[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
10 กรกฎาคม 2568 05:57:02 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - คปฐ.เสนอนายกฯ รับมือสงครามเมียวดี ตั้งคณะทำงานที่มีส่วนร่วมทุกภาคส่วน-เล่นบทต  (อ่าน 203 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สุขใจ ข่าวสด
I'm Robot
สุขใจ บอทนักข่าว
นักโพสท์ระดับ 15
****

คะแนนความดี: +101/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Italy Italy

กระทู้: มากเกินบรรยาย


บอท @ สุขใจ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 12 เมษายน 2567 20:17:27 »

คปฐ.เสนอนายกฯ รับมือสงครามเมียวดี ตั้งคณะทำงานที่มีส่วนร่วมทุกภาคส่วน-เล่นบทตัวกลางสร้างสันติภาพ
 


<span>คปฐ.เสนอนายกฯ รับมือสงครามเมียวดี ตั้งคณะทำงานที่มีส่วนร่วมทุกภาคส่วน-เล่นบทตัวกลางสร้างสันติภาพ</span>
<span><span>XmasUser</span></span>
<span><time datetime="2024-04-12T18:42:41+07:00" title="Friday, April 12, 2024 - 18:42">Fri, 2024-04-12 - 18:42</time>
</span>

            <div class="field field--name-field-byline field--type-text-long field--label-hidden field-item"><p>ภาพปก: ประชาชนจากฝั่งเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง รอข้ามแดนในช่วงเช้าวันนี้ (10 เม.ย. 67) (ที่มา: นักข่าวพลเมือง)</p></div>
     
            <div class="field field--name-body field--type-text-with-summary field--label-hidden field-item"><p>เครือข่ายปฏิรูปการโยกย้ายถิ่นฐาน (คปฐ.) ส่งข้อเสนอถึงนายกฯ รับมือสถานการณ์สงครามเมียวดี ตั้งศูนย์ประสานงานที่มีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ดูแลเรื่องสุขภาพ เฝ้าระวังป้องกันโรค เป็นตัวกลางการเจรจาสันติภาพหาทางออกในประเทศเมียนมาลดผลกระทบต่อไทย ส่วนผู้หนีภัยสงคราม ต้องไม่มีการผลักดันกลับ ชงใช้ ม.19 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ให้อยู่ไทยได้ชั่วคราว</p><p>&nbsp;</p><p>12 เม.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งวานนี้ (11 เม.ย.) เครือข่ายปฏิรูปการโยกย้ายถิ่นฐาน (คปฐ.) (Thailand Migration Reform Consortium) ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต่อการมีมาตรการรับมือสงครามเมียวดี ฝั่งรัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา โดยเรียกร้องให้ไม่มีการผลักดันผู้หนีภัยสงครามกลับไปเผชิญอันตราย มีการตั้งตั้งศูนย์ประสานงานที่มีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ดูแลเรื่องสุขภาพ เฝ้าระวังป้องกันโรค และเล่นบทเป็นตัวกลางการเจรจาสันติภาพหาทางออกในประเทศเมียนมา</p><p>รายละเอียดจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้สืบเนื่องจากเมื่อ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา กองกำลังต่อต้านทหารพม่า ผสม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย กองกำลังปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) กองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) หรือชื่อใหม่ KNA และกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) ได้ร่วมกันโจมตีและผลักดันค่ายทหารกองพันที่ 355 356 และ 357 ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ตั้งอยู่ปากทางเข้าเมืองเมียวดี และเส้นทางการค้า ถนนเอเชียหมายเลข 1 (เชื่อมไปยังกอกะเร็ก ย่างกุ้ง และยาวไปถึงชายแดนอินเดีย) ออกไปได้</p><p>ต่อมา เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 เม.ย. 2567 มีรายงานข่าวจากสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง ปีกการเมืองของ KNLA สามารถเข้าไปในค่ายกองพัน 275 หรือค่ายผาซอง ได้แล้ว พร้อมกับเข้ายึดอาวุธและยุทโธปกรณ์จำนวนมาก ขณะเดียวกัน ทหารของกองพัน 275 ได้เดินทางไปประชิดห่างจากด่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 อ.แม่สอด จ.ตาก ประมาณ 5 กิโลเมตร รวมถึงการพยายามเสริมกำลังทหารเมียนมาเข้ามาในพื้นที่ของรัฐกะเหรี่ยงมากขึ้น</p><p class="text-align-center picture-with-caption"><img src="https://live.staticflickr.com/65535/53646544459_6f63c209cc_k.jpg" width="1920" height="1080" loading="lazy">ภาพอาวุธของกองทัพพม่าที่ KNU ยึดได้จากค่ายผาซอง หรือค่ายกองพัน 275 (ที่มา: KNU)</p><div class="more-story"><p><strong>เรื่องที่เกี่ยวข้อง</strong></p><ul><li>ด่านแม่สอด-เมียวดียังเปิดปกติ-คนแห่ข้ามแดน ทหารกะเหรี่ยงรบต่อเนื่องชิงฐานกองพัน 275</li><li>ยืนยัน KNU แถลงยึดค่ายทหารพม่ากองพัน 275 เมืองเมียวดี</li><li>ทหารกะเหรี่ยง KNLA บุกตีค่ายทหารพม่ากองพัน 275 ประชิดเมืองเมียวดี</li><li>ทหารกะเหรี่ยง KNLA ยึดฐานกองทัพพม่า จุดยุทธศาสตร์ปากทางเข้าเมียวดีเบ็ดเสร็จ</li></ul></div><p>&nbsp;</p><p>ทั้งนี้ ผลจากการสู้รบอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีผู้หนีภัยสงคราม (ผู้ลี้ภัย) เข้ามาหลบภัยภายในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง จำนวน 77 คน อ้างอิงจากแถลงการณ์ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก เรื่อง สถานการณ์ชายแดนพื้นที่ จังหวัดตาก ฉบับที่ 281 วันที่ 9 เม.ย. 2567 และเมื่อ 9-11 เม.ย. ที่ผ่านมา จากการรายงานสื่อหลายสำนัก ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 (บริเวณตลาดริมเมย) ยังคงมีประชาชนจากฝั่งเมียนมาหลั่งไหลเข้ามาในดินแดนไทย โดยบางส่วนเพื่อประทับหนังสือผ่านแดนชั่วคราว (Border Pass) ซึ่งจะได้รับอนุญาตให้อยู่อาศัยในประเทศไทยได้เพียง 7 วัน แต่หากสถานการณ์รุนแรงเพิ่มขึ้น และทำให้มีการปิดด่านพรมแดนก็อาจส่งผลให้ชาวเมียนมาที่ใช้หนังสือผ่านแดนชั่วคราวตกเป็นผู้เข้าเมืองผิดกฎหมาย</p><p>ทาง คปฐ. จึงมีข้อเสนอถึงรัฐบาลไทย เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นจากสงครามเมียวดี จำนวน 7 ข้อดังนี้ 1. กระทรวงการต่างประเทศ เร่งจัดตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อรับมือสถานการณ์เมียนมา โดยให้มีหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ ภาควิชาการ และภาคประชาสังคม เข้าไปมีส่วนร่วมในการวางแผนรับมือและร่วมตัดสินใจการดำเนินการ</p><p>2. กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์สั่งการชายแดนเร่งรัดให้มีการประชุมจัดทำแผนการทำงานในสถานการณ์ฉุกเฉินร่วมกัน โดยการมีส่วนร่วมของผู้แทนองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และหน่วยงานให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมในพื้นที่ รวมถึงการมีมติเสนอให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติพิจารณาอนุญาตเปิดจุดผ่อนปรนเพื่อให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเพิ่มเติมเป็นการเร่งด่วน</p><p>3. นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยต้องกำชับผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารในพื้นที่จังหวัดชายแดนให้ดำเนินการตามมาตรา 13 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ซึ่งได้บัญญัติหลักการห้ามผลักดันกลับไปสู่อันตราย (Non-refoulement Principle) ตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights หรือ ICCPR) การปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมาน และการกระทำอื่น ๆ ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (Convention Against Torture and other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or Punishment หรือ CAT) อย่างเคร่งครัด</p><p>4. กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการต่างประเทศ ต้องเร่งพิจารณาทบทวนแนวทางการอนุญาตให้ผู้หลบหนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาเข้ามาในประเทศไทยได้ด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรมเป็นการชั่วคราว เพื่อที่จะได้สามารถดำเนินการบริหารจัดการได้อย่างเป็นระบบ</p><p>5. กระทรวงสาธารณสุข เตรียมความพร้อมในการควบคุมและป้องกันโรคระบาดในพื้นที่ชายแดน และรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความรุนแรง &nbsp;</p><p>6. สภาความมั่นคงแห่งชาติ และกระทรวงมหาดไทยเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาใช้อำนาจตามมาตรา 17 ของพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ให้ความเห็นชอบอนุญาตให้คนต่างด้าวซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการอนุญาตสิ้นสุดลงและมีความจำเป็นที่ต้องหลบหนีความรุนแรง หรือทำงานเลี้ยงชีพ หรือศึกษาต่อ ให้อยู่อาศัยและทำงานได้เป็นการชั่วคราว เพื่อให้เข้าสู่การบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นระบบและตอบสนองความต้องการของภาคเศรษฐกิจของไทยอย่างเร่งด่วน</p><p>7. กระทรวงการต่างประเทศแสดงบทบาทนำในการเปิดพื้นที่เจรจากับรัฐบาลทหารเมียนมาและฝ่ายต่อต้านและประสานสมาคมสหประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) เพื่อเจรจาหาแสวงหาทางออกทางการเมืองจากสงครามการเมืองภายในประเทศเมียนมาเพื่อลดความรุนแรงอันจะส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวเมียนมา</p><h2>คปฐ. มอง รบ.คาดผู้หนีภัยทะลักมากสุด 1 แสนคน อาจน้อยไป มองไทยต้องแสดงบทบาทตัวกลางเจรจาลดผลกระทบ</h2><p>วานนี้ (11 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ศิววงษ์ สุขทวี สมาชิก คปฐ. ต่อการประเมินสถานการณ์ มุมมองต่อการจัดการของรัฐบาลไทย และข้อเสนออย่างเป็นรูปธรรมต่อการจัดการผู้ลี้ภัยสงครามที่จะเข้ามา เพราะการต่อสู้ในเขตเมียวดี</p><p>ศิววงษ์ ประเมินว่า สถานการณ์ในเมียนมาจะไม่จบโดยง่าย เนื่องจากการบุกยึดเมียวดีของกองกำลังผสม 3 ฝ่ายถือเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะว่าเมืองเมียวดี เกี่ยวข้องกับการเข้ามาของนักท่องเที่ยว ผู้อพยพ และการเข้ามาทำงานของแรงงาน ไปจนถึงสินค้าไทยที่จะไปเมียนมา โดยเขาคิดว่าเมียนมาไม่ปล่อยง่าย และมีข่าวว่าจะมีการส่งกำลังเสริมเข้ามาหนุนด้วย ฉะนั้นความรุนแรงจะไม่จบง่ายๆ</p><p>ศิววงษ์ มองว่า อีกข้อท้าทายคือตอนนี้กองทัพพม่าไม่ได้มีอำนาจในเมืองเมียวดีแล้ว ดังนั้น กองกำลังผสมจะต้องสถาปนาระบบกลไกการจัดการเมืองขึ้นมาใหม่ให้ได้ ถ้าเกิดมันไม่สามารถทำได้ เมืองมันหยุดนิ่ง มันจะส่งผลต่อความสงบ และความปลอดภัยของเมืองในอนาคต ดังนั้น ต่อให้ไม่มีความรุนแรง แต่ช่วงเวลาที่ยังไม่มั่นคงน่าจะยังมีประชาชนอพยพเข้ามายังฝั่งไทยแน่นอน</p><p>ศิววงษ์ กล่าวว่า สำหรับตัวเลขที่รัฐบาลประเมินว่าจะมีผู้หนีภัยสงครามเข้ามาฝั่งไทยจำนวนมากสุด 1 แสนคนนั้นอาจเป็นตัวเลขที่ต่ำไป เพราะว่าจากการคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินตัวเลขขั้นต่ำไว้ที่ประมาณ 1 แสนราย โดยจากการประเมินเมื่อปีที่แล้ว (2566) มีตัวเลขผู้พลัดถิ่นภายในบริเวณชายแดนอยู่ที่ราว 5 แสนคนใน 5 รัฐ ดังนั้น มันมีโอกาสที่จะมีผู้ลี้ภัยเข้ามาในไทยเกิน 1 แสนคนหากมีการปะทะบริเวณชายแดน แต่ตอนนี้ถ้ารัฐบาลตั้งเป้าไว้แค่ 1 แสนคน และเราเตรียมรับมือแค่ 1 แสนคน เราจะมีปัญหาถ้าเราเตรียมตัวไม่พอ ถ้าเราไม่อยากถึงจุดๆ นั้นมันจะถึงจุดที่ไทยจะออกไปทำให้ผู้เกี่ยวข้องในพม่านั่งลงคุยกันให้ได้ เพื่อลดผลกระทบให้ได้มากที่สุด</p><p class="picture-with-caption"><img src="https://live.staticflickr.com/65535/53647808422_a9fe3544e8_b.jpg" width="1024" height="768" loading="lazy">เศรษฐา ทวีสิน ประชุมเรื่องปัญหาวิกฤตชายแดน (ที่มา: X Srettha Thavisin)</p><h2>ให้หน่วยงานท้องถิ่น และระหว่างประเทศเข้ามาช่วยรับมือ</h2><p>ศิววงษ์ เสนอให้มีการตั้งคณะทำงานและดึงทุกฝ่ายเข้ามาร่วม จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการปัญชายแดน เขาคิดว่าถ้าย้อนกลับไปดูการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเมื่อ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา เราจะเห็นรอยร้าวที่เกิดจากการไม่ได้ประสานงานกัน เพราะว่าเราไม่เห็นภาพรวมของสถานการณ์ชายแดน กว่าจะลงตัวว่าใครจะเป็นคนพาเข้าไป ผ่านใครบ้าง มันต้องมีการสำรวจสถานการณ์พื้นที่ชายแดนพอสมควร ไม่รวมกับการเตรียมพร้อมการช่วยเหลือ ดังนั้น ไม่ว่า 100-200 คนจะต้องมีการเตรียมพร้อม และมีการดึงองค์กรช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่างประเทศเข้ามา ซึ่งปัญหาที่พบตลอด 2 ปีที่ผ่านมา คือหน่วยงานความมั่นคงปฏิเสธการช่วยเหลือให้หน่วยงานด้านมนุษยธรรมเข้าไปในพื้นที่เพื่อประเมินสถานการณ์ พอมีการห้ามไม่ให้เข้าไปพื้นที่ มันเลยมีความล่าช้าว่ามันประเมินสถานการณ์ไม่ออก เข้ามากี่คน อยู่ตรงไหน สถานการณ์เป็นอย่างไร กว่าจะได้เข้าไปใช้เวลาเป็นสัปดาห์ เป็นเดือนแล้ว ซึ่งระหว่างสถานการณ์เฉพาะหน้าเกิดปัญหาต่างๆ มากมาย</p><p>นอกจากนี้ การตั้งคณะทำงานอื่นๆ ที่มีส่วนร่วมจากหน่วยงานส่วนท้องถิ่น หน่วยงานประชาสังคม และองค์กรระหว่างประเทศที่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม จะทำให้การวางแผนการทำงาน ณ ปัจจุบัน เพื่อรับมือกับอนาคตได้ดีกว่าที่ผ่านมา อย่าลืมว่าเรามีประสบการณ์แล้วในการจัดการผู้หนีภัยการสู้รบในเมียนมาในแม่ฮ่องสอน หรือจังหวัดตาก ก็ชัดเจนว่าการมีการมีส่วนร่วมขององค์กรในท้องที่มันทำให้การจัดการทำได้ง่ายขึ้น เสริมข้อจำกัดของภาครัฐได้มากขึ้น การจัดการในวันนี้ไม่ควรย้ำ แผนการเดิมที่ซึ่งเราเคยมีประสบการณ์มาแล้วว่าไม่เพียงพอในปัจจุบัน</p><div class="more-story"><p><strong>เรื่องที่เกี่ยวข้อง</strong></p><ul><li>'เศรษฐา' ตั้งคณะทำงานด้านชายแดนไทย-เมียนมา รับมือสถานการณ์สู้รบเมียวดี</li></ul></div><p>&nbsp;</p><h2>ชงใช้มาตรา 19 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ให้ผู้หนีภัยอยู่ในพื้นที่ที่กำหนด หากสงครามยืดเยื้อ</h2><p>สืบเนื่องจากเมื่อ 10-11 เม.ย. ที่ผ่านมา หลายสื่อรายงานว่ามีประชาชนฝั่งเมียนมาเข้าคิวยาวตั้งแต่เช้าเพื่อข้ามมาฝั่งไทยด้วยการประทับตรา ‘Border Pass’ เนื่องจากกังวลผลกระทบจากความรุนแรง และจะกลับไปเมื่อเหตุการณ์สงบลง อย่างไรก็ตาม หากสงครามยืดเยื้อและมีการโจมตีในเมืองเมียวดี อาจทำให้ประชาชนกลุ่มนี้ไม่สามารถกลับประเทศต้นทางเพื่อไปต่ออายุ ‘Border Pass’ ได้ และไทยควรมีมาตรการอย่างไรเพื่อช่วยเหลือชาวเมียนมา</p><p class="picture-with-caption"><img src="https://live.staticflickr.com/65535/53644959205_fd6901a830_b.jpg" width="1024" height="576" loading="lazy">ประชาชนจากฝั่งเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง รอข้ามแดนในช่วงเช้าวันนี้ (10 เม.ย. 67) (ที่มา: นักข่าวพลเมือง)</p><p>ศิววงษ์ กล่าวว่า ไทยสามารถใช้มาตรา 19 พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง พ.ศ. 2558 กรณีที่มีข้อสงสัยว่าเข้าเมืองถูกต้องหรือไม่ มีข้อพิสูจน์ว่าเข้ามาด้วยเหตุผลอะไร ทำไมต้องหนีเข้ามาทางเจ้าหน้าที่ยังคงสามารถให้คนต่างชาติที่เข้ามาอยู่อาศัยในพื้นที่ที่กำหนดได้ชั่วคราว สามารถใช้ได้โดยไม่ต้องผ่าน ครม. แต่เป็นอำนาจของ ตม. โดยที่ผ่านมามักจะใช้ในสนามบินเท่านั้น คือตรวจพาสสปอร์ตแล้ว VISA มีปัญหาสงสัย ให้อยู่ในสนามบินไปก่อน</p><p>สมาชิก คปฐ. กล่าวว่า ข้อเสนอคือว่า เราอยากให้มีการใช้ในพื้นที่ตรงนั้นเลย สมมติด่านถูกปิด หรือมีการเดินทางแบบฉุกเฉินแบบไม่ปกติ โดยเป็นหนีภัยเข้ามาให้ใช้มาตรา 19 ของ พ.ร.บ.คนเข้าเมืองแทน แต่ทาง ตม.ต้องมีการหารือกับกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการต่างประเทศให้ดีว่าจะขอใช้มาตรานี้ก่อนได้ไหม ซึ่งไทยต้องกล้าที่จะใช้ หรือให้ศูนย์สั่งการชายแดนแม่สอด จ.ตาก ให้เรียกประชุมกรณีที่ ตม.ไม่สามารถประชุมได้ทัน ให้ศูนย์สั่งการชายแดนให้ ตม.ใช้อำนาจตาม ม.19 ของ พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ ในการให้คนอยู่พื้นที่ชั่วคราว</p><p>ส่วนการจัดพื้นที่ชั่วคราวนั้น ศิววงษ์ เสนอให้ตัวแทนการปกครองส่วนท้องถิ่น &nbsp;ภาคประชาสังคม และหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานของศูนย์สั่งการชายแดน และมากำหนดอีกทีว่าจะใช้พื้นที่ไหนที่จะเหมาะสม ขณะเดียวกัน ก็ต้องสร้างความเข้าใจกับชุมชนในเรื่องนี้ด้วย</p><div class="note-box"><h2>รายละเอียดจดหมายเปิดผนึก</h2><p>เรียน ฯพณฯ ท่าน เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี</p><p>เรื่อง ขอให้เร่งเตรียมความพร้อมในการรับมือผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงในประเทศเมียนมา โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดตาก</p><p>จากสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ตรงข้ามพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 เป็นต้นมา ได้ทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ โดยกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาที่ประกอบด้วยกองกำลังผสมจากกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) กองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) และกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) ได้เข้าโจมตีฐานที่มั่นของทหารเมียนมาในพื้นที่รอบเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง และสามารถเข้ายึดฐานที่มั่นของทหารเมียนมาได้อย่างต่อเนื่องจนทำให้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภ.สม.) เข้ามาหลบภัยภายในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง จำนวน 77 คน จากแถลงการณ์ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดตาก เรื่อง สถานการณ์ชายแดนพื้นที่ จังหวัดตาก ฉบับที่ 281 วันที่ 9 เมษายน 2567</p><p>ขณะที่รัฐบาลทหารเมียนมาได้ประสานงานขออนุญาตนำเครื่องบินโดยสารเหมาลำ ATR 72-600 ของสายการบิน Myanmar National Airlines (MNA) มาลงที่สนามบินแม่สอดระหว่างวันที่ 7-9 เมษายน 2567 เพื่อขนส่งผู้โดยสารและสิ่งของรวมทั้งหมด 3 เที่ยวบิน แต่ก็พบว่ามีการนำเครื่องบินมาลงเพียงเที่ยวบินเดียวในคืนวันที่ 7 เมษายน 2567 ซึ่งจากคำแถลงของหน่วยงานภาครัฐยังไม่มีหลักฐานให้ประชาชนทราบชัดเจนว่าเป็นการขนส่งผู้โดยสารหรือสิ่งของประเภทใด</p><p>จากรายงานสถานการณ์ในพื้นที่ล่าสุด (วันที่ 10 เมษายน 2567) ยังคงมีการปะทะกันอย่างรุนแรงบริเวณฐานที่มั่นค่ายผาซอง กองพันทหารราบที่ 275 สหภาพเมียนมา ห่างจากแนวชายแดน 5 กิโลเมตร รัฐบาลทหารเมียนมายังใช้ปฏิบัติการทางอากาศโจมตีกลุ่มต่อต้านเพื่อคุ้มครองฐานที่มั่นค่ายผาซอง เมื่อเวลา 04.00 น. ทำให้เกิดเพลิงไหม้อาหารใกล้ถนนเชื่อมต่อสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ห่างจากพรมแดนแม่สอดประมาณ 5 กิโลเมตร รวมถึงการพยายามเสริมกำลังทหารเมียนมาเข้ามาในพื้นที่ของรัฐกะเหรี่ยงมากขึ้น</p><p>ขณะที่ด่านพรมแดนแม่สอดทั้ง 2 แห่ง ยังคงเปิดทำการปกติ มีชาวเมียนมาจำนวนมากพากันเดินทางข้ามมาจากเมืองเมียวดีโดยบางส่วนเพื่อประทับหนังสือผ่านแดนชั่วคราว (Border Pass) ซึ่งจะได้รับอนุญาตให้อยู่อาศัยในประเทศไทยได้เพียง 7 วัน แต่หากสถานการณ์รุนแรงเพิ่มขึ้น และทำให้มีการปิดด่านพรมแดนก็อาจส่งผลให้ชาวเมียนมาที่ใช้หนังสือผ่านแดนชั่วคราวตกเป็นผู้เข้าเมืองผิดกฎหมาย</p><p>เครือข่ายปฏิรูปการโยกย้ายถิ่นฐาน (คปฐ.) เห็นว่าสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนตรงข้ามจังหวัดตากมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การไหลบ่าเข้ามาของชาวเมียนมาเพื่อหลบหนีสถานการณ์ความรุนแรงดังกล่าว เครือข่ายฯ จึงเรียกร้องถึงรัฐบาลไทยให้เร่งเตรียมความพร้อมในการรับมือสถานการณ์ดังกล่าว ในประเด็นดังต่อไปนี้</p><p>1. กระทรวงการต่างประเทศ เร่งจัดตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อรับมือสถานการณ์เมียนมา โดยให้มีหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ ภาควิชาการ และภาคประชาสังคม เข้าไปมีส่วนร่วมในการวางแผนรับมือและร่วมตัดสินใจการดำเนินการ</p><p>2. กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์สั่งการชายแดนเร่งรัดให้มีการประชุมจัดทำแผนการทำงานในสถานการณ์ฉุกเฉินร่วมกัน โดยการมีส่วนร่วมของผู้แทนองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และหน่วยงานให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมในพื้นที่ รวมถึงการมีมติเสนอให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติพิจารณาอนุญาตเปิดจุดผ่อนปรนเพื่อให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเพิ่มเติมเป็นการเร่งด่วน</p><p>3. นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยต้องกำชับผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารในพื้นที่จังหวัดชายแดนให้ดำเนินการตามมาตรา 13 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ซึ่งได้บัญญัติหลักการห้ามผลักดันกลับไปสู่อันตราย (Non-refoulement Principle) ตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights หรือ ICCPR) การปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมาน และการกระทำอื่น ๆ ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (Convention Against Torture and other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or Punishment หรือ CAT) อย่างเคร่งครัด</p><p>4. กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการต่างประเทศ ต้องเร่งพิจารณาทบทวนแนวทางการอนุญาตให้ผู้หลบหนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาเข้ามาในประเทศไทยได้ด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรมเป็นการชั่วคราว เพื่อที่จะได้สามารถดำเนินการบริหารจัดการได้อย่างเป็นระบบ</p><p>5.&nbsp;กระทรวงสาธารณสุข เตรียมความพร้อมในการควบคุมและป้องกันโรคระบาดในพื้นที่ชายแดน และรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความรุนแรง &nbsp;</p><p>6.&nbsp;สภาความมั่นคงแห่งชาติ และกระทรวงมหาดไทยเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาใช้อำนาจตามมาตรา 17 ของพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ให้ความเห็นชอบอนุญาตให้คนต่างด้าวซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการอนุญาตสิ้นสุดลงและมีความจำเป็นที่ต้องหลบหนีความรุนแรง หรือทำงานเลี้ยงชีพ หรือศึกษาต่อ ให้อยู่อาศัยและทำงานได้เป็นการชั่วคราว เพื่อให้เข้าสู่การบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นระบบและตอบสนองความต้องการของภาคเศรษฐกิจของไทยอย่างเร่งด่วน</p><p>7.&nbsp;กระทรวงการต่างประเทศแสดงบทบาทนำในการเปิดพื้นที่เจรจากับรัฐบาลทหารเมียนมาและฝ่ายต่อต้านและประสานสมาคมสหประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) เพื่อเจรจาหาแสวงหาทางออกทางการเมืองจากสงครามการเมืองภายในประเทศเมียนมาเพื่อลดความรุนแรงอันจะส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวเมียนมา</p><p class="text-align-center"><img src="https://live.staticflickr.com/65535/53647800292_c14c169de2_b.jpg" width="724" height="1024" loading="lazy"></p><p class="text-align-center"><img src="https://live.staticflickr.com/65535/53648673926_ca3032c747_b.jpg" width="724" height="1024" loading="lazy">
&nbsp;</p></div></div>
      <div class="node-taxonomy-container">
    <ul class="taxonomy-terms">
          <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" hreflang="th">ข่าhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87" hreflang="th">การเมือhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99" hreflang="th">สิทธิมนุษยชhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8" hreflang="th">ต่างประเทhttp://prachatai.com/category/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%96%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99" hreflang="th">เครือข่ายปฏิรูปการโยกย้ายถิ่นฐาhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A5" hreflang="th">รัฐบาhttp://prachatai.com/category/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2" hreflang="th">เมียนมhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2" hreflang="th">พม่http://prachatai.com/category/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%B5" hreflang="th">เมียวดhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2" hreflang="th">ผู้ลี้ภัhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1" hreflang="th">การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%96%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%99" hreflang="th">การปกครองส่วนท้องถิ่http://prachatai.com/category/%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2" hreflang="th">ชายแดนไทย-เมียนมhttp://prachatai.com/category/%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%94" hreflang="th">แม่สอhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%81" hreflang="th">ตาhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87" hreflang="th">ตำรวจตรวจคนเข้าเมือhttps://prachataistore.net</div>
     
 

http://prachatai.com/journal/2024/04/108797
 

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

นักข่าวหัวเห็ด แห่งเวบสุขใจ
อัพเดตข่าวทันใจ ตลอด 24 ชั่วโมง

>> http://www.SookJai.com <<
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.212 วินาที กับ 28 คำสั่ง

Google visited last this page 09 มิถุนายน 2568 04:13:42