[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
19 มีนาคม 2567 16:08:07 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โลก กำลังจะมี ภัยพิบัติ ครั้งใหญ่ จริงหรือไม่ ดังตฤณ เตือนสติ  (อ่าน 4283 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 05 มิถุนายน 2553 11:20:05 »

คัดลอกมาจาก อ.มดเอ็กซ์ ที่โพสท์ไว้ในเวบเก่า




 
ถาม – โลกกำลังจะมีภัยพิบัติครั้งใหญ่จริงหรือไม่..?

ตั้งแต่เกิดเหตุสึนามิถล่มหลายประเทศ ขบวนการพยากรณ์ก็กลับมาฮิตใหม่อีกครั้ง หลังจากซบเซาไปนาน ทั้งการไม่มาตามนัดของสงครามนิวเคลียร์ในปี ๑๙๙๙ และทั้งการลบแผนที่หลายๆประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีหมู่เกาะซึ่งเสี่ยงต่อการจมน้ำทั้งหลาย

ผมมองว่าขบวนการพยากรณ์ภัยพิบัติส่วนใหญ่คือการใช้ประโยชน์จากความกลัวของผู้คน คำทำนายมักหนีไม่พ้นแผ่นดินไหว น้ำท่วม ไฟไหม้ พายุซัด เพราะเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นบ่อยในระยะหลัง แต่เพื่อให้น่าสนใจ คำพยากรณ์ช่วงนี้จะออกแนวหายนะระดับล้างโลกที่น่าขนพองสยองเกล้า เช่นประเทศนั้นประเทศนี้จะหายวับไปกับตา อะไรทำนองนั้น

นอกจากภัยทางธรรมชาติ ยังมีคำพยากรณ์เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งอันนี้ก็เป็นจริงและควรมองว่าน่าหวั่นวิตกกว่ากันเสียอีก เพราะมีข่าวไวรัสสายพันธุ์ใหม่ให้ได้ยินเป็นรายวัน ชนิดที่ต่อไปคนอาจไม่ประหลาดใจถ้ามีข่าวว่าอยู่ดีๆมีคนกลุ่มหนึ่งบนฟุตบาทลงไปชักดิ้นชักงอพราดๆเหมือนในหนังเขย่าขวัญ โดยทีมแพทย์ตรวจเบื้องต้นไม่ทราบว่าโดนเชื้อโรคสายพันธุ์ใดเล่นงาน

เสียงลือเกี่ยวกับการเอาอาวุธนิวเคลียร์มาเป็นเครื่องมือข่มขู่กันระหว่างประเทศ ก็ทำให้เกิดการพยากรณ์อันน่าเชื่อถือได้อีก ว่าวันหนึ่งโลกคงไม่แคล้วต้องประสบกับโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่สุด คนตายเรือนล้านทันทีจากอาวุธนิวเคลียร์ และอีกหลายล้านต้องตายแบบผ่อนส่งจากพิษกัมมันตภาพรังสี

สรุปคือ ปัจจัยที่จะทำให้เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่นั้นมีอยู่จริง!

อย่างไรก็ตามสิ่งที่มีอยู่จริงก็ไม่จำเป็นต้องแผลงฤทธิ์เสมอไป ทำนองเดียวกับที่เราเดินผ่านหมามีเขี้ยวเล็บทุกวัน มันมีสิทธิ์กัดเราเนื้อขาดได้ตอนทีเผลอ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่กัด ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราเดินผ่านไปสบายๆโดยไม่คิดอะไร จนกว่าจะมีข่าวหมาเป็นพิษสุนัขบ้า หรือได้ยินใครในตลาดเล่าให้ฟังว่าหมู่นี้หมาชอบกัดคนเดินเท้าประจำ คุณถึงค่อยเกิดอาการเหลียวซ้ายแลขวาลอกแลก แตกต่างไปจากเดิม


ลองหลบมุมจากเสียงลือเสียงเล่าอ้าง แล้วมาดูกันในมุมมองของกรรมวิบากกันบ้างนะครับ ผมจะไม่พูดแบบหมอดู คือไม่ฟันธงลงไปว่าอะไรจะเกิดขึ้นที่ไหน เมื่อไหร่ ตอนดาวทำมุมอย่างไร แต่จะลองวาดภาพให้คุณเห็นอย่างชัดเจน ว่าตามหลักแล้ววิบากกรรมจะเล่นงานคนเรือนล้านพร้อมกันได้เพราะมีเหตุปัจจัยดังนี้
 
๑) มีสัตว์ต้องตาย ‘พร้อมกัน’ นับอสงไขย คืออย่าไปคิดเฉพาะมนุษย์ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ที่กำลังเสวยบุญขั้นสูงสุด แต่ต้องคิดถึงสัตว์น้อยใหญ่อีกไม่รู้กี่แสนล้านตัวด้วย เพราะสมมุติว่าคนตายเพียงหนึ่งล้าน แปลว่าต้องกินอาณาบริเวณกว้างไกลไม่ใช่เล่นๆ อาจจะทั้งจังหวัดเล็กๆ ลองคิดดูสิครับว่าหมาแมว นกหนู มดปลวก และอะไรจิปาถะอื่นๆจะมีอยู่ประมาณไหนในหนึ่งจังหวัด ใช้ตัวเลขมั่วๆว่า ‘นับไม่ถ้วน’ ไปพลางๆดีกว่า
 
๒) วิบากกรรมที่ทำให้ตายกะทันหันนั้น ควรจะเป็นประเภทตัดรอนภาวะดีๆ เปลี่ยนเอาภาวะร้ายๆมาแทนที่แบบปุบปับฉับพลัน ไม่ให้ทันได้ตั้งเนื้อตั้งตัว พูดง่ายๆว่าต้องตกต่ำลงจากสภาพเคยอยู่ดีมีสุขในสภาพเนื้อตัวแห้งสะอาดนุ่มนิ่มแบบมนุษย์ไปเป็นอื่นที่ลำบากกว่ากัน ทั้งนี้ก็เพราะคนและสัตว์ส่วนใหญ่ไม่ได้เตรียมใจตายไว้ล่วงหน้า เมื่อไม่ได้เตรียมก็แปลว่าใช้ชีวิตตามสบาย ซึ่งตามสบายของคนส่วนใหญ่ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ถ้าไม่คิดเรื่องเซ็กซ์ก็คิดเรื่องล้างแค้น ถ้าไม่คิดเรื่องล้างแค้นก็คิดเรื่องความสำคัญของตัวตน ล้วนแต่เรื่องปรุงแต่งจิตให้เศร้าหมอง เมื่อตายขณะจิตเศร้าหมองย่อมเอียงลงต่ำ เว้นแต่จะสั่งสมบุญใหญ่ไว้ช้อนได้ทัน อีกประการหนึ่ง ภัยพิบัติระดับทำคนตายเป็นล้านนั้น มักมาในรูปแบบของความน่าสะพรึงกลัวไม่มีอะไรเกิน ความกลัวเป็นโทสะชนิดแรงกล้า ถ้าครอบงำจิตสุดท้ายไว้ทั้งดวงได้ ก็มักตรึงจิตให้ติดอยู่กับความกลัวนั้นๆ พูดง่ายๆเป็นเปรตที่ต้องวนเวียนอยู่กับภพแห่งความน่ากลัวไปอีกนาน จนกว่าจะมีบุญใดมาเลื่อนชั้นให้ น้อยคนครับที่เปลี่ยนจากภาวะมนุษย์ด้วยอุบัติเหตุกะทันหันแล้วไปสูงขึ้น ต้องสั่งสม ต้องย้อมจิตย้อมใจเป็นกุศลกันจนอยู่ตัวพอประมาณ
 
เอาแค่ปัจจัยที่เอื้อให้เกิดมหาหายนะสองข้อข้างต้น ก็คงพอจะพิจารณาได้ว่าการตายเกลี้ยงฉาดแบบเทกระจาดทิ้งทั้งหมดโลกในคราวเดียวนั้น เกิดขึ้นได้ยากเต็มทีครับ เพราะแปลว่าผู้มีบุญถึงขั้นได้เป็นมนุษย์กว่า ๖,๐๐๐ ล้านรายจะต้องตายร้ายพร้อมกันหมด อัตราความเป็นไปได้คงเป็นศูนย์ คือต่อให้มีดาวหางใหญ่เท่าดวงจันทร์จะวิ่งมาชนโลกแตกดับ ก็ต้องได้พระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเหมือนในหนังจนได้
 
อย่างไรก็ตาม แม้โอกาสตายเกลี้ยงพร้อมกันจะเป็นศูนย์ แต่โอกาสทยอยตายเป็นกระจุกๆนั้นชักเริ่มมีมาก ทั้งนี้เพราะมีผู้สมควรตายแบบปัจจุบันทันด่วนเพิ่มขึ้นนั่นเอง


ผู้สมควรตายแบบปัจจุบันทันด่วนนั้นคือใครบ้าง?
 
 
๑) ผู้ถึงวาระสุดท้าย อาจถึงเวลาตายด้วยกรรมเก่าจากอดีตชาติ หรือเพราะกรรมใหม่ในชีวิตปัจจุบัน บันดาลให้ต้องตกตาย ณ จุดของเวลานั้นๆ โดยไม่คำนึงถึงว่าจิตกำลังเป็นกุศลหรืออกุศลในขณะเผชิญความตาย โดยมากพวกนี้จะมีโอกาสตั้งสติระลึกถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งสิ่งมนุษย์มักยึดเหนี่ยวกันก็คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของตน แต่ถ้าระหว่างมีชีวิตไม่ทำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้อยู่ในใจ ก็มักกังวลโน่นนี่สารพัด
 
๒) ผู้ถึงวาระสุดท้ายเช่นเดียวกับข้อแรก แต่กรรมในอดีตชาติหรือในชาติปัจจุบันบังคับไว้เลยว่าต้องตายด้วยจิตที่เป็นกุศลหรืออกุศล เช่นถ้าอดีตชาติเคยฆ่าผู้อื่นด้วยวิธีทำให้กลัวก่อนตาย หากชาติปัจจุบันไม่สร้างกระแสกรรมใหม่ไว้แรงพอจะส่งให้จิตมีกำลังและสว่างไสวพอ ก็จะต้องตายด้วยเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความกลัวอย่างท่วมท้น แม้พยายามระลึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในนาทีสุดท้าย อย่างไรก็แก้ไม่ทัน
 
๓) ผู้มีบาปหนัก ถึงเวลาตายในจังหวะที่จิตกำลังดำมืด ขาดกำลังส่งให้ไปดี เขามีบาปหนักสมควรจะต้องชดใช้ ขนาดที่ว่าถ้ายังมีชีวิตต่อ ก็จะขาดเหตุปัจจัยในโลกนี้มาลงโทษอย่างสาสม อันนี้หาได้ยาก ที่เคยมีเป็นเยี่ยงอย่างแก่มนุษยชาติก็ได้แก่พระเทวทัตซึ่งทำร้ายพระพุทธองค์สารพัดวิธีแบบกะปลงพระชนม์ อยู่ๆพื้นแผ่นดินที่ยืนอยู่ก็แยกออกแล้วกลืนหายลงไปเฉยๆ (ไม่ได้สูบฮวบเดียวจมมิด เพราะหลักฐานมีอยู่ว่าพระเทวทัตสำนึกผิดได้ตอนโดนดูดลงไปเหลือแค่ส่วนหัว ตำแหน่งที่พระเทวทัตโดนในปัจจุบันก็ยังมีปักป้ายแสดงที่อินเดีย ใครอยากดูก็ลองไปสัมผัสเอาเองว่ามีความน่าขนลุกอยู่จริงไหม)
 
๔) ผู้มีบุญมาก ถึงเวลาตายในจังหวะที่จิตกำลังผ่องใส หรือมีกำลังของกุศลอุ้มชูมากพอจะประกันภพใหม่ว่าต้องดีกว่าที่กำลังเป็นอยู่ เขามีบุญญาธิการที่ควรได้เป็นผู้เสวยสุขมาก ขนาดที่ว่าถ้ายังมีชีวิตต่อ ก็ขาดเหตุปัจจัยที่จะตกรางวัลอย่างสมน้ำสมเนื้อกับบุญญาบารมีเสียแล้ว พวกนี้กุศลจะคุ้มตัว ต่อให้เกิดเรื่องน่ากลัวขนาดไหนก็ไม่ตระหนก จิตส่วนลึกมีความเชื่อมั่นกับกระแสกุศล อบอุ่นใจมากพอ ตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้นคือหญิงชาวนาคนหนึ่ง ตื่นเช้าใส่บาตรพระอรหันต์ซึ่งเพิ่งออกจากนิโรธสมาบัติ ซึ่งผลกรรมด้านดีจะแรงมาก ต้องเห็นผลใน ๗ วัน แต่ด้วยวิถีชีวิตของนางไม่มีปัจจัยในโลกสนองตอบได้ไหว เลยตายแบบปัจจุบันทันด่วนด้วยสัตว์ร้าย ไปเสวยสวรรค์ระหว่างทางทำบุญนั่นเอง (ปัจจุบันข่าวทัวร์บุญที่รถเทกระจาดก็มีให้เห็นบ่อยจนบางคนตั้งข้อสังเกตนะครับ อย่าตีความว่าทำบุญแล้วตายหมายถึงทำบุญแล้วได้อัปมงคลเป็นอันขาด




 
 
ขอยกตัวอย่างเหตุการณ์สึนามิที่ผ่านมา คนมักถามกันว่าผู้เคราะห์ร้ายเคยทำกรรมใดร่วมกันมาจึงร่วมตายเกือบพร้อมเพรียงอย่างนั้นถึงสามแสนคน
 
อันนี้ขอให้ทราบนะครับ การตายหมู่ไม่ใช่เครื่องหมายบอกเสมอไปว่านั่นเป็นวิบากกรรมที่พวกเขาทำมาร่วมกัน ขอให้สังเกตว่ากรณีสึนามินั้น แต่ละคนกระจายกันรับเคราะห์กรรมซึ่งมีแรงหนักเบาไม่เท่ากัน สถานการณ์ที่ส่งผลให้เจ็บตายไม่เหมือนกัน และที่สำคัญไม่ได้รู้จักมักจี่ ไม่ได้จูงมือไปรวมตัวกันตามข้อตกลงแต่อย่างใด
 
นอกจากนั้นขอให้สังเกตอีกประการหนึ่ง คือหลายรายไม่ใช่คนในพื้นที่ แต่เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนภพของพวกเขา ก็มีเหตุให้พวกเขาต้องไปอยู่ที่นั่นพอดี ตำแหน่งที่จะถูกน้ำซัดตายพอดี ส่วนคนที่ยังไม่ถึงฆาต แม้ห่างกันแค่ไม่กี่ก้าว ก็กลับรอดและไม่บาดเจ็บเท่าแมวข่วน บางคนถูกน้ำซัดเข้าปะทะผนัง น่าจะตายแน่แล้ว ผนังส่วนนั้นกลับพังราบ เลยรอดจากการถูกอัดก๊อปปี้! นี่แหละการแสดงความมหัศจรรย์ในการ ‘คัดคนออก’ ของกฎแห่งกรรมวิบาก ใครยังคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ ก็สมควรทบทวนดูใหม่จากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น ว่าทำไมความบังเอิญจึงเล่นตลกได้ขนาดนี้?
 
การประสบเคราะห์กรรมร่วมกัน ชนิดที่ส่อถึงอดีตกรรมที่เคยทำมาด้วยกันนั้น จะเป็นประเภทกลุ่มคนที่รู้จักกัน ร่วมทางหรือลงเรือลำเดียวกัน ประสบกับรูปแบบเคราะห์กรรมเดียวร่วมกัน เช่นในคัมภีร์มีเรื่องของเหล่าภิกษุไปติดในถ้ำด้วยกัน อดอยากปากแห้งร่วมกันอยู่หลายวัน ก็เพราะกรรมหมู่ในอดีตชาติที่เคยร่วมกันกักขังสัตว์ให้ได้รับความทรมาน เป็นต้น
 
โลกนี้แบ่งออกเป็นเขตพื้นที่ปลอดภัยกับเขตพื้นที่สุ่มเสี่ยง และเป็นอย่างนี้มาทุกยุคทุกสมัย ไม่มีสมัยใดที่โลกปูตลอดด้วยพื้นที่ปลอดภัยหรือสุ่มเสี่ยงอย่างเดียว ต้องมีกระจายเขตดีเขตร้ายไว้ให้บริการส่ำสัตว์ผู้มีบุญมีบาปอย่างทั่วหน้าอยู่เสมอ ฉะนั้นขอให้ลืมเรื่องภัยล้างโลกแบบกวาดทีเดียวหายเรียบไปได้ วันหนึ่งโลกอาจถึงกาลแตกดับจริง แต่ป่านนั้นต้องไม่มีสัตว์บุญมากอย่างมนุษย์หลงเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว
 
โลกยังไม่แตกวันนี้ แต่ก็อย่าประมาทเลยครับ เพราะเราอาจยืน เดิน นั่ง นอนอยู่ในเขตประหาร และเราก็ไม่อาจทราบเสียด้วยว่าถึงเวลาของเราหรือยัง ขอให้คำนึงถึงการเตรียมเสบียงไว้เพื่อความไม่ประมาทแหละดีที่สุด เราจะได้ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องถามหาคำทำนาย ว่าที่กำลังหายใจได้ กำลังรู้สึกและนึกคิดได้เหมือนอย่างนี้ วาระสุดท้ายจะต้องตายเดี่ยวหรือตายหมู่ ตายดีหรือตายทรมาน ตายในขณะที่จิตเป็นกุศลหรืออกุศล เพราะธรรมดาผู้สั่งสมบุญ ตุนเสบียงไว้มากๆ ย่อมอุ่นใจอยู่เสมอว่ากรรมขาวทั้งปวงจะตามไปช่วยอุดหนุนค้ำจุนมิให้หลงตายตกร่วงลงต่ำอย่างแน่นอน
 
http://dungtrin.com/prepare/archieve/prepare029.htm

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2553 12:25:19 »


http://i484.photobucket.com/albums/rr207/yamiejung17/nm127.gif
โลก กำลังจะมี ภัยพิบัติ ครั้งใหญ่ จริงหรือไม่ ดังตฤณ เตือนสติ


เหนื่อยมั๊ยย.. กับสิ่งที่เธออ..ทำอยู่ สิ่งที่ฉันนั้นคอยเฝ้าดู..
   
เป็นกำลังใจให้น้องแม๊คเสมอนะคะ.. อนุโมทนาสาธุค่ะ...
บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2553 15:27:29 »



สลึมสลือ สลึมสลือ สลึมสลือ



(:LOVE:)ภาพนี้ถ่ายที่หาดชะอำ รัก


จ้า  น้า Mck ตอนนี้ทำไมอากาศบ้านเรามันร้อนผิดปกติ โลกจะแตกแล้วเหรอ ?


เหงื่อตก เหงื่อตก เหงื่อตก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 มิถุนายน 2553 15:33:26 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
คำค้น: โลก ภัยพิบัติ เตือนสติ ดังตฤณ 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
เตือนสติ: ชีวิตคนเราช่างสั้นนัก เดินข้ามถนนอยู่ดี ๆ ก็ตายได้
สุขใจ ไปรษณีย์
Compatable 2 2590 กระทู้ล่าสุด 18 พฤษภาคม 2554 21:45:44
โดย wondermay
หมอเทพนม คนสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว จริงหรือไม่? (คนดังนั่งเคลียร์ ช่อง2)
เรื่องราว จากนอกโลก
มดเอ๊ก 0 2070 กระทู้ล่าสุด 03 พฤษภาคม 2558 14:05:09
โดย มดเอ๊ก
ทำไมร้านตัดผมส่วนมากมักจะหยุดวันพุธ พระเจ้าแผ่นดินตัดผมวันพุธ จริงหรือไม่ ?
สยาม ในอดีต
ใบบุญ 0 1044 กระทู้ล่าสุด 04 กุมภาพันธ์ 2564 15:57:25
โดย ใบบุญ
[ไทยรัฐ] - “นิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้า” ส่งผลต่อการเกิดช่องว่างในเซลล์สมอง ส่งผลต่อความจำ จริงหร
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 164 กระทู้ล่าสุด 26 สิงหาคม 2565 21:59:46
โดย สุขใจ ข่าวสด
IQ EQ SQ ความฉลาดทางจิต (ดังตฤณ)
สุขใจ ห้องสมุด
มดเอ๊ก 0 163 กระทู้ล่าสุด 23 มกราคม 2566 18:24:24
โดย มดเอ๊ก
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.493 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 03 กันยายน 2566 20:37:42