[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
04 ธันวาคม 2567 09:39:55 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ข่าวสาส์น จาก กลุ่มดาวเพลเดี้ยนส์  (อ่าน 2857 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7865


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 08 มิถุนายน 2553 22:24:24 »

[ คัดลอกจากบอร์ดเก่า โพสท์โดย อ.มดเอ็กซ์ ]


MESSAGES FROM...THE PLEADIANS STAR SYSTEM
ข่าวสาส์นจากกลุ่มดาวเพลเดี้ยนส์

 
(กลุ่มดาวเพลเดี้ยนส์ ได้เคยมีการกล่าวถึงในหนังสือจิตจักรวาลของดร.เทพพนมว่าได้เคยให้การช่วยเหลือกลุ่มมนุษย์โบราณที่ชื่อกลุ่ม สตีฟฟา และเคยมีกล่าวถึงสองสามครั้งในภาพยนตร์สตาร์วอร์ :ผู้แปล)



  • In order to survive in the times that are coming (2012 and beyond), it is important to understand the idea of thought manifestation or superconsciousness.
    • เพื่อดำรงรอดพ้นจากสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น(ในปี 2012และอีกไกลโพ้น) ความเข้าใจในเรื่องแนวคิดของเจตนารมณ์หรืออภิจิตวิญญาณนับว่าเป็นเรื่องสำคัญยิ่งนัก
    • Superconsciousness is only a word to you at this time. It is not a concept that is inside of you yet because you cannot conceive of being so in tune and filled with so much power/knowledge.
    • อภิจิตวิญญาณอาจจะเป็นเพียงคำๆหนึ่งสำหรับคุณเท่านั้นในตอนนี้ ยังไม่ได้ก่อให้เกิดความหมายใดๆแก่คุณนั่นก็เพราะว่า คุณยังไม่อาจจินตนาการเข้าถึงมันได้ อาจจะยังไม่ได้ปรับคลื่นให้ตรงและรับเอาพลังงาน/ความรู้นั้นได้
    • Yet, as you evolve, that is what you are moving toward the superconsciousness.
    • แม้จะยัง แต่ก็อยู่ในช่วงของการวิวัฒนาการ นั่นคือคุณกำลังก้าวรุดเข้าสู่อภิจิตวิญญาณ
    • There are those who are very aware that this superconsciousness could begin to be well-knowned. It has already occurred. We (Plaidien star people from future) have come back into your past (present earth) to assure you of this.
    • สำหรับผู้ใดที่ได้เริ่มตระหนักถึงอภิจิตวิญญาณนี้แล้ว ก็เริ่มจะเป็นคนที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก พวกเรา(ชาวเพลเดี้ยนส์ผู้มาจากอนาคต)ได้กลับคืนอดีตของคุณ(โลกปัจจุบันนี้)เพื่อยืนยันในเรื่องนี้
    • Thought/Consciousness comes first. Experience/physical reality is always secondary.
    • ความคิด/จิตสำนึกมาเป็นอันดับแรก จากนั้นประสบการณ์/ความเป็นจริงทางกายภาพจะตามมาเป็นลำดับที่สอง
    • It is never the other way around-that you have the experience/physical reality and then you have the thought/consciousness.
    • ไม่มีทางหรอกที่คุณจะได้รับประสบการณ์/ความเป็นจริงทางกายภาพแล้วจึงมาบังเกิดเป็นความคิด/จิตสำนึก
    • Always your experience/physical reality is a direct reflection of what you are thinking/contemplating/focusing.
    • ประสบการณ์ของคุณ/ความเป็นจริงทางกายภาพล้วนเป็นผลสะท้อนโดยตรงจากสิ่งที่คุณกำลังคิด/พินิจพิเคราะห์/จดจ่ออยู่
    • You have a power in your thoughts. Your thoughts form your physical world/your life all of the time.
    • คุณมีพลังอำนาจในความคิดของคุณ ความคิดของคุณก่อกำหนดให้เกิดโลกทางกายภาพ/ชีวิตของคุณตลอดเวลา
    • Because you are bombarded with so many frequency-control vibrations from human consciousness that attempt to keep you from being clear, you fluctuate.
    • เพราะว่า คุณได้รับคลื่นความถี่ที่บังคับรุกเร้าคุณอย่างหนักหน่วงมากในระดับจิตสำนึกแห่งปุถุชนยิ่งพยายามที่จะให้ปลอดโปร่ง คุณก็ยิ่งกวัดแกว่ง
    • You must, as an Earth species, make it your intention to stay very clear, to stay centered, and always to bring yourself into the present moment.
    • ในฐานะเผ่าพันธุ์แห่งโลก คุณจำต้องตั้งใจมั่นที่จะดำรงอยู่อย่างปลอดโปร่ง เป็นศูนย์กลาง และทำตนให้อยู่ในปัจจุบันขณะ
    • Stop living in the future or living in the past, and always live in your present now.
    • จงหยุดที่จะอยู่เพื่ออนาคตหรืออดีต และจงอยู่เพื่อปัจจุบันขณะนี้ของคุณเสมอ
    • Ask to yourself, "What do I want?
    • ถามตนเองว่า ฉันต้องการอะไร?
    • I intend to accelerate my personal evolution/enlightenment.
    • ฉันหมายให้เร่งตนให้เข้าสู่การพัฒนาตน/บรรลุการรู้แจ้งอย่างรวดเร็วยิ่งๆขึ้น
    • I intend Spirit/Consciousness to assist and protect me in a greater capacity.
    • ฉันหมายให้จิตวิญญาณ/จิตสำนึกคอยช่วยเหลือและปกป้องฉันในการก้าวเข้าสู่ศักยภาพอันยิ่งใหญ่ขึ้น
    • I intend my body to regenerate itself (Eternal Youth and Vitality and Immortal.)
    • ฉันหมายให้ร่างกายนี้ของฉันกลับย้อนวัยลงไป(คงความเยาว์ชั่วนิรันดร์และมีชีวิตชีวาและเป็นอมตะ)
    • I intend to have super wealthy and abundance with all good things in life.
    • ฉันหมายมั่นที่จะร่ำรวยและมั่งคั่งไปด้วยสิ่งดีๆในชีวิต
    • I want to be super joy and tremendous happy.
    • ฉันอยากจะมีความสนุกสนานเบิกบานและความสุขให้มันสุดๆไปเลย
    • "It is this line of thinking-this commanding from your Spirit/Consciousness and calling out what you want with clarity-that brings you everything in acceleration.
    • มันคือเส้นทางของความคิด มันคือคำบัญชาจากจิตวิญญาณ/จิตสำนึกของคุณที่สั่งออกมาอย่างแจ้งชัดว่า คุณต้องการอะไร ซึ่งนั่นจะนำทุกสิ่งมาสู่คุณให้เร็วยิ่งขึ้น
    • Watch your thought. If you find yourself denying that you created a portion of your experience, and you don't want to own it as your creation, simply look at it.
    • เฝ้าระวังความคิดของคุณ ถ้าพบว่าตัวคุณเองกำลังปฏิเสธในประสบการณ์แห่งเคราะห์ทั้งหลายที่คุณสร้างเอง และคุณไม่ได้ต้องการที่จะรับมันแม้คุณจะสร้างขึ้นมาเองก็ตาม จงเฝ้ามองมัน
    • Say, "Isn't this interesting-I do this all of the time. I don't want to own what I am creating.
    • แล้วพูดว่า “มันไม่น่าสนใจอะไรเลย ฉันทำสิ่งนี้มาตลอดเวลาแล้ว ฉันก็ไม่ต้องการรับในสิ่งที่ฉันสร้างขึ้นมาแล้ว
    • If I don't like it, I blame someone else. Let me see how long I will do this, and let me come up with a solution to develop a different pattern of behavior."
    • ถ้าฉันไม่ชอบมันแล้วละก็ ฉันก็มักจะกล่าวโทษคนอื่นร่ำไป ไหนขอดูหน่อยสิว่า ฉันจะต้องทำมันไปอีกนานแค่ไหนกัน และให้ฉันได้พบหนทางในการแก้ไขปรับปรุงในรูปการณ์ที่แตกต่างออกไปที
    • Don't judge yourself. Begin to say to yourself, "I will accept responsibility for all that I am involved in/created.
    • อย่ากล่าวโทษพิพากษาตนเอง จงเริ่มที่จะบอกกับตัวคุณเองว่า “ฉันจะรับผิดชอบต่อทุกสิ่งที่ฉันมีส่วนเกี่ยวข้อง/สร้างขึ้นมา
    • I will accept responsibility for everything that happens to me. If I don't like what is happening to me, I will begin to ask myself why I create things that I don't like.
    • ฉันจะรับผิดชอบในทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉัน ถ้าฉันไม่ชอบในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ ฉันจะเริ่มถามตัวเองว่า แล้วเหตุใดฉันจึงสร้างสิ่งนี้ขึ้นมาทั้งที่ฉันเองไม่ได้ชอบเลย
    • Maybe it's to get my attention about something so that I can change what is really not working for me that I cannot see."
    • บางทีมันอาจจะเป็นไปเพื่อบางสิ่งที่ฉันหมายมั่น ถ้าเช่นนั้นฉันจะได้เปลี่ยนมันไปว่าจริงๆแล้วฉันอาจจะไม่เห็นว่าอะไรกันแน่ที่ไม่ได้ผลสำหรับฉัน
    • Always act as if there is an impeccable purpose to everything you do.
    • จงแสดงท่าราวว่า ทุกสิ่งที่คุณทำในทุกเจตนารมณ์ของคุณไร้ข้อผิดพลาดทั้งสิ้น
    • Act as if your highest good and your highest opportunity involve working through every event you are involved in.
    • จงทำเหมือนว่า คุณน่ะดีสุดๆและคุณก็มีโอกาสสุดๆที่คุณจะเข้าไปร่วมด้วยช่วยทำในทุกกรณีที่คุณมีส่วนเกี่ยวข้อง
    • Always act that way. If you are walking down the street and someone says, "I've got a gun in your back; let's have your purse," act as if you are being given an opportunity for your highest growth.
    • ให้แสดงแบบนั้นล่ะ ถ้าคุณกำลังเดินอยู่บนถนน และก็มีคนพูดขึ้นมาว่า “ฉันถือปืนจี้หลังแกอยู่นะ ส่งกระเป๋าตังค์มาซะดีๆ” ก็จงทำท่าเหมือนว่า คุณน่ะเปิดโอกาสให้มันเกิดขึ้นเพื่อจะได้เรียนรู้เติบโตให้ถึงที่สุด
    • You never know what the results are going to be if you begin to act this way.
    • คุณน่ะไม่รู้จริงๆว่า ผลมันจะลงเอยแบบใด ถ้าคุณทำแบบนี้ไป
    • When you act as if, you act without knowing and without expectation. This is an attitude.
    • เมื่อคุณแสดงท่าว่า ถ้าเกิดว่า คุณทำแบบนี้โดยไม่รู้และปราศจากการคาดหวัง นี่คือทัศนคติ
    • If you all could have this attitude and act as if every event is designed to propel you further in your growth and awareness, then you might turn around and find that the person holding the gun in your back is a portion of yourself.
    • ถ้าพวกคุณทั้งหลายมีทัศนคติแบบนี้ และแสดงออกมาแบบว่า ถ้าเกิดว่าทุกๆเรื่องได้ถูกออกแบบเพื่อนำคุณไปสู่การเติบโตและการตระหนักรู้ที่ยิ่งๆขึ้นจากนั้นคุณอาจจะหันย้อนกลับมาและพบว่าคนที่ถือปืนจ่อหลังคุณคือเคราะห์ของคุณเอง
    • You might be able to heal something; you might be given an opportunity to do something you are afraid of.
    • คุณอาจจะสามารถแก้ไขบางอย่าง คุณอาจจะให้โอกาสตัวเองทำบางสิ่งที่คุณเองก็ไม่กล้า
    • Do not be afraid of what you create.
    • อย่าหวาดกลัวต่อสิ่งที่คุณได้สร้างขึ้นมา
    • Trust what you create. Trust that there is always something in it for you.
    • เชื่อมั่นในสิ่งที่รังสรรค์มันขึ้นมา จงเชื่อเถิดว่า มันมีบางสิ่งเสมอในสิ่งสิ่งนี้เพื่อคุณ
    • Do not sweep your dramas under the rug as if they are dirty old horrible things and you never wish to see them again.
    • อย่ากวาดเอาเรื่องรันทดของคุณไปซุกไว้ใต้พรม แล้วทำเหมือนว่ามันเป็นเรื่องน่ารังเกียจขยะแขยง และคุณก็ไม่อยากจะพบเห็นมันอีก
    • Get finished with these dramas: stop cycling in them and being lost in them.
    • มาจัดการเรื่องเศร้าๆนี่ให้สิ้นซากไปเลยมาจบวงจรและการสูญเสียไปซะเหอะ
    • However, understand that the drama you have had with your mother, your brother, your sister, your lover is something you may use twenty years later to come to a whole new realization.
    • อย่างไรก็ตาม เข้าใจนะว่า เรื่องนิยายน้ำเน่าที่คุณมีกับแม่คุณ พี่ชายน้องชายคุณ พี่สาวน้องสาวคุณ คนรักของคุณจะเป็นอะไรที่คุณอาจต้องใช้เวลายี่สิบปีให้หลังเพื่อจะให้ทุกสิ่งเป็นจริงขึ้นมาได้
    • So let these life dramas be like a file for you.
    • ถ้าชีวิตน้ำเน่าพวกนี้เป็นเหมือนเรื่องๆหนึ่งสำหรับคุณ
    • Finish them up, resolve them as best you can, create peace, accept your part in them, and then let them cycle back through your spirit/consciousness to teach you something.
    • มาจัดการมันให้จบๆไป แก้ไขมันให้ดีเท่าที่คุณจะทำได้ สร้างความสงบสุข ยอมรับว่าคุณเองก็มีส่วนในเรื่องนี้ และจากนั้นปล่อยให้มันย้อนผ่านเข้าไปสู่จิตใต้สำนึก/จิตวิญญาณของคุณ เพื่อสอนคุณบางสิ่ง
    • Let them be ongoing treasures of experience for yourself rather than hackles that you want to get past.
    • ให้มันเป็นดั่งประสบการณ์อันล้ำค่าสำหรับคุณมากกว่าที่จะเป็นดั่งบาดแผลที่คุณได้รับเมื่อในอดีต
    • Emotion is connected with these things, and remember, emotion can take you into other realms of activity.
    • อารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้ และจดจำมัน อารมณ์ที่นำคุณไปสู่ที่ตั้งแห่งการกระทำเหล่านี้
    • Do you believe that you only create your reality in certain areas and that in other areas you are disempowered?
    • คุณเชื่อไหมว่า ถ้าคุณเพียงแค่สร้างความเป็นจริงขึ้นมาในที่ๆหนึ่ง และในอีกที่ที่หนึ่งคุณก็จะไร้ซึ่งอำนาจ?
    • Do you argue that you have no control over some areas of your life?
    • คุณจะเถียงไหมว่า คุณควบคุมอะไรไม่ได้ในที่บางแห่งในชีวิตคุณ?
    • Do you give up what is naturally yours because society tells you you cannot have it?
    • คุณท้อแท้ไหมในสิ่งที่คุณเป็นจริงๆ เพราะว่า สังคมบอกว่า คุณมีมันไม่ได้หรอก?
    • You will find that events do not come out of the blue.
    • คุณจะพบว่า เหตุการณ์ต่างๆไม่เคยเลิกหม่นหมองเลย
    • Some of you believe that you create your own reality but that others do not create theirs-especially little babies who have all kinds of things happen to them or children who are abused.
    • พวกคุณบางคนอาจจะเชื่อว่า คุณเองได้รังสรรค์ความเป็นจริงของคุณขึ้นมาได้ แต่คนอื่นกลับไม่ได้ทำเลย โดยเฉพาะพวกเด็กเล็กๆที่จะต้องมีหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตพวกเขาเกิดขึ้น หรือพวกเด็กๆที่กำลังหลงทางผิด
    • It is a difficult concept for many of you to grasp that seemingly helpless children or starving people also create their own reality.
    • มันออกจะเป็นแนวคิดที่ยากนักสำหรับพวกคุณหลายๆคนที่อยากจะฉุดดึงพวกเด็กๆที่ไร้หนทาง หรือคนอดอยากหิวโหยให้พวกเขานึกรังสรรค์ความเป็นจริงขึ้นมาได้
    • Whenever you buy into the victim mentality, you send people the idea that they are powerless and you make that probability one for yourselves.
    • เมื่อคุณได้ให้ราคาจิตใจของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเหล่านั้น คุณก็ได้ส่งต่อความคิดที่ว่าพวกเขาไร้ซึ่งความสามารถไปสู่พวกเขาและ คุณก็อาจจะรับเอามาใส่ตัวคุณเองด้วย
    • You must learn to honor other people's dramas and lessons. [/FONT]
    • Realize that the newspaper/media is not going to tell you the truth, because newspapers do not report things in that way.
      • คุณต้องเรียนรู้ที่จะเคารพให้เกียรติต่อเรื่องราวรันทดและบทเรียนของผู้อื่นตระหนักให้ดีว่า หนังสือพิมพ์/สื่อต่างๆไม่ได้บอกความจริงทั้งหมด เพราะหนังสือพิมพ์ไม่ชอบตีพิมพ์เรื่องราวแบบนั้น
      • Victims find victims. Victors find victors.
      • เหยื่อพบเหยื่อ ผู้ชนะพบผู้ชนะ
      • So, please, with any newspaper event or world drama in which it looks as if people are hopeless victims, honor them and honor yourself by saluting that they created their own reality.
      • ดังนั้น ไม่ว่าจะเรื่องต่างในหนังสือพิมพ์หรือเรื่องเศร้ารันทดของโลกนี้ที่ดุเหมือนว่า ผู้คนเป็นเหยื่อผู้สิ้นหวัง ขอได้โปรดให้เกียรติพวกเขา และให้เกียรติตนเองโดยการเคารพต่อพวกเขาที่ได้สร้างสรรค์ความเป็นจริงของเขาขึ้นมา
      • It may not be a reality that you need to learn from--or anything you feel a need to participate in.
      • มันอาจจะไม่ใช่ความเป็นจริงที่คุณจำต้องเรียนรู้ หรืออะไรที่คุณอยากเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย
      • You must understand that others must go through the realms of density/dark to bring them to light.
      • คุณต้องเข้าใจว่า คนอื่นก็จำต้องผ่านเข้าสู่ดินแดนแห่งม่านหมอก/มืดมนเพื่อนำพวกเขาไปสู่แสงสว่าง
      • Sometimes the greatest enlightenment lies in the greatest problems and the greatest difficulties.
      • บางครั้งการบรรลุแห่งการรู้แจ้งอันยิ่งใหญ่ก็แนบสนิทกับปัญหาอันยิ่งใหญ่และความยุ่งยากอันแสนจะยากนัก
      • When you go to a restaurant and order something you want, the chef prepares it and the waiters bring it to you.
      • เมื่อคุณเดินเข้าภัตตาคารและสั่งบางอย่างที่คุณต้องการ พ่อครัวก็จะปรุงมัน และบริกรก็จะนำมันมาให้กับคุณ
      • You order it; however, you don't make it. Somehow the cooks make it, yet, you select it to be put before you.
      • คุณสั่งออกไป ไม่ว่าอย่างไร คุณก็ไม่ได้เป็นคนทำมัน กุ๊กเป็นคนทำ คุณเลือกมัน และมันก็ถูกวางไว้ตรงหน้าคุณ
      • It will not be put before you unless you go into the restaurant to order it in the first place. So you are responsible for it and you pay for it.
      • มันจะไม่ถูกนำวางไว้ตรงหน้าคุณถ้าคุณไม่ได้เดินเข้าไปในภัตตาคารเพื่อสั่งมันในทีแรก ดังนั้คุณก็ต้องรับผิดชอบและจ่ายเงินไป
      • Life is the same way; life is like a restaurant. Learn how to order what you want from life like you do in a restaurant and then trust that, because you ordered it, it will be put before you.
      • ชีวิตก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน ชีวิตเป็นเหมือนดั่งร้านอาหาร เรียนรู้วิธีการสั่งสิ่งที่คุณต้องการจากชีวิต เหมือนอย่างที่คุณทำในภัตตาคาร และจากนั้นจงเชื่อมั่นว่า เพราะคุณสั่ง มันจึงถูกนำมาวางลงตรงหน้า
      • When you go into a restaurant, you don't worry over every item and wonder whether or not you deserve to have it.
      • เมื่อคุณเดินเข้าไปในภัตตาคาร คุณไม่ได้ต้องกังวลกับทุกรายการหรือสงสัยว่าคุณสมควรที่จะกินมันหรือเปล่า
      • Well, sometimes you do. Sometimes you say, "Well, I don't deserve to have that. That costs fifteen dollars. I can only have something that costs seven dollars or less."
      • เอาละ บางครั้งคุณก็ทำ บางครั้งคุณก็พูดว่า “อืมม ฉันไม่สมควรที่จะกินอันนี้ ราคามันตั้ง 15 ดอลล่าร์ ฉันคงกินอะไรที่ราคาเจ็ดเหรียญหรือน้อยกว่านั้น”
      • The way you act in restaurants is an indication of the way you act in life.
      • สิ่งที่คุณแสดงในภัตตาคาร ก็บ่งชี้ถึงสิ่งที่คุณแสดงออกในชีวิต
      • It is an incredible teaching to understand. When you go into a restaurant, do you simply order and say, "This is what I want," and trust that it is going to come to you, or do you worry that they are not going to bringit to you?
      • มันคงจะเป็นคำสอนที่เหลือที่จะเข้าใจ เมื่อคุณเดินเข้าไปในร้านอาหาร คุณจะสั่งอาหารง่ายๆและพูดว่า “นี่คือสิ่งที่ฉันอยากได้” และเชื่อมั่นว่า มันก็กำลังจะถูกนำมาให้คุณ หรือคุณจะมานั่งกังวลว่า พวกเขาจะไม่นำมาให้คุณหรือเปล่า?
      • As soon as the order is in, do you follow the waiter into the kitchen and say, "Oh, they probably won't have the right lettuce. They probably won't sauté those onions just so, and they won't have those kind of mushrooms I want."
      • ทันทีที่สั่งอาหาร คุณจะเดินตามบริกรเข้าไปในครัวและเอ่ยว่า “โอ้ว พวกเขาอาจจะไม่มีผักกาดหอมที่ใช่ พวกเขาอาจจะไม่ผัดหอมหัวใหญ่แบบนั้น และพวกเขาอาจจะไม่มีเห็ดอย่างที่ฉันต้องการ”
      • No. You trust it will be presented to you exactly the way you want it and you let it go.
      • ไม่หรอก คุณเชื่อว่ามันจะถูกนำเสนอลงตรงหน้าคุณอย่างที่คุณต้องการจริงๆ และคุณก็ปล่อยผ่านไป
      • When it is presented to you, you say, "Thank you." If it is not quite right, you ask for what is needed and then you proceed.
      • เมื่อมันถูกวางลงตรงหน้า คุณก็เพียงเอ่ยว่า “ขอบคุณ” และถ้ามันไม่ใช่อย่างที่คุณต้องการนัก คุณก็ร้องขออะไรที่คุณอยากได้และจากนั้นคุณก็ดำเนินการกับมันต่อ
      • Look at the same way you have when you order things in a restaurant. That is how you order or create your life from your Spirit/Consciousness.
      • มองให้เหมือนกัน คุณสั่งอาหารในภัตตาคารคุณก็ได้สิ่งนั้น นั่นคือวิธีการที่คุณสั่งหรือสร้างสรรค์ชีวิตของคุณจากจิตวิญญาณ/จิตสำนึกของคุณ
      • Get clear on what you want, order/create it and be done with it. Don't keep calling up Spirit/Consciousness to see if they got the order or give advice on how to fill it. You ordered it. Trust that it will come.
      • จงกระจ่างชัดถึงสิ่งที่คุณต้องการ สั่ง/สร้างสรรค์และใช้มัน อย่าเฝ้าแต่ทวงถามเอากับจิตวิญญาณ/จิตสำนึกว่าพวกเขาได้รับออร์เดอร์หรือยัง หรือคอยชี้แนะว่าจะเติมเต็มอย่างไร คุณสั่งไปแล้ว เชื่อมั่นสิว่ามันจะมา
      • You are a result of your thoughts. If there is nothing else you learn on this planet, you will learn that this is the rule in this reality and the rule of many other planets/galaxy/universe/cosmic.
      • คุณคือผลพวงจากความคิดของคุณ ถ้ามันไม่เหลืออะไรให้คุณได้เรียนรู้ในโลกนี้แล้วละก้อ คุณก็ไปเรียนรู้กฎแห่งความเป็นจริงและกฏอีกหลากหลายมากมายกฎในโลกอื่น/แกแล็คซี่อื่น/เอกภพอื่น/คอสมิคอื่น
      • Thought creates experience/physical reality. Why not give yourself a gift and begin to think of yourself in a capacity that is exceptional, magnificent, and uplifting; free yourselves from the negative life.
      • ความคิดก่อกำเนิดประสบการณ์/ความเป็นจริงทางกายภาพ ทำไมจึงไม่ให้ของขวัญกับตัวเองและเริ่มคิดถึงตัวคุณเองถึงศักยภาพที่สุดพิเศษ เลิศเลอ และชื่นอกชื่นใจ ปลดปล่อยตัวเองออกจากชีวิตด้านลบเสียที
      • Be an unlimited thinking. For some of you, this is very difficult.
      • จงมีความคิดที่ไร้ขีดจำกัด สำหรับคุณบางคนอาจจะยากอยู่สักหน่อย
      • Your thoughts/words are either empowering or disempowering.
      • ความคิดของคุณ/คำพูดเป็นได้ทั้งพลังอำนาจและไร้ซึ่งพลัง
      • We want you to have the courage to live your light, so we want to emphasize to you and convince you in whatever way possible that your thoughts create your world/your life/physical reality.
      • เราต้องการให้คุณกล้าหาญที่จะดำรงอยู่แห่งแสงแห่งตัวคุณ เราขอเน้นย้ำกับคุณและชักนำคุณให้เชื่อว่า อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ความคิดของคุณสร้างสรรค์โลกของคุณ/ชีวิตของคุณ/ความเป็นจริงทางกายภาพของคุณ
      • Eliminate the words not possible or canot or should or trying from your vocabulary.
      • ตัดคำพูด เป็นไปไม่ได้หรือไม่สามารถหรืออาจจะหรือจะลองดูออกจากคำศัพท์ของคุณ
      • If you were to pay money every time you say these words, you would be in great debt.
      • ถ้าคุณต้องจ่ายเงินทุกครั้งที่คุณพูดคำเหล่านี้ คุณอาจต้องเป็นหนี้บานเบอะ
      • You are in a great debt of disempowerment or impotence.[/FONT]
        Should implies that you are operating under someone else's sovereignty.
        • คุณเป็นหนี้หัวโตของความไร้พลังหรือตายด้าน[/FONT]
          คำว่า จะ มีนัยหมายถึงคุณกำลังถูกบงการภายใต้อำนาจของคนอื่น
          • We would like to remind you that you are a powerful being.
          • เราอยากจะขอเน้นย้ำกับคุณว่า คุณคือสิ่งที่มีพลังอำนาจ
          • If someone is trying to put out a newsletter or trying to change their patterns, they can try for the rest of their life.
          • ถ้าหากจะมีใครสักคนที่พยายามจะเปลี่ยนข้อมูลนี้หรือพยายามที่จะเปลี่ยนแบบแผนของพวกเขา พวกเขาอาจจะต้องใช้เวลาทั้งหมดที่เหลือในชีวิตของพวกเขาก็ได้
          • Trying is not doing. Whenever you use the word trying, you will not accomplish anything because trying is an excuse: "I tried to do it. I tried. I tried."
          • พยายามที่จะคือไม่ทำอะไรเลย เมื่อใดก็ตามที่คุณใช้คำพูดว่า พยายามที่จะ คุณก็จะไม่สำเร็จอะไรเลยสักอย่างเพราะว่า พยายามที่จะเป็นข้ออ้าง :”ฉันจะลองดู ลองดู ลองดู”
          • In your own life, use the words "I am creating," "I am manifesting," "I am intending," Forget "I am trying."
          • ในชีวิตของคุณ ใช้คำพวกนี้ “ฉันกำลังสร้างสรรค์” ฉันกำลังประกาศเจตนารมณ์”“ฉันกำลังตั้งใจ” ลืมคำว่า “ฉันจะลองดู”ไปซะ








          Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7865


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 08 มิถุนายน 2553 22:24:48 »

  • When you learn how to focus/concentrate, you are able to manifest what you want in life. You will set yourself up as a mirror/example for many people.
  • เมื่อคุณได้เรียนรู้ว่าจดจ่อ/เพ่งพิเคราะห์อย่างไร คุณก็อาจจะประกาศเจตนารมณ์ที่คุณต้องการในชีวิต คุณจะตั้งตนเป็นดั่งกระจกเงา/ตัวอย่างให้กับคนอื่นอีกมากมาย
  • There has been a belief that there is a limited amount of everything and that only one person or the other can be a manifester.
  • มันยังมีความเชื่ออยู่ว่า ทุกสิ่งล้วนมีข้อจำกัดและมีเพียงคนเดียวหรือบางคนเท่านั้นหรอกจึงจะสามารถเป็นผู้สมดังเจตนารมณ์ได้
  • We want you to think unlimited and think that nothing is impossible in this universe.
  • เราต้องการให้คุณคิดอย่างไร้ขีดจำกัด และคิดว่าไม่มีสิ่งใดเป็นไปไม่ได้ในเอกภพนี้
  • This is the high vibration that we intend to teach all of you. We want you to understand that there is no limitation or impossible.
  • นี่คือคลื่นความถี่สูงที่เราตั้งใจที่จะนำมาสอนให้กับพวกคุณทั้งหมด เราต้องการให้คุณเข้าใจว่า ไม่มีข้อจำกัดใดๆ ไม่มีความเป็นไปไม่ได้
  • There is no limitation/impossible on the entire planet.
  • ไม่มีข้อจำกัดใดๆ /ไม่มีความเป็นไปไม่ได้ในหล้าโลกนี้
  • Each person on the whole planet are very powerful spirit/consciousness in human form.
  • ทุกๆคนบนโลกนี้ต่างเป็นจิตวิญญาณ/จิตสำนึกอันมีพลังอำนาจในรูปลักษณ์ของมนุษยชาติ
  • Whatever gifts of materiality come your way, don't think that you are more lucky than others.
  • ไม่ว่าของขวัญจากจิตภายในใดๆถูกนำมาสู่คุณ อย่าคิดว่า คุณโชคดีกว่าคนอื่น
  • Instead, simply understand that you are able to get the law of the universe to work in your physical reality and that you can show others how.
  • แทนที่จะคิดเช่นนั้น จงเข้าใจง่ายๆแบบนี้ว่าคุณสามารถที่จะเข้าถึงซึ่งกฎแห่งเอกภพ ให้บังเกิดผลในความเป็นจริงทางกายภาพของคุณ และคุณอาจจะแสดงให้คนอื่นๆได้เห็นว่าคุณทำอย่างไร
  • You can say, "Listen, it works. I have been able to do it. You can do it as well."
  • คุณอาจจะบอกว่า “ดูสิ มันได้ผล ฉันทำมันได้จริงๆด้วย คุณเองก็ทำได้เหมือนกันนะ”
  • We spend hours teaching people about not being afraid to manifest/create. >>
  • เราใช้เวลานับเป็นชั่วโมงๆเพื่อสอนผู้คนให้เลิกหวาดกลัวต่อเจตนารมณ์ปรารถนา/สร้างสรรค์
  • Each of you is frightened because you grew up with an idea that says, "Only if you work for something is it of any value. If you do not put in hard work, you cannot get things."
  • พวกคุณแต่ละคนตกใจกลัวเพราะคุณเติบโตมาจากแนวคิดที่ว่า “เฉพาะงานที่คุณทำเท่านั้นจึงจะตีราคาออกมาได้ ถ้าไม่ทำงานหนัก ก็จะไม่ได้อะไรมา”
  • It is imperative for all of you to look at this idea of hard work and where it came from.
  • มันเหมือนบังคับให้พวกคุณทั้งหมดมองไปที่แนวคิดของการทำงานอย่างหนัก และมันมาจากไหนกันล่ะ
  • Look at your parents and the belief systems they have had.
  • ลองดูที่พ่อแม่ของคุณและระบบความเชื่อที่พวกเขามีสิ
  • We are talking about birthing a superconsciousness that represents the new human species that learns how to do things easily and effortlessly and joyously.
  • พวกเรากำลังพูดถึงเกี่ยวกับกำเนิดแห่งอภิจิตวิญญาณที่เป็นเสมือนดั่งตัวแทนเผ่าพันธุ์ใหม่แห่งมนุษยชาติที่เรียนรู้ถึงการได้อะไรมาง่ายๆ และไม่ต้องลงแรงอะไรนักและเบิกบานใจ
  • If something is not being done easily, effortlessly, or joyously then forget it.
  • หากบางสิ่งที่ไม่ได้อะไรมาง่ายๆ และไม่ต้องลงแรงอะไรนักและเบิกบานใจแล้วละก้อ ลืมมันไปเถอะ
  • If it looks like if is too much work, something is telling you it is not the right way.
  • ถ้ามันเหมือนว่าต้องทำงานอย่างหนัก มากเกินไป บางสิ่งกำลังบอกคุณว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง
  • Only when something comes together effortlessly and simply fits, with no one doing too much to it, is it right.
  • เฉพาะสำหรับบางสิ่งที่มาอย่างง่ายดายและเข้ากันได้เหมาะเหม็งโดยไม่ต้องลงแรงนัก นั่นละใช่เลย
  • If you all begin to live like this, you will completely change how the Earth species of consciousness approaches life.
  • ถ้าหากคุณทั้งหมดได้เริ่มที่จะใช้ชีวิตแบบนี้ คุณก็จะเปลี่ยนแปลงวิถีที่จิตสำนึกแห่งเผ่าพันธุ์มนุษยชาติเข้าสู่ชีวิตอย่างสมบูรณ์
  • Money seems to be an issue with everyone. You all have very definitive beliefs about how money comes to you.
  • เงินดูจะเป็นประเด็นหลักสำหรับทุกคน พวกคุณทั้งหลายต่างเชื่ออย่างหัวปักหัวปำถึงวิธีการที่จะได้เงินมา
  • The more you believe you must work hard for money, the harder you are going to have to work.
  • ยิ่งเชื่อมากเท่าไหร่ว่า คุณต้องทำงานหนักเพื่อให้ได้เงิน คุณก็ยิ่งลงแรงอย่างหนักในการทำงาน
  • Many of you believe it is quite normal to work hard for money, and that if you don't work hard for money then it is "dirty."
  • พวกคุณหลายๆคนเชื่อว่า มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่จะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะได้เงินมา และถ้าหากว่า คุณไม่ได้ทำงานอย่างหนักเพื่อเงินแล้วละก้อ มันก็คือเงินสกปรก
  • Let us ask you to remember the word effortless and incorporate it into your vocabulary.
  • ขอให้เราได้ทบทวนคุณเถิดหน่อยว่า คำว่า ไม่ต้องลงแรงมาก(ง่ายดาย)และมันอยู่ในคำศัพท์ของคุณไหม
  • Say to yourself, "I am effortlessly intending that this money come about."
  • จงบอกกับตนเองว่า “ฉันเจตนาง่ายดายที่จะให้ได้เงินมา”
  • To be effortless is to command to reality to bring itself to you in a way that gives room for plenty of time and energy to be experienced in other activities.
  • การได้มาอย่างง่ายดายคือคำสั่งให้นำมันมาสู่คุณให้ปรากฏขึ้นจริงอย่างที่เคยมอบเวลาและพลังงานมากมายในการได้รับประสบการณ์แบบอื่นๆละ
  • Remember, your physical reality is a result of your thoughts.[/FONT]
    If you believe that things are hard, what are you creating???? Hard Life????
    • โปรดจำไว้ว่า ความเป็นจริงทางกายภาพคือผลจากความคิดของคุณ[/FONT]
      หากคุณเชื่อว่าทุกอย่างมาอย่างยากลำบาก คุณกำลังสร้างสรรค์อะไร???? ชีวิตที่ลำบาก????
      • Many of you have spent lifetimes honoring and respecting family members or people of society who you believe are uplifting citizens and who represent to you a certain work ethic and value system.
      • พวกคุณหลายๆคนต่างใช้ช่วงเวลาในชีวิตที่จะให้เกียรติและเคารพต่อสมาชิกในครอบครัวหรือบุคคลในสังคมที่คุณเชื่อถือและยกย่องและเป็นบุคคลที่เป็นตัวแทนแห่งการทำงานอย่างมีจริยธรรมและระบบแห่งคุณค่า
      • You have not thought to question this work ethic or to see if there is any other way.
      • คุณไม่ได้คิดจะตั้งคำถามว่าจริยธรรมแห่งการทำงานนี้มีหนทางอื่นอีกหรือไม่
      • So you believe that in order to get money you must expend a great amount of energy and time, or you must be employed by someone who is going to give it to you, or whatever.
      • ดังนั้นคุณจึงเชื่อว่า ในการที่จะได้เงินมา คุณก็ต้องแลกกับพลังงานและเวลาอย่างมาก หรือคุณต้องเป็นลูกจ้างของใครสักคนที่จะให้เงินคุณหรืออะไรก็ตาม
      • These ideas are completely and totally erroneous. We cannot emphasize that enough.
      • ความคิดเหล่านี้ล้วนผิดจากความจริงอย่างมหันต์เราไม่อาจหาเหตุผลมาสนับสนุนได้เพียงพอ
      • When you are allowing, Your Spirit/Consciousness will create you in a variety of unexpected ways.
      • เมื่อคุณได้ยินยอมเปิดรับ จิตสำนึก/จิตวิญญาณของคุณจะสร้างสรรค์คุณในหลากหลายหนทางที่ไม่คาดคิด
      • The only reason this has not happened before is that you just haven't believed it was possible.
      • มีเพียงเหตุผลเดียวที่มันยังไม่บังเกิดขึ้นกับคุณ นั่นก็คือคุณยังไม่เชื่อว่ามันเป็นไปได้
      • When you believe things are possible, physical reality will change.
      • เมื่อคุณเชื่อว่ามันเป็นไปได้ ความเป็นจริงทางกายภาพก็จะเปลี่ยนไป
      • State of mind is the name of the game here. Life is a MIND GAME.
      • จิตสภาวะเป็นชื่อขานของเกมนี้ ชีวิตคือเกมแห่งจิต
      • We cannot emphasize that to you enough: how you feel about physical reality and how you program physical reality is how you are going to respond to it or how it is going to present itself to you.
      • เราไม่อาจจะเน้นย้ำกับคุณได้มากเพียงพอว่า คุณจะรู้สึกอย่างไรกับความเป็นจริงทางกายภาพที่เกิดขึ้นหรือวิธีการที่คุณจะออกแบบความเป็นจริงทางกายภาพ วิธีการที่จะรับมือ หรือวิธีการที่จะให้มันบังเกิดผลขึ้นตรงหน้าคุณ
      • That is why we say, "Go for it! Be outrageous! Do what excites you! Do the impossible!"
      • นั่นละทำไมเราจึงเอาแต่พูดว่า “ไปเลย ลุยไปเลย ไปทำอะไรที่มันตื่นเต้น ไปทำอะไรที่เป็นไปไม่ได้”
      • You can do it. You can do whatever you want to do. You will transform your world no matter what state the world is in.
      • คุณทำได้ คุณทำอะไรก็ได้ที่คุณอยากจะทำ คุณจะแปลงเปลี่ยนโลกของคุณไม่ว่าสภาวะโลกภายนอกจะเป็นยังไงก็ช่าง
      • Remember, when you learn the rules of the game-that your lifes are a result of your thought, and that this is a law within your universe, all you need do is think/focus of how you want to be, and so you shall be.
      • จงระลึกว่า เมื่อคุณเรียนรู้กฎของเกมว่า ชีวิตของคุณคือผลจากความคิดของคุณ และนี่คือกฎในเอกภพของคุณ ทุกสิ่งที่คุณทำก็คือคิด/จดจ่อว่าคุณปรารถนาจะเป็นอะไร และคุณก็จะเป็นเช่นนั้น
      • Once you figure this out, you can design your physical body, you can design your age (eternal youth), and you can fix everything about your life, because you will be self-motivated, self-empowered, self-generated.
      • เมื่อใดที่คุณได้กำหนดออกมาเป็นรูปเป็นร่างแล้วละก็นะ คุณก็จะออกแบบได้เลยว่าอยากให้รูปร่างทางกายภาพคุณเป็นยังไง คุณก็จะกำหนดอายุของคุณเอง (หนุ่มสาวตลอดกาล)และคุณยังสามารถกำหนดทุกสิ่งในชีวิตของคุณได้ เพราะคุณเองที่จะดำเนินชีวิตตนเอง สร้างพลังอำนาจตนเอง กำเนิดสร้างตนเอง
      • Your Spirit/Consciousness within you is SUPER POWERFUL, SUPER WISDOM and SUPER LOVE.
      • จิตวิญญาณ/จิตสำนึกที่อยู่ภายในตัวตนของคุณนั้น เป็นดั่งมหพลังอำนาจ มหปัญญาญาณ และอภิแห่งรัก
      • We love you and we send you love and blessings from our Plaidiens Star Planet.
      • เรารักคุณ และเราขอมอบความรักและอำนวยพรแก่คุณจากพวกเราแห่งกลุ่มดาวเพลเดี้ยนส์
      • We are your brothers and sisters from other distance galaxy and dimension, however, We all are ONE.
      • พวกเราคือพี่น้องจากแกแล็คซี่อันไกลโพ้นและอีกมิติ ไม่ว่าอย่างไร เราทั้งหมดล้วนเป็นหนึ่งเดียว[/FONT][/COLOR]
      http://board.palungjit.com/f2/ancient-secret-school-2-the-inner-earth-ความลับของโรงเรียนแห่งการรู้แจ้ง-2-ความลับจากโลกภายใน-203708-4.html
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น: ข่าว สาส์น กลุ่มดาว เพลเดี้ยนส์ ครายออน kryon จิตจักรวาล 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 1.384 วินาที กับ 29 คำสั่ง

Google visited last this page 16 พฤศจิกายน 2567 05:37:42