[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 00:58:47 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า:  1 [2]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา  (อ่าน 22835 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sometime
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 28 ธันวาคม 2552 17:34:39 »

http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/86bf0d09.jpg
มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา



จากหนังสือ..................................................................

มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา

โดย สาวิกา ศาสตร์พงษ์

(:7:)มีผู้ถามดิฉันเสมอว่าทำไมจึงสนใจศึกษาธรรมดิฉันคิดว่า
คงเพราะสะสมมาที่จะสนใจทำให้ตอนเป็นเด็กมักจะตามคุณยาย
สองท่านไปทำบุญที่วัดเสมอทั้ง ๆ ที่ไม่มีพี่น้องเด็ก ๆ คนอื่นไปด้วย
บ้านดิฉันอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาภาพที่ประทับใจในตอนนั้นคือ............................
คุณยายจะทำบุญใส่บาตรพระที่ท่านพายเรือมาบิณฑบาตทุกเช้า และ
เมื่อโตขึ้นหน่อยก็มีหน้าที่พายเรือรับส่งคุณยายไปถือศีลที่วัดตรงกัน
ข้ามฝั่งแม่น้ำ และถ้าตรงกับวันหยุดก็ถือศีล  8 กับคุณยาย การ
ถือศีล  8ของดิฉันก็คือไม่กินข้าวเย็น ไปสวดมนต์ทำวัตรเช้า - เย็น
ที่วัด และนอนค้างที่วัด ไม่เข้าใจอะไรมากกว่านี้ แต่ที่ทำให้ยินดี
เต็มใจถือศีล คือ มักจะมีผู้ใหญ่มาชมเชยว่า “ดีเหลือเกิน ยังเป็นเด็ก
อายุยังน้อย ก็มาสนใจถือศีล ขอให้เจริญ ๆ เถอะ แม่คุณ ก็รู้สึกดี
และพอใจที่จะได้รับคำชมอย่างนั้นอีกเมื่อเข้าเรียนหนังสือชั้นมัธยมก็
ลัลลา


<a href="http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/03.%20Track%203.wma" target="_blank">http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/03.%20Track%203.wma</a>
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ธันวาคม 2552 19:03:52 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
 
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #21 เมื่อ: 28 ธันวาคม 2552 18:02:17 »

http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/86bf0d09.jpg
มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา



;Dครั้นในระหว่างนั้นท่าน พระมหาโมคคัลลานะ (:UU:)ตรวจดูด้วย
ทิพยจักษุเห็นชายคนนั้นจะถึงความวอดวาย ด้วยแรงกรุณาเตือนใจ
คิดว่าชายคนนี้ไม่เคยทำบุญ ทำแต่บาปเพราะฉะนั้นชายผู้นี้จัก
เกิดในนรกครั้นพอเราไปเขาถวายขนมต้มและน้ำดื่มแล้วจักเกิด
ในภุมมเทพไฉนหนอ ? เราจะพึงเป็นที่พึ่งของชายผู้นี้ ดังนี้แล้วได้
ไปปรากฏข้างหน้าของชายผู้นั้น ในขณะที่เขานำน้ำดื่มและขนมต้ม
เข้าไปให้เขาครั้นเห็นพระเถระก็มีจิตเลื่อมใส คิดว่าเราผู้จะถูกคนเหล่า
นี้ฆ่าในบัดนี้เองจะมีประโยชน์อะไรด้วยขนมต้มที่เราจะกินเข้าไป ไฟลุก
ก็ผลทานนี้จักเป็นเสบียงสำหรับคนไปสู่ปรโลก จึงให้เขาถวายขนมต้ม
และน้ำดื่มแด่พระเถระ เพื่อจะเจริญความเลื่อมใสของชายผู้นั้นเมื่อ ลังเล



<a href="http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/03.%20Track%203.wma" target="_blank">http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/03.%20Track%203.wma</a>
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ธันวาคม 2552 19:06:04 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #22 เมื่อ: 28 ธันวาคม 2552 18:03:08 »

http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/86bf0d09.jpg
มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา



(:VA:)ชายผู้นั้นกำลังดูอยู่นั่นแหละ พระเถระจึงนั่งในที่เช่นนั้น ฉันขนมต้ม
และดื่มน้ำแล้ว ลุกจากอาสนะหลีกไป
ฝ่ายชายผู้นั้นถูกเพชฌฆาตนำไปสู่ที่ประหารแล้วให้ถึงการ อกหัก
ตัดศีรษะ ด้วยบุญที่เขาทำไว้ในพระมหาโมคคัลลานเถระ ผู้เป็น
บุญเขตอยา่ งยอดเยี่ยม แมจ้ ะเปน็ ผูค้ วรจะเกิดในเทวโลกชั้นเยี่ยม แต่
เพราะเหตุที่เธอมีจิตเศร้าหมองในเวลาใกล้จะตาย เพราะความเสน่หา
ที่มุ่งถึงนางสุลสาว่า เราได้ไทยธรรมนี้ เพราะอาศัยนางสุลสา ฉะนั้น
เมื่อจะเกิดเป็นหมู่เทพชั้นต่ำ จึงเกิดเป็นรุกขเทวดาที่ต้นไทรใหญ่
มีร่มเงาอันสนิทอันเกิดแทบภูเขา เหงื่อตก
อาจารย์บางพวกกล่าวว่าได้ยินว่าถ้าในปฐมวัยเขาจัก
ได้ขวนขวายในการดำรงวงศ์กุลไซร้ เขาจักเป็นผู้เลิศกว่าเศรษฐี
ทั้งหลาย ในพระนครนั้นนั่นเอง ถ้าขวนขวายในมัชฌิมวัย เขาจัก
เป็นเศรษฐีวัยกลางคน ถ้าขวนขวายในปัจฉิมวัย เขาก็จักเป็นเศรษฐี
ในวัยสุดท้าย แต่ถ้าในปฐมวัยเขาจักได้บวชไซร้ เขาก็จักได้เป็น
พระอรหันต์ถ้าบวชในมัชฌิมวัย เขาก็จักได้เป็นพระสกทาคามี
หรือพระอนาคามีถ้าบวชในปัจฉิมวัย เขาก็จักได้เป็นพระโสดาบัน
แต่เพราะเขาคลุกคลีด้วยบาปมิตร เขาจึงเป็นนักเลงหญิง (:UU:)นักเลง
สุรา ยินดีแต่ในทุจริต เป็นคนไม่เอื้อเฟื้อ เสื่อมจากสมบัติทั้งปวง รู้สึกแย่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ธันวาคม 2552 18:46:32 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #23 เมื่อ: 28 ธันวาคม 2552 18:04:00 »

http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/86bf0d09.jpg
มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา



(:13:)ถึงความย่อยยับอย่างใหญ่หลวงโดยลำดับ............ยังไม่จบมีต่ออีกยาว
ข้อความตอนนี้ทำให้คิดได้ว่าเพราะไม่ทำปัจจุบันให้ดีจึงได้
รับผลไม่ดีเพราะฉะนั้นหมอดูที่ไหนจึงจะมาทำนายได้ว่า เราจะเป็น
อย่างไร (:-X)ถ้าเราไม่ทำเหตุที่ดีด้วยตนเองดังนั้นชีวิตนี้เป็นของน้อย
จึงไม่ควรหวังที่จะได้รับแต่สิ่งดี ๆ เพราะสิ่งดี ๆ ที่หวัง ก็ไม่พ้น
จากเห็นรูปดี ๆ ได้ยินเสียงดี ๆ ได้กลิ่นหอม ๆ ลิ้มรสอร่อย ๆ
กระทบสัมผัสแต่สิ่งดี ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพียงชั่วขณะแล้วก็หมด
ไป เหมือนกำมือเปล่า ที่เมื่อแบมือออกมาแล้ว (:FR:)ก็ไม่มีอะไรเลย
สมควรหรือที่จะมัวเมาหมกมุ่นจนลืมการศึกษาธรรมพิจารณาธรรม
เพื่อให้ปัญญาเกิดขึ้นเพื่อจะได้มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญาอย่างแท้จริง
  ขำ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ธันวาคม 2552 18:47:35 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #24 เมื่อ: 28 ธันวาคม 2552 18:05:05 »

http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/86bf0d09.jpg
มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา



(:SL:)ในปี 2544 ดิฉันตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านมเมื่อทราบ
จากคุณหมอครั้งแรก (:PL:)ดิฉันหวั่นไหวมาก กลัว วิตกกังวลเห็นภาพ
ของผู้ที่รับการรักษาด้วยเคมีบำบัดมีผมร่วง - เล็บดำ - คลื่นไส้ - อาเจียน อ้วก
ดิฉันไม่มีปัญญาอะไรเลยตอนนั้นแต่ยังมากกว่าเมื่อประสบอุบัติเหตุ
เพราะคราวนี้ไม่ได้ร้องไห้คร่ำครวญ เป็นแต่น้ำตาคลอตลอดเวลาที่
พูดกับคุณหมอดิฉันเคยได้ยินท่านอาจารย์บรรยายหรือสนทนาธรรม
ตอนหนึ่งถึงความตายว่าเมื่อไรก็เมื่อนั้นพร้อมเสมอตอนนั้น
ดิฉันบังอาจคิดว่าตัวเองก็ (:QS:)พร้อมเหมือนกัน เมื่อไรก็เมื่อนั้น แต่เมื่อ
มีเหตุการณ์ที่คิดว่าตัวเองใกล้ตาย กลับกลัวตายอย่างมาก ดิฉันยัง
ไม่อยากตาย ดิฉันยังทำกุศลที่จะเป็นเสบียงในชาติต่อไปน้อยอยู่
ปัญญาของดิฉันก็ยังน้อย บารมีของดิฉันก็ยังไม่ได้สั่งสมมากพอ
ตอนนั้นดิฉันคิดถึงท่านอาจารย์เพราะรู้ว่าท่านอาจารย์เป็นแหล่งของ สลึมสลือ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ธันวาคม 2552 18:48:58 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #25 เมื่อ: 28 ธันวาคม 2552 18:05:45 »

http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/86bf0d09.jpg
มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา



ปัญญาถึงดิฉันจะมีปัญญาน้อยแต่ก็ยังดีกว่าแต่ก่อนที่รู้ว่าจะหา โอ๊ะ
ปัญญาจากที่ไหนนึกว่าถ้าบอกท่านอาจารย์แล้ว ท่านจะพูดว่า รู้สึกแย่
อย่างไร คิดจะโทรไปหาท่านเลยทันทีสามีก็ห้ามไว้ว่า รบกวน
 (:-_-:)เวลาส่วนตัวของท่านมากไป มีอะไรก็จะถามตลอด (:12:)ไม่คิดเองบ้าง
ดิฉันจึงรอจนกระทั่งถึงวันสนทนาธรรมที่บ้านคุณหญิงณพรัตน์ฯ และ
เรียนท่านด้วยน้ำตาคลอเบ้าเช่นเคย ท่านบอกว่า มะเร็ง ก็เป็น
เพียงชื่อ เหมือนโรคอื่น ๆ คำพูดสั้น ๆ ตรงจุดของท่าน ทำให้
ดิฉันคิดได้ว่า ที่ดิฉันเป็นทุกข์เพราะชื่อ มะเร็ง รู้ว่าเป็นโรค
ร้ายแรง การรักษาก็แสนจะทรมานต้องผ่าตัดต้องฉายแสง
ต้องให้เคมีบำบัด ที่มีผลข้างเคียงมากมาย ถ้ารักษาไม่หายก็จะลาม หุบปาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ธันวาคม 2552 18:50:31 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #26 เมื่อ: 28 ธันวาคม 2552 18:06:44 »

http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/86bf0d09.jpg
มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา



(:-_-:)ไปอวัยวะอื่น ๆ และในที่สุดก็ตายแต่ตอนนี้ดิฉันไม่ได้เจ็บปวด
อะไรเลยทุกอย่างเป็นปกติเหมือนเดิมถ้าคุณหมอไม่ตรวจด้วย
แมมโมแกรมก็บอกไม่ได้ว่าเป็นแล้วดิฉันทุกข์ร้อนทำไมไม่มีใคร
ตายก่อนความตายจะมาถึงดิฉันจึงสบายใจขึ้น (:-_-:)และรับการรักษา
ด้วยการผ่าตัด ระหว่างที่รับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช ดิฉันได้
รับความเมตตาจากสหายธรรมหลายท่านที่กรุณาไปเยี่ยม คืนก่อน
วันผ่าตัดท่านอาจารย์ได้โทรมาบอกว่า ขออุทิศบุญกุศลที่ได้ทำมา
ทั้งหมดให้ดิฉันอนุโมทนา (:-_-:)เพราะกุศลที่ดิฉันอนุโมทนานี้เมื่อให้ผลก็
เป็นปัจจัยให้ดิฉันปลอดภัยได้ ดิฉันซาบซึ้งในเมตตาของท่านอาจารย์
และปีติมากค่ะ เพราะทราบว่าท่านอาจารย์มีบุญกุศลที่ทำไว้มากยัง สลึมสลือ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ธันวาคม 2552 18:51:26 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #27 เมื่อ: 28 ธันวาคม 2552 18:07:26 »

http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/86bf0d09.jpg
มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา



(:UU:)มีสหายธรรมท่านอื่นเช่น คุณทศพร - คุณสุภาภรณ์ ศิริกร ได้ดูแล
ดิฉันเหมือนญาติสนิทคุณฟองจันทร์ (แอ๊ว) นันตา วอลช์ผู้มีฝีมือ
และน้ำใจได้จัดแจกันดอกไม้ขนาดใหญ่มากไปให้ดอกไม้ของคุณแอ๊ว
อยู่ทนมาก ตั้งแต่วันเข้าจนกระทั่งออกจากโรงพยาบาลก็ยังไม่เหี่ยว
เพราะเป็นดอกกล้วยไม้ ใครมาต้องชมทุกคน คุณกัณหา อุรัสยะนันทน์
เป็นกัลยาณมิตรอีกผู้หนึ่งที่ร่วมทำหนังสือธรรมด้วยกันหลายเล่ม
มาเยี่ยมพร้อมคุณแม่ รศ. สมถวิล อุรัสยะนันทน์ ศิลปินแห่งชาติปี 2549
กุศลจิตทั้งหลายของท่านผู้เมตตาเป็นเสมือนน้ำทิพย์........................... รัก
จรรโลงใจน้ำใจทำให้เย็นสบายอย่างนี้เองทำให้วิกฤตนั้นผ่านไป
ด้วยดี ดิฉันขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านทั้งที่ได้เอ่ยนามและ
ไม่ได้เอ่ยนาม เมื่อผ่าตัดก้อนเนื้อและเลาะต่อมน้ำเหลืองออกมาตรวจ
แล้ว พบว่าเชื้อไม่ได้กระจายไปจากก้อนที่ผ่าตัดออกไปดิฉันจึงไม่
สู้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ธันวาคม 2552 18:52:38 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #28 เมื่อ: 28 ธันวาคม 2552 18:08:05 »

http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/86bf0d09.jpg
มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา



(:-_-:)ต้องฉายแสงไม่ต้องรักษาด้วยเคมีบำบัดคุณหมอให้กินยาคุมฮอร์โมน
วันละ 1 เม็ด เป็นเวลา 5 ปี เป็นอันว่าดิฉันเสียค่ากินเปล่าคือ................
ทุกข์ล่วงหน้าไปก่อนฟรี ๆ ทุกข์เพราะความคิดของตัวเอง ทุกข์
เพราะกิเลสของตัวเองทุกข์เพราะปัญญายังน้อยนั่นเอง (:PL:)เมื่อตอนที่
ทราบจากคุณหมอใหม่ ๆ ว่าเป็น มะเร็ง นั้น (:SL:)ยังดีที่ดิฉันและสามี
ตัดสินใจที่จะไม่บอกญาติพี่น้องเพราะไม่อยากให้คุณยายและคุณแม่
ต้องเดือดร้อนใจ เนื่องจากท่านมีอายุมากแล้ว ท่านจะต้องวิตก
กังวลมากกว่าดิฉันที่รู้ตัวว่ายังไม่เจ็บปวดหรือเป็นอะไรเลย อยาก
ตอบแทนพระคุณท่านด้วยการไม่ทำให้ท่านต้องเดือดร้อนใจ (:PL:)และเป็น
การง่ายสำหรับดิฉันที่จะไม่ให้ใครรู้เพราะดิฉันอยู่กรุงเทพ ฯ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ธันวาคม 2552 18:53:50 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #29 เมื่อ: 28 ธันวาคม 2552 18:08:49 »

http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/86bf0d09.jpg
มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา



(:PL:)ญาติส่วนใหญ่อยู่ อยุธยา ดิฉันกลับไปเยี่ยมอาทิตย์ละครั้งบางอาทิตย์ที่
ไม่ว่างก็ไม่ไปแต่ก่อนวันผ่าตัดสามีคงกลัวว่าดิฉันอาจจะเสียชีวิต
จากการผ่าตัด และจะเป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าที่จะรับมือได้ถ้าญาติพี่น้อง
จะรู้ทีหลังจึงโทรไปบอกน้องสาว (:SL:)พอรู้เท่านั้นก็เกิดเรื่องใหญ่
โทรมาร้องไห้คร่ำครวญว่าทำไมถึงไม่บอก ดิฉันผู้เป็นคนป่วยกายต้อง
ปลอบโยนผู้ป่วยใจเป็นเวลานาน และบุพพการีผู้ล่วงลับไปแล้วก็ เหงื่อตก
ต้องเดือดร้อนด้วย เพราะพอคุณแม่ทราบก็จุดธูปเทียนบอกคุณพ่อที่
ล่วงลับไปนานแล้วให้มาช่วยลูกสาวด้วยเหตุการณ์นี้ทำให้ดิฉันเห็น
คุณของปัญญามากขึ้น สลึมสลือ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ธันวาคม 2552 18:54:48 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #30 เมื่อ: 28 ธันวาคม 2552 18:11:42 »

http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/86bf0d09.jpg
มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา



(:88:)นี่คือชีวิตที่เป็นอยู่ด้วยปัญญาน้อย ๆ ของดิฉันแต่ปัญญา
ขนาดนี้ก็ทำให้ดิฉันมีความสุขมากกว่าเมื่อก่อนได้ฟังธรรมมากมาย
ดิฉันไม่ต้องเสียเวลาวิตกกังวลกับสิ่งที่ยังไม่มาถึงหรือสิ่งที่ล่วงไปแล้ว
และแม้จะวิตกกังวลบ้าง (:LOVE:)ก็จะหายไปเร็วกว่าแต่ก่อนเพราะรู้ว่า
เป็นอกุศลจิตที่ทำให้เกิดความวิตกกังวลอย่างนั้น และอกุศลเป็นสิ่ง
ที่ควรละ ควรเจริญแต่กุศล เมื่อวันแต่งงานของดิฉัน ท่านอาจารย์
และคณะสหายธรรมจากมูลนิธิ ฯ ได้ให้เกียรติไปร่วมอวยพรถึงจังหวัด
อยุธยา และท่านอาจารย์ได้อวยพรให้ดิฉันว่าขอให้เจริญมั่นคงใน
กุศลทุกประการดิฉันจำคำอวยพรของท่านอาจารย์มาตลอดและ
โชคดีที่พี่ดวงเดือน บารมีธรรม ได้ให้ดิฉันพิมพ์คำบรรยายเรื่อง
แนวทางเจริญวิปัสสนา  (:7:)ที่ท่านอาจารย์บรรยายที่สภาการศึกษา
มหามกุฎราชวิทยาลัย และ คุณป้าสงวน สุจริตกุลได้ถอดเทปไว้
ทำให้ดิฉันมีโอกาสได้ศึกษาธรรมอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งก่อนพิมพ์ หงุดหงิด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ธันวาคม 2552 18:55:59 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #31 เมื่อ: 28 ธันวาคม 2552 18:12:40 »

http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/86bf0d09.jpg
มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา



;Dต้องอ่านเมื่ออ่านแล้วพิมพ์หาข้อความจาก พระไตรปิฎก ที่ท่าน
อาจารย์อ่านเพื่อตรวจสอบคำสะกด แล้วตรวจทานอีกครั้งหนึ่ง
รู้สึกเป็นโชคดีเหลือเกินที่ได้มีโอกาสอย่างนี้ท่านอาจารย์เคยบอกว่า
พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงนั้นมีค่ามากต้องฟังด้วยความ
เคารพอย่างยิ่งด้วยความละเอียดรอบคอบดุจกรอกน้ำมันไขของราชสีห์ หงุดหงิด
ลงในหลอดทองคำ อย่าให้ผ่านไปโดยฟังอย่างไม่ตั้งใจ เป็นจริงอย่าง
นั้นเพราะแต่ละคำแต่ละเรื่องมีประโยชน์ทั้งนั้นท่านอาจารย์คัด
เลือกนำมาบรรยายด้วยความเมตตา ด้วยความเข้าใจธรรมอย่างแท้
จริง คำบรรยายของท่านตั้งแต่ต้นจนสุดท้าย (:7:)ไม่มีเปลี่ยนแปลงเลย
เตือนให้มีสติระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมทุกขณะตามความเป็นจริงว่า
เป็นแต่เพียงนามธรรมและรูปธรรม สภาพรู้และสภาพที่ไม่รู้เท่านั้น
ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตนเลย นอกจากนั้นท่านอาจารย์ยังบรรยาย
ธรรมด้วยความ อุตสาหะ ขันติ ความอดทน ต่อถ้อยคำของผู้ฟังบาง
ท่านที่แม้ดิฉันแค่พิมพ์ตามก็ยังอดมีโทสะไม่ได้ บางครั้งต้องหยุดพิมพ์
เพราะหงุดหงิดมาก ตามการสะสมของดิฉันที่สะสมโทสะมามาก
บางท่านก็มาขอให้ท่านอาจารย์หยุดบรรยายท่านก็ตอบด้วยความ
เมตตาเคยถามท่านว่า ท่านไม่โกรธหรือคะ ? ท่านตอบว่าเพราะ
เขาไม่รู้นี่ค่ะ ทำให้ดิฉันได้แบบอย่างในการสอนหนังสือเดิมดิฉัน
เป็นอาจารย์ที่ดุ ถ้านักเรียนมาซักไซ้ไล่เลียงก็จะดุ แต่หลังจากสอน
มานานจนเหลืออีกไม่นานก็จะเกษียณอายุแล้ว เพิ่งจะมากลับตัว
ได้ต้องขอโทษนักเรียนที่เคยถูกดุไว้ด้วย............................................ เครียด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ธันวาคม 2552 18:57:10 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #32 เมื่อ: 28 ธันวาคม 2552 18:13:46 »

http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/86bf0d09.jpg
มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา



(:LOVE:)กราบแทบเท้าท่านอาจารย์ด้วยความเคารพที่ทำให้ชีวิตของ
ดิฉันเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นในทุก ๆ ด้านทำให้ดิฉันเจริญกุศลได้ รัก
มากขึ้นเพราะมีศรัทธามากขึ้น อย่างการสวดมนต์ (:FR:)เดิมดิฉันไม่
ชอบสวดมนต์ และไปงานทำบุญที่ต้องฟังพระสวดเป็นภาษาบาลีก็ไม่
ชอบ แต่ได้ยินคำบรรยายของท่านอาจารย์ว่า (:PL:)ถ้าเกิดในสมัยที่ไม่มีการ
สวดสรภัญญะ ก็ไม่มีโอกาส ได้ยิน ได้ฟัง ได้สวด ทำให้ดิฉันเห็น
คุณค่าของการสวดมนต์มากขึ้น ทำให้เสียดายว่าถ้าไม่ฟังไม่สวดใน
ชาตินี้ที่ยังมีการสวดกันอยู่ เกิดชาติหน้าก็ไมมี่โอกาสไดยิ้นได้ฟ้งได้สวด
อีก ดิฉันจึงอ่านสวดมนต์แปลและหนังสือความรู้เรื่องบทสวดมนต์
 (:UU:)ของท่านอาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ ที่สรุปความหมายของบทสวด
แต่ละบทไว้ ทำให้พอเข้าใจได้ว่า บทสวดแต่ละบทนั้นคือคำสอน
ของพระผู้มีพระภาคว่าอย่างไร ทำให้เมื่อฟังสวดแล้วตั้งจิตไปตามความ
หมาย ก็ทำให้จิตสงบขณะที่ฟังได้ แม้การทำจิตให้สงบ ก็มีผู้ฟัง
หลายคนเข้าใจผิดว่าท่านอาจารย์ไม่สนับสนุนการทำสมาธิแต่ หลับ
จริง ๆ ท่านอาจารย์ให้รู้ว่า จิตสงบ ขณะที่ไม่มีอกุศลไม่ต้องไปนั่ง
หลับตาแล้วท่องคำหนึ่งคำใดแล้วคิดว่าขณะนั้น จิตสงบ รัก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ธันวาคม 2552 18:58:35 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #33 เมื่อ: 28 ธันวาคม 2552 18:14:49 »

http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/86bf0d09.jpg
มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา



(:LOVE:)เพราะถ้าไม่ได้ ศึกษาพระธรรม ไม่เห็นพระปัญญาคุณพระมหากรุณาคุณของ
พระผู้มีพระภาค เพียงแต่จะท่องคำว่า พุทโธ ก็สงบไม่ได้เพราะ
สมาธินั้นต่างกันเป็นมิจฉาสมาธิและสัมมาสมาธิ ซึ่งท่านอาจารย์ได้
บรรยายไว้โดยละเอียดในเรื่องอนุสสติ 6 ทำให้ดิฉันเห็นคุณค่าของ เหงื่อตก
ปัญญา และตั้งใจจะศึกษาธรรม เจริญสติ เจริญปัญญาเพื่อ..................................... กลอกตา
รู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามปกติตามความเป็นจริงว่า
ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เพื่อที่จะได้มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญาอย่างแท้จริง กลอกตา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ธันวาคม 2552 18:59:25 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #34 เมื่อ: 28 ธันวาคม 2552 18:20:22 »

http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/86bf0d09.jpg
มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา



(:LOVE:)คัดลอกจากหนังสือ............................................................. รัก

(:LOVE:)มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา โดย สาวิกา ศาสตร์พงษ์
รัก

มูลนิธิเผยแพร่และศึกษา พระพุทธศาสนา บ้าน

ธรรมมะ บุคโล ธนบุรี รหัสไปรษณ๊ย์

10600

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ธันวาคม 2552 19:00:16 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #35 เมื่อ: 28 ธันวาคม 2552 18:21:50 »

http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/86bf0d09.jpg
มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา



การตายพรากทุกสิ่งจากชาตินี้ไปหมดสิ้นไม่มีอะไรเหลือเป็นของบุคคลนี้อีกต่อไป

แม้แต่ความทรงจำ ชาตินี้เกิดมาแล้ว จำได้ไหมว่าชาติก่อนเป็นใคร อยู่ที่ไหน ?ทำอะไร ?

 (:14:)หมดความเป็นบุคคลในชาติก่อนโดยสิ้นเชิงฉันใด........................................... หงุดหงิด


แม้ในชาตินี้จะได้สร้างบุญ ทำกรรมใดมาแล้วมีมานะในชาติตระกูล ยศศักดิ์ใด ๆ ก็ตามหมดสิ้นไม่มีเยื่อใยในชาตินี้ภพนี้เหลืออยู่อีกเลยฉันนั้น................................... อ๊ากก


 รักมูลนิธิเพื่อการศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
สำนักงานเลขที่ 174/ 1ซอยเจริญนคร 78
ถนนเจริญนคร แขวงบุคคโล เขตธนบุรี 10600
รัก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ธันวาคม 2552 19:17:04 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #36 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2553 08:04:02 »



http://img35.imageshack.us/img35/3540/0390863.jpg
มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา






ขอบคุณน้อง "บางครั้ง" สำหรับการแบ่งปัน
อนุโมทนาสาธุธรรมค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23 กุมภาพันธ์ 2553 08:17:17 โดย เงาฝัน » บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า:  1 [2]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.156 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 12 กุมภาพันธ์ 2567 11:08:19