[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 05:17:41 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: one upon ควันหลงเทศกาลปีหม่ประจำปี ๒๕๕๕  (อ่าน 1924 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 16.0.912.75 Chrome 16.0.912.75


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 08 มกราคม 2555 10:33:53 »



(:LOVE:)ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น รัก



วันเสาร์ที่ ๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕



ป็นวันแรกที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ได้เปิดให้มีการสนทนาธรรม

ตามปรกติทุกวันเสาร์และอาทิตย์ หลังจากที่ได้หยุดไปเนื่องจากท่านอาจารย์และคณะ

เดินทางไปนมัสการสังเวชนียสถานที่ประเทศอินเดีย เมื่อต้นเดือนตุลาคม ๒๕๕๔

และ ปิดต่อเนื่องมาโดยตลอดจนวันนี้ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา

การสนทนาธรรมในวันแรกนี้ จึงมีความหมายสำหรับทุกคน ที่เฝ้ารอคอยมาโดยตลอด

ตอนหนึ่งของความประทับใจ ความซาบซึ้งในหทัยของข้าพเจ้าและทุกๆท่านในวันนี้

เริ่มขึ้นเมื่อท่านอาจารย์เข้าร่วมสนทนา ในช่วงที่สองของการสนทนาพระสูตรช่วงเช้า

อาจารย์สวนิต ยมาภัย ท่านขออนุญาติท่านอาจารย์ นำเสนอ "มโนปณิธาน"

ที่ท่านกล่าวเกริ่นนำความโดยสรุปว่า เมื่อก่อนสิ้นเดือนธันวาคม ท่านได้โทรศัพท์

มาสอบถามทางมูลนิธิฯว่าจะเปิดการสนทนาธรรมเมื่อใด บังเอิญได้สนทนากับคุณคำปั่น

และคุณคำปั่นได้กล่าวว่ารอที่จะฟังบทกวีของท่านอยู่ อาจารย์สวนิตจึงกล่าวว่า

ท่านเพิ่งกลับมาจากมหาวิทยาลัยรังสิต สถานที่ที่ท่านทำงานมานาน ได้เห็นภาพ

ของมหาวิทยาลัยที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ในครั้งนี้แล้วรู้สึกหดหู่ น่าเศร้าใจ

น่าสลดใจมาก เพราะน้ำท่วมสูงเหลือเกิน ก็คิดว่าไม่สามารถจะแต่งบทกวีอะไรได้

แต่ในเย็นวันนั้น หลังจากที่ได้เปิดฟังธรรมจากท่านอาจารย์ตามปรกติ

มีตอนหนึ่งที่อาจารย์อุไรวรรณ เนาวรุจิ กราบเรียนถามท่านอาจารย์ว่า ความสุขโสมนัส

ของท่านอาจารย์ เกิดจากอะไร เมื่อไหร่ ท่านอาจารย์ก็ตอบอย่างเรียบง่ายว่า

ความโสมนัสของท่านเกิดเมื่อรู้ว่าได้ทำประโยชน์ในทางธรรมให้แก่ผู้อื่น ซึ่งเป็นประโยค

ที่จับใจท่านมาก จึงเกิดแรงบันดาลใจให้่ท่านเขียนบทกวีขึ้นจำนวน ๕ บทด้วยกัน

เมื่อได้มาทบทวนในภายหลัง จึงเห็นว่า เป็นปณิธานอะไรบางอย่างของตนเอง

หากท่านอาจารย์ได้ยินคงจะโสมนัส ท่านจึงอ่าน "มโนปณิธาน" นั้น

ก่อนการสนทนาธรรมจะมีขึ้น ดังนี้..............................


ถ่ายภาพโดย Sometime สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 มกราคม 2555 11:29:25 โดย 時々Sometime » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 16.0.912.75 Chrome 16.0.912.75


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 08 มกราคม 2555 10:39:30 »




ภัยน้ำน่าสลดแท้ - เทียวหนอ

ทลายทั่วมิรั้งรอท่วมท้น

ก่อพิษฤทธิ์แรงพอผลาญชีพ

สุดเลี่ยงสุดหลีกพ้นสุดเศร้าเหลือแสน

บ่แม้นกาลก่อนโน้น เคยขาน

คำเพราะเสนาะสนิทมานเพื่อนพ้อง

วันนี้ใช่เช่นวารวันเก่า

คงแต่เจตน์จักต้องต่อตั้งปณิธาน

แต่นี้นานจักน้อมสดับธรรม

อันท่านอาจารย์นำแนะให้

มนสิการะโดยสำเหนียกแน่ว

พูนเพิ่มปัญเญศไว้ห่อนเว้นวางหาย

เพียรคลายความติดข้องขังจิต

ตามไตร่ตรองพินิจเนื่องไว้

ทุกขณะจะมิคิดขาดใคร่ครวญเฮย

เทอดทุกอนุสาสน์ไซร้ถี่ถ้วนทุกคำ

มิทำอัตภาพให้เมินเฉย

เจริญจิตมิละเลยระลึกรู้

สารสาสน์ท่านเฉลยฉลาดรอบ

แสนยากหากหาญสู้จวบแจ้งสัจสาร

หลังจากนั้นท่านได้แต่งบทสรุปอีกบทหนึ่ง ที่ท่านกล่าวว่า คือบทสรุป ที่ได้มาจาก

การฟังคำสอนของท่านอาจารย์มานานหลายปี ---->>>ซึ่งมีดังต่อไปนี้...............

ภัยพาลฤาจาบจ้วงจากหนไหนเฮย

โลภะละวางจนหมดสิ้น

มิวาดหวังวังวนเวียนอยู่

แม้โศกปลายปีกริ้นห่อนได้หลงเหลือ

เป็นอุปมานะครับ ความโศกแค่ปลายปีก  - ริ้น - ห่อนได้หลงเหลือ

เรียนเชิญท่านอาจารย์ครับ..............





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 มกราคม 2555 11:30:06 โดย 時々Sometime » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 16.0.912.75 Chrome 16.0.912.75


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 08 มกราคม 2555 10:48:06 »




ท่านอาจารย์ค่ะ ก็เป็นโอกาสที่ดีนะคะ ที่เราได้พบกัน

และก็มีโอกาสได้ปีติ อนุโมทนา ในความเข้าใจธรรมะ ของผู้ที่ได้ฟังธรรมะ มานาน

จนกระทั่ง ท่านสามารถที่จะตั้งปณิธาน ในชาตินี้

เพราะเหตุว่า เราไม่สามารถที่จะรู้ได้น่ะค่ะ เพราะว่า.............

ขณะนี้ก็เป็นเพียง ณ. กาลครั้งหนึ่ง ผ่านไปแล้ว หมดไปแล้ว ก็เป็นอดีต

ทันทีที่จบ ก็เป็นอดีตไปแล้ว

แต่ว่า สิ่งที่สะสมไว้ น่ะค่ะ ไม่ใช่แต่เฉพาะวันนี้

แม้ในกาละก่อน ๆ ที่ได้ผ่านมาแล้ว ก็ได้สะสม จนกระทั่งสามารถที่จะทำให้เกิด ปีติยินดี

ในความเข้าใจธรรมะ ของบุคคล ที่มีความตั้งใจ มั่นคง ที่จะศึกษาพระธรรมต่อไป

ก็เป็นที่น่าอนุโมทนาอย่างยิ่งน่ะค่ะ

พราะฉะนั้น ก็เป็นเรื่องที่ว่า แต่ละคนเนี่ยค่ะ

ก็จะได้ เข้าใจชีวิต แต่ละหนึ่ง ตามความเป็นจริง

เพราะว่าชีวิต ของคุณสวนิต ก็มีการสะสมมาที่สามารถที่จะประพันธ์

สิ่งที่ทำให้คนอื่นเข้าใจละเอียดขึ้น เช่น แม้เพียงโศกเท่าปีก ริ้น ใช่มั๊ยค่ะ? ปีกตัวริ้น

เพราะฉะนั้น ต้องอ่านเอง ถึงจะทราบว่า ความประสงค์ของผู้เขียนเนี่ย

จากใจของใครก็ของคนนั้น เพราะฉะนั้น จะเห็นคุณค่าของพระธรรม นะคะ

ว่า ในระหว่างที่ทุกคน อยู่ท่ามกลางความโศกเศร้า

แต่เมื่อใดที่ปัญญาเกิด ขณะนั้น ไม่โศกเศร้า ตามที่ควรจะเป็น

เพราะเหตุว่า ปัญญาสามารถที่จะเห็นถูกต้อง ตามความเป็นจริงในขณะนั้น

ก็เป็นการอบรมเจริญปัญญา

ที่จะเป็นผู้ตรง ที่จะเข้าใจพระธรรม คือ สิ่งที่มี ในขณะนี้

ไม่คำนึงถึงสิ่งที่ล่วงแล้วและสิ่งที่ยังไม่มาถึง

พราะว่า ปรกติเนี่ยค่ะใครเลย ที่จะอดคิดถึงอดีต และ อนาคต

แต่ว่า ขณะใดก็ตามที่ "คิด"

ไม่ใช่ความเข้าใจลักษณะของธรรมะ ที่กำลังปรากฏ ในขณะนี้

พระธรรมทั้งหมด ๔๕ พรรษาไม่ว่าจะฟังข้อความประทับใจใด ๆ

ก็เพื่อที่จะให้เข้าใจ ลักษณะของสภาพธรรมะ ที่กำลังปรากฏ

ไม่ให้ห่างไปจากความจริงของธรรมะ ที่กำลังปรากฏ ในขณะนี้

จะช้า จะเร็ว จะมาก จะน้อย

แต่จุดประสงค์ ก็เพื่อเข้าใจ สิ่งที่มีจริง ๆ

เป็นปัญญา ที่ได้รับจากการฟัง การไตร่ตรอง การพิจารณา การอบรม น่ะค่ะ

จะเห็นประโยชน์สูงสุดของปัญญา

ที่สามารถที่จะรู้ความจริง ของสิ่งที่กำลังปรากฏ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 มกราคม 2555 11:30:53 โดย 時々Sometime » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 16.0.912.75 Chrome 16.0.912.75


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 08 มกราคม 2555 10:52:13 »



ความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏ เป็น{ธรรม}

ซึ่งภาษาบาลี ใช้คำว่า {ธรรมะ}

แต่ภาษาไทยก็คือ......ความจริง ของสิ่งที่มีจริง ๆ ที่กำลังปรากฏ ในขณะนี้

เมื่อเป็นอย่างนี้ ก็จะเห็นได้น่ะค่ะว่า

จะต้องอบรม ความรู้ถูก ความเห็นถูก ความเข้าใจถูก มากสักแค่ไหน ?

ที่จะรู้ว่า ธรรมะ เป็น{ธรรมะ} ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ใคร ไม่ใช่ของใคร

แล้วก็ ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครด้วย

เพราะฉะนั้น ..........ฟัง เพื่อ ละความไม่รู้ และ ความสงสัย

ตั้งจิตไว้ชอบ ด้วยการฟัง ไตร่ตรอง สภาพธรรมะ ที่กำลังปรากฏ

เพราะเหตุว่าทุกครั้ง ที่มีการกล่าวถึงธรรมะ น่ะค่ะ หมายความถึง

กล่าวถึงสิ่งที่มีจริง ๆ ในขณะนี้

ที่สามารถที่จะเข้าใจ ตามที่ได้ฟัง ถูกต้องทุกประการ

ก็เป็นเรื่อง ที่จะต้องฟังต่อไป

เพราะนี่เป็นเพียง ณ . กาลครั้งหนึ่ง




ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ซาบซึ้งในหทัย

กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ขออนุโมทนาท่านวิทยากรทุกท่าน

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุก ๆ ท่านครับ




จากส่วนหนึ่งของสนทนาธรรมมูลนิธิบ้านธรรมะโดยอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์และคณะวิทยากร




<table class="maeva" cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" style="width: 800px" id="sae1"> <tr><td style="width: 800px; height: 576px" colspan="2" id="saeva1"><script type="text/javascript"><!-- // --><![CDATA[ var oldLoad = window.onload; window.onload = function() { if (typeof(oldLoad) == "function") oldLoad(); if (typeof(aevacopy) == "function") aevacopy(); } // ]]></script><embed type="application/x-mplayer2" src="http://www.fungdham.com/download/song/allhits/21.wma" width="800px" height="576px" wmode="transparent" quality="high" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" ShowControls="True" autostart="false" autoplay="false" /></td></tr> <tr><td class="aeva_t"><a href="http://www.fungdham.com/download/song/allhits/21.wma" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.fungdham.com/download/song/allhits/21.wma</a></td><td class="aeva_q" id="aqc1"></td></tr></table>

The End

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 มกราคม 2555 11:36:45 โดย 時々Sometime » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

คำค้น: ควัน หลง ปีใหม่ 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.391 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 05 มีนาคม 2567 22:30:24