ชนิดของพริก

Kimleng

'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14

คะแนนความดี: +5/-0

ออฟไลน์

เพศ: หญิง

Thailand

กระทู้: 6096

'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:

Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:

Chrome 109.0.0.0

ชนิดของพริก

« เมื่อ: 31 มีนาคม 2568 17:17:59 »

ชนิดของพริก
-----------------------------

พริกผี (Ghost Pepper)
พริกผี (Ghost Pepper) หรือรู้จักกันในชื่อว่า Bhut Jolokia เป็นหนึ่งในพริกที่เผ็ดที่สุดในโลก มีถิ่นกำเนิดในอินเดีย พริกผีมีค่าสโกวิลล์ (Scoville) ระหว่าง 750,000 ถึง 1 ล้านหน่วย Scoville จัดเป็นพริกที่เผ็ดร้อนเป็นพิเศษและเผ็ดกว่าพริกฮาบาเนโรถึง 5 เท่า พริกผีเคยได้รับการบันทึกโดย Guinness World Records ว่าเป็นพริกที่เผ็ดร้อนที่สุดระหว่างปี 2007 ถึง 2010 ตั้งแต่นั้นมา พริกผีก็ถูกโค่นบัลลังก์โดยพริกอย่าง Trinidad Scorpion และ Carolina Reaper

พริกผีพบได้ตามธรรมชาติและมีการปลูกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย บางส่วนของบังคลาเทศ และภูฏาน มีขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ยาวระหว่าง 6 ถึง 8 ซ.ม. มักมีสีแดงหรือสีส้มเมื่อสุก และมีผิวขรุขระเป็นตุ่ม มักใช้ในน้ำพริกเผ็ด อาหารรสเผ็ด ซึ่งเป็นความท้าทายสำหรับผู้ชื่นชอบพริกที่เผ็ดร้อน

พริกเซอร์ราโน (Serrano Pepper)
พริกเซอร์ราโน (Serrano Pepper) เป็นพริกชนิดหนึ่งที่มีต้นกำเนิดในพื้นที่ภูเขาของรัฐ ปวยบลาและฮิดัลโกของเม็กซิโก ระดับความเผ็ดของพริกเซอร์ราโนอยู่ที่ 10,000 ถึง 25,000 สโกวิลล์ (Scoville) ชื่อของพริกตั้งตามชื่อของภูเขา เซียร์รา ในภูมิภาคเหล่านี้

ต้นพริกเซอร์ราโนที่โตเต็มที่จะมีความสูง 0.5–1.5 เมตร แต่ละต้นสามารถผลิตพริกได้มากถึง 50 ลูก สามารถเก็บผลพริกได้ในขณะที่ยังเขียวหรือสุก พริกเซอร์ราโนที่ยังไม่สุกจะมีสีเขียว แต่สีจะแตกต่างกันไปเมื่อสุก สีทั่วไปของผลที่สุกคือสีเขียว แดง น้ำตาล ส้ม และเหลือง พริกชนิดนี้มักใช้ทำซอสเผ็ด โดยปกติจะรับประทานแบบดิบๆ และมีรสชาติที่สดใสและเผ็ดร้อนกว่าพริกฮาลาปิโน อย่างเห็นได้ชัด พริกเซอร์ราโนยังนิยมใช้ทำซัลซ่าและ พีโกเด อกัลโลเนื่องจากพริกชนิดนี้มีเนื้อมากเมื่อเทียบกับพริกชนิดอื่นๆ จึงเหมาะสำหรับใช้ทำอาหารจานดังกล่าว

พริกเชอร์รี่ (Cherry Pepper)
พริกเชอร์รี่ (Cherry Pepper) เป็นพริกที่มีสีแดงขนาดใหญ่และมีรูปร่างเป็นรูปหัวใจ โดยมีความยาว 7–10 เซนติเมตร และยาว 2–3 เซนติเมตร มีหลากหลายสี เช่น เหลือง เขียว แดง และน้ำตาลแดง เช่นเดียวกับพริกส่วนใหญ่ พริกที่ยังไม่แก่จะมีสีเขียวและเปลี่ยนเป็นสีอื่นๆ เมื่อแก่จัด เนื้อพริกมีรสหวาน ชุ่มฉ่ำ และมีกลิ่นหอมมากกว่าพริกหยวก แดง พริกหยวกบางพันธุ์มีรสเผ็ด เช่น พันธุ์ Floral Gem และ Santa Fe Grande โดยปกติแล้วจะใช้สดเป็นส่วนผสมของสลัด ปรุงสุก หรือดอง หรือมักใช้ทำพริกหยวกอบชีส นอกจากนี้ยังใช้ทำขนมปังพริกหยวกซึ่งเป็นเนื้อแซนด์วิชแปรรูปชนิดหนึ่งอีกด้วย

พริกโรโคโต (Rocoto Pepper)
พริกโรโคโต (Rocoto Pepper) เติบโตในเทือกเขาแอนดีสตั้งแต่ประเทศชิลีไปจนถึงโคลอมเบีย รวมถึงพื้นที่สูงในอเมริกากลางและเม็กซิโก มีถิ่นกำเนิดในเปรู

พริกชนิดนี้มีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น "พริก locoto" ที่แพร่หลายในอเมริกาใต้ หรือ "พริก rocote" หรือ "พริก caballo" หรือ "พริกม้า" ในกัวเตมาลาและบางส่วนของเม็กซิโก

ในประเทศโบลิเวีย เปรู และเม็กซิโก พริกชนิดนี้ยังเป็นที่รู้จักในชื่อ แมนซาโน/แมนซานา (แม้ว่าจะไม่ใช่พริกชนิดเดียวกัน) หรือ "พริกแอปเปิล" โดยพริกพันธุ์หนึ่งมีลักษณะคล้ายแอปเปิลลูกเล็ก และมักใช้เมื่อเป็นสีแดง หรือเรียกว่า เปรอง หรือ "พริกแพร์" ถือเป็นพริกที่ปลูกในบ้านที่เก่าแก่ที่สุดชนิดหนึ่งในทวีปอเมริกา และอาจมีการปลูกมาตั้งแต่ 6,000 ปีก่อนคริสตศักราช นักวิทยาศาสตร์บางส่วนยังคงเห็นพ้องต้องกันว่าพริกที่ปลูกในบ้านนี้มีอายุเก่าแก่และแพร่หลายมากจนปัจจุบันพริกป่าดั้งเดิมสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว

พริกเฟรสโน (Fresno Pepper)
พริกเฟรสโน (Fresno Pepper) หรือพริกชิลีเฟรสโน เป็นพันธุ์ขนาดกลาง มีเปลือกบาง มักมีรสเผ็ดอ่อน และใช้เวลาในการสุกน้อยกว่า พริกชนิดนี้เป็นพริกที่ปลูกกันมากในเมืองเฟรสโน รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเฉพาะในหุบเขาซานโฮควิน และจะเติบโตชี้ขึ้นแทนที่จะชี้ลงเหมือนพริกทั่วไป ผลเริ่มเป็นสีเขียวสดเปลี่ยนเป็นสีส้มและสีแดงเมื่อสุกเต็มที่ พริกเฟรสโนที่สุกเต็มที่จะมีรูปร่างเป็นทรงกรวย ยาว 50 มม. (2 นิ้ว) และมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 25 ม.ม. (1 นิ้ว) ต้นพริกชนิดนี้เจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิที่อบอุ่นถึงร้อนและในสภาพอากาศแห้ง มีวันฤดูร้อนที่มีแดดจัดยาวนานและคืนที่เย็นสบาย พริกชนิดนี้ไวต่อความหนาวเย็นมากแต่ต้านทานโรคได้ ต้นไม้สามารถสูงได้ 60–75 ซ.ม. (24–30 นิ้ว)

ผลเขียวอ่อนมีประโยชน์หลายอย่างและสามารถเพิ่มลงในอาหารหลายได้ประเภท พริกชนิดนี้จะมีความเผ็ดร้อนเล็กน้อยช่วยเพิ่มรสชาติให้กับซอส ชัทนีย์ น้ำจิ้ม เครื่องปรุง หม้อตุ๋น ซุป สตูว์ และอาหารคาว นอกจากนี้ พริกเฟรสโนเขียวยังสามารถดองและรับประทานทั้งลูกได้อีกด้วย และยังเหมาะเป็นเครื่องเคียงสำหรับอาหารเม็กซิกันและอเมริกันตะวันตกเฉียงใต้ พริกเฟรสโนแดงแก่จะมีรสชาติที่เข้มข้นกว่าและเผ็ดน้อยกว่าพริกฮาลาปิโญ มักใส่ในซัลซ่า เครื่องเคียง เซวิเช่ และน้ำหมัก ใช้เป็นท็อปปิ้งได้ดีสำหรับทาโก้ ทอสทาด้า เบอร์เกอร์ ไส้กรอก และฮอทดอก มีขนาดใหญ่พอที่จะใส่ชีส มันฝรั่ง อาหารทะเล และเนื้อสัตว์ได้ สูตรเฉพาะ ได้แก่ ซอสครีมโรเมสโกและโรโฮ

พริกชี้ฟ้า (Chilli Pepper)
พริกชี้ฟ้า (Chilli Pepper) หรือ พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้าถูกใช้เป็นเครื่องเทศเพื่อเพิ่มความเผ็ดร้อนในอาหารหลายประเภท มีระดับความเผ็ดร้อนที่แตกต่างกัน มีต้นกำเนิดในอเมริกากลางหรืออเมริกาใต้และได้รับการปลูกครั้งแรกในเม็กซิโก ต่อมานำไปสู่การเพาะปลูกพริกหลายสายพันธุ์ทั่วโลกเพื่อใช้เป็นอาหารและยาแผนโบราณ

พริกชนิดนี้จัดเป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ต้นพริกมีขนาดเล็ก สูง 20 ถึง 60 เซนติเมตร ขึ้นอยู่กับพันธุ์ ทำให้เหมาะสำหรับการปลูกในกระถาง เรือนกระจก หรือในโรงเรือนพลาสติกเพื่อการค้า หากได้รับการปกป้องจากความหนาวเย็น ผลอาจเป็นสีเขียว ส้ม แดง หรือม่วง และมีรูปร่างแตกต่างกันไปตั้งแต่กลมและเป็นปุ่มไปจนถึงเรียบและยาว หากเก็บผลในขณะที่ยังเขียวและยังไม่สุก จะมีดอกมากขึ้นซึ่งให้ผลมากขึ้น ผลที่ทิ้งไว้บนต้นอาจมีรสชาติเผ็ดร้อนขึ้นและมีสีสุก ซึ่งต้องแลกมากับการเก็บเกี่ยวที่ลดลง

การเจริญเติบโตที่เหมาะสมสำหรับพริก ได้แก่ ตำแหน่งที่มีแดดจัดและมีดินร่วนซุย อุณหภูมิที่เหมาะสมคือ 21 ถึง 29C° คือชื้นแต่ไม่แฉะเกินไป พริกมีความเสี่ยงต่อศัตรูพืช เช่น เพลี้ยอ่อน ไรเดอร์แดงเรือนกระจก และแมลงหวี่ขาวเรือนกระจก ซึ่งทั้งหมดนี้กินน้ำเลี้ยงของพืช โรคทั่วไป ได้แก่ ราสีเทาที่เกิดจากเชื้อรา Botrytis cinerea ซึ่งจะทำให้เนื้อเยื่อเน่าเปื่อยและเกิดเชื้อราสีน้ำตาลเทาขึ้นบนพื้นผิว

พริกฮาบาเนโร (Habanero Pepper)
พริกฮาบาเนโร (Habanero Pepper) ได้ชื่อมาจากเมืองลาฮาบานา ในคิวบา เป็นพันธุ์ที่มีกลิ่นฉุน พริกฮาบาเนโร ที่ยังไม่สุกจะมีสีเขียว และจะมีสีเมื่อสุก สีที่พบมากที่สุดคือสีส้มและสีแดง แต่ผลอาจเป็นสีขาว น้ำตาล เหลือง เขียว หรือม่วงก็ได้ โดยทั่วไป พริกฮาบาเนโรที่สุกแล้วจะมีขนาด 2–6 เซนติเมตร มีรสเผ็ดมาก โดยมีค่าความเผ็ดอยู่ที่ 100,000–350,000 สโกวิลล์ (Scoville)

พริกฮาบาเนโรมีถิ่นกำเนิดมาจากป่าอะเมซอนซึ่งเป็นที่ที่พริกฮาบาเนโรได้แพร่หลายไปถึงเม็กซิโก ปัจจุบันคาบสมุทรยูคาทานในเม็กซิโก เป็นแหล่งผลิตพริกฮาบาเนโรรายใหญ่ที่สุด พริกฮาบาเนโรมีความเผ็ดร้อน รสชาติ และให้กลิ่นดอกไม้ ทำให้พริกฮาบาเนโรถูกนำไปเป็นส่วนผสมทั่วไปในซอสเผ็ด เป็นส่วนประกอบสำคัญของอาหารยูคาทาน โดยมักรับประทานคู่กับอาหารส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นแบบธรรมชาติ บด หรือซัลซ่า

ในปี 1999 พริกฮาบาเนโรถูกบันทึกโดย Guinness World Records ว่าเป็นพริกที่เผ็ดที่สุดในโลก แต่หลังจากนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยพริกชนิดอื่น ความเผ็ดของพริกฮาบาเนโรไม่ได้มีผลในทันที แต่จะออกฤทธิ์ภายในเวลาไม่กี่นาทีและคงความเผ็ดร้อนอยู่ในปากนานถึงหนึ่งชั่วโมง บางครั้งอาจรู้สึกได้ถึงความเผ็ดในหลอดอาหารหลังจากรับประทานไปแล้วหลายชั่วโมง

พริกหยวก (Bell Pepper)
พริกหยวก (Bell Pepper) บางครั้งพริกหยวกถูกจัดกลุ่มรวมกับพริกที่เผ็ดน้อย เรียกว่า "พริกหวาน" เป็นพืชประจำถิ่นในเม็กซิโก อเมริกากลางและทวีปอเมริกาใต้ตอนเหนือ ภายหลังเมล็ดพริกถูกนำไปยังสเปนใน ค.ศ.1493 และได้เผยแพร่ไปยังประเทศยุโรป แอฟริกาและเอเชียอื่นจากที่นั้นเอง

พริกหยวกให้ผลสีต่าง ๆ กัน สีที่พบมากที่สุดคือสีเขียว สีเหลือง สีส้ม และสีแดง นอกจากนี้ยังพบเห็นสีน้ำตาล สีขาว ลาเวนเดอร์ สีม่วงเข้ม โดยทั่วไปแล้วผลสุกมีสีเขียว สีเหลืองอ่อน หรือสีม่วง พริกหยวกแดงเป็นพริกเขียวที่สุกแล้ว.

พริกคาเยน (cayenne pepper)
พริกคาเยน (cayenne pepper) เป็นพันธุ์หนึ่งของพริกชนิด Capsicum annuum โดยเป็นกลุ่มของพริกที่มีผลเรียวสอบ ยาวประมาณ 10–25 เซนติเมตร ส่วนใหญ่มีสีแดง มักมีปลายโค้งงอและผิวไม่เรียบเนียน และห้อยลงมาจากกิ่งก้านแทนที่จะชี้ตั้งขึ้น

ผลพริกคาเยนมักนำมาอบแห้งหรือตากแดดให้แห้งแล้วบดเพื่อทำเป็นพริกป่น แต่ในบางครั้ง "พริกคาเยนป่น" อาจเป็นส่วนผสมของพริกประเภทต่าง ๆ โดยที่ไม่มีพริกคาเยน และอาจมีหรือไม่มีเมล็ดพริกคาเยนก็ได้

พริกเคเยนโดยทั่วไปเป็นพริกที่มีความเผ็ดปานกลางถึงมาก พันธุ์ส่วนใหญ่มีความเผ็ดร้อนอยู่ในระดับ 30,000–50,000 ตามมาตราสกอวิลล์ ใช้ในการปรุงอาหารให้มีรสเผ็ดไม่ว่าจะในรูปแบบพริกสดหรือพริกป่น นอกจากนี้ยังใช้เป็นอาหารเสริมสมุนไพรชนิดหนึ่ง

-----------------------------------
มาตราส่วน Scoville คือการวัดความเผ็ดร้อนของพริกและสารอื่นๆ ซึ่งบันทึกไว้ในหน่วยความร้อน Scoville ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของแคปไซซินอยด์ ซึ่งแคปไซซินเป็นส่วนประกอบหลัก เครื่องวัดนี้ตั้งชื่อตามผู้สร้าง วิลเบอร์ สโควิลล์ เภสัชกรชาวอเมริกัน ซึ่งคิดค้นวิธีการในปี พ.ศ.2455


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31 มีนาคม 2568 17:20:13 โดย Kimleng »	บันทึกการเข้า

กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว

Kimleng

คะแนนความดี: +5/-0

ออฟไลน์

เพศ: หญิง

Thailand

กระทู้: 6096

'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:

Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:

Chrome 109.0.0.0

Re: ชนิดของพริก

« ตอบ #1 เมื่อ: 05 เมษายน 2568 15:52:06 »

พริกโปบลาโน (Poblano Pepper)
พริกโปบลาโน (Poblano Pepper) เป็นพริกที่มีรสชาติไม่จัดจ้าน มีถิ่นกำเนิดในเมืองโปบลาโนส ประเทศเม็กซิโก มักจะมีกลิ่นรสอ่อนๆ แต่บางครั้งก็อาจมีรสเผ็ดจัดได้อย่างไม่น่าเชื่อ พริกแต่ละชนิดจากต้นเดียวกันมีรายงานว่ามีรสเผ็ดที่แตกต่างกันอย่างมาก พริกโปบลาโนสีแดงที่สุกแล้วจะเผ็ดกว่าและมีรสชาติดีกว่าพริกโปบลาโนสีเขียวที่สุกน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด

พริกโปบลาโนมักนำไปตากแห้ง ใช้เป็นเมนูพริกยัดไส้ ใส่ซอสโมเล หรือการผสมไข่ที่ตีจนฟู (capeado) แล้วทอด พริกชนิดนี้เป็นที่นิยมโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลประกาศอิสรภาพของเม็กซิโก โดยเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่เรียกว่า chiles en nogada (พริกทอดกรอบ) ซึ่งมีส่วนผสมของสีเขียว สีขาว และสีแดง ซึ่งสอดคล้องกับสีของธงชาติเม็กซิโก พริกชนิดนี้อาจถือเป็นหนึ่งในอาหารที่มีสัญลักษณ์มากที่สุดของเม็กซิโก นอกจากนี้ พริกชนิดนี้ยังมักใช้ในอาหารที่พบได้ทั่วไป เช่น ชิลี เรเยโน (chile relleno) พริกโปบลาโน ยังเป็นที่นิยมบริโภคในสหรัฐอเมริกาและสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายของชำในรัฐที่ติดกับเม็กซิโกและในเขตเมือง

หลังจากคั่วและลอกเอาเปลือกออกแล้ว พริกโปบลาโน จะถูกถนอมอาหารโดยการบรรจุกระป๋องหรือแช่แข็ง เก็บรักษาในภาชนะที่ปิดสนิทซึ่งสามารถเก็บได้นานหลายเดือน เมื่อพริกโปบลาโนแห้งแล้ว จะกลายเป็นฝักแบนกว้างเป็นรูปหัวใจ เรียกว่า chile ancho พริกแห้งเหล่านี้มักจะถูกบดเป็นผงเพื่อใช้เป็นเครื่องปรุงรสในอาหารต่างๆ

คำว่า "โปบลาโน" ยังเป็นคำที่ใช้เรียกชาวเมืองปวยบลาด้วย และโมเลโปบลาโนก็หมายถึงซอสมะเขือเทศรสเผ็ดซึ่งมีต้นกำเนิดจากปวยบลา

พริกกล้วย (Banana Pepper)
พริกกล้วย ( Banana Pepper) หรือเรียกอีกอย่างว่า พริกขี้ผึ้งเหลือง (yellow wax pepper) เป็นพริกที่มีรสชาติเปรี้ยวเล็กน้อย โดยทั่วไปแล้วจะมีสีเหลืองสดใส แต่ก็สามารถเปลี่ยนเป็นสีเขียว แดง หรือส้มได้เมื่อสุก มักนำไปดอง ยัดไส้ หรือใช้เป็นวัตถุดิบปรุงในอาหาร รสชาติไม่เผ็ดมาก (0–500 หน่วยสโกวิลล์) และเช่นเดียวกับพริกส่วนใหญ่ ความเผ็ดจะขึ้นอยู่กับความสุกของพริก โดยพริกที่สุกที่สุดจะมีรสเผ็ดน้อยกว่าพริกที่อ่อนกว่า

300


	บันทึกการเข้า

กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว

Kimleng

คะแนนความดี: +5/-0

ออฟไลน์

เพศ: หญิง

Thailand

กระทู้: 6096

'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:

Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:

Chrome 109.0.0.0

Re: ชนิดของพริก

« ตอบ #2 เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2568 18:07:42 »

Jalapeño

ฮาลาปิโญ่ (สเปน: Jalapeño) หรือ กัวเรสเมญโญ (Cuaresmeño) เป็นชื่อพันธุ์พริกประเภทฝักขนาดกลาง โดยเป็นพันธุ์ปลูกพันธุ์หนึ่งของพริกชนิด Capsicum annuum

ชื่อ ฮาลาปิโญ่ เป็นคำภาษาสเปนแปลว่า "จากฮาลาปา" (Xalapa) เมืองหลวงของรัฐเบรากรุซในเม็กซิโกซึ่งเป็นสถานที่ปลูกพริกดั้งเดิม ส่วนชื่อ ฮาลาปา มีต้นกำเนิดจากภาษานาวัตล์อีกทอดหนึ่ง โดยประสมขึ้นจากรากศัพท์ ชาลลี (xālli) แปลว่า "ทราย" และ อาปัน (āpan) แปลว่า "แหล่งน้ำ"

ผลฮาลาปิโญ่ที่สุกแล้วจะห้อยลงมา มีความยาว 5–10 เซนติเมตร (2–4 นิ้ว) ผิวแน่นและเนียนเรียบ กว้าง 25–38 มิลลิเมตร (1.0–1.5 นิ้ว) แต่ละผลอาจมีระดับความเผ็ดแตกต่างกันไป แต่จะมีหน่วยความเผ็ดสกอวิลล์อยู่ระหว่าง 3,500 ถึง 3,600

โดยทั่วไปนิยมนำพริกพันธุ์นี้มาดองและบริโภคขณะที่ผลยังเป็นสีเขียว แต่บางครั้งก็ปล่อยให้ผลสุกเต็มที่จนเปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม หรือเหลือง ฮาลาปิโญ่มีผลใหญ่กว่าและมักมีความเผ็ดน้อยกว่าพริกเซร์ราโนซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกัน สถาบันพริกในสหรัฐเป็นที่รู้จักจากการพัฒนาฮาลาปิโญ่ให้มีสีสันต่าง ๆ

พริกชิโปเต้ (Chipotle chili)

พริกชิโปเต้ (Chipotle chili) คือพริกฮาลาปิโญ่แห้ง ผู้บริโภคทั่วไปรู้จักพริกฮาลาปิโญ่ว่าเป็นพริกสดสีเขียวอ่อน แต่เมื่อปล่อยพริกฮาลาปิโญ่ไว้บนต้นเป็นเวลานานขึ้น พริกจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการทำความเข้าใจพริกชิโปเต้

พริกชี้ฟ้าชิลาก้า (Chilaca chili)

พริกชี้ฟ้าชิลาก้า (Chilaca chili) หมายถึงพริกชี้ฟ้าชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมในเม็กซิโก มีลักษณะคล้ายกับพริกอนาไฮม์ (Anaheim) ของอเมริกา แต่มีขนาดเล็กกว่าและมีสีเขียวเข้มเมื่อยังไม่สุก และจะกลายเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือดำเมื่อสุก

Chilaca เป็นส่วนสำคัญของอาหารเม็กซิโก มีลักษณะเป็นแท่งยาวและบาง อาจจะโค้งงอเล็กน้อย รสชาติมีรสเผ็ดอ่อนๆ คล้ายกับพริกพริกอนาไฮม์ (Anaheim) สามารถนำไปทำอาหารได้หลายชนิด เช่น ซุป, ซอส, หรือใส่ในอาหารอื่นๆ เมื่อแห้งจะกลายเป็นพริกแห้งที่เรียกว่า "pasilla"

พริกอนาไฮม์ (Anaheim chili)

พริกอนาไฮม์ (Anaheim chili) หรือที่เรียกอีกอย่างว่าพริกแคลิฟอร์เนีย พริกชนิดนี้เป็นอาหารหลักในอาหารตะวันตกเฉียงใต้และเม็กซิกัน มักใช้ในอาหารอย่างชิเลเรเยโนและสตูว์ มีค่าความเผ็ดสโกวิลล์ (SHU) อยู่ระหว่าง 500 ถึง 2,500 ซึ่งถือว่าเผ็ดน้อยพอที่จะกินดิบได้

พริกอนาไฮม์โดยทั่วไปมีความยาว 6-10 นิ้วและกว้าง 1-2 นิ้ว มีรูปร่างเรียวยาว พริกอาจมีสีเขียวเมื่อยังไม่สุกและเมื่อสุกจะมีสีแดง รสชาติเผ็ดเล็กน้อยถึงปานกลาง มีรสหวานและมีกลิ่นผลไม้เล็กน้อย พริก Anaheim เป็นพริกที่มีประโยชน์หลากหลายและสามารถใช้ในอาหารต่างๆ ได้ เช่น

- พริกชิลี เรเยโนส ยัดไส้ด้วยชีสแล้วทอดหรืออบ
- ซัลซ่า: เพิ่มรสชาติเผ็ดร้อนเล็กน้อย
- สตูว์และซุป: เพิ่มรสชาติเผ็ดร้อน
- คั่ว: เพิ่มรสชาติรมควันและใช้ในซอสและซัลซ่า
- การทำให้แห้ง: พริกแดงสามารถนำไปตากแห้งเพื่อทำริสตราหรือใช้ทำพริกป่น

พริกอนาไฮม์ถูกปลูกขึ้นในรัฐนิวเม็กซิโก และต่อมาก็ได้รับความนิยมในเมืองอนาไฮม์ (Anaheim) รัฐแคลิฟอร์เนีย พริกชนิดนี้ปลูกค่อนข้างง่ายและสามารถปลูกเป็นไม้ยืนต้นได้ โดยให้ผลผลิตพริกได้นานหลายปี พริกชนิดนี้ชอบแสงแดดจัดและดินที่ระบายน้ำได้ดี

พริกมิราซอล (Mirasol chili)

พริกมิราซอล (Mirasol chili) เป็นพริกสายพันธุ์หนึ่งที่ขึ้นชื่อในเม็กซิโกและเปรู พริกชนิดนี้มีรสชาติเข้มข้น มีรสชาติผลไม้และเบอร์รี่เล็กน้อย และมีความเผ็ดปานกลาง อุดมด้วยสารแอนติออกซิแดนท์ซึ่งช่วยเรื่องระบบทางเดินอาหาร พริกมิราซอล มีรูปร่างเหมือนกรวย ยาวประมาณ 4-5 นิ้ว เมื่อสุกแล้ว พริกมิราซอลจะมีสีแดงเข้มหรือสีแดงส้ม สามารถใช้ได้หลากหลายในอาหารเปรูหลายชนิด เป็นส่วนผสมสำคัญในซอสโมเล, ซัลซ่า, จิเล , โมเล, ซุป สามารถนำมาบดเป็นผงและใช้เป็นเครื่องปรุงรส หรือนำไปอบแล้วใช้ในการทำซุปหรือซอสก็ได้

พริกมิราซอลมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า guajillo ซึ่งใช้สำหรับพริกที่แห้งแล้ว

พริกคัสคาเบล (Cascabel chili)

พริกคัสคาเบล (Cascabel chili) หรือที่รู้จักกันในชื่อพริกกระดิ่ง เป็นพันธุ์หนึ่งในกลุ่ม Mirasol ของสายพันธุ์ Capsicum annuum ชื่อเรียก 'กระดิ่ง' อธิบายถึงเมล็ดพริกคัสคาเบลที่แห้ง เมล็ดพริกจะสั่นอยู่ภายในเมื่อเขย่า พริกคัสคาเบลสด มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2–3 ซม. เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า bola chili หรือ chile bola (ภาษาสเปนแปลว่าพริกลูกกลม) สีของพริกสดจะผสมจากสีเขียวเป็นสีแดง เมื่อแห้ง สีจะเข้มขึ้น เกษตรกรปลูกพริกคัสคาเบลในหลายรัฐทั่วทั้งเม็กซิโก

พริกแอนโช่ (ancho chili)

พริกแอนโช่ (ancho chili) คือ พริกโปบลาโน (poblano chili) ที่ปลูกในเมืองปวยบลา (puebla) ประเทศเม็กซิโก ที่นำมาตากแห้งจนสุกเป็นสีแดง พริกแอนโช่มีรสชาติหวานและเผ็ดน้อย มีกลิ่นที่ให้ความรู้สึกเหมือนลูกเกดหรือช็อกโกแลต

พริกโปบลาโน (poblano chili) จะถูกปล่อยให้สุกบนต้นจนมีสีแดง แล้วนำมาตากแห้งจนกลายเป็นพริกแอนโช่ (ancho chili) มักถูกนำมาใช้ในอาหารเม็กซิกัน เช่น ซอสหรือซุป

พริกปาซิลลา (Pasilla chili)

พริกปาซิลลา (Pasilla chili) หรือพริกเนโกร เป็นพริกแห้งชนิดหนึ่งของพริกชิลากา ซึ่งเป็นพริกในสกุล Capsicum annuum มีลักษณะยาวและแคบ พริกชนิดนี้มีชื่อเรียกตามเปลือกที่มีรอยย่นสีเข้ม (แปลว่า "ลูกเกดเล็ก") เป็นพริกที่มีรสชาติเผ็ดเล็กน้อยถึงเผ็ดมาก เมื่อแห้งแล้ว พริกชนิดนี้จะมีความยาวประมาณ 6 ถึง 8 นิ้ว (15 ถึง 20 ซม.) และมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 ถึง 1+1⁄2 นิ้ว (2.5 ถึง 3.8 ซม.)

พริกชิลากาสดอาจยาวได้ถึง 9 นิ้ว (230 มม.) และมักมีรูปร่างบิดเบี้ยว ซึ่งแทบจะไม่เห็นหลังจากตากแห้ง โดยจะเปลี่ยนจากสีเขียวเข้มเป็นสีน้ำตาลเข้มเมื่อสุกเต็มที่ โดยพริกชนิดนี้เมื่อตากแห้งแล้วจะเรียกว่า ancho

ปาซิลลาใช้ทำซอสโดยเฉพาะ มักนำไปผสมกับผลไม้และอร่อยมากเมื่อรับประทานกับเป็ด อาหารทะเล เนื้อแกะ เห็ด กระเทียม ยี่หร่า น้ำผึ้ง หรือออริกาโน ปาซิลลาขายทั้งผลหรือบดเป็นผงในเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร

ปาซิลลาเดอโออาซากาเป็นพริกปาซิลลารมควันพันธุ์หนึ่งจากโออาซากาที่ใช้ทำโมเลเนโกร

พริกกวาจิลโล (Guajillo chili)

พริกกวาจิลโล (Guajillo chili) เป็นพริกแห้งสีแดงเข้มจากเม็กซิโก มีรูปร่างยาวและเรียวเหมือนพริกเม็กซิกันชนิดอื่นๆ รสชาติเข้มข้น หวานเล็กน้อย มีกลิ่นผลไม้ และมีระดับความเผ็ดปานกลาง เป็นพริกที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอาหารเม็กซิกัน ช่วยเพิ่มสีสันและรสชาติให้กับซอสโมเล (mole) สตูว์ ซุป และอาหารอื่นๆ ที่ต้องการรสชาติเข้มข้นและมีสีสัน สามารถนำพริกกวาฮิลโลมาแช่น้ำก่อนใช้ได้ เพื่อให้เนื้อพริกนุ่มขึ้น และรสชาติจะเข้มข้นขึ้น

ชิลีเซกอย (Chile secoi)
ชิลีเซกอย (Chile secoi) หมายถึง พริกแห้งในภาษาฝรั่งเศสและสเปน โดยทั่วไปแล้วในภาษาไทยจะใช้คำว่า "พริกแห้ง" หรือ "พริกขี้หนูแห้ง" ก็ได้

"Chile seco" ในภาษาฝรั่งเศสและสเปน หมายถึง พริกแห้ง หรือพริกที่ถูกทำให้แห้ง มีหลากหลายชนิด เช่น พริกขี้หนูแห้ง พริกชี้ฟ้าแห้ง หรือพริกแดงแห้ง มีรสชาติเผ็ดและกลิ่นหอม สามารถนำมาใช้ทำอาหารได้หลากหลาย เช่น ทำซุป ใส่ในสลัด หรือทำเป็นผงพริก ซึ่งทำให้เป็นส่วนผสมที่ขาดไม่ได้ในอาหารหลายชนิด

พริกแห้งยังสามารถนำมาใช้ในงานศิลปะและงานประดิษฐ์ได้ เช่น ทำเป็นตุ๊กตา หรือทำเป็นเครื่องประดับ

280


	บันทึกการเข้า

กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว

คำค้น:

หน้า: [1] ขึ้นบน

พิมพ์

« หน้าที่แล้ว ต่อไป »

กระโดดไป:

คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้

BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher

หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.343 วินาที กับ 28 คำสั่ง

Google visited last this page 13 มิถุนายน 2568 05:59:08