เคสแรกยุค 'เศรษฐา' 2 สมาชิก P-move รับทราบข้อหา ฐานฝ่าฝืนห้ามชุมนุม 50 เมตรรอบทำเนียบ
<span class="submitted-by">Submitted on Fri, 2024-03-29 16:08</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพปก: (ซ้าย) จำนงค์ หนูพันธ์ และ (ขวา) ธีรเนตร ไชยสุวรรณ (ภาพจากเครือข่าย)</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>2 สมาชิก P-move รับทราบข้อหาฝ่าฝืนห้ามชุมนุม 50 เมตรรอบทำเนียบรัฐบาล จากการชุมนุม #พีมูฟทวงสิทธิ เดือน ก.พ. 2567 ถือเป็นเคสแรกยุค 'เศรษฐา' เบื้องต้น ทั้งคู่ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และเรียกร้องให้มีการยกเลิก พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ชี้ลิดรอนสิทธิ ปชช.</p>
<p> </p>
<p>29 มี.ค. 2567 องค์กร Protection international (PI) รายงานวานนี้ (28 มี.ค.) ว่า ที่สถานีตำรวจนครบาลดุสิต ตัวแทนของขบวนการภาคประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ได้เดินทางเข้าร่วมให้กำลังใจ ธีรเนตร ไชยสุวรรณ ประธานพีมูฟ และจำนงค์ หนูพันธ์ ที่ปรึกษาพีมูฟ ในกรณีที่ทั้ง 2 คนถูกสถานีตำรวจนครบาลดุสิต ออกหมายเรียกตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 ในข้อหาเป็นผู้จัดให้มีการชุมนุม ฝ่าฝืนคำสั่งประกาศ 50 เมตร รอบทำเนียบรัฐบาล </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53618050506_2d172b0bf7_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">พีมูฟรับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ดุสิต (ภาพจากทางเครือข่าย)</span></p>
<p>สมาชิกพีมูฟทั้ง 2 คนได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตนเอง พร้อมด้วยทนายความจากมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน (CRC) และเจ้าหน้าที่จากองค์กร Protection International </p>
<p>สำหรับคดีดังกล่าวนี้สืบเนื่องมาจากพีมูฟ ได้ชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาตามที่สัญญากันไว้โดยการชุมนุมครั้งล่าสุดของพีมูฟเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 5-28 ก.พ. 2567 รวมเวลาทั้งสิ้น 24 วัน </p>
<p>ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นการชุมนุม ได้มีหมายเรียกผู้ต้องหาส่งมาถึงธีรเนตร ไชยสุวรรณ โดยเป็นคดีระหว่าง พ.ต.ท.ชัยธัช เชียงทา ผู้กล่าวหา กับ จำนงค์ หนูพันธ์กับพวกผู้ถูกกล่าวหา โดยมีข้อกล่าวหา คือ เป็นผู้จัดให้มีการชุมนุม ฝ่าฝืนคำสั่งประกาศ 50 เมตรรอบทำเนียบรัฐบาล ในคดีอาญา สน.ดุสิตที่ 41/2567, 63/2567 และ 64/2567</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ทำตามกระบวนการทุกอย่าง กลับถูกฟ้อง</span></h2>
<p>ทั้งนี้ หลังใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงในการรับทราบข้อกล่าวหา ธีรเนตร เปิดเผยความรู้สึกว่า เบื้องต้น เขาคิดว่า รัฐบาลที่อ้างตัวว่าเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมาจากประชาธิปไตยแล้วไม่น่ามาฟ้องร้องหรือแจ้งข้อกล่าวหาประชาชนแบบนี้ และการมาชุมนุมเรียกร้องของพีมูฟก็เป็นสิ่งที่เราทำและยืนยันที่จะทำมาโดยตลอด เพราะเป็นช่องทางเดียวที่จะส่งเสียงถึงผู้มีอำนาจให้มาแก้ปัญหาให้กับประชาชน </p>
<p>ประธานพีมูฟ กล่าวว่า ก่อนที่จะมีการประกาศชุมนุมเราก็ได้แจ้งการชุมนุมไว้แล้ว ด้วยการชุมนุมที่ยืดเยื้อและรัฐบาลแก้ไขปัญหาช้า แต่ก็มีการแก้ปัญหาเป็นระยะตามสภาพของแต่ละกระทรวงซึ่งเราก็ไปแจ้งขยายเวลาการชุมนุมแล้ว แต่สุดท้ายแล้วพอหลังจากเลิกชุมนุมไปวันที่ 28 มี.ค. 2567 ประมาณอาทิตย์กว่าๆ ก็มีหมายไปถึงบ้านตน</p>
<p>จำนงค์ เปิดเผยความรู้สึกหลังรับทราบข้อกล่าวหาเสร็จสิ้นแล้วเช่นกันว่า เรื่องการฟ้องร้องพวกตนในครั้งนี้เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย และเราก็ยืนย้นมาโดยตลอดว่าเรามาทวงสิทธิในเรื่องที่รัฐบาลรับปากไว้และไม่ได้ทำตาม ตั้งแต่ปีที่แล้ว รัฐบาลทำงานมาเจ็ดเดือนแล้วแต่ยังไม่ได้ทำงานอะไรที่แก้ไขปัญหาให้กับงประชาชน หลายเรื่องที่เรามาตามไม่ใช่เราทำเพื่อพีมูฟอย่างเดียว แต่เราทำเพื่อพี่น้องคนส่วนใหญ่ของประเทศ เช่น เรื่องรัฐสวัสดิการ เรื่องการเปลี่ยนเบี้ยยังชีพเป็นบำนาญแห่งชาติซึ่ง และในอีกหลายๆ ประเด็น</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">เห็นตรงกันต้องยกเลิก พ.ร.บ.ชุมนุมฯ</span></h2>
<p>ธีรเนตร กล่าวย้ำว่า ตนคิดว่ากระบวนการปิดกั้นเสรีภาพของประชาชนเหล่านี้รัฐบาลควรจะยกเลิกกฎหมายนี้ออกไป เรายังยืนยันเหมือนเดิมว่า พ.ร.บ. ชุมนุมไม่ได้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ เป็นไปด้วยการปิดปากพี่น้องหรือปิดปากคนที่อยากแสดงออกในพื้นที่สาธารณะ หรือปิดปากคนที่มีความเดือดร้อนรัฐบาลควรที่จะยกเลิก พ.ร.บ.นี้</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53618055691_49d932cdb5_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">(ซ้าย) จำนงค์ หนูพันธ์ และ (ขวา) ธีรเนตร ไชยสุวรรณ (ภาพจากเครือข่าย)</span></p>
<p>"เรายืนยันในแนวทางของเราว่าสิ่งที่เราเรียกร้องในการชุมนุมเป็นแนวทางเดียวที่จะแก้ไขปัญหาของพี่น้องได้ เราจะปักหลักที่จะชุมนุมต่อเพื่อให้รัฐบาลลดความเหลื่อมล้ำในสังคมและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของพี่น้องและนำไปสู่บรรยากาศที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง" ประธานพีมูฟ กล่าว</p>
<p>ที่ปรึกษาพีมูฟ กล่าวว่า สิ่งที่ทำให้ตนรู้สึกผิดหวัง เพราะตนเคยโดนคดีใน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ สมัยรัฐบาลที่แล้วประมาณ 8 คดี แต่พอมาเป็นรัฐบาลชุดนี้รู้สึกว่าจะเป็นกรณีแรกของภาคประชาชนที่โดน พ.ร.บ.ชุมนุมฯ เขาเลยผลักดันว่า พ.ร.บ. ชุมนุมฯ มันไม่มีประโยชน์กับประชาชน จะเสนอคณะกรรมาธิการพัฒนาการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชนที่มี พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ให้ยกเลิก เพราะก่อนที่จะมี พ.ร.บ.ชุมนุมฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีแผนการ กฎในการแก้ไขปัญหาผู้ชุมนุมอยู่แล้ว พอมี พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ก็เป็นการเพิ่มภาระ เพิ่มปัญหาให้กับประชาชนที่ออกมาเรียกร้องความเดือดร้อนต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะเรื่องข้อห้ามชุมนุมเกินรัศมี 50 เมตรรอบทำเนียบรัฐบาลยิ่งไม่สมควรมี เพราะปัญหาต่างมันระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด หรือกระทรวงแก้ไม่ได้แล้วถึงต้องมาที่ส่วนกลางทำเนียบรัฐบาล ดังนั้น ข้อห้ามการชุมนุมเกินรัศมี 50 เมตรของทำเนียบรัฐบาลจึงไม่ควรมี ตนยืนยันว่า พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ควรถูกยกเลิกไปในรัฐบาลชุดนี้</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ทำเนียบควรใช้เป็นสถานที่แก้ไขปัญหาประชาชนอย่างมีส่วนร่วมทุกฝ่าย ไม่ควรใช้คุกคามดำเนินคดี</span></h2>
<p>สุธีรา เปงอิน ตัวแทนจาก Protection International ระบุว่า การต่อสู้ของผู้หญิงและนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในพีมูฟ เป็นการต่อสู้เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาในเรื่องสิทธิในที่ดิน ทรัพยากร รัฐสวัสดิการ และปัญหาเรื่องปากท้อง ซึ่งพีมูฟ เรียกร้องเพื่อให้เกิดการแก้ไขมาทุกรัฐบาล แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขได้ และเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ การดำเนินทางด้านนโยบายก็ต้องเริ่มใหม่เช่นกัน </p>
<p>ตัวแทนจาก PI กล่าวว่า รัฐบาลเศรษฐา ทำงานมาแล้วกว่า 7 เดือน พีมูฟชุมนุมแล้ว 3 ครั้ง กว่า 40 วัน เพื่อให้รัฐบาลเศรษฐาดำเนินการการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และนำนโยบาย 10 ด้านของพีมูฟ ให้บรรจุเป็นนโยบายของรัฐบาล ซึ่งหมายรวมถึงนโยบายด้านการคืนสิทธิกลุ่มชาติพันธุ์ แก้ไขกฎหมายและนโยบายด้านป่าไม้-ที่ดิน รัฐสวัสดิการอีกด้วย ก็ยังไม่มีความคืบหน้า แต่กลับถูกคุกคามคือ หมายเรียกในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ เป็นการลิดรอนสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน และเป็นการโจมตีการทำงานที่ชอบธรรมของนักปกป้องสิทธิมนุษยชน</p>
<p>สุธีรา กล่าวเพิ่มเติมว่า การชุมนุมโดยสงบเป็นเครื่งมือที่สำคัญในการปกป้องสิทธิมนุษยชน อีกทั้งยังเป็นสิทธิขั้นฐานที่ระบุอยู่ในรัฐธรรมนูญและกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ที่ผ่านมาการชุมนุมของพีมูฟมีการแจ้งการชุมนุมโดยตลอด และทำเนียบรัฐบาลเป็นสถานที่ที่ใช้ประชุมของคณะรัฐมนตรีเพื่อหารือ แก้ไขปัญหา หรือกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับประชาชน ดังนั้น จึงควรเร่งรัดแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยที่ต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ไม่ใช่มาฟ้องคดีประชาชนในลักษณะนี้</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ทนายเผยให้การปฏิเสธ ไม่กังวลเรื่องคดีความ</span></h2>
<p>วีรวัฒน์ อบโอ ทนายความมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน (CRC) กล่าวว่า วันนี้โดยหลักคือเราก็ให้การปฏิเสธและหลังจากนี้เราจะยื่นให้การเป็นลายลักษณ์อักษรเพิ่มเติมภายในวันที่ 9 เม.ย. 2567 หลังจากเรายื่นคำให้การเพิ่มเติมเสร็จแล้วทางพนักงานสอบสวนจะนัดส่งสำนวนกับตัวผู้ต้องหาให้ทางอัยการในวันที่ 23 เม.ย. 2567 เพื่อที่อัยการจะพิจารณาว่าจะมีคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องในคดีนี้</p>
<p>ทนายความมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน (CRC) กล่าวว่า โดยหลักคดีนี้เป็นการใช้เสรีภาพในแสดงออก คือ การชุมนุมตามรัฐธรรมนูญและโดยพฤติการณ์ในการชุมนุมก็ไม่ได้มีเหตุการณ์ที่จะเกิดความวุ่นวายมันเป็นการชุมนุมเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาของชาวบ้านที่เขาได้รับความเดือดร้อนซึ่งทำได้ตามกฎหมาย แต่ในการแจ้งข้อกล่าวหาก็จะเป็นเรื่องของเทคนิคเล็กน้อยของตำรวจที่ตนอ่านดูโดยตำรวจได้อ้างว่าการชุมนุมได้เข้าไปใกล้ทำเนียบอาจจะเกิดความไม่สะดวกหรือความไม่ปลอดภัยในการอารักขาในการดูแลเลยออกกฎมาว่าห้ามเข้าใกล้ 50 เมตร แต่จริงๆ ถ้าเราอ่านกฎหมายการชุมนุมมันสามารถชุมนุมได้ในพื้นที่ของทำเนียบ ถ้ามันไม่มีเหตุรุนแรงหรือเหตุที่มันจะเกิดความไม่สงบและอยู่ในพื้นที่ที่เขาจัดให้มีการชุมนุมก็สามารถชุมนุมได้</p>
<p>"ถ้าเราดูจากรูปคดีก็ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล เพราะเราใช้สิทธิตามกฎหมาย และเมื่อดูพฤติการณ์ประกอบก็ไม่ได้มีเหตุที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินราชการหรือความสงบสุขของประชาชนแถวนั้น และการชุมนุมก็เป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน และวัตถุประสงค์ของเขาก็ชัดเจนว่าเขามาเพื่อเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากนโยบายของรัฐบาลเป็นหลัก" วีรวัฒน์ กล่าว</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">'พีมูฟ' แถลงถึงรัฐบาลพลเรือน หยุดใช้ กม.ทหารปิดปากประชาชน</span></h2>
<p>วันเดียวกันนี้ พีมูฟ ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง "หยุดปิดกั้นเสรีภาพประชาชน หยุดใช้กฎหมายทหารในรัฐบาลพลเรือน" โดยมีใจความสำคัญบางส่วนระบุว่า จากการชุมนุมพีมูฟทวงสิทธิที่ผ่านมา เราได้ดำเนินการแจ้งการชุมนุมสาธารณะ และระหว่างการชุมนุมที่มีแนวโน้มต้องปักหลักชุมนุมนานกว่าเดิม เราก็ได้แจ้งขยายระยะเวลาการชุมนุมไป ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ชุมนุมพีมูฟและตัวแทนรัฐบาลได้มีการประชุมหารือร่วมกันอยู่เป็นระยะจนได้แนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนและสมเหตุสมผล จึงได้ยุติการชุมนุม</p>
<p>อำนาจต่อรองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประชาชนคือการเรียกร้องบนท้องถนนเพื่อให้รัฐบาลเปิดการเจรจา การชุมนุมโดยสงบคือสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นที่ที่ประชาชนคนยากคนจนพึงมีเพื่อให้รัฐบาลเห็นหัว เมื่อการใช้สิทธิกลับผิดกฎหมาย เราจึงขอประณามรัฐบาลโดยการนำของนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ยังเดินหน้าละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการชุมนุมอย่างสันติ และยังคงบังคับใช้พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 อย่างไร้มนุษยธรรม</p>
<p>กฎหมายดังกล่าวเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ซึ่งขณะนี้มีการดำเนินคดีไปแล้วทั้งสิ้น 163 คดี สำหรับคดีของพวกเราพีมูฟนั้น นับเป็นการถูกดำเนินคดีครั้งแรกจากการชุมนุมในรัฐบาลเศรษฐา บรรยากาศการบังคับใช้กฎหมายปิดปากประชาชนเช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้นแล้วในรัฐบาลที่อ้างตัวว่ามาจากการเลือกตั้ง เป็นประชาธิปไตย และเป็นรัฐบาลพลเรือน</p>
<p>พีมูฟจึงขอเรียกร้องให้ต้องยกเลิกคดีความนี้โดยเร่งด่วน และเรายืนยันว่าจะเคลื่อนไหวในชั้นคณะกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎร และช่องทางอื่นๆ เพื่อให้ตรวจสอบการบังคับใช้กฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนนี้ และเรียกร้องให้ยกเลิกการบังคับใช้พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะในที่สุด</p>
<p>ท้ายที่สุดนี้ เรายืนยันว่า สิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 44 และมาตรา 34 รวมถึง ICCPR ที่ไทยร่วมเป็นภาคีด้วยก็ตาม แต่หลังการชุมนุมยุติลง การมีหมายเรียกมายังตัวแทนพีมูฟด้วยข้อกล่าวหาจาก พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะเช่นนี้นั้น ชวนให้น่ากังวลใจอย่างยิ่งว่า หลังจากนี้เสรีภาพในการชุมนุมและสิทธิในการแสดงความเห็นของประชาชนภายใต้รัฐบาล 'เศรษฐา ทวีสิน' จะดำเนินไปในทิศทางใด ขอเชิญชวนประชาชนจับตาร่วมกัน</p>
<div class="note-box">
<h2><span style="color:#2980b9;">แถลงการณ์ P-move</span></h2>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53618058421_76e31d3754_b.jpg" /></p>
</div>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2024/03/108610