ซูรี ชนเผ่าพื้นเมืองประเทศเอธิโอเปีย

ชนเผ่าซูรี ประเทศเอธิโอเปีย

ท่ามกลางภูมิประเทศที่สวยงามและเนินเขาลูกคลื่นทางตะวันตกเฉียงใต้ของเอธิโอเปีย ชนเผ่าซูรี คือสมบัติล้ำค่าของชาวแอฟริกัน ชนเผ่าซูริเป็นหนึ่งในกลุ่มชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในหุบเขาโอโมที่อุดมไปด้วยความงามตามธรรมชาติ เป็นที่ตั้งของทุ่งหญ้าสีเขียว ป่าไม้เขียวขจี และแม่น้ำโอโม ซึ่งให้ชีวิตแก่ชาวซูริและกลุ่มชนพื้นเมืองอื่นๆ ในท้องถิ่น

ด้วยวิถีชีวิตของชนเผ่าซูริที่แปลกตา การแต่งกาย และขนบธรรมเนียม ชนเผ่านี้จึงเป็นหน้าต่างอันน่าทึ่งที่เผยให้เห็นมรดกทางวัฒนธรรมอันหลากหลายของเอธิโอเปีย

ชาวซูริก็เหมือนกับเพื่อนบ้าน ส่วนใหญ่พึ่งพาการทำฟาร์มและการเลี้ยงวัวเพื่อการดำรงชีวิตภายในชนเผ่า วัวเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรืองและสถานะ นอกเหนือจากการเป็นแหล่งอาหาร วัวเป็นจุดสำคัญของพิธีกรรมต่างๆ และมักประดับด้วยลูกปัดและดินเหนียวสีสันสดใส การเลี้ยงวัวเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของชาวซูรี ดังนั้น เด็กชาวซูรีจึงเริ่มเรียนรู้ทักษะการทำฟาร์มแบบเร่ร่อนตั้งแต่ยังเด็ก ชาวซูรีไม่ได้กินเนื้อวัว แต่นมวัวเป็นแหล่งอาหารหลักของพวกเขา ผู้ชายมักจะไม่สวมเสื้อผ้าใดๆ พวกเขาปกคลุมร่างกายด้วยขี้เถ้า ดิน และแม้แต่มูลวัวก่อนพระอาทิตย์ขึ้น การดื่มเลือดวัวสดเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมของชาวซูรี ผู้หญิงซูรีบางครั้งก็อาศัยอยู่ในโรงเลี้ยงวัว แต่มีปัญหาสิ่งแวดล้อมด้านสุขอนามัยมักคุกคาม

วัฒนธรรมสังคม : ชาวซูรินาเมเฉลิมฉลองพิธีกรรมต่างๆ มากมายที่บ่งบอกถึงเหตุการณ์สำคัญในชีวิต ชายหนุ่มซูริต่อสู้ด้วยไม้ "ดงกา" หรือแข่งขันการต่อสู้ด้วยไม้ เพื่อแสดงความกล้าหาญและพลังของพวกเขา โอกาสสำคัญอีกประการหนึ่งคือการแต่งงานซึ่งมีการแลกเปลี่ยนสัตว์ (วัว) เป็นของขวัญ ประเพณีนี้เน้นย้ำถึงคุณค่าของวัวที่บ่งบอกถึงสถานะทางสังคมและความมั่งคั่ง นอกเหนือจากการเป็นตัวแทนของการอยู่ร่วมกันของสองครัวเรือน

เครื่องประดับร่างกาย : ชาวซูรินาเป็นที่รู้จักจากรูปแบบรอยแผลเป็นที่โดดเด่นและการประดับประดาร่างกายอย่างหรูหรา การทำแผลเป็น เป็นพิธีกรรมที่ยากลำบากสำหรับชายหนุ่มและหญิงสาวในวัฒนธรรมซูรินาเม รอยแผลเป็นถือเป็นสัญญาณของความแข็งแกร่ง ความกล้าหาญ และวุฒิภาวะ รอยแผลเป็นเหล่านี้เกิดจากการกรีดผิวหนังและใช้สารต่างๆ เช่น เถ้าและดินเหนียวเพื่อกระตุ้นให้เกิดแผลเป็นนูน รอยแผลเป็นเหล่านี้มักมีลักษณะเป็นลวดลายนูนขึ้นและมีเส้นประดับ

นอกเหนือจากการทำแผลเป็นแล้ว ชาวซูริยังมีชื่อเสียงในด้านการใช้แผ่นริมฝีปาก โดยเฉพาะในกรณีของผู้หญิง แผ่นปากเป็นดินเหนียวทรงกลมหรือแผ่นไม้ที่ใส่เข้าไปในริมฝีปากล่าง ลักษณะริมฝีปากที่ยืดออกอย่างโดดเด่นนั้นเกิดจากการค่อยๆ ขยายริมฝีปากออกเมื่อเวลาผ่านไป ประเพณีนี้ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความงามและจุดยืนของผู้หญิงในสังคม

ชนเผ่าซูรี ภูมิใจในรอยแผลเป็นและจำนวนรอยแผลเป็นที่พวกเธอมี ผู้หญิงจะทำการขูดผิวหนัง
ด้วยมีดโกนหลังจากใช้หนามงัดผิวหนังออกแล้วจากนั้นจึงปล่อยให้ผิวหนังที่เหลือเป็นแผลเป็น
ในที่สุด ส่วนผู้ชายมักจะทำการขูดร่างกายของตนเองหลังจากฆ่าศัตรู ร่วมกับการดวลด้วยไม้
ซึ่งเป็นประเพณีที่เจ็บปวดมาก กล่าวว่าเป็นวิธีการทำให้ชาวซูรีรุ่นเยาว์คุ้นเคยกับความเจ็บปวด

หญิงชาวซูริยังมีชื่อเสียงในด้านการใช้แผ่นริมฝีปาก
แผ่นปากเป็นดินเหนียวทรงกลมหรือแผ่นไม้ที่ใส่เข้าไปในริมฝีปากล่าง

วัวถือเป็นสมบัติล้ำค่าของชาวซูรี อย่างไรก็ตาม ชาวซูรีไม่ได้กินวัวจริงๆ แต่พวกเขาทำการบูชายัญเพื่อเหตุผลทางพิธีกรรม เช่น งานศพและการแต่งงาน นมเป็นแหล่งอาหารหลักของชาวซูรี แต่เลือดวัวนั้นสามารถบริโภคได้โดยชาวซูรีเท่านั้น ในทุกเช้า ชาวซูรีจะดื่มนมจากวัวโดยตรง จากนั้นพวกเขาจะรวบรวมนมและส่งไปยังหมู่บ้านของพวกเขาการดื่มเลือดสดเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมซูรี ซึ่งปฏิบัติตามพิธีกรรม วัวที่คัดเลือกมาจะถูกกักไว้ในคอกแยกต่างหาก ผู้ชายซูรีหลายคนจะอุ้มวัวไว้ และจะใช้ผ้าผูกคอให้แน่นเพื่อห้ามเลือดของวัว ผู้ชายซูรีที่แข็งแกร่งจะยิงธนูเล็กและคมเพื่อเจาะหลอดเลือดที่คอของวัว เลือดสดจะไหลออกมาอย่างรวดเร็วและแรงลงในภาชนะ เช่น ขวดน้ำเต้าหรือถ้วย ผู้ชายซูรีจะดื่มเลือดทันที บาดแผลจะอยู่ที่ผิวเผิน โดยที่วัวจะไม่ได้รับบาดเจ็บ

ในปัจจุบัน ผู้ชายชาวซูรีจะคลุมร่างกายด้วยผ้าห่มขนสัตว์ซึ่งส่วนใหญ่มีสีเขียว และสวมคลุมไหล่ข้างหนึ่ง ในค่ายเลี้ยงสัตว์ ผู้ชายชาวซูรีมักจะไม่สวมเสื้อผ้าใดๆ พวกเขาจะคลุมร่างกายที่โกนเกลี้ยงเกลาด้วยขี้เถ้า บางครั้งพวกเขามักจะสร้างรอยทางโดยใช้ดินและ/หรือมูลวัวทาบนร่างกาย ผู้ชายชาวซูรีจะช่วยกันทาตัวก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ผู้ชายชาวซูรีใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่ค่ายเลี้ยงสัตว์ที่อยู่ห่างจากหมู่บ้าน เนื่องจากสถานที่ตั้งของค่ายมักจะย้ายไปมาระหว่างทุ่งหญ้าและแหล่งน้ำ การดูแลวัวเป็นหน้าที่ของผู้ชายและเด็กชายเป็นหลัก ดังนั้นเด็กชายชาวซูรีจึงเรียนรู้ทักษะการทำฟาร์มแบบเร่ร่อนตั้งแต่ยังเด็ก ผู้หญิงชาวซูรีบางครั้งก็อาศัยอยู่ที่ค่ายเลี้ยงสัตว์เช่นกัน แต่ปัญหาสิ่งแวดล้อมด้านสุขอนามัยมักคุกคามเด็กที่กำลังให้นมลูกอยู่เสมอ

source :
- www.tribes.world
- www.photoawards.com