25 เมษายน 2567 01:23:39
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
สุขใจในธรรม
กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
.:::
โลกพิสดารตำนานพิศวง : 'ธรณีสูบ' เรื่องจริงที่เป็นมากกว่าตำนาน
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: โลกพิสดารตำนานพิศวง : 'ธรณีสูบ' เรื่องจริงที่เป็นมากกว่าตำนาน (อ่าน 1756 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 5065
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 17.0.963.83
โลกพิสดารตำนานพิศวง : 'ธรณีสูบ' เรื่องจริงที่เป็นมากกว่าตำนาน
«
เมื่อ:
31 มีนาคม 2555 23:45:34 »
Tweet
"....แม้พระเทวทัตแล ลุกจากเตียงแล้วนั่งวางเท้าทั้งสองบนพื้นดิน เท้าทั้งสองนั้นก็จมแผ่นดินลง เธอจมลงแล้วโดยลำดับเพียงข้อเท้า, เพียงเข่า, เพียงเอว, เพียงนม, จนถึงคอ, ในเวลาที่กระดูกคางจดถึงพื้นดิน..."
นี่คือวาระสุดท้ายซึ่งปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกของบุคคลที่เรียกว่า เดียรถีย์ที่โด่งดังที่สุดแห่งวงการพระพุทธศาสนาก่อนจะถูกธรณีสูบลง ณ ริมสระน้ำ หน้าวัดเชตวันมหาวิหาร
หลายคนอาจจะสงสัยว่า เรื่องธรณีสูบเกิดขึ้นจริงไหม และคนที่ประพฤติเช่นใดที่ต้องเผชิญยถากรรมแบบนี้
ซึ่งหากไปย้อนดูสมัยโบราณจะเห็นจุดร่วมสำคัญว่า ผู้นั้นจะต้องทำบาปหนัก จนไม่อาจให้อภัยได้ เพราะให้อภัยให้แล้วแต่ยังก่อกรรมที่หนักขึ้นอีก เป็นผู้มีจิตใจต่ำทราม แม้แต่ธรณียังไม่อาจรับน้ำหนักของบาปกรรมไหว จนต้องสูบลงสู่ห้วงนรกอเวจี ไม่ได้เกิดชั่วกัปชั่วกัลป์
ซึ่งตามประวัติศาสตร์ของพระพุทธศาสนา มีผู้ที่ถูกธรณีสูบมากถึง 5 ชีวิตเลยทีเดียว
1. พระเทวทัต
เป็นพระประยูรญาติและเป็นพระเชษฐาของพระนางยโสธรา พระมเหสีของเจ้าชายสิทธัตถะ ท่านอาฆาตจองเวรกับพระพุทธองค์ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ และเมื่อเข้ามาบวชก็แสดงความมักใหญ่ใฝ่สูง อยากเป็นศาสดาของศาสนา โดยวีรกรรมอันน่าโจษจันมีตั้งแต่แสดงการเหาะเหินเดินอากาศให้เจ้าชายอชาตศัตรูดู เพื่อให้เกิดความเลื่อมใสและขอเป็นศิษย์ หลังจากนั้นก็ยุแหย่ให้เจ้าชายทำการลอบปลงพระชนม์พระราชบิดา
แล้วยังพยายามลอบปลงพระชนม์พระพุทธเจ้าอีกหลายครั้ง เช่น ปล่อยช้างตกมันให้วิ่งเข้าชนบ้าง จ้างนายธนู 10 คนมาลอบยิงบ้าง และสุดท้ายพยายามกลิ้งหินให้ตกจากเขาคิชกูฏ โดยหมายให้หินหล่นทับพระพุทธเจ้า แต่หินกลับกระเด็นหนีอย่างน่าอัศจรรย์ใจ ทว่าสะเก็ดหินกับไปถูกข้อพระบาทจนห้อเลือด แถมยังเสนอให้พระพุทธเจ้าลาออก หรือสร้างกฎที่เคร่งครัดเพื่อเรียกศรัทธา อย่างไม่กินสัตว์ และอยู่ป่าตลอดชีวิต จนคณะสงฆ์แตกแยก
แต่คนชั่วย่อมไม่พ้นบาปกรรม ในที่สุด เมื่อคนก็รู้ความจริงก็ไม่ศรัทธาแถมยังประณาม สุดท้ายท่านก็เกิดความสำนึกนึกและหวังจะขอขมาพระพุทธองค์แต่ไม่ทันกาล เพราะถูกธรณีสูบลงไปก่อน
2. พระเจ้าสุปปพุทธะ
เป็นพระราชบิดาของพระเทวทัตและพระนางยโสธรา โดยหลังจากที่พระเทวทัตได้ถูกธรณีสูบลงไปแล้ว ก็มีความอาฆาตพระพุทธองค์ เพราะคิดว่าเป็นต้นเหตุของเรื่อง แถมยังทอดทิ้งพระนางยโสธราไปบวช จนกลายเป็นหม้าย จึงพยายามหาทางกลั่นแกล้งด้วยเกณฑ์อำมาตย์และข้าราชบริพารไปดื่มกินสุราเพื่อขวางทางที่พระพุทธเจ้าเสด็จออกบิณฑบาต ซึ่งเป็นทางเดียวที่เดินได้ ทำให้ทรงอดพระกระยาหาร 1 วัน
เมื่อครั้งพระอานนท์ถามโทษของพระเจ้าสุปปพุทธะว่าจะเป็นเช่นใด ก็ทรงตอบทันทีว่า นับจากนี้อีก 7 วันจะต้องตามพระราชโอรสไปอเวจี พอบรรดาอำมาตย์ได้ยินอย่างนั้น จึงรีบกลับไปรายงานโดยด่วน พระเจ้าสุปปพุทธะจึงหนีขึ้นประทับ ณ ปราสาท 7 ชั้น โดยแต่ละชั้นมีทหารป้องกันไว้ แถมยังทรงตรัสอีกว่า ระหว่าง 7 วันนี้ หากพระองค์ลงมาให้ขัดขวางไว้ จะไม่เอาโทษ
แต่การณ์กลับเป็นว่า พบถึงวันที่ 7 ม้าแก้วซึ่งเป็นม้าที่พระองค์โปรดปรานเกิดอาละวาดร้องเสียงดัง พระองค์ทรงเป็นห่วงม้าเกิดขาดสติรีบวิ่งลงไป ขณะนายทหารก็ไม่ได้ขัดขวางเพราะคิดว่าครบกำหนดแล้ว และพอย่างพระบาทลงเหยียบแผ่นดินเท่านั้น ก็ถูกธรณีสูบลงสู่นรกอเวจีทันที
3. นันทมานพ
บุคคลผู้นี้ทำบาปมหันต์ด้วยการข่มขืนพระอุบลวรรณาเถรี โดยเรื่องนี้เกิดจากสมัยที่ยังไม่อุปสมบท ท่านเป็นสตรีที่เลอโฉมมาก เป็นที่ต้องตาต้องใจบรรดาหนุ่มๆ หลายคน แต่เนื่องจากเกิดความเบื่อหน่ายในโลกโลกีย์ จึงออกบวชและสำเร็จอรหันตผล
แต่นั่นก็ไม่ทำนันทมานพที่เลิกหวัง ยังฝังใจและปรารถนาจะมีเพศสัมพันธ์กับท่านให้จงได้ จึงแอบไปซุ่มอยู่ในป่าข้างกระท่อมที่ท่านจำพรรษาอยู่ เมื่อเห็นว่าออกจากกระท่อมไปบิณฑบาตแล้ว ก็เข้าไปซ่อนอยู่ใต้เตียง พอกลับมาก็ใช้กำลังปลุกปล้ำ พระอุบลวรรณาพยายามขอความช่วยเหลือแต่ก็ไม่มีใครได้ยิน จึงหันไปเตือนสตินันทมานพว่า ให้หยุดการกระทำ ไม่เช่นนั้นจะเกิดความหายนะแก่ตัว แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจ และพอข่มขืนเสร็จ นันทมานพก็วิ่งจากออกจากกระท่อม พอเท้าลงพื้นธรณีก็เปิดอ้าสูบลงไปในขุมนรกไปอีกราย
4. นางจิญจมาณวิกา
นางเป็นผู้รับอาสาจากพวกปริพาชกที่อิจฉาพระพุทธองค์ โดยเริ่มแรกก็หลบเข้าไปในวัดเชตวันฯ และทำทีว่าเดินออกมาจากวัด เมื่อคนถามก็บอกว่า ไปอยู่กุฏิของพระสมณโคดม จนผู้คนระแวงสงสัย ทำอย่างนี้อยู่ 9 เดือน ขณะที่ท้องของนางก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เพราะนางเอาไม้กลึงนูนไปผูกรัดเอาไว้
จนเมื่อสบโอกาส ขณะที่พระพุทธองค์เทศนา นางก็ร้องตะโกนว่า พระองค์ทำนางท้อง ซึ่งก็ไม่ทรงแก้ตัวอะไร เพียงแต่ตรัสว่า เรื่องนี้มีแค่ 2 คนคือ พระองค์กับนางจิญจมาณวิกาเท่านั้นที่รู้ ก็ยิ่งสร้างความสงสัยใหญ่หนักเข้าไปใหญ่ เมื่อท้าวสักกเทวราชเห็นดังนั้น จึงสั่งให้เทพบุตรประจำตัวแปลงร่างเป็นหนูไปกัดเชือกที่หน้าท้องปลอมหลุดออกมา แล้วนางตกใจวิ่งหนีไปแต่ไปได้ไม่ไกลธรณีก็สูบเอาลงนรกอเวจีไป
5. นันทยักษ์
ซึ่งเป็นยักษ์ที่มีอิทธิฤทธิ์มาก และชอบเหาะเหินไปมาตามฟากฟ้าพร้อมกับสหายที่ชื่อ เหมตายักษ์ เมื่อถึงจุดที่พระสารีบุตรกำลังทำสมาธิอยู่ บริเวณนั้นว่างเปล่าจากอากาศธาตุ ทำให้นันทยักษ์เหาะผ่านไม่ได้ จึงเกิดบันดาลโทสะ จึงคิดจะฆ่าพระสารีบุตรเสีย โดยเหาะขึ้นบนอากาศ ใช้กระบองฟาดลงบนศีรษะของพระสารีบุตรอย่างแรง จนภูเขาพังไป 100 ลูก แต่พระสารีบุตรไม่ได้รับอันตรายแม้แต่น้อย แล้วจู่ๆ ก็เกิดไฟขึ้นเผาตัวยักษ์ ก่อนจะตกลงมาจากอากาศ ขณะที่แผ่นดินก็เปิดช่องเอาไว้ ทำให้นันทยักษ์กลายเป็นผู้ที่ถูกธรณีไปโดยปริยาย
..........
อย่างไรก็ตาม นั่นอาจจะเป็นเพียงแค่ตำนานที่ไม่ใครกล้ายืนยัน แต่ถ้าถามว่า โอกาสที่ธรณีสูบจะเกิดขึ้นหรือไม่นั้น ตอบได้เลยว่า 'เป็นไปได้' และ 'เป็นไปแล้ว'
ดร.พีรนันท์ โตวชิราภรณ์
หัวหน้าแผนกวิเคราะห์ความเสี่ยงภัยพิบัติ องค์กรเตรียมภัยพิบัติแห่งเอเชีย อธิบายว่า ธรณีสูบตามหลักธรณีวิทยา แบ่งได้เป็น 2 แบบ คือการที่พื้นดินยุบลงไป กับการเลื่อนของพื้นดิน
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยและกลไกหลายอย่าง ตรงนั้นอาจจะเคยเกิดแผ่นดินไหวมาก่อน หรือฝนตกหนักมาก ทำให้เกิดช่องว่างลงในชั้นพื้นดิน ตามเนินเขาต่างๆ ก็เช่นกัน โดยเฉพาะที่เป็นดินร่วนหรือดินเหนียว หากมีความชื้นหรือความอิ่มตัวของน้ำมากเกินไปก็มีสิทธิ์เลื่อนตัวได้
"หลุมพวกนี้ไม่ได้เกิดขึ้นทันที แต่เป็นการสะสมมาเรื่อยๆ เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้นตอนแรกที่ชั้นดิน แต่เกิดในจุดที่ลึกกว่านั้น โดยจะมาในรูปของช่องว่างหรือช่องอากาศที่เกิดขึ้นใต้ดิน หรือไม่ก็เกิดจากการไหลเลื่อนของดินทรายที่อยู่ในชั้นใต้ดิน จากจุดหนึ่งไปสู่อีกจุดหนึ่ง และหากเกิดแรงสั่นสะเทือนหรือมีน้ำเข้ามามากๆ แล้วทำให้ชั้นดินรับน้ำหนักไม่ไหว ก็จะเกิดการยุบตัวเป็นหลุมในที่สุด ซึ่งบางประเทศยุบได้เป็นสิบๆ เมตรเลย"
ตัวอย่างที่โด่งดังสุด ก็คือกรุงกัวเตมาลา ประเทศกัวเตมาลา ที่เกิดธรณีสูบถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกในปี 2550 ซึ่งจู่ๆ ก็มีหลุมขนาดยักษ์ถึง 100 เมตร มีผู้เสียชีวิตถึง 3 คน อีกครั้งในปี 2553 คราวนี้ลึก 60 เมตร กว้าง 20 เมตร กลืนกินสี่แยกและตึก 3 ชั้น แถมคร่าชีวิตผู้เคราะห์ร้ายมากถึง 15 ราย
ส่วนประเทศไทย ยังไม่เคยมีเหตุการณ์ใหญ่ๆ เลยแม้แต่ครั้งเดียว
อย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะรู้ก่อนว่าตรงนี้จะเกิดธรณีสูบหรือไม่นั้น ก็ยากไม่ใช่เล่น เพราะต้องมีการตรวจใต้ชั้นดิน ซึ่งจะทำเฉพาะเวลาสร้างอาคารสูง หรือทำอุโมงค์ใต้ดินเท่านั้น แต่อย่างดีที่เรื่องพวกนี้ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ
"ประเทศที่มีโอกาสเสี่ยงก็คือ ประเทศที่มีแผ่นดินไหวเยอะ อย่างญี่ปุ่น ผมเคยเห็นว่าช่วงแผ่นดินไหว บ้านเขายุบตัวลงไป ในดินเพราะดินมันสูญเสียกำลังจะรับน้ำหนักแล้ว"
ดร.พีรนันท์กล่าวทิ้งท้าย
>>>>>>>>>>
………..
เรื่อง : The Old Dog
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9550000039292
บันทึกการเข้า
ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...