24 มิถุนายน 2568 02:31:58
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
สุขใจในธรรม
พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
นิทาน - ชาดก
ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
.:::
พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ เรื่องที่ ๒๐๑ ปัญจุโปสถิกชาดก : ฤๅษีกับสหายธรรม
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ เรื่องที่ ๒๐๑ ปัญจุโปสถิกชาดก : ฤๅษีกับสหายธรรม (อ่าน 318 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 6096
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 126.0.0.0
พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ เรื่องที่ ๒๐๑ ปัญจุโปสถิกชาดก : ฤๅษีกับสหายธรรม
«
เมื่อ:
15 กรกฎาคม 2567 14:19:27 »
Tweet
พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ เรื่องที่ ๒๐๑ ปัญจุโปสถิกชาดก
ฤๅษีกับสหายธรรม
ในอดีตกาล ได้มีประเทศอันเป็นดงน่ารื่นรมย์ยิ่งนัก อยู่ระหว่างพรมแดนแห่งแคว้นทั้งสาม มีแคว้นมคธ เป็นต้น พระโพธิสัตว์บังเกิดในสกุลพราหมณ์มหาศาลในแคว้นมคธ เจริญวัยแล้วก็เบื่อทางโลกจึงเข้าป่า สร้างอาศรมบถบวชเป็นฤๅษี พำนักอาศัยอยู่ในที่ไม่ไกลอาศรมของท่าน นกพิราบกับภรรยาอาศัยอยู่ที่เชิงเขาแห่งหนึ่ง งูอาศัยอยู่ที่จอมปลวกจอมหนึ่งที่ละเมาะป่าแห่งหนึ่ง หมาจิ้งจอกอาศัยอยู่ที่ละเมาะป่าอีกแห่งหนึ่ง เหล่าหมีอาศัยอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง ทั้งสี่สัตว์เหล่านั้นต่างก็เข้าไปหาพระฤาษีฟังธรรมตามกาลอันเป็นโอกาส
อยู่มาวันหนึ่ง นกพิราบกับภรรยาออกจากรังไปหากิน เหยี่ยวตัวหนึ่งจับนกพิราบตัวที่บินอยู่ข้างหลังแล้วบินหนีไป นกพิราบได้ยินเสียงร้องของนางนกพิราบนั้น เหลียวกลับมองดู เห็นนางนกพิราบนั้นกำลังถูกเหยี่ยวนั้นโฉบไป ฝ่ายเหยี่ยวก็ฆ่านางนกพิราบนั้นทั้งๆ ที่กำลังร้องอยู่นั้นเอง ตายแล้วจิกกินเสีย นกพิราบกลุ้มใจเพราะพลัดพรากจากนางนกนั้น ก็คิดว่าความรักนี้ทำให้เราลำบากเหลือเกิน คราวนี้เรายังข่มความรักไม่ได้ แล้วเลยไปสู่สำนักพระดาบส สมาทานอุโบสถเพื่อสงบจิตสงบใจอยู่ในบริเวณนั้น
กล่าวถึงงู คิดจะแสวงหาเหยื่อออกจากที่อยู่ เที่ยวแสวงหาเหยื่อในสถานเป็นที่เที่ยวไปของแม่โคในบ้านชายแดน ครั้งหนึ่งโคผู้อันเป็นมงคลขาวปลอดของนายอำเภอ กินหญ้าแล้วนอนคุกเข่าที่เชิงปลวกแห่งหนึ่ง เอาเขาขวิดดินเล่นอยู่ งูก็กลัวเสียงฝีเท้าของแม่โคทั้งหลาย เลื้อยไปเพื่อจะเข้าจอมปลวกนั้น ทันใดนั้นโคผู้ก็เหยียบมันด้วยเท้า มันโกรธโคนั้นจึงกัดโคผู้ถึงสิ้นชีวิตตรงนั้นเอง พวกชาวบ้านได้ยินข่าวว่าโคผู้ตายแล้ว ทุกคนพากันมารวมกัน ร้องไห้บูชาโคผู้ตัวนั้นด้วยของหอมและดอกไม้เป็นต้น พากันขุดหลุมฝังแล้วหลีกไป
เวลาคนพวกนั้นกลับแล้ว งูก็เลื้อยออกมาคิดว่า เราอาศัยความโกรธฆ่าโคผู้ตัวนี้เสีย ทำให้มหาชนพากันเศร้าโศก ทีนี้เราข่มความโกรธนี้ไม่ได้แล้ว จักไม่ออกหากินและกลับไปสู่อาศรมนั้น นอนสมาทานอุโบสถเพื่อข่มความโกรธ ฝ่ายหมาจิ้งจอกเที่ยวแสวงอาหาร เห็นช้างตายตัวหนึ่ง ดีใจว่าเราได้เหยื่อชิ้นใหญ่แล้ววิ่งไปกัดที่งวงได้เป็นเหมือนเวลากัดเสา ไม่ได้ความยินดีที่ตรงงวงนั้น กัดงาต่อไป ได้เป็นอย่างกัดแท่นหิน ปรี่เข้ากัดท้องได้เป็นอย่างกระด้ง ตรงเข้ากัดหางได้เป็นอย่างกัดสาก กรากเข้ากัดช่องทวารหนักได้เป็นเหมือนขนมหวาน มันตั้งหน้าขย้ำด้วยอำนาจความโลภ เลยเข้าไปอยู่ภายในท้อง เวลาหิวก็กินเนื้อในท้องนั้น เวลากระหายก็ดื่มเลือด เวลานอนก็นอนทับไส้และปอด มันคิดว่าทั้งข้าวทั้งน้ำมีเสร็จแล้วในที่นี้ที่เดียว แสนรื่นรมย์อยู่ในท้องช้างนั้นแห่งเดียว ไม่ออกข้างนอกเลย คงอยู่ในท้องช้างเท่านั้น ซากช้างก็แห้งลงด้วยลมและแดด ช่องทวารหนักปิด หมาจิ้งจอกนอนอยู่ภายในท้อง กลับมีเนื้อและเลือดน้อย ร่างกายผ่ายผอมมองไม่เห็นทางออก
วันหนึ่งเมฆมิใช่ฤดูกาลให้ฝนตกช่องทวารหนักชุ่มชื้นอ่อนตัว ปรากฏช่องให้เห็น หมาจิ้งจอกพอเห็นช่องคิดว่า ลำบากนานนัก ต้องหนีออกช่องนิ้ให้จงได้ แล้วเอานิ้วดันช่องทวารหนัก เมื่อมันมีสรีระหยุ่นดันออกจากที่แคบโดยเร็ว ขนเลยติดอยู่ที่ช่องทวารหนักหมด มันมีตัวโล้นเหมือนจาวตาล หลุดออกมาได้มันคิดว่าเพราะอาศัยความโลภ ต้องเสวยทุกข์นี้ ทีนี้ข่มความโลภนอนสมาทานอุโบสถอยู่แถวนั้นเอง
กล่าวถึงหมีออกจากป่าแล้ว ถูกความอยากครอบงำยิ่ง จึงไปสู่บ้านชายแดนในแคว้นมัลละ พวกชาวบ้านได้ยินว่าหมีมาแล้ว ต่างถือธนูและพลองเป็นต้นพากันไปล้อมละเมาะที่หมีนั้นเข้าไป มันรู้ว่าถูกมหาชนล้อมไว้ จึงออกหนี เมื่อมันกำลังหนีอยู่นั้นเอง ฝูงชนพากันยิงด้วยธนู ตีด้วยพลอง มันหัวแตกเลือดไหลอาบไปที่อยู่ของตน ได้คิดว่าทุกข์นี้เกิดเพราะอำนาจความโลภ คือ ความอยากยิ่งของมัน ทีนี้ข่มความโลภคือความอยากยิ่งนี้ไว้มิได้ แล้วจักไม่หากินละ ไปสู่อาศรมนั้น สมาทานโอสถเพื่อข่มความอยากยิ่ง ฝ่ายดาบสเล่า ก็อาศัยของตน ตกไปในอำนาจมานะ ไม่สามารถจะยังฌานให้บังเกิดได้
ครั้งนั้นพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์หนึ่งทราบความที่ดาบสนั้นมีมานะ กล่าวว่า สัตว์ผู้นี้มิใช่อื่นเลย ที่แท้เป็นหน่อเนื้อแท้พระพุทธเจ้า จักบรรลุความเป็นพระสัพพัญญูในกัลป์นี้เองแหละ เราต้องกระทำการข่มมานะของนี้เสียแล้ว กระทำให้สมาบัติบังเกิดจงได้ จึงมาจากป่าหิมพานต์ตอนเหนือ ขณะเมื่อดาบสนั้นกำลังนอนอยู่ในอาศรมนั้นเอง นั่งเหนือแผ่นกระดานหินของดาบสนั้น ดาบสนั้นออกมาเห็นพระปัจเจกพุทธเจ้านั้นนั่งเหนืออาสนะของตนก็ขุ่นใจเพราะความมีมานะ ปรี่เข้าไปหาท่านแล้วตบมือตวาดว่า “ฉิบหายเถิด ไอ้ถ่อย ไอ้กาลกรรณี ไอ้สมณะหัวโล้น มึงมานั่งเหนือแผ่นกระดานของข้าทำไม”
ครั้งนั้นพระปัจเจกพุทธเจ้ากล่าวกับท่านว่า “พ่อคนดี เหตุไรพ่อจึงมีแต่มานะ ข้าพเจ้าบรรลุปัจเจกพุทธญาณแล้วนะในกัลป์นี้เอง พ่อก็จักเป็นพระสัพพัญญูพระพุทธเจ้า พ่อเป็นหน่อเนื้อพระพุทธเจ้านะ พ่อบำเพ็ญบารมีมาแล้ว รอกาลเพียงเท่านี้ ข้างหน้าผ่านไปจักเป็นพระพุทธเจ้า พ่อดำรงในความเป็นพระพุทธเจ้าจักมีชื่อว่า สิทธัตถะ” บอกนามตระกูลโคตรและพระอัครสาวกเป็นต้น แล้วได้ประทานโอวาทว่า “พ่อยังจะมัวเอาแต่มานะเป็นคนหยาบคายเพื่ออะไรเล่า นี้ไม่สมควรแก่พ่อเลย”
ครั้งพระปัจเจกพุทธเจ้ากล่าวว่า เธอไม่รู้ความใหญ่หลวงแห่งชาติและความใหญ่โตแห่งคุณของเรา เธอสามารถก็จงเที่ยวไปในอากาศเหมือนเรา แล้วเหาะไปในอากาศ โปรยฝุ่นที่เท้าของตนลงในมณฑลชฎาของดาบสนั้น ไปสู่หิมพานต์ตอนเหนือดังเดิม พอท่านไปแล้ว ดาบสถึงสลดใจคิดว่า ท่านผู้นี้เป็นสมณะเหมือนกัน มีสรีระหนักไปในอากาศได้ดุจปุยนุ่น ที่ทิ้งไปในช่องลม เพราะถือชาติเรามิได้กราบเท้าทั้งคู่ของพระปัจเจกพุทธเจ้าเห็นปานฉะนี้ มิหนำซ้ำไม่ถามเสียด้วยว่า เราจักเป็นพระพุทธเจ้าเมื่อไร ขึ้นชื่อความชาตินี้จักกระทำอะไรได้ ศีลและจรณะเท่านั้นเป็นใหญ่ในโลกนี้ ก็แต่ว่ามานะของเรานี้แลจำเริญอยู่ จักพาไปหานรกได้ ทีนี้เรายังข่มมานะนี้มิได้แล้วจักไม่ไปหาผลาผลเข้าสู่อาศรมสมาทานโอสถเพื่อข่มมานะเสีย นั่งเหนือกระดานเลียบเป็นกุลบุตรผู้มีญาณใหญ่ ข่มมานะเสียได้ เจริญกสิณ ยังอภิญญาและสมาบัติ ๘ ให้บังเกิดได้แล้ว จึงออกไปนั่งที่แผ่นกระดานหินท้ายที่จงกรม
ครั้งนั้นมีนกพิราบพากันเข้าไปหาท่าน ไหว้แล้วยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนหนึ่ง พระดาบสจึงถามนกพิราบว่า “ในวันอื่นๆ เจ้าไม่ได้มาเวลานี้ เจ้าคงไม่ได้หาอาหาร ในวันนี้เจ้าเป็นผู้รักษาอุโบสถหรือไฉนเล่า”
นกพิราบเรียนว่า “ขอรับกระผม”
ครั้งนั้นเมื่อท่านจะถามมันว่าด้วยเหตุไรเล่า กล่าวว่า “เพราะเหตุใดบัดนี้เจ้าจึงมีความขวนขวายน้อย ไม่ต้องการอาหาร อดกลั้นความหิวกระหายมารักษาอุโบสถ” นกพิราบได้ฟังดังนั้นแล้วได้กล่าวว่า “แต่ก่อนนี้ข้าพเจ้าบินไปกับนางนกพิราบ เราทั้ง ๒ ชื่นชมยินดีกันอยู่ในป่าประเทศนั้น ทันใดนั้นเหยี่ยวได้โฉบนางนกพิราบไปเสีย ข้าพเจ้าไม่ปรารถนาจะพลัดพรากจากนางไป แต่จำต้องพลัดพรากจากนาง เพราะพลัดพรากจากนาง ข้าพเจ้าเสวยเวทนาทางใจ เพราะเหตุนั้นข้าพเจ้ารักษาอุโบสถ ด้วยคิดว่า ความรักอย่าได้กลับมาหาเราอีกเลย”
เมื่อนกพิราบแถลงอุโบสถกรรมของตนแล้ว ดาบสจึงถามงูเป็นต้นทีละตัวๆ แม้สัตว์เหล่านั้นก็พากันแถลงความจริง เมื่อจะถามงูกล่าวว่า “ผู้ไปไม่ตรง เลื้อยไปด้วยอก มีลิ้น ๒ ลิ้น เจ้ามีเขี้ยวเป็นอาวุธ มีพิษร้ายแรง เพราะเหตุไรเจ้าจึงอดกลั้นความหิวกระหายมารักษาอุโบสถ”
งูกล่าวว่า “โคของนายอำเภอกำลังเปลี่ยว มีหนอกกระเพื่อมมีลักษณะงาม มีกำลัง มันได้เหยียบข้าพเจ้า ข้าพเจ้าโกรธจึงได้กัดมัน มันก็ถูกทุกขเวทนาครอบงำถึงความตาย ณ ที่นั้น ลำดับนั้น ชนทั้งหลายก็พากันหลีกไปไม่ เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าจึงได้รักษาอุโบสถด้วยคิดว่า ความโกรธอย่าได้มาถึงเราอีกเลย”
ดาบส เมื่อจะถามสุนัขจิ้งจอก จึงกล่าว่า “สุนัขจิ้งจอก เนื้อของคนที่ตายแล้วมีอยู่ในป่าช้าเป็นอันมาก อาหารชนิดนี้เป็นที่พอใจของเจ้า เพราะเหตุไรเจ้าจึงอดกลั้นความกระหายมารักษาอุโบสถ”
สุนัขจิ้งจอกกล่าวว่า “สัตวฺทั้ง ๔ นั้นพรรณนาอุโบสถกรรมของตนอย่างนี้แล้ว ก็ชวนกันลุกขึ้นไหว้ดาบส เมื่อจะถามบ้างว่า ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ วันอี่นๆ ในเวลานี้ พระคุณเจ้าเคยไปหาผลาผล วันนี้เหตุไรพระคุณเจ้าจึงไม่ไปกระทำอุโบสถกรรมอยู่ จึงกล่าวว่า “ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้อความอันใด ท่านก็ได้ถามพวกข้าพเจ้า ข้าพเจ้าทั้งหมดก็ได้พยากรณ์ข้อความอันนั้นตามที่ได้รู้เห็นมา ข้าแต่ท่านผู้เป็นวงศ์พรหมผู้เจริญ พวกข้าพเจ้าจะขอถามท่านบ้างละ เพราะเหตุไรท่านจึงรักษาอุโบสถเล่า”
ฝ่ายพระดาบสนั้นก็แถลงแก่พวกนั้นว่า “พระปัจเจกพุทธเจ้ารูปหนึ่ง ผู้ไม่แปดเปื้อนด้วยกิเลส นั่งอยู่ในอาศรมของฉันครู่หนึ่ง ท่านได้บอกให้ฉันทราบถึงที่ไปที่มา นามโคตรและจรณะทุกอย่างถึงอย่างนั้น ฉันก็มิได้กราบไหว้เท้าทั้ง ๒ ของท่าน อนึ่ง ฉันก็มิได้ถามถึงนามและโคตรของท่านเลย เพราะเหตุนั้นฉันจึงรักษาอุโบสถ ด้วยคิดว่า มานะอย่าได้มาถึงฉันอีกเลย”
พระดาบสแถลงการณ์กระทำอุโบสถของตนอย่างนี้แล้วตักเตือนสัตว์เหล่านั้นส่งต่อไป กลับเข้าอาศรม สัตว์เหล่านั้นต่างพากันไปที่อยู่ของตน พระดาบสมีฌานไม่เสื่อม ได้มีพรหมโลกเป็นที่ไปในเบื้องหน้า สัตว์พวกนั้นตั้งอยู่ในโอวาทของท่านได้ไปสวรรค์ตามๆ กัน
นิทานชาดกเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“ต่างคน ก็ต่างจิตต่างใจ”
พุทธศาสนสุภาษิตประจำเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
นานาทิฏฺฐิเก นานยิสฺสสิ เต
มนุษย์ทั้งหลายต่างความคิดความเห็นกัน
ท่านจะกำหนดให้คิดเห็นเหมือนกันหมดเป็นไปไม่ได้ (๒๗/๗๓๐)
ที่มา : นิทานชาดกจากพระไตรปิฎก : พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ ฉบับสมบูรณ์ จัดพิมพ์เผยแพร่ธรรมโดยธรรมสภา สถาบันบันลือธรรม
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 กรกฎาคม 2567 14:32:04 โดย Kimleng
»
บันทึกการเข้า
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...