[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
06 ธันวาคม 2567 06:36:02 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คลิป ดวงจิต "ผู้รู้" อยู่ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร1/2  (อ่าน 2519 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 7.0.1 Firefox 7.0.1


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 21 ตุลาคม 2554 12:03:51 »



หลวงปู่สิม 1/2

ผู้ใดเล่า... หลงใหล ไปกับความรักความชังแล้ว...

......พระองค์ทรงตรัสสอนไว้ว่า อันความรักความชัง เป็นของมีประจำอยู่ในใจมนุษย์คนเราทั่วไป ผู้ใดเล่า...หลงใหลไปกับความรักความชังแล้ว จิตใจไม่เป็นกลาง ไม่เป็นมัชฌิมา ย่อมเป็นทุกข์ใจ

พระองค์สอนว่าให้ทำใจเป็นดวงหนึ่งดวงเดียว รวมจิตใจเข้าไปภายใน เมื่อเวลาความรักเกิดขึ้น ความชังเกิดขึ้น ที่ว่ากามสุขัลลิกานุโยค อัตตกิลมถานุโยค นั้น กระทบมากระเทือนตาหูจมูกลิ้นกายใจ ให้ภาวนาพุทโธไว้ในใจ เอาจิตใจให้เป็นดวงหนึ่งดวงเดียว ดีใจมาก็ให้รู้เท่าทัน เสียอกเสียใจเกิดขึ้นก็ให้รู้เท่าทัน ทำใจให้อยู่เป็นกลาง คือว่ากลางจิตใจดวงผู้รู้อยู่ในตัวเราทุกคน จิตใจดวงผู้รู้อยู่ในตัวเราทุกคนนี่แหละ ถ้าผู้ใดมาตั้งและรวมลงไป จิตใจดวงผู้รู้นี้มีอยู่ในกายในจิตคนเราทุก ๆ คน คน ๆ หนึ่งก็มีจิตใจดวงนี้ครองอยู่ในร่างกายนี้ จึงยืนเดินนั่งนอนไปมาในที่ใด ๆ ได้

นี่แหละเมื่อเราภาวนารวมจิตรวมใจให้ทวนกระแสจิตใจของตนเข้ามาภายใน มาหยุดอยู่ที่จิตใจดวงที่มีความรู้อยู่ ดวงจิตดวงใจที่มีความรู้อยู่นี้ ไม่ใช่ว่ามาจากที่ไหน หากมีอยู่ในใจของคนเราทุก ๆ คนแล้ว แต่เราไม่รู้จักที่ตั้งที่รวม จึงคิดไปหมายไปตามสังขารมารกิเลสมาร อันเป็นสิ่งภายนอกที่จะมายั่วยุให้จิตใจคนเราลุ่มหลงนั้น จึงได้หลงใหลไปตามอารมณ์นั้น ๆ ไม่ได้ทวนกระแสเข้ามาภายในจิตใจของตนเองว่า ดวงจิตผู้รู้ของเรานั้นอยู่ภายใน

ไม่ว่าอะไร ๆ เกิดขึ้น จิตใจดวงผู้รู้นี้ เป็นผู้รับรู้รับเห็น อย่างการฟังเสียง การฟังธรรม เมื่อเสียงนั้นดังขึ้น แสดงธรรมเกิดขึ้น ก็จิตใจดวงผู้รู้นี้แหละเป็นผู้รับรู้ รับรู้ว่าท่านชี้แจงแสดงให้ทำจิตทำใจอย่างไร จิตใจดวงผู้รู้นี้อยู่กับที่ ไม่ได้ไปที่ไหน มีอยู่ภายใน นับตั้งแต่เราทุกคนมาเกิด มาปฏิสนธิวิญญาณในท้องแม่ จิตใจดวงผู้รู้อันนี้ ก็ครองเอาซึ่งรูปขันธ์ ได้แก่ ขา 2 แขน 2 ศีรษะ 1 มีหนังหุ้มอยู่เป็นที่สุดรอบ นี่เป็นก้อนพระธรรมคือรูปธรรม รูปธรรมตัวตนคนเรานี้ก็นี่แหละ ให้เราดูรูปธรรมนี้ มีความเกิดขึ้นแล้วก็เจริญขึ้นโดยลำดับ เมื่อเจริญหมดขีดแล้วก็แสดงความแก่ ความชรา ความชำรุดทรุดโทรมเป็นธรรมดาของสังขารทั้งหลาย ธรรมดาสังขารทั้งหลายนี้มีความไม่เที่ยงแท้แน่นอนอย่างนี้

พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนปัจจวัคคีย์ฤาษีทั้ง ๕ ให้เห็นว่า รูปนาม กายใจตัวตนคนเรานี้ มีความเกิดขึ้นแล้วย่อมแสดงถึงความไม่เที่ยงแท้แน่นอน แล้วว่าอนิจจัง ความไม่เที่ยง ทุกขัง ความเป็นทุกข์ อนัตตา คือไม่ใช่ตัวตนของเราของเขา เป็นธาตุโลกของโลกต่างหาก จิตใจให้รู้เท่าทัน เมื่อเวลาไม่สบายเกิดขึ้น มีความเจ็บไข้ได้ป่วยก็อย่ายึดว่าเราเจ็บไข้ได้ป่วย ให้ถือว่าธาตุดินเขาไม่สบาย ช่างมันเถิด จิตใจอย่าไปยึดถือ ธาตุน้ำเขาไม่สบายช่างมันเถิด อย่าได้ไปยึดถือ ธาตุไฟธาตุลมเขาไม่สบาย ช่างมันเถิด

จิตใจผู้รู้ภาวนาพุทโธอยู่ ไม่ให้ไปที่อื่น ตามรู้ตามเห็นว่าโลกเรานี้ ไม่ว่าโลกภายในกายใจของคนสัตว์ก็ตาม ตลอดจนดินฟ้าอากาศ ดวงพระอาทิตย์พระจันทร์ สิ่งเหล่านี้เมื่อเกิดขึ้นมาเป็นรูปเป็นนามเป็นตัวตนสัตว์บุคคลแล้ว ย่อมแสดงถึงความไม่เที่ยงแท้แน่นอน เป็นทุกข์ เป็นอนัตตาเต็มไปหมด จิตใจผู้ภาวนาพุทโธ รวมจิตรวมใจให้มาหยุดอยู่ในหัวใจดวงที่มีความรู้อยู่ในปัจจุบันนี้

เมื่อมารวมมาหยุดอยู่ในขณะปัจจุบันนี้ได้ จิตใจนี้แหละจะเข้าใจเองว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่เที่ยงจริง เกิดขึ้นแล้วก็แก่ชราไป ความแก่ชรานั้นมันเป็นไปเอง เราจะรู้ไม่รู้ก็ตาม เมื่อเกิดตั้งขึ้นมาแล้ว ความแก่ชรามันก็เลื่อนไปเป็นไป อันความเจ็บไข้ได้ป่วยในรูปร่างกายคนเรานี้ใคร ๆ ก็ไม่ต้องการ แต่ว่าถึงเวลาแล้ว มันก็ต้องเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นธรรมดาอย่างนี้ เมื่อจิตใจของผู้ภาวนาพุทโธให้อยู่ในตัวในใจได้ดีแล้ว จะเห็นว่าสิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นแก่เรา ก็ถึงความไม่เที่ยงเหมือนกัน มีความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอทุกเวลาไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่น ในหน้าในตาในชื่อในเสียงในเราในของ ๆ เรา

เพราะสิ่งทั้งหลายนั้นเขาไม่หยุดอยู่ให้เราเลย เขาเปลี่ยนแปลงไป มีความแก่ชรา ความแก่ชรานั้นหนีไม่พ้น เพราะว่าเรามีความแก่ชราเป็นธรรมดา หนีให้พ้นไม่ได้ เรามีความเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นธรรมดาหนีไม่พ้น ผลที่สุดเมื่อแก่ชราหรือไม่แก่ชราก็จะถึงซึ่งความตาย หนีไม่พ้น หลบหลีกไปที่ไหนไม่พ้น

เมื่อเป็นเช่นนี้ ทางที่จะพ้นออกจากทุกภัยในวัฏฏะสงสารนั้น จะต้องรวมจิตรวมใจดวงจิตดวงใจดวงผู้รู้อยู่ในตัวเราท่านทั้งหลายอยู่ที่ไหนในเวลานี้ ให้รวมกำลังเข้ามาภายในนี้ ให้จิตใจดวงนี้แน่วแน่มั่นคง ไม่หลงใหลไปตามรูปที่ผ่านทางตา ไม่ให้หลงใหลไปตามเสียงที่ผ่านทางหู ไม่ให้หลงใหลไปตามกลิ่นเหม็นหอมทางจมูก ไม่ให้หลงใหลไปตามรสอาหารการบริโภค เย็นร้อนอ่อนแข็งกระทบร่างกายท่านก็ไม่ให้หลงใหลไป ท่านให้อยู่คือให้หยุดให้อยู่ ให้รู้อยู่ในจิตใจของตนให้ได้ทุกเวลา และทุกลมหายใจเข้าหายใจออก จิตใจของเราให้แน่วแน่อยู่ในคุณพระพุทธเจ้า

คุณพระพุทธเจ้าคือองค์พุทธะองค์พุทโธ องค์พุทธะพุทโธได้แก่ดวงจิตดวงใจของเราทุกคนที่มีความรู้อยู่ ดวงจิตที่มีความรู้อยู่เดี๋ยวนี้ ขณะนี้ ปัจจุบันนี้ มีอยู่เดี๋ยวนี้ ให้เรารวมจิตรวมใจอันนี้เข้ามาภายในทุก ๆ คืนก่อนจะหลับจะนอน ให้พากันตั้งอกตั้งใจปฏิบัติบูชาภาวนาให้ได้อย่างนี้ทุกวันทุกคืน จิตใจของเราที่ร้อนด้วยกิเลส ความโกรธ ความโลภ ความหลง อันใดอันหนึ่งที่มันมีอยู่ในจิตใจของเรา ก็จะค่อยเบาไป บางไป หมดไป สิ้นไป เพราะเราภาวนาอยู่ ตั้งใจอยู่เพื่อจะละจะถอนจะปล่อยจะวาง ไม่ให้จิตใจไปยึดมั่นถือมั่นในที่ทั้งปวงเกินไป ...

ส่วนนี้คุณ เภตรา คัดลอกจากบางส่วนจากคลิปวิดีโอนี้ค่ะ
:http://larndham.org
อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 7.0.1 Firefox 7.0.1


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 21 ตุลาคม 2554 12:14:51 »




บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.359 วินาที กับ 30 คำสั่ง

Google visited last this page 15 ชั่วโมงที่แล้ว