15 ธันวาคม 2567 03:32:29
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
สุขใจในธรรม
พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
นิทาน - ชาดก
.:::
๗. กัฏฐหาริชาดก ว่าด้วยโทษแห่งการแบ่งชนชั้น
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: ๗. กัฏฐหาริชาดก ว่าด้วยโทษแห่งการแบ่งชนชั้น (อ่าน 330 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Maintenence
ผู้ดูแลระบบ
นักโพสท์ระดับ 10
คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 1111
[• บำรุงรักษา •]
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
๗. กัฏฐหาริชาดก ว่าด้วยโทษแห่งการแบ่งชนชั้น
«
เมื่อ:
09 พฤษภาคม 2567 18:44:09 »
Tweet
ขุททกนิกายภาค ๑ เอกนิบาต ๑. อปัณณกวรรค
๗. กัฏฐหาริชาดก ว่าด้วยโทษแห่งการแบ่งชนชั้น
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวันวิหาร ทรงปรารภพระนางวาสภขัตติยา จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้
เรื่องพระนางวาสภขัตติยา จักมีแจ้งใน ภัททสาลชาดก ทวาทสนิบาต ได้ยินว่า พระนางวาสภขัตติยานั้น เป็นพระธิดาของเจ้าศากยะมหานาม ประสูติในครรภ์ของทาสีชื่อว่า นาคมณฑา (ต่อมา) ได้เป็นพระอัครมเหสีของพระเจ้าโกศล พระนางประสูติพระราชโอรส ก็ภายหลัง พระราชาทรงทราบว่า พระนางเป็นทาสี จึงทรงปลดจากตำแหน่ง แม้วิฑูฑภะผู้เป็นพระโอรส ก็ถูกปลดจากตำแหน่งเหมือนกัน แต่แม่ลูกทั้งสอง ก็คงอยู่ในพระราชนิเวศน์ของพระองค์ นั่นแหละ
พระศาสดาทรงทราบเหตุนั้น ครั้นในเวลาเย็น จึงได้เสด็จไปยังพระราชนิเวศน์ของพระราชาพร้อมด้วยภิกษุ ๕๐๐ ประทับนั่งบนอาสนะที่ปูลาดไว้ แล้วตรัสว่า
“พระนางวาสภขัตติยาประทับอยู่ที่ไหน”
พระราชาจึงกราบทูลเหตุนั้นให้ทรงทราบ
พระศาสดาตรัสถามว่า “มหาบพิตร พระนางวาสภขัตติยาเป็นธิดาของใคร?”
พระราชาทูลว่า “เป็นธิดาของเจ้ามหานาม พระเจ้าข้า”
พระศาสดาตรัสถามว่า “เมื่อพระนางวาสภขัตติยาเสด็จมา เสด็จมาแล้วเพื่อใคร?”
พระราชาทูลว่า “เพื่อหม่อมฉัน พระเจ้าข้า”
พระศาสดาตรัสว่า “มหาบพิตร พระนางวาสภขัตติยานี้ เป็นธิดาของพระราชาและมาเพื่อพระราชา เพราะอาศัยพระราชานั่นแหละ จึงได้พระโอรส เพราะเหตุไร พระโอรสนั้นจึงไม่ได้เป็นเจ้าของราชสมบัติ อันเป็นของมีอยู่ของพระราชบิดา พระราชาทั้งหลายในกาลก่อน ได้พระโอรสในครรภ์ของหญิงหาฟืน ผู้เป็นภรรยาชั่วคราว ก็ยังได้พระราชทานราชสมบัติแก่พระโอรส”
พระเจ้าโกศลทรงขอให้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรื่องนั้นให้แจ่มแจ้ง พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงแสดงเรื่องในอดีตไว้ดังนี้
ในอดีตกาล พระราชาพระนามว่า พรหมทัต ในกรุงพาราณสี เสด็จไปพระราชอุทยานด้วยพระยศใหญ่ เสด็จเที่ยวไปในพระราชอุทยานนั้น เพราะทรงยินดีดอกไม้และผลไม้ ทรงเห็นหญิงผู้หนึ่งผู้ขับเพลงไปพลาง ตัดฟืนไปพลาง ในป่าชัฏในพระราชอุทยาน ทรงมีจิตปฏิพัทธ์ จึงทรงสำเร็จการอยู่ร่วมกัน ในขณะนั้นเอง พระโพธิสัตว์ทรงถือปฏิสนธิในครรภ์ของหญิงนั้น ทันใดนั้น ครรภ์นางได้หนักอึ้งเหมือนเต็มด้วยเพชร นางรู้ว่าตั้งครรภ์ จึงกราบทูลว่า
“ข้าแต่สมมติเทพ หม่อมฉันตั้งครรภ์แล้ว เพคะ”
พระราชาได้ประทานพระธำมรงค์ แล้วตรัสว่า “ถ้าเป็นธิดาเจ้าจงจำหน่ายแหวนเลี้ยงดู ถ้าเป็นบุตร เจ้าจงนำมายังสำนักของเราพร้อมกับแหวน”
ครั้นตรัสแล้ว จึงเสด็จหลีกไป
ฝ่ายหญิงนั้นมีครรภ์แก่แล้ว ก็คลอดพระโพธิสัตว์ ในเวลาที่พระโพธิสัตว์นั้นเล่นอยู่ในสนามเล่น มีคนกล่าวอย่างนี้ว่า “พวกเราถูกคนไม่มีพ่อ ทุบตีแล้ว” พระโพธิสัตว์ได้ฟังดังนั้น จึงไปหามารดาถามว่า
“แม่จ๋า ใครเป็นพ่อของหนู?”
มารดากล่าวว่า “ลูกเอ๋ย เจ้าเป็นโอรสของพระเจ้าพาราณสี”
พระโพธิสัตว์กล่าวว่า “ก็พยานอะไรๆ มีอยู่หรือ จ๊ะแม่”
มารดากล่าวว่า “ลูกเอ๋ย พระราชาประทานแหวนนี้ไว้แล้วตรัสว่า ถ้าเป็นธิดา พึงจำหน่ายเลี้ยงดูกัน ถ้าเป็นบุตร พึงพามาพร้อมกับแหวนนี้ ดังนี้แล้ว ก็เสด็จไป”
พระโพธิสัตว์กล่าวว่า “แม่จ๋า เมื่อเป็นเช่นนั้น เพราะเหตุไร แม่จึงไม่นำฉันไปยังสำนักของพระบิดา”
นางรู้อัธยาศัยของบุตร จึงไปยังประตูพระราชวัง ให้คนกราบทูลแก่พระราชาให้ทรงทราบ และเป็นผู้อันพระราชารับสั่งให้เข้าเฝ้า จึงเข้าไปถวายบังคมพระราชา แล้วกราบทูลว่า
“ข้าแต่สมมติเทพ ผู้นี้เป็นโอรสของพระองค์” พระราชา แม้ทรงทราบอยู่ ก็เพราะทรงละอายในท่ามกลางบริษัท จึงตรัสว่า
“ไม่ใช่บุตรของเรา”
หญิงนั้นกราบทูลว่า “ข้าแต่สมมติเทพ นี้พระธำมรงค์ของพระองค์ พระองค์คงจะทรงจำพระธำมรงค์นี้ได้”
พระราชาตรัสว่า “แม้พระธำมรงค์นี้ ก็ไม่ใช่ธำมรงค์ของเรา”
หญิงนั้นกราบทูลว่า “ข้าแต่สมมติเทพ บัดนี้ เว้นสัจกิริยาเสีย คนอื่นผู้จะเป็นสักขีพยานของกระหม่อมฉัน ย่อมไม่มี ถ้าทารกนี้เกิดเพราะอาศัยพระองค์ อันกระหม่อมฉันเหวี่ยงขึ้นไปแล้ว จงอยู่ในอากาศ ถ้าไม่ได้อาศัยพระองค์เกิด จงตกลงมาตายบนภาคพื้นดิน” แล้วจับเท้าทั้งสองของพระโพธิสัตว์ เหวี่ยงไปในอากาศ
พระโพธิสัตว์นั่งคู้บัลลังก์ในอากาศ เมื่อจะกล่าวธรรมะแก่พระบิดา ด้วยเสียงอันไพเราะ จึงตรัสพระคาถานี้ว่า
“ข้าแต่พระราชาผู้เป็นใหญ่ ข้าพระบาทเป็นโอรสของพระองค์ ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมแห่งหมู่ชน ขอพระองค์ได้ทรงโปรดชุบเลี้ยงข้าพระบาทไว้ แม้คนเหล่าอื่น พระองค์ยังทรงชุบเลี้ยงได้ ไฉน จะไม่ทรงชุบเลี้ยงโอรสของพระองค์เองเล่า”
เมื่อพระโพธิสัตว์ประทับนั่งในอากาศ ทรงแสดงธรรมอยู่อย่างนี้ พระราชาได้ทรงสดับแล้ว จึงทรงเหยียดพระหัตถ์ ตรัสว่า
“จงมาเถิดพ่อ เราแหละจักชุบเลี้ยงเจ้า”
มีมือตั้งพันเหยียดมาแล้ว พระโพธิสัตว์ไม่ลงในมือคนอื่น ลงในพระหัตถ์ของพระราชาเท่านั้น แล้วประทับนั่งบนพระเพลา พระราชาทรงประทานความเป็นอุปราชแก่พระโพธิสัตว์นั้น แล้วได้ทรงตั้งมารดาให้เป็นอัครมเหสี เมื่อพระบิดาสวรรคตแล้ว พระโพธิสัตว์นั้นได้เป็นพระราชา พระนามว่า กัฏฐวาหนะ ครองราชสมบัติโดยธรรม ได้เสด็จไปตามยถากรรม
พระศาสดา ครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาทรงแสดงแก่พระเจ้าโกศลแล้ว ทรงประชุมชาดกว่า
พระมารดาในครั้งนั้น ได้มาเป็น
พระมหามายาเทวี
พระบิดาในครั้งนั้น ได้มาเป็น
พระเจ้าสุทโธทนมหาราช
ส่วนพระเจ้ากัฏฐวาหนราชในครั้งนั้น ได้เป็น
เราเอง
แล
ที่มา วัดโพรงจระเข้ จ.ตรัง
บันทึกการเข้า
[• สุขใจ บำรุงรักษาระบบ •]
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...