11 ตุลาคม 2567 09:03:24
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
นั่งเล่นหลังสวน
สุขใจ อนามัย
.:::
หม่อนสายพันธุ์ไทย สมุนไพรเพื่อการพึ่งพาตนเอง
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: หม่อนสายพันธุ์ไทย สมุนไพรเพื่อการพึ่งพาตนเอง (อ่าน 103 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 2411
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
หม่อนสายพันธุ์ไทย สมุนไพรเพื่อการพึ่งพาตนเอง
«
เมื่อ:
18 สิงหาคม 2567 12:19:49 »
Tweet
หม่อนสายพันธุ์ไทย
ที่มา - มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 16 - 22 สิงหาคม 2567
คอลัมน์ - โครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งพาตนเอง
เผยแพร่ - วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ.2567
สนทนาว่าด้วย “สายพันธุ์ไทย” ไม่เกี่ยวกับใครๆ “สายพันธุ์ใหม่” ในสภาไทย
หลายคนคงไม่รู้ว่าหม่อนพืชสมุนไพร พืชเศรษฐกิจ ที่คนไทยรู้จักกันทั่วไป และเกษตรกรนำใบมาเลี้ยงตัวไหม บางที่ก็ปลูกเอาผลมากินมาขายหรือนำมาแปรรูปนั้น เป็นหม่อนสายพันธุ์จีน ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า
Morus alba L.
โดยปกติหม่อนจัดอยู่ในสกุล
Morus
ซึ่งในฐานข้อมูลระดับโลกของสวนพฤกษศาสตร์หลวง เมืองคิว บันทึกไว้ว่ามีทั้งสิ้น 17 ชนิด (
species
) และกล่าวถึงสายพันธุ์ที่มีถิ่นกำเนิดในไทยเพียง 2 ชนิด คือ
Morus indica L
. และ
Morus macroura Miq
. แต่คนไทยเกือบจะไม่รู้จักหม่อนทั้ง 2 ชนิดนี้เลย
หม่อนสายพันธุ์ไทย ชนิด
Morus macroura
มีชื่อสามัญในภาษาอังกฤษว่า
king white mulberry
หรือ
Himalayan Mulberry
หรือ
long mulberry
เนื่องจากมีช่อผลที่ยาวและใหญ่กว่าหม่อนชนิดอื่นๆ ผลมีขนาดยาว 6-12 เซนติเมตร
คนอีสานเรียกหม่อนชนิดนี้ว่า “มอนเฮื้อ” มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออก จีน อินเดีย เนปาล ภูฏาน เมียนมา ไทย กัมพูชา มาเลเซียและอินโดนีเซีย
หม่อนชนิดนี้เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ สูงได้ถึง 40 เมตร ผลสุกมีทั้งสีขาว ชมพูหรือแดง รสหวานเหมือนน้ำผึ้ง พบได้ในป่าเขตร้อนที่ระดับความสูง 300-2,200 เมตร ในเมืองไทยพบได้ทั้งในป่าทึบและป่าโล่งแจ้ง สามารถเจริญเติบโตได้ดีทั้งในเขตอบอุ่นและเขตร้อน ทนต่ออากาศเย็นได้ดี จัดอยู่ในกลุ่มไม้โตเร็ว มีอายุยืนยาวนานอย่างไม่น่าเชื่อว่าให้ผลได้หลายร้อยปี
หม่อนชนิดนี้มีต้นตัวผู้และต้นตัวเมียแยกกัน ถ้าจะปลูกเพื่อให้ได้ลูกต้องปลูกทั้งต้นตัวผู้และต้นตัวเมีย
ในต่างประเทศมีรายงานการใช้น้ำคั้นจากเปลือกต้นเป็นยารักษาแผลสดและแผลเปื่อย ผลสดใช้เป็นยาบำรุงและแก้อาการระคายคอ
ในอดีตจะพบหม่อนสายพันธุ์ไทยนี้ในเกือบทุกชุมชนของภาคอีสาน และนำมาเป็นยาสมุนไพรใช้กันทั่วไป เช่น นำรากมาเข้าตำรับยารักษาได้หลายโรค เช่น ไข้หมากไม้ ทรางขาว กินผิด ฝีในท้อง เจ็บในหัวใจ ทำมะลา (ฝีในคอ) และโล่งเลือด (อาการตกเลือดก่อนหมดประจำเดือน) แต่ในปัจจุบันพบได้น้อยมาก
ในอดีตเคยนำมาปลูกเป็นไม้เบิกนำ โดยเฉพาะการฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรมให้ฟื้นกลับมาได้เร็วเพราะเป็นไม้โตเร็ว และยังให้ผลที่เป็นอาหารของนกและค้างคาวได้เป็นอย่างดีด้วย ในอดีตยังมีการนำเปลือกต้นมาใช้ทำกระดาษ เนื้อไม้และใบใช้เป็นสีย้อม เนื้อไม้มีความละเอียดสวยงามจึงนำมาแปรรูปทำเฟอร์นิเจอร์ ของประดับ อุปกรณ์ทางการเกษตร และใช้เป็นเชื้อเพลิงทั่วไปเพราะเป็นไม้โตไวนั่นเอง
หม่อนอีกชนิดหนึ่งที่เป็นสายพันธุ์ไทย คือ หม่อนที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า
Morus indica L.
ดูจากชื่อมีคำว่า
indica
ก็มาจากการพบครั้งแรกในอินเดีย แต่ก็มีถิ่นกำเนิดในไทยด้วย หม่อนชนิดนี้เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ 10-15 เมตร ดอกตัวผู้และดอกตัวเมียอยู่บนต้นเดียวกัน เมื่อดอกเพศเมียได้รับการผสมพันธุ์แล้ว จะเกิดผลรวมที่มีเนื้อเป็นก้อนที่เรียกว่า “ซินคาร์ป” ซึ่งจะมีสีดำเมื่อสุกเต็มที่ มีลักษณะคล้ายกับหม่อนดำ ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า
Morus nigra L.
ซึ่งเป็นหม่อนที่มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศอิหร่าน
ปัจจุบันพบว่าคนไทยก็นำสายพันธุ์อิหร่านมาปลูกเพื่อใช้ประโยชน์จากผลหม่อนคล้ายๆ กับหม่อนพันธุ์อื่นๆ
สําหรับหม่อนสายพันธุ์ไทย ชนิด
Morus indica L
. มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระที่ดี ภูมิปัญญาการรักษาแบบพื้นบ้านใช้กับผู้ป่วยเบาหวาน และมีงานวิจัยทั้งในสัตว์ทดลองและในคนที่แสดงให้เห็นว่าหม่อนชนิดนี้มีสรรพคุณในการบรรเทาเบาหวานได้ดี ผลมีกลิ่นหอม รสเย็น สรรพคุณเป็นยาระบาย ใช้แก้กระหายน้ำ ช่วยรักษาไข้
เปลือกต้นมีฤทธิ์ขับพยาธิและนำมาพอกรักษาโรคเหงือกอักเสบ นำใบมาต้มเป็นยาบ้วนปากเพื่อรักษาอาการอักเสบของสายเสียง รากก็มีฤทธิ์ฝาดสมานและขับพยาธิ เปลือกรากมีฤทธิ์ขับปัสสาวะและขับเสมหะ ใช้เป็นยาต้มรักษาอาการร้อนในปอด หอบหืด เสมหะมาก ใบหน้าบวมน้ำด้วย
ประโยชน์อื่นๆ ยังนำเอาเปลือกมาทำกระดาษได้ และน่าตื่นตาตื่นใจที่มีการนำเอาสารสกัดจากส่วนต่างๆ ของหม่อนชนิดนี้มาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเชิงพาณิชย์ เช่น สารป้องกันการเกิดสิว สารต้านจุลินทรีย์ สารต้านอนุมูลอิสระ สารสมานผิว สารให้ความชุ่มชื้นและครีมนวดผม
หากสืบค้นข้อมูลทั่วไปในประเทศไทย จะพบข้อมูลสมุนไพรหม่อนทั้งที่ใช้ในความรู้ยาพื้นบ้าน แพทย์แผนไทย หรือการใช้ในครัวเรือนนั้น จะอ้างอิง หม่อน มี่ใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า
Morus alba L.
ซึ่งเป็นหม่อนที่มีถิ่นกำเนิดในจีน เช่น กล่าวถึงใบ ที่มีรสจืดเย็น เป็นยาขับเหงื่อ แก้ไข้ แก้ตัวร้อน แก้ร้อนในกระหายน้ำ ทำยาต้มใช้อมแก้เจ็บคอ และทำให้เนื้อเยื่อชุ่มชื้น แก้ไอ ระงับประสาท และใบยังใช้ทำชาชงดื่มกินมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ หรือใบต้มน้ำรอให้เย็นนำมาเป็นยาชะล้างตาแก้ตาอักเสบ ใบอังไฟและทาด้วยน้ำมันมะพร้าวใช้วางบนแผล หรือตำใช้ทาแก้แมลงกัด
กิ่งอ่อน ใบอ่อน ใช้แก้ไข้ แก้หวัด แก้ไอ เช่นกัน
ผล มีรสเปรี้ยวหวานเย็น นำมาต้มน้ำหรือเชื่อมกิน เป็นยาเย็น ยาระบายอ่อนๆ แก้ธาตุไม่ปกติ บรรเทาอาการกระหายน้ำ แก้โรคปวดข้อ เปลือกราก ใช้แก้ไข้ แก้เจ็บคอ ทำให้ชุ่มคอ บำรุงไต ดับร้อน ช่วยย่อย และเพิ่มความสดชื่น
เมล็ด กินได้ช่วยเพิ่มกากใยอาหาร
เปลือก เป็นยาระบายและยาถ่ายพยาธิ ราก ใช้ขับพยาธิและเป็นยาสมาน รากนำมาตากแห้งต้มผสมน้ำผึ้ง เป็นยาที่มีรสหวานเย็น ใช้กับในโรคทางเดินหายใจ ใช้แก้ความดันโลหิตสูง
ข้อน่าสังเกตจากมูลนิธิสุขภาพไทย คือ สรรพคุณดีและเด่นของหม่อนที่กล่าวไว้นั้น อาจมาจากหม่อนสายพันธุ์ไทย 2 ชนิดข้างต้นก็เป็นได้ เพราะอยู่ในรากวัฒนธรรมไทยและมีการสืบทอดการใช้ประโยชน์มาอย่างยาวนาน ด้วยเหตุใดไม่ทราบที่ทำให้นักวิชาการและหน่วยงานรัฐของเรา หลงลืมหรือละเลยหม่อนสายพันธุ์ไทยที่มีสรรพคุณดีและเด่นเช่นนี้
ไม่มีสิ่งใดสายเกินไป ถ้าช่วยกันนับหนึ่งรักษาสายพันธุ์และส่งเสริมการใช้ประโยชน์ ไม่นานก็จะมีหม่อนสายพันธุ์ไทยมากขึ้น กระซิบบอกว่าทางมูลนิธิสุขภาพไทยกำลังทดลองเพาะขยายพันธุ์หม่อนไทยในพื้นที่นำร่อง 5 จังหวัดจ้า •
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...