13 กรกฎาคม 2568 01:42:14
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
นั่งเล่นหลังสวน
สุขใจ ห้องสมุด
สยาม ในอดีต
.:::
ร.2 เสด็จสวรรคต สู่สถานการณ์คุกรุ่น เมื่อ “กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์” เสวยราชย์
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: ร.2 เสด็จสวรรคต สู่สถานการณ์คุกรุ่น เมื่อ “กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์” เสวยราชย์ (อ่าน 22 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 13
คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 2650
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
ร.2 เสด็จสวรรคต สู่สถานการณ์คุกรุ่น เมื่อ “กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์” เสวยราชย์
«
เมื่อ:
7 ชั่วโมงที่แล้ว
»
Tweet
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) และกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ (รัชกาลที่ 3)
จิตรกรรมฝาผนังศาลาทรงยุโรป หลังพระสมุทรเจดีย์ สมุทปราการ
(ภาพจาก : ศิลปวัฒนธรรม ฉบับพฤศจิากยน 2555)
ร.2 เสด็จสวรรคต สู่สถานการณ์คุกรุ่น เมื่อ “กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์” เสวยราชย์
ผู้เขียน กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม
เผยแพร่ - วันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ.2568
การเปลี่ยนรัชกาลตลอดประวัติศาตร์ 200 กว่าปีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ไม่มีเหตุนองเลือดเหมือนสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่การผลัดแผ่นดินรัชกาลที่ 2 สู่รัชกาลที่ 3 เรียกว่าไม่ได้ราบรื่น 100% ทั้งมีลำดับเหตุการณ์ก่อนเสด็จสวรรคตที่น่าสนใจทีเดียว
ทั้งนี้เพราะนอกจากจะเกิดลางร้ายตามคติคนโบราณหลายอย่างก่อนพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 จะทรงมีพระอาการประชวรแล้ว ยังเป็นการเสด็จสวรรคตอย่างรวดเร็วหลังทรงมีพระอาการเพียงไม่กี่วันเท่านั้น ไทม์ไลน์ต่าง ๆ เป็นดังนี้
เดือนกว่า ๆ ก่อนการเสด็จสวรรคต ช้างสำคัญในรัชกาลที่ 2 ล้ม (ตาย) ในเวลาไล่เลี่ยกันถึง 2 ช้าง คือ พระยาเศวตคชลักษณ์ และพระยาเศวตไอยรา
พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 2 ฉบับที่สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงตรวจสอบชำระจากฉบับของเจ้าพระยาทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี (ขำ บุนนาค) ระบุข้อความว่า
“พระยาเศวตคชลักษณ์ล้มอีกช้างหนึ่ง เหตุที่พระยาช้างเผือกอันเป็นศรีพระนคร นับว่าเป็นคู่พระบารมีในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่ 2 ล้มไปในคราวเดียวกันถึง 2 ช้างเช่นนั้น เป็นเหตุให้เกิดรู้สึกกันทั่วไปว่า เป็นอุปัทวเหตุอันสำคัญมีขึ้น จนถึงไม่สบายพระทัยในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”
รัชกาลที่ 2 ทรงทราบดีว่าเป็นเรื่องไม่มงคล ทำให้ทรงรู้สึกไม่สบายพระราชหฤทัย ส่งผลกระทบต่องานสำคัญที่กำลังจะจัด คือ พระราชพิธีทรงพระผนวชของ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามงกุฎ (ต่อมาคือรัชกาลที่ 4) จึงทรงลดทอนพระราชพิธีในช่วงแห่ ไม่ให้ยิ่งใหญ่เกินไป
7 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 ทรงพระผนวชเจ้าฟ้ามงกุฎ ซึ่งทรงได้รับพระฉายาทางธรรมว่า “วชิรญาณภิกขุ” รัชกาลที่ 2 เสด็จพระราชดำเนินไปถวายเครื่องบริขารและไตรจีวรแก่เจ้าฟ้ามงกุฎด้วยพระองค์เอง หลังจากนั้นก็ทรงเริ่มมีพระอาการประชวร
14 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 หรือ 7 วันหลังพระราชพิธีทรงพระผนวชเจ้าฟ้ามงกุฎ พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 2 ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ บอกว่า ทรงมีพระอาการประชวรมึนเมื่อยพระองค์ เสวยยาแล้วก็ไม่หาย ดังความว่า
“ทรงพระประชวรให้มึนเมื่อยพระองค์ เรียกพระโอสถชื่อ จารในเพชร ข้างที่ ที่เคยเสวยนั้นมาเสวย ครั้นเสวยแล้วให้ร้อนเป็นกำลัง เรียก ทิพยโอสถ มาเสวยอีก พระอาการก็ไม่ถอยให้เชื่อมซึมไป แพทย์ประกอบพระโอสถถวายก็เสวยไม่ได้ มิได้ตรัสสิ่งไร”
16 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 จดหมายเหตุความทรงจำกรมหลวงนรินทรเทวี ระบุว่ารัชกาลที่ 2 เสด็จฯ ไปทรงประดับตกแต่งเขามอ ในพื้นที่สวนขวา ภายในพระบรมมหาราชวัง และทรงเริ่มมีพระอาการประชวรในวันนี้
17 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 บันทึกฉบับเดียวกันบอกว่า เกิดเหตุลางร้ายหลังรัชกาลที่ 2 เสด็จฯ ออกถวายประเคน คือ พระยาช้างร้องเสียงดังสนั่น และพระยาม้ากับพระยาโคสังวาสกัน ระบุข้อความว่า
“เสด็จออกถวายทรงประเคน เสด็จขึ้น วันนั้นพระยาปราบไตรจักรกอดเสาเบญพาดร้องก้องสนั่นไม่จับหญ้า ยกงวงฟาดงาน้ำตาไหล ทั้งพระยาสินธพชาติกับโคอุศุภราชสโมสรสังวาสกัน ที่ศาลาสารบาญชี คนดูอื้ออึงเสียงแซ่”
ทั้งนี้ จดหมายเหตุโหร ซึ่งได้รับการยอมรับจากนักวิชาการว่ามีความแม่นยำเรื่องวันและเวลามาก ระบุว่า เป็นวันที่ 17 กรกฎาคม นี่แหละ ที่พระองค์ทรงเริ่มมีพระอาการประชวร
21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 เสด็จสวรรคต ณ หมู่พระมหามณเฑียร ภายในพระบรมมหาราชวัง
ไม่ว่าจะเริ่มมีพระอาการประชวรในวันไหน ระหว่าง 14-17 กรกฎาคม การสวรรคตในวันที่ 21 เดือนเดียวกัน ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สั้นและกะทันหันมาก เพราะอยู่ในระยะเวลาเพียง 5-8 วันเท่านั้น
ตามกฎมณเฑียรบาลตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา พระราชโอรสที่ประสูติแต่พระอัครมเหสีจะทรงมีฐานะเป็น “สมเด็จหน่อพระพุทธเจ้า” มีพระอิสริยยศสูงสุดในตำแหน่งรัชทายาท ซึ่งจะทรงขึ้นเป็นกษัตริย์พระองค์ต่อไป
แต่ในทางปฏิบัติ กฎดังกล่าวมิได้มีการยึดถืออย่างเคร่งครัด เพราะในยุคอยุธยาก็มีการชิงราชบัลลังก์กันตลอด กล่าวคือ เจ้านายพระองค์ใดมีอำนาจมากก็มีสิทธิขึ้นครองราชย์ได้เหมือนกัน
เนื่องจากรัชกาลที่ 2 ทรงพระประชวรหนัก ถึงขั้นไม่สามารถจะทรงมีพระราชดำรัสใด ๆ ได้ จึงไม่มีพระราชกระแสรับสั่งว่าจะทรงมอบราชสมบัติให้เจ้านายพระองค์ใด เกิดเป็นปัญหาว่า ใครจะได้เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ต่อไป ? ตอนนั้นมีเจ้านาย 2 พระองค์สำคัญที่มีสิทธิครองราชย์ คือ เจ้าฟ้ามงกุฎ ซึ่งตอนนั้นยังทรงพระผนวชเป็นภิกษุ กับ พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ (ต่อมาคือรัชกาลที่ 3)
สุดท้ายปัญหาดังกล่าวไม่ได้ยืดเยื้ออะไร เพราะบรรดาเจ้านายและขุนนางปรึกษาหารือกันแล้วเห็นพ้องว่า “กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์” เหมาะสมที่สุด
เป็นที่มาของบรรยากาศการผลัดแผ่นดินสุดคุกรุ่นภายในราชสำนักสยาม อันมีเบื้องลึกเบื้องหลังมากมายที่ส่งผลต่อประวัติศาสตร์ไทยหลังจากนั้น เรื่องราวทั้งหมดเป็นอย่างไร เจาะลึกได้ใน “สับประวัติศาสตร์ ZAB HISTORY ผลัดแผ่นดินพระพุทธเลิศหล้า รัชกาลที่ 2 บรรยากาศราชสำนักคุกรุ่น”
... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ :
https://www.silpa-mag.com/history/article_155452
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...