พ.ร.บ.แรงงานอิสระ กฎหมายที่ทำให้แรงงานแพลตฟอร์มเข้าไม่ถึงการคุ้มครองอย่างแท้จริง (?)
<span>พ.ร.บ.แรงงานอิสระ กฎหมายที่ทำให้แรงงานแพลตฟอร์มเข้าไม่ถึงการคุ้มครองอย่างแท้จริง (?)</span>
<span><span>XmasUser</span></span>
<span><time datetime="2025-05-26T17:02:09+07:00" title="Monday, May 26, 2025 - 17:02">Mon, 2025-05-26 - 17:02</time>
</span>
<div class="field field--name-field-byline field--type-text-long field--label-hidden field-item"><p>ภาพปก: กิตติยา อรอินทร์ </p><p>สไลด์ประกอบ : กฤษฎา ธีระโกศลพงศ์</p></div>
<div class="field field--name-body field--type-text-with-summary field--label-hidden field-item"><p>วันที่ 27 พ.ค. 2568 ตามที่เพจเฟซบุ๊กของ
สหภาพคนทำงาน ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของภาคประชาชนที่ร่วมผลักดันในประเด็นด้านสิทธิแรงงาน จะนัดรวมตัวเพื่อเดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้าน พ.ร.บ.ส่งเสริมและคุ้มครองแรงงานอิสระ พ.ศ. … (พ.ร.บ.แรงงานอิสระ) ณ ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในฐานะเจ้ากระทรวงแรงงาน </p><p>เหตุผลที่ต้องคัดค้าน เพราะภาคประชาสังคม และนักสิทธิแรงงานบางส่วน กังวลว่า ร่าง พ.ร.บ.แรงงานอิสระ ที่ผลักดันร่างโดยกระทรวงแรงงาน มีการนิยามให้ 'แรงงานแพลตฟอร์ม' ไปเป็น 'แรงงานกึ่งอิสระ' ซึ่งอาจทำให้แรงงานแพลตฟอร์มเข้าไม่ถึงการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ฉบับปี 2541 และ พ.ร.บ.ฉบับใหม่นี้อาจแบ่งแยกและลดอำนาจการต่อรองของขบวนการแรงงาน</p><p>เพื่อให้เข้าใจข้อกังวลของกฎหมายดังกล่าว ประชาไทชวนอ่านข้อสังเกตด้านวิชาการ และสิทธิแรงงานของ กฤษฎา ธีระโกศลพงศ์ อาจารย์คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ได้กล่าวในงาน "เจรจาทางสังคม : ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและคุ้มครองแรงงานอิสระ พ.ศ. …" ที่รัฐสภา จัดโดย คณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร สหภาพคนทำงาน และสถาบันแรงงานและเศรษฐกิจที่เป็นธรรม (JELI) เมื่อ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจะนำมาสู่คำถามประเด็นที่ว่าควรทบทวนร่างกฎหมายฉบับนี้หรือไม่ </p><p>แม้ว่า พ.ร.บ.นี้จะมีข้อดีเรื่องการประกันค่าตอบแทนของแรงงานแพลตฟอร์ม แต่อาจารย์กฤษฎา ได้ให้ข้อกังวลเกี่ยวกับ พ.ร.บ.แรงงานอิสระ ไว้หลายประเด็น ทั้งการนิยามว่าแรงงานแพลตฟอร์มเป็นแรงงานกึ่งอิสระ สิทธิการรวมตัว คณะกรรมการที่สามารถตัดสินใจนโยบายเกี่ยวกับแรงงานอิสระที่ให้อำนาจฝ่ายข้าราชการที่มากเกินไป จนอาจละเลยเสียงของนายจ้างและคนทำงาน </p><p>ขณะที่ สมชาย หอมลออ นักกฎหมาย และผู้ขับเคลื่อนประเด็นสิทธิมนุษยชน มองว่า กระทรวงแรงงานควรแก้ไข พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานเดิม ให้ครอบคลุมแรงงานแพลตฟอร์ม มากกว่าจัดกฎหมายใหม่ขึ้นมาอีกฉบับ </p><p>ทั้งนี้ จากการอัปเดตของกระทรวงแรงงานครั้งล่าสุด ระบุว่า ปัจจุบัน ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและคุ้มครองแรงงานอิสระ พ.ศ. … ยังรอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม คณะรัฐมนตรี ถ้าสมมติผ่าน ครม.ไปแล้ว ร่างกฎหมายจะต้องผ่านที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ก่อนที่จะบังคับใช้ต่อไป </p><p class="picture-with-caption"><img src="
https://live.staticflickr.com/65535/54546306474_a0d5608bf7_b.jpg" width="1024" height="684" loading="lazy">กฤษฎา ธีระโกศลพงศ์</p><h2>นิยามให้คนงานแพลตฟอร์มเป็น 'กึ่งอิสระ' เสี่ยงทำการคุ้มครองหลุดลอย</h2><p>กฤษฎา อธิบายก่อนว่า เวลาเราแบ่งแยกแรงงานอิสระ หรือไม่อิสระ อย่างไร ตามหลักเกณฑ์ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ หรือ ILO แบ่งเป็น แรงงานอิสระ (Independent Workers) หรือแรงงานพึ่งพิง (Dependent Workers)</p><p>‘แรงงานอิสระ’ ยกตัวอย่างเช่น พ่อค้าขายหมูปิ้ง ที่ไม่ได้มีคนมาสั่งให้ทำงาน แต่แรงงานแพลตฟอร์ม อาจดูเหมือนแรงงานอิสระ แต่มันไม่ได้อิสระจริง อย่างไรเดอร์ยังต้องทำงานแบบนิติสัมพันธ์ที่ยังต้องรับงานตามเงื่อนไข หรือรับงานจากคนอื่นๆ ซึ่งทำให้ไรเดอร์เข้าหลักเกณฑ์เป็น ‘แรงงานไม่อิสระ หรือต้องพึ่งพิง’ (Dependent Workers) มีการจำแนกอย่างหลากหลายบางคนอาจทำงานพาร์ตไทม์ หรือเต็มเวลา แต่ร่างกฎหมายแรงงานอิสระที่กำลังพูดถึงกันไปนิยาม 'แรงงานแพลตฟอร์ม' ให้กลายเป็น 'แรงงานกึ่งอิสระ' ซึ่งแบบนี้เป็นการ "ติดกระดุมเม็ดแรกที่ผิด" และเป็นปัญหาใหญ่ที่สุด เพราะอาจหมายความว่าแรงงานแพลตฟอร์มจะไม่ได้รับสิทธิและสวัสดิการตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานเลย</p><div class="note-box"><p>นิยามของ 'แรงงานกึ่งอิสระ' ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและคุ้มครองแรงงานอิสระ พ.ศ. … มาตรา 10 กำหนดว่า ผู้ซึ่งมิใช่ลูกจ้างตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน และเป็นผู้ประกอบอาชีพที่มีลักษณะดังต่อไปนี้</p><p>(1) รับจ้างหรือให้บริการขนส่งคนโดยสาร สิ่งของ หรืออาหาร ทําความสะอาดหรือบริการอื่นๆ ซึ่งยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขการให้บริการตามที่ผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล กําหนดไว้โดยได้รับค่าตอบแทนผ่านผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล</p><p>(2) รับจ้างหรือให้บริการตาม (1) ซึ่งยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขการให้บริการตามที่ผู้ประกอบธุรกิจ ซึ่งไม่ใช่ผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลกําหนดไว้ โดยได้รับค่าตอบแทนผ่านผู้ประกอบธุรกิจนั้น</p><img src="
https://live.staticflickr.com/65535/54546450520_826bb5f2f2_b.jpg" width="1024" height="576" loading="lazy"></div><h2>แบ่งแยก แล้วควบคุม (?)</h2><p>ต่อมา อาจารย์คณะสังคมสงเคราะห์ ตั้งข้อสังเกตต่อสิทธิในการรวมตัวเจรจาต่อรองภายใต้ร่างกฎหมายแรงงานอิสระ เขามองว่าจริงๆ แล้วไรเดอร์ วินมอเตอร์ไซค์ หรือคนขับแท็กซี่ ตามนิยามของ ILO ควรจะเป็นพนักงานขนส่งมีอาชีพเดียวกัน และควรมีสิทธิการรวมตัวกันได้ในกลุ่มเดียวกัน แต่กระทรวงแรงงานไปให้คนที่ทำงานอาชีพเหล่านี้แยกกัน โดยวินมอเตอร์ไซค์ หรือแท็กซี่ ไปรวมกันในฐานะแรงงานอิสระ (เช่น แม่บ้าน คนรับงานไปทำที่บ้าน พ่อค้าแม่ค้าอาหารริมทาง ฟรีแลนซ์ วินมอเตอร์ไซค์ ฯลฯ) และไรเดอร์ไปรวมตัวกันในฐานะแรงงานกึ่งอิสระ (แรงงานแพลตฟอร์ม รวมถึงไรเดอร์) </p><p>นอกจากนี้ ตัวกฎหมายแรงงานอิสระกำหนดด้วยว่า 'แรงงานอิสระ' ที่ต้องการตั้ง 'องค์กรผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ' จะต้องมีสมาชิก 5 คนขึ้นไป และหากต้องการจัดตั้ง 'สภาองค์กรผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ' จะต้องรวมองค์กรอย่างน้อย 15 องค์กรขึ้นไป</p><p>ผู้ประกอบอาชีพกึ่งอิสระถ้าต้องการจัดตั้ง ‘องค์กรผู้ประกอบวิชาชีพกึ่งอิสระ’ ต้องมีสมาชิกไม่ต่ำกว่า 15 คน และหากต้องการจัดตั้งเป็น ‘สภาองค์กรผู้ประกอบวิชาชีพกึ่งอิสระ’ ต้องรวมตัวกันอย่างน้อย 15 องค์กรขึ้นไป</p><p>อาจารย์ มธ. มองว่าการกำหนดเงื่อนไขแบบนี้จะทำให้ขบวนการแรงงานเกิดความแตกแยก และต้องแข่งขันกันชิงดีชิงเด่นเพื่อมีอำนาจการตัดสินใจในองค์กรแรงงาน </p><p>ที่กล่าวเช่นนี้ เนื่องจากแต่ละอาชีพมีศักยภาพการรวมตัวไม่เท่ากัน ยกตัวอย่าง แม่ค้าขายหมูปิ้งริมทางเท้าอาจจะไม่ได้รวมตัวกับพ่อและแม่ค้าอาหารริมทางคนอื่นๆ ง่ายนัก แต่กลับกัน ยกตัวอย่างกรณีของวินมอเตอร์ไซค์ที่เป็นแรงงานอิสระ พวกเขามีโครงสร้างองค์กรที่เอื้อต่อการรวมตัวมากกว่า หากคนคุมวินฯ สั่งให้สมาชิกรวมตัวเป็นองค์กรแรงงานอิสระ ก็จะสามารถทำได้ง่าย และมีจำนวนมาก ทั้งนี้
ข้อมูลเมื่อปี 2563 ระบุว่า มีคนขับวินฯ อยู่ประมาณ 84,889 คน คิดดูว่าจะตั้งองค์กรของวินมอเตอร์ไซค์ได้กี่ร้อยองค์กร ดังนั้น กลุ่มจะเยอะมาก หรือเราจะมีสภาองค์การแรงงานฯ อีกเป็นร้อย ซึ่งจะทำให้เกิดความวุ่นวาย และในเวลาเดียวกันอาชีพที่ยิ่งมีองค์กรหรือจำนวนสมาชิกเยอะ โอกาสที่พวกเขาจะได้มีสิทธิมีเสียงในสภาองค์กรฯ อาจจะมีเยอะกว่าแรงงานอาชีพอิสระ/กึ่งอิสระอื่นๆ ที่มีจำนวนสมาชิกน้อยกว่า เลยเป็นข้อสังเกตว่ากฎหมายตัวนี้ไม่ได้ส่งเสริมเรื่องการรวมตัวของแรงงานอย่างแท้จริง แต่ว่ากำลังทำให้ขบวนการแรงงานเกิดความแตกแยก</p><img src="
https://live.staticflickr.com/65535/54545231317_c6bcb23cf3_b.jpg" width="1024" height="576" loading="lazy"><h2>คณะกรรมการแรงงานอิสระให้อำนาจข้าราชการล้นเกิน</h2><p>กฤษฎา กล่าวว่า นอกจากการตั้งองค์กรแรงงานอิสระ/กึ่งอิสระแล้ว กฎหมายได้กำหนดให้กระทรวงแรงงานจัดตั้งคณะกรรมการส่งเสริมและคุ้มครองแรงงานอิสระขึ้นมา 1 ชุด เพื่อทำหน้าที่ในการออกนโยบายที่เกี่ยวกับแรงงานอิสระ/กึ่งอิสระ</p><p>อย่างไรก็ดี กฤษฎา แสดงความกังวลว่าคณะกรรมการชุดนี้อาจมีปัญหา เนื่องจากให้อำนาจฝ่ายรัฐมากจนเกินไป โดยสะท้อนผ่านสัดส่วนสมาชิกไตรภาคี (นายจ้าง ลูกจ้าง และรัฐ) ที่ไม่เท่าเทียมกัน</p><p>สมาชิกของคณะกรรมการแรงงานอิสระมีประมาณ 28 คน โดยทั้งหมดมาจากการแต่งตั้งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ซึ่งเอาแค่ประเด็นแรก ก็มีคำถามว่ากระบวนการหรือหลักเกณฑ์การแต่งตั้งจะเป็นอย่างไร และอาจเป็นช่องโหว่ของกระบวนการลักษณะนี้ ทำให้ใครก็ตามที่ใกล้ชิดกับ รมว.แรงงาน ได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกคณะกรรมการ </p><p>อาจารย์ มธ. ระบุต่อว่า สัดส่วนของคณะกรรมการฯ ยังสะท้อนดุลย์อำนาจที่ไม่เท่าเทียมกันในระบบไตรภาคี โดยสมาชิกทั้งหมด 28 คน แบ่งเป็นภาครัฐ 10-16 คน นายจ้างธุรกิจแพลตฟอร์ม 4 คน และแรงงาน 8 คน สัดส่วนเช่นนี้ทำให้ฝ่ายรัฐมีสัดส่วนคณะกรรมการเกินกึ่งหนึ่ง สมมติกรณีที่นายจ้างและแรงงานต้องการบอยคอตไม่เข้าประชุม แต่ฝ่ายข้าราชการมี 16 คนครบก็ยังสามารถเปิดการประชุมได้ ซึ่งมองว่าเรื่องนี้อันตรายเพราะรัฐจะประกาศใช้นโยบายอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ โดยไม่ต้องสนใจความต้องการของฝั่งแรงงาน และนายจ้าง</p><p class="picture-with-caption"><img src="
https://live.staticflickr.com/65535/54546450510_50735769c4_b.jpg" width="1024" height="576" loading="lazy">สัดส่วนไตรภาคีในคณะกรรมการส่งเสริมและคุ้มครองแรงงานอิสระ</p><h2>นายจ้างไม่ต้องร่วมจ่ายกองทุน</h2><p>กฤษฎา กล่าวต่อว่า อีกข้อสังเกตเกี่ยวกับร่างกฎหมาย คือการตั้งกองทุนส่งเสริมและคุ้มครองแรงงานอิสระ ซึ่งจะทำให้แรงงานสามารถกู้เงินประกอบอาชีพและใช้ในการดำรงชีวิต และมีประกันภัย ประกันสุขภาพ และประกันคุ้มครองสิทธิประโยชน์อื่นๆ ให้ เบื้องต้น ยังไม่เห็นรายละเอียดที่ชัดเจนในการเข้าถึงกองทุนฯ ว่าใครจะเข้าถึงได้ อย่างไร และอาจจะมีการเอาประกันของบริษัทเอกชนเข้ามา ซึ่งทับซ้อนและแข่งกับประกันสังคม </p><p>โดยอาจารย์กฤษฎา เสนอว่าควรจะขยายสิทธิประโยชน์ของกองทุนประกันสังคมให้ครอบคลุมแรงงานแพลตฟอร์มมากกว่า อย่างไรก็ตาม การใช้ประกันที่มาจากเอกชนยังเป็นแค่ข้อสังเกตเท่านั้น</p><p>สำหรับแหล่งที่มาของเงินในกองทุนฯ กรณีเป็นแรงงานอิสระสามารถจ่ายเงินสมาชิกรายปีตามหลักเกณฑ์ในกฎกระทรวง แต่ต้องไม่เกิน 720 บาทต่อปี (ภาคสมัครใจ)</p><p>ขณะที่แรงงานกึ่งอิสระจะเป็นภาคบังคับ โดยต้องจ่ายเงินสะสมเข้ากองทุนฯ ร้อยละ 3 ของค่าตอบแทนที่ได้รับแต่ละครั้ง หรือถ้าแรงงานแพลตฟอร์มที่ทำงานหลายๆ แอปฯ เขาจะให้คนที่จ้างงานแรงงานแพลตฟอร์มหักเงินหมดเลย การมีกองทุนฯ หลายคนบอกว่าดี แต่ติดตรงที่ว่าหน้าที่ความรับผิดชอบนายจ้างไม่ต้องจ่ายอะไรเลย ทั้งที่นายจ้างควรต้องรับผิดชอบ เพราะนายจ้างได้กำไรจากแรงงาน ดังนั้น ก็ควรมีส่วนต้องรับผิดชอบ</p><p class="picture-with-caption"><img src="
https://live.staticflickr.com/65535/54546450515_77c7723958_b.jpg" width="1024" height="576" loading="lazy">บทบาทหน้าที่ของกองทุนฯ</p><h2>สิทธิในการรวมตัวต่อรองหดแคบลง</h2><p>นอกเหนือจากข้อสังเกตข้างต้น อาจารย์จาก มธ. มองด้วยว่า กฎหมายตัวนี้กำลังจะทำให้สิทธิการรวมตัวและการต่อรองของแรงงานหดแคบลงไปด้วย คือไม่สามารถรวมตัวในฐานะสหภาพแรงงาน และการออกมาเรียกร้องตามท้องถนนก็อาจจะทำไม่ได้แล้ว</p><p>"ผมไม่เคยเชื่อเลยว่าออกมาแล้วมันจะคุ้มครองพวกเรา มันมีเพียงแค่จำแนกพวกคุณออกมาให้ชัดเจนตามที่เขาเป็นคนวาง และอีกส่วนในการรวมตัวที่จำกัดสิทธิมากเลย คุณลองคิดดูสิสมัยก่อนพวกคุณออกไปนั่งประท้วงค่ารอบกัน ไปเรียกร้องกัน คุณทำได้สบาย ทางกระทรวงฯ เขาฉลาดมาก เขาใช้กฎหมายมาบอกว่าพวกคุณต้องจดทะเบียนตามองค์กรพวกเขา และคุณออกไปเรียกร้องไม่ได้ผิดกฎหมายทันที</p><p>"กลายเป็นว่าการออกกฎหมายฉบับนี้จะเป็นการจำกัดสิทธิ์พวกคุณ ที่เคยออกมาเรียกร้องบนท้องถนน พวกคุณอาจจะไม่สามารถทำได้อีกแล้ว" กฤษฎา ระบุ</p><p>ด้านมงคล ยางนาม รองประธานกลุ่มแรงงานเพื่อสังคม เสริมเรื่องนี้ว่า กฎหมายตัวนี้แตกต่างจาก พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน เพราะไม่ได้บอกวิธีว่าพอรวมกลุ่มแล้วจะไปต่อรองหรือคุยกับใคร ใครเป็นนายจ้าง หรือทำอะไรได้บ้าง แล้วเขาจะได้ประโยชน์อะไรจากการรวมตัว</p><h2>ข้อดี เรื่องประกันค่ารอบคนงานแพลตฟอร์ม (?)</h2><p>กฤษฎา เผยว่า ข้อดีที่แรงงานกึ่งอิสระอยากได้มากที่สุด คือ ข้อตกลงและเงื่อนไขการให้บริการและค่าตอบแทนที่เป็นธรรม</p><p>ทั้งนี้ กฎหมายระบุว่า การจ่ายค่าตอบแทน และค่าตอบแทนพิเศษ (โบนัส) ต้องเป็นไปตามอัตรา ระยะเวลา และเงื่อนไขที่ตกลงกัน ถ้าเกิดการร้องเรียนว่าค่าตอบแทนไม่เป็นธรรม คณะกรรมการส่งเสริมและคุ้มครองแรงงานอิสระจะเข้ามากำหนดค่าจ้างขั้นต่ำได้ โดยคำนึงถึงระยะเวลา ความยากง่ายของงาน และต้นทุนของการประกอบธุรกิจ</p><p>นอกจากนี้ ศาลแรงงานจะเข้ามาดูแลข้อพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่างแรงงานกึ่งอิสระ และนายจ้าง </p><p>อย่างไรก็ดี สมชาย หอมลออ นักสิทธิมนุษยชน มองข้อกังวลว่า กฎหมายที่ศาลแรงงานใช้จะอยู่บนฐานกฎหมายแรงงานอิสระ ไม่ได้ตัดสินบนกฎหมายของ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน</p><h2>เสนอตั้งกองทุนทดแทน ช่วยไรเดอร์บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ</h2><p>หลังจบการบรรยาย ได้มีการเปิดพื้นที่ให้แรงงานไรเดอร์ และผู้เข้าร่วมได้ซักถามวิทยากร เบื้องต้น มงคล ยางงาม รองประธานกลุ่มแรงงานเพื่อสังคม เสริมว่า ทุกคนไม่เห็นด้วยไม่อยากให้มีร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ แต่ถ้ามันผ่านตราออกมาเป็นกฎหมาย และบังคับใช้ไปแล้ว เราควรต้องศึกษาต่อ เพื่อออกกฎหมายลูก หรือประกาศกระทรวงเพื่อขึ้นมาอุดช่องโหว่ในเรื่องนี้ ไม่อยากให้คัดค้านสุดโต่งเกินไป</p><p>นอกจากนี้ มีแรงงานบางคนอยากเสนอให้มีการตั้งกองทุนเงินทดแทนในกฎหมาย โดยที่มาของเงินมาจากผู้ประกอบการแพลตฟอร์ม เนื่องจากบริษัทแพลตฟอร์มเหล่านี้ได้รับเงินจากแรงงาน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ควรคุ้มครองแรงงาน เพื่อที่เวลาไรเดอร์เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนจะได้นำเงินส่วนนี้มาช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล โดยไม่ต้องจ่ายสำรองก่อน</p><h2>เสนอออกกฎกระทรวง/แก้ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน</h2><p>สหัสวัต คุ้มคง โฆษก กมธ.การแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร และ สส.พรรคประชาชน ได้ให้ความเห็นว่า ถ้ากรณีที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติเสียงข้างมากรับหลักการของร่างกฎหมายแรงงานอิสระแล้ว ในชั้นวาระที่ 2 หรือชั้นกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณากฎหมายจะสามารถแก้ไขกฎหมายในรายมาตราหรือประเด็นย่อยๆ แต่จะไม่สามารถแก้ไขหลักการใหญ่ๆ</p><p class="picture-with-caption"><img src="
https://live.staticflickr.com/65535/54546132206_6fd7a7d97d_b.jpg" width="1024" height="683" loading="lazy">(ซ้ายสุด) สหัสวัต คุ้มครอง (คนที่ 2 จากซ้าย) ฉัตรชัย พุ่มพวง (คนที่ 2 จากขวา) สมชาย หอมลออ และ (กลาง) เยาวภา ดอนเส (ที่มา:
สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร)</p><p>สหัสวัต กล่าวต่อว่า ความเห็นส่วนตัวของเขา ไม่ควรให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านตั้งแต่แรก เพราะมองว่ากฎหมายไม่ได้ให้ประโยชน์แรงงานแพลตฟอร์ม หรือไรเดอร์เลย จะเป็นเพียงเครื่องมือให้รัฐบาลเอาไปอ้างความชอบธรรมว่าออกกฎหมายมาคุ้มครองไรเดอร์แล้ว เขามองด้วยว่า ปัจจัยสำคัญว่าสิ่งที่จะทำให้กฎหมายไม่ผ่าน ไม่ได้มีแค่บทบาทของภาคการเมือง แต่ภาคประชาชนต้องช่วยกันส่งเสียงตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อให้ ครม.ถอนร่างกฎหมายออก เพราะถ้าปล่อยให้กฎหมายเข้าสภาฯ ต่อให้มีเสียงของฝ่ายค้านทั้งหมด ก็ยังสู้เสียงของฝ่ายรัฐบาลไม่ได้</p><p>ด้านสมชาย หอมลออ นักกฎหมายและสมาชิกมูลนิธิผสานวัฒนธรรม เสนอว่าให้มีการแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 แทนการทำกฎหมายใหม่ โดยอาจแก้ไขแค่ 1-2 มาตรา คือเรื่องคำจำกัดความของ ‘ลูกจ้าง’ ให้ครอบคลุมแรงงานแพลตฟอร์ม หรือไรเดอร์ ซึ่งจะทำให้ไรเดอร์สามารถจัดตั้งสหภาพแรงงานเพิ่มอำนาจการต่อรอง และได้เข้ากองทุนเงินทดแทนหรือกองทุนเงินประกันสังคม รวมถึงสามารถมีตัวแทนเข้าไปร่วมประชุมในระดับนานาชาติอย่างองค์กร ILO ได้</p><p>สมชาย เสนอว่า ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน อาจใช้อำนาจตามมาตรา 6 ของ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ออกกฎกระทรวงให้คุ้มครองไรเดอร์ อย่างที่เคยทำในกรณีของแรงงานประมง ที่ตอนแรกศาลตีความว่าแรงงานประมงไม่ใช่ลูกจ้าง แต่เป็น ‘หุ้นส่วน’ เพราะว่ามีการมาแบ่งรายได้จากการจับ-ขายปลา แต่หุ้นส่วนขอดูบัญชีไม่ได้นะ กระทรวงแรงงานเลยออกกฎกระทรวงฟันธงว่า ส่วนแบ่งที่ได้จากปลา ถือว่าเป็นค่าจ้าง ทำให้แรงงานประมงได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน </p></div>
<div class="node-taxonomy-container">
<ul class="taxonomy-terms">
<li class="taxonomy-term"><a href="
http://prachatai.com/category/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9" hreflang="th">รายงานพิเศ
http://prachatai.com/category/%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99" hreflang="th">แรงงา
http://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99" hreflang="th">สิทธิมนุษยช
http://prachatai.com/category/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95" hreflang="th">คุณภาพชีวิ
http://prachatai.com/category/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B0" hreflang="th">พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมแรงงานอิสร
http://prachatai.com/category/%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C" hreflang="th">ไรเดอร
http://prachatai.com/category/%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%95%E0%B8%9F%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A1" hreflang="th">แรงงานแพลตฟอร์
http://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0%B8%8E%E0%B8%B2-%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%A8%E0%B8%A5%E0%B8%9E%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C" hreflang="th">กฤษฎา ธีระโกศลพงศ
http://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95-%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%87" hreflang="th">สหัสวัต คุ้มค
http://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%AB%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%AD" hreflang="th">สมชาย หอมลอ
http://prachatai.com/category/%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A5-%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1" hreflang="th">มงคล ยางนา
http://prachatai.com/category/%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B0" hreflang="th">แรงงานกึ่งอิสร
http://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87" hreflang="th">สิทธิการรวมตัวต่อรอ
https://prachataistore.net</div>
http://prachatai.com/journal/2025/05/113056 







