[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
24 เมษายน 2567 09:45:17 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วิกฤติน้ำมัน อนาคตอยู่ที่จิตของเรา โดย ศ.นพ.ประสาน ต่างใจ  (อ่าน 1807 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5065


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 13 มิถุนายน 2553 13:53:10 »

โดย ศ.นพ.ประสาน ต่างใจ
หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับประจำวันที่ 4 กันยายน 2547

เร็วๆ นี้ได้หนังสือใหม่มาเล่มหนึ่งเรื่อง Out of Gas: The End of the Age of Oil, David Goodstein, ๒๐๐๔) ที่อ่านแล้วตกใจว่าน้ำมันกำลังจะหมด อย่างน้อยจากตลาดน้ำมันโลกในเร็วๆ นี้ อาจสรุปสั้นๆ ได้ว่า น้ำมันที่ผูกติดกับสังคมวัตถุ ระบบเศรษฐกิจเสรี และเทคโนโลยีดุจฝาแฝด กำลังจะหมดจากตลาด (ข้อมูลของบริษัทเชลล์ เรียกว่าฮับเบิร์ทพีค หรือจุดสูงสุดที่เราสามารถดูดน้ำมันสำรองใต้ดินสู่ตลาดได้ หลังจากนั้น แม้ว่าน้ำมันสำรองใต้ดินยังมีอยู่ แต่ตลาดจะไม่มี) อย่างเร็วอาจในอีก ๕ ปีเศษๆ (www.hubbertpeak.com) หรืออย่างช้า ๔๐ ปี (บริษัทบีพี, www.bp.com) ซึ่งไม่นานพอสำหรับระบบเศรษฐกิจในปัจจุบันที่จะปรับตัวได้ทัน นั่นเป็นเรื่องน่ากลัวและร้อนแรงสำหรับคนที่มองอะไรไม่เห็นนอกจากเงินกับเทคโนโลยี ที่เอามาบอกจนเราทุกคน (ยกเว้นส่วนน้อยนิดที่ปัดเศษทิ้งก็ได้) เชื่อว่านั่นคืออารยธรรม ความก้าวหน้า และเป็นวิถีแห่งชีวิตของมนุษย์ (ที่จะต้องอยู่เหนือธรรมชาติอันป่าเถื่อนและล้าหลัง) ดำรงอยู่แบบมีคุณภาพและศักดิ์ศรี เช่น ใส่สูท นั่งรถเบ็นซ์ เป็นต้น

เดวิด กู๊ดสไตน์ บอกว่าเวลาน้ำมันหมดนั้น มันหมดตลาด “ทันที” ซึ่งอาจจะขยายเพิ่มเติมว่า ก่อน“ทันที” คือวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่จะเลวร้ายต่อเนื่อง ช้าหรือเร็วขึ้นกับสถานภาพทางเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ อันที่จริง วิกฤติดังกล่าว ได้เริ่มไปบ้างแล้วตั้งแต่หลายเดือนหรือหลายปีก่อน แต่ถูกบดบังและเร่งให้เลวร้ายยิ่งขึ้นโดยสงครามอัฟกันและอิรัก ทำให้คนทั่วไปมองไม่เห็น แต่ไม่ว่าจะมีสงครามหรือไม่ก็ตาม น้ำมัน (ซากฟอสซิลคาร์บอน) ก็กำลังจะหมดลงจริงๆ และนั่นคือจุดสุดท้ายของอารยธรรมแบบที่เรารู้จัก (วัฒนธรรมของเผ่าพันธุ์ที่ขึ้นกับเงินและเทคโนโลยี) ชื่นชมและคิดว่าเป็นจริงได้มาถึงแล้ว ประเด็นคือ สิ่งที่จะตามมาใน ๕– ๒๐ ปีข้างหน้านี้ มนุษย์ชาติจะอยู่รอดได้อย่างไร?

ที่มองเห็นเฉพาะหน้าสั้นๆ คือตั้งแต่หน้าหนาวปีนี้ น้ำมันอาจจะมีราคา ๖๐-๗๐ เหรียญต่อบาร์เรล และคงไม่มีทางลดลงมาอีก ในขณะเดียวกัน เทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทนก็ยังห่างไกลมากจนไม่ทันกับความวุ่นวายที่จะเกิดจากสภาวะล้มละลายทางเศรษฐกิจ และกระทบกับทุกๆ สังคมแทบจะทันทีทันใด ตามมาด้วยสภาวะอนารยธรรมในทุกๆ หนแห่ง มากหรือน้อยเร็วหรือช้าขึ้นกับสถานภาพทางวัฒนธรรมและการศึกษาของคนในประเทศนั้นๆ

สิ่งที่ตามมา หากสรุปจากผลงานวิจัยของ ซูซาน แคนนอน (Susan Cannon) แห่ง California Institute of Integral Studies (CIIS) ที่ตีพิมพ์ใน Yes! A Journal of Positive Futures, Spring 2000 Issue, “Whose Story, What Future” คาดการณ์อนาคตของสังคมโลกในช่วงเวลาใกล้ๆ นี้ (ซูซานเชื่อว่า จะมีภัยจากธรรมชาติที่ปรับตัวไม่ทันกับอารยธรรมวัตถุ เช่น น้ำท่วมในที่ลุ่มต่ำชายฝั่ง พื้นที่ด้านในจะแห้งแล้ง มีโรคระบาดร้ายแรงใหม่ๆ มากมาย และสาธารณูปโภคขาดแคลนในทุกๆ ด้าน เรียกว่า “The Shock of 2012”) สังคมอนาคตจะมี ๔ รูปแบบขึ้นกับสภาพการณ์ในตอนนั้น ๒ ประการคือ หนึ่ง มนุษย์สามารถมีวิวัฒนาการของจิตสู่กระบวนทัศน์ใหม่หรือวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (Cultural Creatives)ได้ทันหรือไม่? หรือยังคงวัฒนธรรมเดิมคงวัตถุนิยมเดิมๆ ต่อไป สอง สังคมหรือรัฐบาลของประเทศใด มีความแข็งแกร่งมั่นคง เป็นประชาธิปไตย และสามารถรักษาองค์กรการเมืองและสถาบันต่างๆไว้ได้เพียงใด ซูซานชี้ว่าสังคมหรือประเทศในโลกอนาคต (อาจเริ่มแต่ปี ๒๐๑๒) จะมีสภาพ ๑ ใน ๔ แบบ ๔ สมมติฐาน ต่อไปนี้

สมมติฐานที่หนึ่ง ประชาชนส่วนใหญ่สามารถเปลี่ยนไปสู่กระบวนทัศน์ใหม่ จิตใหม่ และวัฒนธรรมสร้างสรรค์ได้ทัน แต่ระบบต่างๆ ของสังคมหรือประเทศล่มสลาย ผล เกิดสังคมแห่งความจำเป็นที่เรียบง่าย (Necessary Simplicity) ประชากรจะกระจายอยู่เป็นชุมชนธรรมชาติทั่วทุกหนแห่ง กินใช้เรียบง่ายและเท่าที่จำเป็น สร้างความสุขทางจิตใจร่วมกันทางอินเตอร์เน็ต รัฐบาลและระบบต่างๆ รวมทั้งสาธารณูปโภคแทบทั้งหมดล่มสลาย เพราะไม่มีงบประมาณหรือถูกใช้ในการต่อสู้กับภัยธรรมชาติที่เป็นผลสะท้อนกลับของอารยธรรมวัตถุแบบเก่า

สมมติฐานที่สอง ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยน ยังคงยึดมั่นกับวัฒนธรรมวัตถุ และสังคมอ่อนแอ ทั้งรัฐบาลก็ไร้สมรรถภาพ ผล เข่นฆ่าวุ่นวายทุกหย่อมหญ้า (War and Pieces) ชีวิตขึ้นกับการดูแลตัวเองและการเอาตัวรอด ไร้ความปลอดภัยแบบบ้านป่าเมืองเถื่อน มีแต่การปล้นจี้หรือข่มขืนกันทุกๆ ซอกตรอกถนนในทุกๆ ก้าวย่าง แม้คนของรัฐเองก็ไว้ใจไม่ได้

สมมติฐานที่สาม ประชาชนยังแสวงหาวัตถุที่มีอยู่น้อย แถมสิ่งแวดล้อมก็ล่มสลาย โดยไม่มีวิวัฒนาการทางจิตเหมือนในปัจจุบัน แต่รัฐบาลและระบบยังเข้มแข็งมั่นคง ผล เกิดการเดินขบวนประท้วงประจำวันแบบที่ต่างฝ่ายต่าง “ไร้จิตไร้วิญญาณ” โดยเฉพาะระหว่างฝ่ายที่ “มี” กับ “ไม่มี” (Soul-less Confrontation) รัฐบาลจะปกป้องทั้งสองฝ่ายให้เป็นไปตามกฎหมาย ยังผลให้มีการแบ่งแยกเขตแดน กั้นรั้วสร้างกำแพงระหว่างนายทุนกับคนจนเหมือนในภาพยนตร์ หรือ ยิวกับปาเลสไตน์ ที่ยูเอ็นมีมติออกไป แล้วทำอะไรไม่ได้ นอกจากหัวเราะแหะๆ ตีขาตัวเองแปะๆ แก้เขิน

สมมติฐานที่สี่ ประชาชนเปลี่ยนไปสู่กระบวนทัศน์ใหม่ ร่วมกันสรรค์สร้างสังคม โดยรัฐบาลกับระบบมีความเข้มแข็งและเป็นธรรม ผล เกิดบุพนิมิตแห่งการร่วมใจกันและรวมกันเป็นหนึ่ง (Integral Dawn) เป็นสังคมใหม่แห่งกระบวนทัศน์ใหม่ ระบบเศรษฐกิจใหม่ที่เน้นความพอเพียง พอดีและยั่งยืน เป็นสังคมใหม่ที่ทุกคนมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ เน้นความเป็นชุมชน เน้นความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน หรือเป็นสังคมแห่งจิตวิญญาณ

เชื่อว่าเราทุกคนต้องการเห็นสังคมในรูปแบบสมมติฐานที่สี่ แต่ความอยากเห็นกับการเปลี่ยนแปลงจริงเป็นคนละเรื่องกัน การเปลี่ยนแปลงในมิติทางจิตวิญญาณเป็นเรื่องยากที่ท้าทาย เพราะเราเคยชินกับวัตถุนิยมและแยกส่วนมานาน ที่สำคัญกว่านั้นคือเรามีเวลาน้อยเหลือเกิน

แต่เราส่วนใหญ่ต้องพยายามและอดทน (วิริยะและขันติธรรม) อย่ากลับไปที่เดิมอีก เผ่าพันธุ์ของเราจึงอาจจะอยู่รอดต่อไปได้

อะลิซาเบ็ต ซาทัวริส (Elisabet Sahtouris) นักชีววิทยากรีก เขียนในหนังสือ Earth Dance (๒๐๐๐) ว่า “วิกฤติคือคาตาลิสต์สู่การเปลี่ยนแปลง” หรือ “จี่เว่ย” วิกฤติคือโอกาสของเต๋านั้นเอง เธอบอกว่าทุกวันนี้นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย ต่างรู้ดีว่าวิถีอารยธรรมวัตถุนิยมคือวิถีแห่งความพินาศหายนะ ริชาร์ด ลีกตีย์ (Richard Leakey) นักดึกดำบรรพ์วิทยาศาสตร์ เขียนใน The Sixth Extinction (๑๙๙๖) ว่า โลกเราได้พบกับความพินาศอันยิ่งใหญ่มาแล้ว ๕ ครั้ง แต่ละครั้ง (ยกเว้นครั้งที่แล้ว ซึ่งทำให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไปเมื่อ ๖๕ ล้านปีก่อน) เราไม่รู้สาเหตุแท้จริงทั้งหมด แต่ความพินาศครั้งที่ ๖ นี้ เรารู้ว่าเป็นเราเอง!

นับแต่ปี ๑๙๙๒ การประชุมสุดยอดโลกครั้งแรกที่ ริโอ เดอจาเนโร รวมทั้งอีกสิบกว่าครั้งหลังจากนั้น นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่พยายามชี้ประเด็นว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมกับการยั่วยุให้คนคลั่งไคล้วัตถุอย่างไม่บันยะบันยังของบรรษัทข้ามโลกข้ามชาติ เป็นสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับกระบวนการธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในทุกๆ ด้านโดยไม่ยกเว้น แต่นักอุตสาหกรรมและนักเศรษฐศาสตร์ส่วนมากปฏิเสธที่จะเชื่ออย่างเด็ดขาด เหมือนกับผู้โดยสารเรือ “ติตานิก” (Titanic) ที่ชื่นชมและภูมิใจในเทคโนโลยีของเรือยักษ์ ไม่เชื่อว่านั่นคือสิ่งที่จะนำพาพวกเขาไปตายที่ก้นมหาสมุทร ฉันใดก็ฉันนั้น ผู้โดยสารบนนาวาโลกที่สุดภูมิใจในเทคโนโลยี “ไฮ-เทค” ใหม่ๆ ที่นักประดิษฐ์ผู้รับใช้บรรษัทยักษ์ใหญ่ผลิตขึ้นมาล่อใจเป็นรายวัน และภูมิใจกับความเป็นอิสรชน “สิทธิของกู” ที่จะคลั่งไคล้อย่างไรก็ได้กับเทคโนโลยีนั้นๆ จึงยากที่คนรุ่นใหม่หัวเก่าจะยอมเชื่อว่าความอิสระและเทคโนโลยี คือสิ่งที่จะนำความฉิบหายและความตายมาให้ตนและชาวโลกอีกมาก เราประมาท อหังการ และโลภมากจนนำตัวเองสู่กับดักของตัวเอง

บางที น้ำมันที่จะขึ้นราคาไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหายจากตลาดไปอย่างรวดเร็วภายในทศวรรษนี้ (Hubbert’s Peak, Kenneth S. Deffeyes, ๒๐๐๑) หรือหมดเกลี้ยงใน ๔๐ ปีอย่างที่บริษัทบีพีคาดไว้ ผลที่จะตามมา คือความทุกข์ของเราแต่ละคนที่จะต้องอยู่กับความไม่เคยชิน จากความวุ่นวายของเราไปจนถึงสังคมประเทศชาติ แต่ความทุกข์ความวุ่นวายเหล่านั้นจะสะท้อนให้เราได้คิดมากขึ้นและล้ำลึกขึ้น ไม่ว่าในตอนนั้นเราจะอยู่ที่ใดก็ตาม สมมติฐานทั้ง ๔ ที่ ซูซาน แคนนอน วิจัยมานั้น ทำให้เราได้คิดว่า มนุษยชาติคงกลับไปใช้วิถีชีวิตแบบเก่าเดิมคือ ยึดถือตัวตน คิดแยกส่วน วัตถุนิยม และฟุ่มเฟือยอย่างที่เคยเป็นเคยทำไม่ได้อีกแล้ว เราคงต้องเรียนรู้ใหม่มีวิธีคิดใหม่ว่า เราในฐานะเป็นธรรมชาติเช่นเดียวกับสิ่งแวดล้อมทั้งหลาย ย่อมจะต้องมีวิถีชีวิตที่สอดคล้องและเชื่อมโยงกันหรือเป็นส่วนของกันและกันกับธรรมชาติทั้งหลายนั้นๆ น้ำมันที่หมดลงไปในด้านหนึ่ง คือตัวดึงดูด (attractor of the chaos system) หรือคาตาลิสต์ที่ อะลิซาเบ็ต ซาทัวริส ว่า ทำให้เราเรียนรู้กับเปลี่ยนแปลง เรียนรู้ว่าทั้งหมดเป็นเราเองที่จงใจแยกตัวออกจากธรรมชาติและล้างผลาญธรรมชาติเพราะความไม่รู้ เรียนรู้ว่าเป็นเราเองที่อหังการ หยิ่งผยองในปัญญาด้านเทคโนโลยีที่แท้จริงแล้วเป็นอวิชชา ทำให้ธรรมชาติหวนกลับมาสนองตอบต่อเราทั้งเผ่าพันธุ์อย่างไร? การเรียนรู้ที่สุดเจ็บปวดนี้ สำหรับบางคนในเวลานี้และหลายคนในตอนนั้น อาจมีจิตวิวัฒน์ได้ ทำให้เราไม่กลับไปที่เดิมหรือใช้ชีวิตแบบเดิมๆอีกต่อไป

เห็นจะมีแต่การเรียนรู้ที่ว่านี้เท่านั้น ที่จะนำเราไปสู่สมมติฐานรูปแบบที่ ๔ คือบุพนิมิตแห่งกระบวนทัศน์ใหม่ของความเป็นหนึ่งเดียวกัน (Integral Dawn)




วันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2547 at ที่ 13:09 น. by knoom    
ป้ายกำกับ: บทความมติชน, ประสาน ต่างใจ | 0 ความคิดเห็น

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
คนยุค “สมัยใหม่” คิดว่าจิตคือสมอง ( ศ.นพ.ประสาน ต่างใจ )
กระบวนการ NEW AGE
มดเอ๊ก 0 2243 กระทู้ล่าสุด 13 มิถุนายน 2553 14:10:27
โดย มดเอ๊ก
เหตุความแตกแยกของมนุษย์กับการเปลี่ยนผ่าน โดย ศ.นพ.ประสาน ต่างใจ
กระบวนการ NEW AGE
มดเอ๊ก 0 1890 กระทู้ล่าสุด 13 มิถุนายน 2553 16:13:19
โดย มดเอ๊ก
ไดอาล็อก สุนทรียสนทนา ( ภาวนาสนทนา ) : นายแพทย์ ประสาน ต่างใจ
ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
มดเอ๊ก 2 3998 กระทู้ล่าสุด 13 พฤศจิกายน 2553 23:27:11
โดย หมีงงในพงหญ้า
[ไทยรัฐ] - น้องชาย นร.หญิง 14 ปีลาโลก อยู่ในกลุ่มเปราะบาง ประสาน พมจ.สงขลาช่วยดูแล
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 177 กระทู้ล่าสุด 21 พฤษภาคม 2565 22:41:21
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวด่วน] - ศูนย์ประชุมฯ ป่วน! ตร.ประสาน EOD ตรวจสอบเป้ปริศนา พบเป็นของนักข่าวต่างชาติ
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 98 กระทู้ล่าสุด 16 พฤศจิกายน 2565 23:22:39
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.465 วินาที กับ 34 คำสั่ง

Google visited last this page 14 ตุลาคม 2566 21:12:36