเป็นผู้จัดชัดเจน หรือไม่มีผู้จัด</p>
<p>บางกรณีแม้ว่าเจ้าหน้าที่จะทำตามหลักปฏิบัติสากลอย่างมีการประกาศก่อนใช้อุปกรณ์ควบคุมฝูงชนอย่างการฉีดน้ำ และแก๊สน้ำตา แต่ตำรวจไม่มีการกำหนดเวลา หรือให้เวลาสั้นมากในการยุติการชุมนุม ลางกรณีให้เวลาเพียงไม่กี่นาที ก็ใช้อุปกรณ์ควบคุมฝูงชนทันที </p>
<p>นอกจากนี้ การสลายการชุมนุมโดยใช้กระสุนยางของ คฝ.ช่วงม็อบดินแดง มีการยิงในระนาบเดียวกับศีรษะ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวนมาก และมีการยิงในระยะใกล้ผู้ชุมนุมอย่างในการชุมนุมเมื่อ 14 พ.ย. 2564</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/51427929940_60d13a2c4a_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ภาพการชุมนุมดินแดง เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2564 (ภาพโดย สันติธรรม บุญราศร)</span></p>
<p>"มีภาพถ่ายและคลิปวิดีโอเป็นหลักฐานยืนยันมากมายว่าตำรวจใช้ปืนยิงกระสุนยางในระดับสายตา ไม่ใช่การยิงกดลงเพื่อให้โดนส่วนล่างของร่างกาย มีภาพการใช้อาวุธจ่อยิงในระยะประชิด หรือยิงใส่บุคคลและกลุ่มบุคคลที่กำลังหลบหนีหรือล่าถอย</p>
<p>"การใช้อาวุธแต่ละชนิดก็ไม่ได้ไล่ลำดับจากเบาไปหาหนัก แต่ใช้ทุกประเภทไปพร้อมกัน หรืออาจจะใช้กระสุนยางก่อน และใช้การฉีดน้ำทีหลัง ขึ้นอยู่กับอำเภอใจของตำรวจ" iLaw ระบุ </p>
<p>ทั้งนี้ ข้อมูลจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เฉพาะ 4 เดือนของการชุมนุมทะลุแก๊ส (ระหว่าง ส.ค.-ต.ค. 2564)  เท่าที่ทราบข้อมูล มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 229 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย โดยมีผู้ได้รับผลกระทบที่อายุน้อยที่สุดเป็นเด็กอายุ 4 ขวบ</p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>กสม.ชี้ คฝ. 'ใช้ความรุนแรง' สลายม็อบ 'ราษฎรหยุด APEC 2022' ละเมิดสิทธิ กระทบเสรีภาพสื่อ</li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">เสียชีวิต 1 ราย พิการอย่างน้อย 3 ราย</span></h2>
<p>ระหว่างปี 2564-2565 มีผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมอย่างน้อย 1 ราย คือ มานะ หงษ์ทอง เสียชีวิตขณะอายุ 64 ปี ซึ่งเขาไม่ได้เป็นผู้ชุมนุม และมีประชาชนต้องกลายเป็นผู้พิการสูญเสียการมองเห็น จากสลายการชุมนุมผิดหลักอย่างน้อย 3 ราย ได้แก่ ฐนกร ผ่านพินิจ, ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย, และพายุ บุญโสภณ</p>
<p>ฐนกร ผ่านพินิจ อายุราว 48 ปี เคยให้สัมภาษณ์กับแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เมื่อปี 2566 เล่าว่า เขาสูญเสียการมองเห็นจากการสลายการชุมนุมเมื่อ เมื่อ 13 ส.ค. 2564 ตอนนั้นเขาและลูกชายกำลังขับมอเตอร์ไซค์ เพื่อไปซื้อต้นไม้ที่ตลาดนัดสวนจตุจักร แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเดินทางกลับ เพราะว่ามีตู้คอนเทนเนอร์ตั้งขวางถนนวิภาวดี-รังสิต (ขาออกนอกเมือง) แต่ระหว่างเขาเดินทางกลับที่พัก เขาพบการชุมนุมที่แยกดินแดง จึงจอดรถสังเกตการณ์ </p>
<p>ตอนที่ดูเหตุการณ์ ฐนกร ระบุว่า เขาเห็นผู้ชุมนุมโต้เถียงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะยิงกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุม เขายืนยันว่าไม่มีแจ้งเตือนก่อนใช้อุปกรณ์ควบคุมฝูงชน เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาไม่ได้เตรียมตัวและหลบไม่ทัน</p>
<p>"มีการยั่วยุกันเกิดขึ้น ทันใดนั้นทาง คฝ. ก็ใช้ปืนยิงใส่มาเลย</p>
<p>"ผมวิ่งหนีไม่ทัน กระสุนยางยิงมาทะลุหน้ากากหมวกกันน็อคเต็มใบ เศษหน้ากากบาดตาขวาบอด ส่วนลูกกระสุนถางตาซ้าย ตอนนี้มองเห็นแค่แสงเลือนราง” ฐนกร กล่าว</p>
<p>ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย อีกหนึ่งผู้ชุมนุมที่ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุมที่แยกดินแดง เมื่อ 13 ส.ค. 2564 โดยเขาถูกกระป๋องแก๊สน้ำตาปะทะที่ดวงตาขวา ซึ่งเป็นการยิงแก๊สน้ำตาอย่างผิดหลักการสากล โดยยิงลงมาจากทางยกระดับดินแดงเป็นการยิงลงมาจากที่สูงลงมาที่ต่ำ</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53612508676_c3d96ed1de_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย ถูกกระป๋องแก๊สน้ำตาที่แยกดินแดง เมื่อ 13 ส.ค. 2564 (</span><span style="color:#d35400;">ที่มา: iLaw</span><span style="color:#d35400;">)</span></p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>ศุกร์ 13 ไล่ทรราช ทะลุฟ้ายันประท้วงสันธิวิธี นำขบวนไปบ้านพักประยุทธ์</li>
<li>
<p>ครอบครัวเผย 'ไฮโซลูกนัท' เสียตาขวา ประสงค์ดำเนินคดีกับ จนท.จนถึงที่สุดในทุกวิถีทางหวังสร้างบรรทัดฐาน</p>
</li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">พายุ: ชีวิตที่เปลี่ยนไปของผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุม</span></h2>
<p>หลังจากพายุ ถูกกระสุนยางเข้าที่เบ้าตาขวา และมองเห็นแสงเพียงเลือนลาง พายุก็อยู่ในช่วงระหว่างการปรับตัวเพื่อให้ชิน เพราะว่าพอเสียการมองเห็นด้านขวาแล้วทำให้การกะระยะสิ่งของเพี้ยน หรือเวลากะน้ำหนักลงเท้าขึ้น-ลงบันได ก็ลงน้ำหนักผิด และช่วง 3-4 เดือนแรกหลังเสียการมองเห็น พายุ เล่าว่าเขาไม่กล้าขับรถยนต์เลย เพราะกลัวไปเบียดไปชนคนอื่นๆ </p>
<p>นอกจากนี้ พายุ ได้รับผลกระทบที่ท่อน้ำตาตาซ้ายด้วย ทำให้ไม่สามารถไม่ควบคุมการไหลของน้ำตาได้ บางวันอากาศร้อนน้ำตาไหล หาวอยู่ดีๆ น้ำตาก็ไหล ก็ต้องพกผ้าเช็ดหน้า หรือทิชชู่คอยซับน้ำตาที่ไหลเป็นประจำ แต่พายุ มองว่าเป็นเรื่องรำคาญใจมากกว่า แต่ไม่เป็นปัญหาการใช้ชีวิตประจำวัน </p>
<p>ปัจจุบัน นักกิจกรรมกลุ่มดาวดิน ต้องตรวจเช็กสุขภาพตาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ อย่างน้อย 2 แห่ง แห่งหนึ่งเพื่อเช็กอาการด้านซ้าย และสอง เพื่อทำความสะอาดตาเทียม พายุเล่าว่าตอนนี้เช็กอาการว่าตาเทียมที่ใส่มีผลกระทบด้านสุขภาพหรือไม่ เพราะแพทย์เคยแจ้งไว้ว่า ถ้าตาข้างหนึ่งมันเสีย มันอาจจะเกิดผลกระทบต่อตาอีกข้างที่ยังใช้งานได้ปกติ เช่น ตาแดงกว่าปกติ ตาติดเชื้อ เป็นต้อกระจกโดยไม่มีสาเหตุ หรืออยู่ดีๆ ตาบอดไปเลย โดยอาการจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน แต่มันจะเกิดขึ้นน้อยมาก 1 ใน 5 แสน เลยต้องติดตามอาการ (Follow-up) เรื่องนี้บ่อย</p>
<p>ส่วนเรื่องค่ารักษานั้น พายุ ประเมินว่าน่าจะอยู่ที่ใช้จ่ายจนถึงปัจจุบัน อยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นบาท ทว่าพายุมองว่ากรณีของเขามีคนช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่าย และแน่นอนว่า “ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รัฐ”</p>
<p>แผนการรักษาในอนาคต พายุเล่าให้ฟังว่า เขามีแผนจะย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลที่จังหวัดขอนแก่นใกล้บ้าน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายการเดินทาง แต่อยากเช็กอาการให้แน่ใจว่าเขาไม่มีอาการจากผลค้างเคียงจากการสูญเสียการมองเห็นตาซ้าย</p>
<p>พายุ กล่าวด้วยว่า เมื่อปีที่แล้ว (2566) เหมือนได้พักผ่อนตลอดทั้งปี ได้ฝึกซ้อมเรื่องการใช้ชีวิตตัวเอง ส่วนที่ทำงานเขาก็เข้าใจ และช่วยสนับสนุนเรื่องเงินเดือน </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">เสียงจากญาติผู้เสียชีวิตจากการถูกลูกหลงสลายการชุมนุม </span></h2>
<p>วันที่ 15 ส.ค. 2564 เมื่อเวลา 21.00 น. มานะ หงษ์ทอง อายุ 64 ปี นอนหมดสติอยู่บนฟุตบาธละแวกดินแดง มานะถูกวัตถุบางอย่าง คาดว่าเป็นกระสุนยางยิงเข้าที่บริเวณหน้าผากของมานะ ทำให้เขาล้มหงายหลังหัวฟาดพื้น ส่งผลให้มีแผลเลือดคั่งในสมอง ชายวัย 64 ปีเข้ารักษาในห้องฉุกเฉิน (ICU) นานถึง 3 เดือน พอออกจากโรงพยาบาล ก็กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงทุพพลภาพ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ก่อนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2565 โดยแพทย์ชันสูตรว่าเสียชีวิตจากโควิด-19 </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/52343019445_51b7704611_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">เหตุการณ์ขณะที่มานะ หงษ์ทอง ชายวัย 64 ปี ถูกลูกหลง บาดเจ็บสาหัสบริเวณศีรษะ เมื่อ 15 ส.ค. 2564</span></p>
<p>เอกรินทร์ หงษ์ทอง หลานชายของมานะ อายุ 44 ปี บอกว่า ตอนนั้นทุกคนช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับน้ามานะ เพราะน้าเป็นคนเฮฮาสนุกสนาน และอยู่ดีๆ เขากลับมาป่วยซึ่งไม่ได้มาจากโรคประจำตัว แม่ของเอกรินทร์ ซึ่งเป็นน้องสาวของมานะ ก็ชราแล้วต้องลำบากมาดูแล และเดิมทีแม่เขาป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอยู่แล้ว ก็ต้องแบกรับความเครียด และหนักพอสมควรสำหรับแม่เขา แม่เขาสะเทือนใจอยู่แล้วน้องเขาทั้งคนต้องจากไป เพราะอยู่ด้วยกันมาทั้งชีวิต</p>
<p>เอกรินทร์ กล่าวว่า หลังจากมานะเสีย พวกเขาได้รับการเยียวยาเพียงครั้งเดียวจากกรมคุ้มครองสิทธิ โดยให้เงินช่วยเหลือเป็นจำนวน 177,193 บาท และยังไม่มีหน่วยงานรัฐออกมารับผิดชอบในกรณีนี้ </p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>ชายวัย 64 ปี ผู้ถูกลูกหลงจากกระสุนยางเข้าที่ศีรษะ บริเวณแยกดินแดง เสียชีวิตแล้ว-ญาติติดใจผลชันสูตร</li>
<li>“กรมคุ้มครองสิทธิ” มอบเงินเยียวยาแก่ญาติของ ‘มานะ หงษ์ทอง’ เหยื่อผู้เสียชีวิตจากกระสุนยาง</li>
<li>นักกฎหมายสิทธิฯ ร้อง กสม. เร่งสอบเหตุ ปชช.ถูกกระสุนยาง หลังทุพพลภาพมาครึ่งปี</li>
<li>น้องสาว 'มานะ หงษ์ทอง' เหยื่อกระสุนยาง #ม็อบ15สิงหา เข้าแจ้งความ หาตัวผู้กระทำผิด</li>
<li>กสม.ชี้ คฝ.ละเลยให้ความช่วยเหลือ ‘มานะ หงษ์ทอง’ ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากเหตุสลายการชุมนุมแยกดินแดง</li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">เริ่มจากตั้ง คกก.สืบข้อเท็จจริงที่ต้องเป็น 'อิสระ'  </span></h2>
<p>เมื่อถามว่าจะเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุมอย่างไร รังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงหลักการการเยียวยาของผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุม โดยโรม เห็นด้วยว่าต้องมีการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุมไม่เป็นไปตามหลักการสากล และกลไกรัฐบาลสามารถทำให้เกิดการเยียวยาได้ </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53565102999_b41166df81_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">รังสิมันต์ โรม</span></p>
<p>ก่อนหน้านี้ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยออกมติ ครม. เมื่อ 10 ม.ค. 2555 นำมาสู่การจ่ายเยียวยาให้ผู้ได้รับผลกระทบจากการความรุนแรงหรือเหตุขัดแย้งทางการเมืองระหว่างปี 2548-2553 โดยผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินเยียวยารวมกันสูงสุด 7.75 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินชดเชย 4.5 ล้านบาท เงินเยียวยาด้านจิตใจ 3 ล้านบาท และเงินช่วยเหลือค่าปลงศพ 2.5 แสนบาท คราวนั้นมีผู้มายื่นขอเงินเยียวยามากกว่า 2,300 ราย แบ่งเป็นเสียชีวิต 102 ราย (เฉพาะปี 2553 มี 98 ราย) และบาดเจ็บอีกกว่า 2,200 ราย รวมวงเงินที่ใช้ไม่เกิน 2 พันล้านบาท ซึ่งตรงนี้สะท้อนว่ากลไกของรัฐบาลมีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบได้ </p>
<p>รังสิมันต์ กล่าวเพิ่มว่า รัฐบาลสามารถเริ่มจากการตั้งคณะกรรมการเพื่อสืบหาความจริง เพื่อนำมาสู่การเยียวยา รัฐบาลมีอำนาจที่จะคุยกับหน่วยงานต่างๆ หรือเข้าถึงข้อมูลในส่วนที่ประชาชนเข้าไม่ถึง เพื่อนำมาประมวลผล และทำเป็นวิธีการว่าควรเยียวยาใคร และเท่าไรบ้าง แต่สำคัญที่สุดคือต้องเป็น "อิสระ" </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">หลักการเยียวยา ต้องคืนความเป็น "ปกติ" มากที่สุด</span></h2>
<p>รังสิมันต์ โรม กล่าวว่า พื้นฐานหลักการเยียวยาควรครอบคลุมกลุ่มบุคคล หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยตรงที่ได้รับผลกระทบจากการแสดงออกทางการเมือง หลักเกณฑ์เบื้องต้นที่จะใช้ และต้องเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการดำเนินคดีความจากนิติวิธี เพราะว่าความเสียหายไม่ได้เกิดจากการแค่รถฉีดน้ำ หรือการทุบตี แต่มีการดำเนินคดี ทำให้ชีวิตของคนหนึ่งถูกทำลายในรูปแบบต่างๆ สูญเสียงาน ครอบครัวแตกแยก เกณฑ์ชี้วัดตรงนี้ต้องไปดูว่าเขาได้รับผลกระทบจากรัฐทางตรงหรือทางอ้อม</p>
<p>นอกจากนี้ สส.พรรคก้าวไกล ระบุด้วยว่า การเยียวยาต้องครอบคลุมไปยังผู้ได้รับผลกระทบทางอ้อมจากข้อมูลของรัฐบาลที่ทำให้ผู้ชุมนุม หรือคนเห็นต่างทางการเมือง ถูกมองในเชิงลบ เป็นคนไม่ดี และไปทำร้ายร่างกายพวกเขาทั้งด้านจิตใจและร่างกาย ซึ่งกรณีนี้ต้องดูเป็นรายกรณีว่าแต่กรณีควรได้รับการเยียวยาเท่าไร แน่นอนว่าไม่เท่าทุกคน เพราะต้องดูตามความเสียหายที่เกิดขึ้น</p>
<p>สส.ก้าวไกล มองรูปแบบการเยียวยาสำคัญคือต้องทำให้ประชาชนกลับสู่ 'สภาวะปกติ' ให้ได้มากที่สุด ซึ่งการเยียวยาแค่เงินอย่างเดียวไม่ได้การันตีว่าเงินนั้นจะช่วยเยียวยาสภาพจิตใจอย่างเต็มที่ แต่เราหวังให้กระบวนการเยียวยาไปสู่การเยียวยาจิตใจด้วย บางคนป่วยเป็น PSTD </p>
<p>ทั้งนี้ รายงานของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ
(คอป.) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553-2555
ระบุว่า รัฐต้องอำนวยความสะดวกให้การเยียวยาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม เหมาะสมกับความเสียหายและความสูญเสียลักษณะต่างๆ เช่น การเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจอย่างถูกวิธีโดยมีแนวทางในการ ติดตามเพื่อบำบัดฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง การฟื้นฟูเกียรติยศของเหยื่อ การให้คำปรึกษาและการให้ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย และอื่นๆ</p>
<p>ทั้งนี้ โรม ยอมรับว่า อุปสรรคสำคัญคือการบริหารจัดการ เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายยิ่งถ้าจำนวนมันเยอะ ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ แล้วรูปแบบความเสียหายเป็นอย่างไรบ้าง มันไม่ใช่แค่เสียชีวิต หรือเสียอวัยวะ หรือการได้รับการบาดเจ็บจากถูกทำร้าย แต่ยังเป็นความบาดเจ็บทางด้านจิตใจด้วย ถ้ามีข้อมูลตรงนี้ รัฐก็อาจจะออกแบบการเยียวยาที่มากกว่าตัวเงินได้</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">เห็นตรงกัน การเยียวยาต้องครอบคลุมด้านจิตใจ</span></h2>
<p>แม้ว่าเมื่อปลายปี 2563 สื่อ "เบนาร์นิวส์" รายงานว่า ศาลแพ่งมีคำสั่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุม 5 จาก 9 ราย เป็นจำนวนเงิน 3.07 แสนบาท และคิดดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี นับจากวันฟ้อง จากกรณีที่ตำรวจใช้กำลังสลายการชุมนุมบริเวณหน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2563 </p>
<p>อีก 4 ราย ศาลยกฟ้องเนื่องจากไม่ปรากฏหลักฐานว่าอยู่ในที่ชุมนุม หรือได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุม ทั้งนี้ จากการชุมนุมดังกล่าว ศูนย์แพทย์ฉุกเฉินเอราวัณ รายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บราว 41 ราย</p>
<p>พายุ มองว่า แม้ว่าเขาจะโดนหนักที่สุด แต่การชดเชยเฉพาะเงินไม่แน่ใจว่ามันจะชดเชยความสูญเสียทั้งหมดได้ไหม เพราะว่าชาวบ้านที่มาร่วมชุมนุมบางคนโดนกระบองฟาด หรือบางคนกำลังต่อสู้กับปัญหาในพื้นที่ของเขา แต่พอเข้ามาใน กทม.และต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ กลายเป็นชาวบ้านไม่กล้าสู้เพื่อความถูกต้อง หรือสู้กับกฎหมายที่กดขี่พวกเขา </p>
<p>"ผมก็ตอบแทนพี่น้องที่โดนไม่ได้ว่ามันจะต้องเป็นจำนวนเงินเท่าไรที่จะครอบคลุมสภาพจิตใจ หรือครอบคลุมความสูญเสียทั้งหมดได้ ผมเลยคิดว่าเป็นรายละเอียด และเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนเหมือนกัน การเยียวยาในลักษณะของตัวเงินอาจจะไม่ได้เพียงพอ ถ้าเกิดเราพูดในลักษณะนี้" นักกิจกรรมด้านปฏิรูปที่ดินอีสาน ระบุ</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ไร้คำขอโทษ หรือการรับผิดชอบจากภาครัฐ</span></h2>
<p>อลงกต สงพัฒน์แก้ว ประชาชนทั่วไป อายุ 35 ปี เขาเป็นคนที่ถูกกระสุนยางยิงในระยะประชิด จนได้รับบาดเจ็บระหว่างเข้าร่วมเดินขบวนจากแยกปทุมวัน เพื่อไปยื่นหนังสือที่สถานทูตเยอรมนี ประจำประเทศไทย ถ.สาทร กรุงเทพฯ ม็อบ "ต่อต้านระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์" เมื่อ 14 พ.ย. 2564 </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/51706088078_3927134e87_h.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">บาดแผลที่แห้งแล้วของอลงกต สงพัฒน์แก้ว (แฟ้มภาพเมื่อปี 2565)</span></p>
<p>เหตุการณ์เกิดขึ้นขณะที่ผู้ชุมนุมกำลังเดินโดนใช้เส้นทางถนนพระราม 1 แบะเลี้ยวขวาที่แยกเฉลิมเผ่า เพื่อเข้าถนนอังรีดูนังต์ อลงกตซึ่งอยู่แนวหน้าของขบวนถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนใช้กระสุนยางยิงระยะใกล้ราว 3-4 เมตร ถูกเข้าที่บริเวณไหล่และข้างลำตัวของเขา จนได้รับบาดเจ็บและต้องพักรักษาตัวนาน 3-4 เดือน </p>
<p>รายงานของ iLaw ระบุว่า เมื่อ 14 พ.ย. 2564 มีผู้ชุมนุมถูกยิงในระยะประชิด 3 คน ประกอบด้วย อลงกต, อนันต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ถูกกระสุนยางที่บริเวณหัวไหล่ และ 'ภิญโญ' (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ถูกยิงด้วยกระสุนไม่ทราบชนิดบริเวณกลางหน้าอก ซึ่งจากรายงานการตรวจสอบของกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ สภาผู้แทนราษฎร เผยว่าจนถึงปัจจุบัน ตำรวจไม่เคยแสดงหลักฐาน

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

นักข่าวหัวเห็ด แห่งเวบสุขใจ
อัพเดตข่าวทันใจ ตลอด 24 ชั่วโมง

>> http://www.SookJai.com <<
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
[ข่าวมาแรง] - 'บาดเจ็บ พิการ เสียชีวิต' การเยียวยาเหตุสลายชุมนุมปี'63-65 ที่ยังมีคำถาม
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 30 กระทู้ล่าสุด 27 มีนาคม 2567 03:29:49
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - 'บาดเจ็บ พิการ เสียชีวิต' การเยียวยาเหตุสลายชุมนุมปี'63-65 ที่ยังมีคำถาม
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 37 กระทู้ล่าสุด 27 มีนาคม 2567 09:44:18
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - 'บาดเจ็บ พิการ เสียชีวิต' การเยียวยาเหตุสลายชุมนุมปี'63-65 ที่ยังมีคำถาม
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 39 กระทู้ล่าสุด 28 มีนาคม 2567 02:52:29
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - 'บาดเจ็บ พิการ เสียชีวิต' การเยียวยาเหตุสลายชุมนุมปี'63-65 ที่ยังมีคำถาม
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 31 กระทู้ล่าสุด 08 เมษายน 2567 12:58:29
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - 'บาดเจ็บ พิการ เสียชีวิต' การเยียวยาเหตุสลายชุมนุมปี'63-65 ที่ยังมีคำถาม
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 36 กระทู้ล่าสุด 09 เมษายน 2567 01:20:53
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.838 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page วานนี้