ฤๅษีตาไฟ

ฤๅษีตาไฟ

ฤๅษีตาไฟ เป็นฤๅษีที่มีชื่อเสียงในตำนานและความเชื่อของไทย เป็นบรมครูผู้หนึ่งที่ได้รับการยกย่องในด้านวิชาอาคมและการถือศีลใฝ่ธรรมอย่างแน่วแน่ มีความสามารถในการเพ่งกสิณไฟ และมีตาทิพย์ที่สามารถมองเห็นได้ถึงสามตา บางแห่งกล่าวว่าพระฤษีตาไฟทรงมีตบะแก่กล้าจนถึงขั้นสามารถเพ่งสิ่งของให้ลุกเป็นไฟได้ด้วยสำเร็จวิชากสิณไฟ ท่านมีตาทิพย์ หรือตาที่สามอยู่กลางหน้าผาก หากลืมตาขึ้นมาจะเกิดไฟลุกไหม้

มีการนำรูปปั้นฤๅษีตาไฟมาตั้งบูชาในบ้านเรือน หรือนำมาใช้ในการแสดงโขนและละคร ผู้คนเคารพนับถือฤๅษีตาไฟว่าเป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์และสามารถบันดาลให้เกิดความสำเร็จในด้านต่าง ๆ มีการบูชาฤๅษีตาไฟเพื่อเสริมอำนาจบารมี เมตตามหานิยม และแคล้วคลาดจากภยันตราย

เรื่องราวของพระฤๅษีตาไฟ ปรากฏมาเป็นเวลานานนับพันปีแล้ว ความลี้ลับของพระฤๅษีตาไฟนั้นพอเทียบได้กับเรื่องราวของหลวงปู่เทพโลกอุดร ที่ยากจะสืบค้นความจริงได้ ในปัจจุบันจะเห็นว่าการสร้างรูปเคารพของพระฤๅษีตาไฟมักปรากฏเป็นพระฤๅษี ที่มีสามตา โดยมีตาที่สามกลางหน้าผาก ตามตำนานกล่าวไว้ว่าตาที่สามของพระฤๅษีตาไฟนี้ลืมขึ้นมาเมื่อใดจะบังเกิดเป็นไฟประลัยกัลป์ขึ้น ลักษณะของตาที่สามของพระฤๅษีตาไฟนี้ ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่มีบุญและมีตบะฌานที่แก่กล้า ตามคติทางพราหณ์กล่าวว่าบุคคลที่ได้บำเพ็ญเพียรทางจิตมาหลายร้อย หลายพันชาติ เป็นอนันตชาตินั้น เมื่อบังเกิดขึ้นมาในภพชาติปัจจุบันจะมีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าเป็นผู้ที่มีบุญเกิดขึ้นกับร่างกายหลายอย่าง และอย่างหนึ่งก็คือการมีอุณาโลมที่กลางหน้าผาก อุณาโลมกลางหน้าผากนี้กับภาวะตาที่สามเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน เพราะถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งตาที่สามหรือดวงตาแห่งเทพเจ้า

ความเชื่อและประเพณี
พิธีไหว้ครู : เศียรพ่อปู่ฤๅษีตาไฟ มักใช้ในพิธีไหว้ครู เพื่อแสดงความเคารพต่อครูบาอาจารย์ และเป็นการรับความเป็นสิริมงคลจากครู

ผู้ปฏิบัติธรรม : ผู้ที่ปฏิบัติธรรมหรืออยู่ในสายงานที่เกี่ยวข้องกับศิลปะและไสยศาสตร์ มักนิยมบูชาเพื่อเสริมบารมีและเป็นขวัญกำลังใจ

ผู้มีญาณ : ผู้ที่มีญาณหยั่งรู้ หรือต้องการพัฒนาญาณหยั่งรู้ ก็มักจะบูชาเศียรพ่อปู่ฤๅษีตาไฟ เพื่อเสริมพลังญาณ