บวชมาแล้วไม่ศึกษาเล่าเรียน แสดงธรรมผิด ๆ ถูก ๆ สร้างความสับสนให้เกิดขึ้นในพระพุทธศาสนาจนเกิดความวุ่นวายในพระศาสนา พระภิกษุผู้เคร่งในพระธรรมวินัย ก็แสดงความรังเกียจพวกเดียรถีร์ จนถึงขั้นไม่ร่วมทำอุโบสถสังฆกรรมด้วยเรียกสำนวนชาวบ้านว่า ไม่ลงโบสถ์ด้วย
เรื่องรู้ไปถึงพระกรรณ พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงมอบภาระให้มหาอำมาตย์คนหนึ่งไป จัดการ ให้พระสงฆ์สามัคคีกัน ร่วมลงโบสถ์สังฆกรรมกัน มหาอำมาตย์ถือว่าตนได้รับมอบดาบอาญาสิทธิ์ให้ไปจัดการก็จัดการจริง ๆ
คือเรียกประชุมสงฆ์ อ้างกระแสพระราชดำรัสของในหลวงขอให้พระภิกษุทั้งหลาย ร่วมลงอุโบสถสังฆกรรม
พระเถระผู้ยึดมั่นในหลักแห่งพระธรรมวินัยก็ไม่ยอม มหาอำมาตย์จึงตัดศีรษะพระที่ไม่ยอม ตายไปสองรูป พอถึงรูปที่สามไม่กล้าทำอะไร พอชักดาบจะฟันคอท่านเท่านั้น ก็ทิ้งดาบกลับไปกราบทูลในหลวงว่า จัดการไม่สำเร็จ เพราะพระอนุชาของพระองค์มาขัดขวาง
ถามว่าทำไม มหาอำมาตย์จึงฟันคอพระหนุ่มไม่ลง ก็เพราะพระหนุ่มรูปนี้เห็นเรื่องมันจะไปกันใหญ่ จึงถลันมานั่งขวาง มหาอำมาตย์จำหน้าท่านได้ ว่าท่านเป็นพระอนุชาของพระเจ้าอยู่หัว จึงไม่กล้าทำอะไรไม่อย่างนั้น คุณเอ๋ย เลือดคงไหลนองท่วมท้องช้างแน่ๆ
..................................พระเจ้าอโศกเป็นเชื้อสายศากยะ............................
......................................สัมผัสพระพุทธเจ้า.............................
แสดงว่าสงครามล้างโคตรคราวนั้น ไม่ถูกล้างหมด อย่างน้อยพระเจ้าตา (เจ้ามหานาม) และพรรคพวกจำนวนหนึ่งยังรอดชีวิตประวัติศาสตร์ ไม่รู้กระซิบหรือไม่ ระบุว่าเจ้าศากยะที่ถูกปลงพระชนม์คราวนั้นจำนวนถึง ๗๗,๐๐๐ องค์ ส่วนที่หนีไปได้ก็มีจำนวนหนึ่ง
จำนวนหนึ่ง ที่อ้างถึงนี้ก็มีเจ้ามหานามกับพรรคพวก และเจ้าศากยะอื่น หนีลึกเข้าไปยังป่าหิมพานต์ ได้พบชัยภูมิพื้นที่แห่งหนึ่งอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพรรณและน้ำ มีนกยูงส่งเสียงร้องอยู่ทั่วไป และมีเมืองโบราณตั้งอยู่ไม่มีผู้คน จึงเข้าครอบครอง
จันทรคุปต์ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์โมริยะ (หรือเมารยะ) อ้างตัวว่ามาจากศากยะพวกที่หนีตายมานี้แล เมื่อยึดเมืองปาตลีบุตรได้ตั้งราชวงศ์ใหม่ จึงเอานกยูงมาเป็นสัญลักษณ์ตั้งว่า ราชวงศ์โมริยะ ด้วยประการฉะนี้แล เรื่องมันเป็นอย่างนี้แหละ ท่านสารวัตร
เมื่อจันทรคุปต์สงบศึกกับพวกกรีกผู้เป็นลูกหลานพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ เพราะรบไม่แพ้ไม่ชนะสักที ได้มีการแลกทูตกัน ชาวกรีกอพยพมาอยู่ชมพูทวีป ชาวชมพูทวีปอพยพไปอยู่เมืองกรีกมีจำนวนมาก พระเจ้าจันทรคุปต์ก็ได้ขัตติยนารีเชื้อสายกรีกมาเป็นมเหสีหลายองค์ ว่ากันว่าพระราชโอรสของพระเจ้าจันทรคุปต์พระนามว่า พินทุสาร มีความเก่งกล้าสามารถในการรบยิ่งกว่าพระราชบิดาอีก จนพวกกรีกให้สมญาว่า จอมพิฆาตศัตรู (สัตตุฆ็อต) พินทุสารก็คงอภิเษกสมรสกับขัตติยนารีกรีกเช่นเดียวกัน