[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
06 กรกฎาคม 2568 05:27:03 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความทรงจำนอกมิติ : การเปลี่ยนแปลงที่ดวงอาทิตย์เกี่ยวกับโลกใหม่?  (อ่าน 1605 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5162


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 13 มิถุนายน 2553 15:42:17 »


 
 
ในระยะหลังๆ มานี้ ตั้งแต่ก่อนปีใหม่มาจนล่วงปีใหม่ไปแล้ว แต่ผู้เขียนยังได้เขียนเรื่องที่ท่านผู้อ่านและคนไทยทั่วไปไม่ชอบฟังหรือปรารถนาจะอ่านหรือได้ยินอย่างซ้ำๆ ซากๆ น่าเบื่ออย่างที่สุด เพราะหากว่าจะเป็นการเตือนให้รู้และระวังตัวรู้ก็รู้แล้ว ทั้งเรื่องก็ไม่น่าเกิด จริงๆ แล้ว 99% คงไม่เกิดทั้งหมดอย่างแน่นอน เหมือนกับเรื่อง Y2K 5-5-2000 อุกกาบาตชนโลกและเรื่องอื่นๆ ซึ่งทุกอย่างก็กลับไปเหมือนเดิม แต่คราวนี้ที่โลกเรามีภาวะโลกร้อนที่เราส่วนใหญ่ไม่เคยเชื่อว่ามีคนเป็นเหตุ คือพูดง่ายๆ มนุษย์นั้นทำอะไรไม่ผิดที่ไม่ผิดกฎสังคม-กฎหมายเราอยู่กันมาได้ เรื่องอยุธยา กรีซ โรมัน อียิปต์ เป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยที่เราไม่เห็น ฉะนั้น หาความสุขสนุกสนานดีกว่า แต่ว่าครั้งนี้ - ในความคิดของผู้เขียน - คงไม่เป็นเช่นเดิมจริงๆ เพราะเราเห็นแก่ตัวและทำแต่ผิดๆ มากเกินไป

เพิ่งเขียนเรื่องดินฟ้าอากาศกำลังปฏิวัติ ภาคสอง กับเรื่องมันอาจจะมาตรงเวลาก็ได้ไปหยกๆ พอดีได้รับข้อมูลใหม่ๆ เรื่องของการหายไปของจุดดำของดวงอาทิตย์ (sun spots) การเปลี่ยนแปลงสนามแม่เหล็กโลก (magnetosphere) การลดลงของความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กดวงอาทิตย์ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อมีการสลับของขั้ว แม่เหล็กอันอาจจะเกิดการย้ายขั้วโลกเหนือตามมา อย่างทฤษฎีของชาร์ลส์ แฮปกูด ที่ไอน์สไตน์สนับสนุนและได้เขียนคำนำให้ (อ้างแล้วในบทความที่ยกมานั้น) นอกจากนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ยังเกิด "ช่องเปิด" ทางเดินของสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ และของโลก (magnetic portal) และความหนาวเย็นจัดอย่างค่อนข้างผิดปกติเหมือนโลกกำลังย่างเข้ายุคน้ำแข็ง (ice-age) ไม่ว่ายุคน้ำแข็งเล็กหรือใหญ่คือโลกเกิดมีความหนาวเย็นมากกว่า และนานกว่าฤดูหนาวธรรมดาๆ ทั้งที่ยุโรปและที่สหรัฐอเมริกากับที่แคนาดา โดยเฉพาะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากลูกชายที่ไปมาในช่วงนี้ ที่ลุกลามมาถึง รัสเซีย จีน เกาหลี ฯลฯ พอดีได้ข้อมูลใหม่ๆ เกี่ยวกับระบบสุริยะที่จะโคจรมาตรงศูนย์กลางของกาแล็กซีทางช้างเผือกของเราในคืนวันที่ 21 ธันวาคม ปี 2012 และในคืนนั้นจะมีการเรียงตัวเป็นแถวเดียวหรือระนาบเดียวกัน (grand alignment) ของดาวเคราะห์ของระบบสุริยะรวมทั้งดวงอาทิตย์ก็มาเข้าแถวรวมกับเขาด้วย (มิชิโอะ กากุ NASA, pole shift) แต่ผู้เขียนรอๆ ดูก็ไม่เห็นว่าใครที่เมืองไทยจะสนใจเอามาเขียนหรือสื่อสารกัน หรืออาจเขียนแต่ผู้เขียนไม่รู้จึงไม่เห็นเอง เรื่องเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่นักการเมืองโดยเฉพาะผู้นำของรัฐบาลทุกรัฐบาลทั่วทั้งโลก รวมทั้งสหประชาชาติจะต้องใส่ใจอย่างยิ่ง เพราะว่า หนึ่ง ภาวะล่มสลายของโลกและการเปลี่ยนแปลงสังคมโลกแบบถอนรากถอนโคนโดยการมีจิตใหม่หรือจิตวิญญาณ กับ สอง เรื่องการย้ายขั้วโลกเป็นเรื่องนอกตัว นอกประเทศ และนอกโลกชนิดที่เราไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้นจะคิดว่าไม่เป็นไร "ทุกอย่างก็จะเหมือนเดิม" นั้นมิเป็นการประมาทเกินไปหรอกหรือ? และมิชิโอะ กากุ นั้นไม่ใช่ศาสตราจารย์ธรรมดาๆ (คือเป็นถึง Henry Samat Professor นักฟิสิกส์ทฤษฎีของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยซิตีของนิวยอร์ก ที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่งกระทั่งหนังสือพิมพ์ที่มีอิทธิพลสูงมากๆ สองฉบับ คือนิวยอร์กไทม์กับวอชิงตันโพสต์ ซึ่งได้เขียนชมหนังสือทั้งสองเล่มของเขาว่าเป็นหนังสือวิทยาศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของปีนั้นๆ - ต่างกรรมต่างวาระกัน) ผู้เขียนนั้นนานๆ ทีถึงได้ติดตามข้อมูลความรู้ทางด้านของวิทยาศาสตร์กายภาพ (หรือฟิสิกส์ของดวงอาทิตย์ solar physics) มาบ้าง แต่ไม่บ่อยนัก และในระยะหลังๆ มานี้ดวงอาทิตย์เองก็ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยที่มนุษย์เราก็ยังไม่รู้ไม่แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างนั้นจะมีผลต่อโลก ต่อ มนุษยชาติ หรือระบบสุริยะ หรือแม้แต่จักรวาลอย่างไรบ้าง? อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนคิดว่าไม่ควรประมาทและไม่ควรประมาทอย่างยิ่ง ทั้งประชาโลกก็มีสิทธิ์ที่จะรู้และตัดสินใจเอาเอง รัฐบาลประเทศนั้นไม่มีอะไรจะเสียหายกว่ารัฐบาลนั้นๆ เช่นรัฐบาลไทยจะพูดคุยให้แน่ใจและเข้าใจ ความเป็นไปได้ ของการเปลี่ยนแปลงของดวงอาทิตย์ในครั้งนี้ โดยตั้งคณะกรรมการภัยธรรมชาติในด้านวิทยาศาสตร์อย่างจริงจัง ติดต่อสอบถามมิชิโอะ กากุ ที่ www mkaku.org โดยใช้ชื่อใครก็ได้หากกลัวเสียหน้า เรื่องเฉพาะหน้านี้คือ การเปลี่ยนแปลงของดวงอาทิตย์ในครั้งนี้ น่าจะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจของประเทศทั่วทั้งโลกซึ่งกำลังย่ำแย่ที่สุดอยู่เดี๋ยวนี้ กับการค่อยๆ เปลี่ยนแปลง บางทีและบางส่วนของจิตสำนึกที่กำลังแพร่สะพัดไปทั่วทั้งโลกเช่น จิตตปัญญาศึกษาและการทำสมาธิกรรมฐานที่มีผู้ปฏิบัติมากขึ้นมาก - บทความนี้จะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวที่อาจจะสัมพันธ์กับโลกและมนุษยชาติ

ความสัมพันธ์ดังที่กล่าวมานั้น อาจจะเกี่ยวกับภาวะล่มสลายทางด้านของโลกกายภาพแต่โลกยังอยู่ และวิวัฒนาการทางจิตสู่จิตวิญญาณของมนุษยชาติ อย่างไรก็ตาม ที่เขียนมานี้ แม้ว่าท่านผู้อ่านจะต่อว่าผู้เขียนทำนองว่าชอบมองโลกในแง่ร้าย - หายใจเป็นเรื่องของความล่มสลายหายนะของมนุษยชาติไปเสียทั้งหมด เหมือนกับว่าผู้เขียนเป็นคนที่ตั้งใจจะให้แต่ความฉิบหายให้เกิดกับมนุษย์และกับโลก ผู้เขียนเองอาจยอมรับเช่นนั้น แต่ยอมรับในส่วนที่น้อยนิด ผู้เขียนขอร้องให้ผู้ที่ต่อว่านั้นคิดให้รอบคอบและถ้วนถี่ อย่าตื่นเต้นเสียขวัญเพราะไม่เกิดก็ได้ คิดในเชิงวิทยาศาสตร์ทั้งทางกายกับจิตเช่นจิตวิทยา กับ ศาสนาต่างๆ รวมทั้งลัทธิความเชื่อที่มีตั้งแต่โบราณ แม้ว่าผู้เขียนจะย้ำเขียนอย่างซ้ำๆ ซากๆ - อย่างทั้งมีเหตุผล มีหลักฐาน และเป็นวิทยาศาสตร์พร้อมมูลชนิดที่ใครก็ปฏิเสธไม่ได้ - ว่าจักรวาลและโลกมีหน้าที่หลักเพียงอย่างเดียวคือวิวัฒนาการ ส่วนวิวัฒนาการไปทำไม? เพื่ออะไร? และแน่ใจได้อย่างไร? ว่าการวิวัฒนาการนั้นคือเป้าหมายขอโลกและจักรวาล ขอตอบตามที่นักปราชญ์ทั้งหลายตอบเหมือนๆ กันเป๊ะๆ ว่า วิวัฒนาการของโลก ของจักรวาล และของมนุษยชาติไปตามเป้าหมายที่วางไว้ คือดิน (โลก) มนุษย์ ฟ้า (จักรวาลหรือสวรรค์) เพื่อให้มีชีวิตและมีมนุษย์ "ผู้ประเสริฐ" สามารถมีวิวัฒนาการทั้งทางกายหรือชีววิทยากับจิต หรือรูปกับนามไห้สัมฤทธิ์ตามเป้าหมาย ทั้งหมดนั้นไม่ใช่จิตนิยม ไกลตัว ไร้สาระ ซึ่งเราคนทั่วไปโดยตัวตนและอีโก้เป็นผู้คิด เราส่วนใหญ่ที่มักเป็นนักวัตถุนิยมแมตทีเรียลลิสต์ จึงคิดกันง่ายๆ ว่าเป็นเรื่องของความบังเอิญ ตรงนี้ท่านผู้อ่านช่วยกรุณาคิดให้รอบคอบด้วย เพราะไม่เพียงแต่นักปราชญ์ศาสดากับเซนต์นะบีในทุกศาสนาต่างกล่าวเป็นเสียงเดียว กันเช่นนั้นเท่านั้น หากแต่นักวิทยาศาสตร์ระดับโลกรวมทั้งผู้ได้รับรางวัลโนเบิลทุกๆ คนโดยไม่มีใครยกเว้น - เท่าที่ ผู้เขียนรู้ - ก็ยืนยันเช่นเดียวกันด้วย เช่น เดวิด โบห์ม, เซอร์อาร์เธอร์ เอ็ดดิงตัน, จอร์จ วอลด์, เจมส์ ลัฟล็อก ฯลฯ แม้แต่ในทางอ้อม อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ทั้งนี้ ว่ากันตรงๆ มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ทางกาย - ชีววิทยาสนับสนุนด้วย

การเปลี่ยนแปลงของดวงอาทิตย์เริ่มที่การสลับขั้วแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ที่เคยเกิดมีมาก่อน ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2000-01 และครั้งต่อไปจะมีในปี 2012-13 นั่น - ย่อมทำให้สนามแม่เหล็กโลกหรือแม็กนีโตสเฟียร์หายไปด้วย และตั้งแต่สองปีมานี้อยู่ๆ สนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ก็ลดลงไป พร้อมๆ กับการค่อยๆ หายไปอย่างมากของจุดดำ (sun spots) จากเรือนพันเรือนหมื่นลงมาเหลือในขณะนี้เป็นไม่ถึงร้อยจุด และมีเค้าว่าจะลดลงไปกว่านั้น นั่น - ทำให้อนุภาคที่เกิดในใจกลางดวงอาทิตย์ตามปกติวิสัยออกมาไม่ได้ด้วย จะมีก็แต่อนุภาคผีๆ เช่น นิวตริโนส์ที่ทะลวงออกมาได้ ดังที่มีรายงานไว้มากมายเช่นที่ แอลเอชชี (LHC) แล็บ เป็นต้น และการที่ดวงอาทิตย์ลดความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กลงไปนี้ ก็จะทำให้แม็กนีโตสเฟียร์ของโลกค่อยๆ หายไปด้วย (เพราะแม็กนีโตสเฟียร์เกิดจาก interaction ระหว่างสนามแม่เหล็กทั้งสอง) การลดความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กดวงอาทิตย์โดยเฉพาะการขาดแม็กนีเชียมจนทำให้จุดดำที่ดวงอาทิตย์ต้องหายไปกว่า 90% และทำให้แม็กนีโตสเฟียร์ของโลกต้องหายไปแทบสิ้นเชิงเช่นนี้จะทำให้การป้องกันโลกด้วยจีโอแม็กเนติสซึ่มหายไป เกิดภยันตรายที่เป็นผลของรังสีแกมม่าจากหลุมดำ (black hole) ของกาแล็กซีทางช้างเผือก

ไม่มีใครรู้ จริงๆ แล้วไม่มีใครเชื่อว่า ดวงอาทิตย์เราเคยมีช่องเปิดที่ปิด-เปิดโดยอัตโนมัติ (magnetic portal) ที่เปิด-ปิดในทุกๆ 8 นาที ขนาดใหญ่รูปทรงกระบอกใหญ่เกือบเท่าโลกของเรา ช่องเปิดนี่ติดต่อพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าระหว่างดวงอาทิตย์กับสนามแม่เหล็กโลกที่ไม่มีมาก่อน นับตั้งแต่เราได้ติดตามดูดวงอาทิตย์ทางวิทยาศาสตร์มาหลายร้อยปีมานี้ แต่ก่อนหน้านั้นเราไม่รู้โดยเฉพาะในระหว่างการย้ายขั้วโลกเหนือ (ซึ่งเคยมีการย้ายมาแล้วหลายครั้ง ร่วม 16 ครั้งในหลายล้านปีมานี้) ครั้งสุดท้ายที่จบลงเมื่อ 12,000 ปีมานี้ที่ขั้วโลกเหนืออยู่ที่อ่าวฮัดสัน - การย้ายที่ของขั้วโลกเหนือ (ขั้วโลกใต้ไม่เคยย้ายที่เลยเท่าที่รู้ภายในเกือบ 600 ล้านปี) ไม่เคยเลยที่จะย้ายเกิน 30 ดีกรี (ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นได้มีพูดไว้ในหนังสือของชาร์ลส์ แฮปกูด ซึ่งไอน์สไตน์สนับสนุนและเขียนคำเกริ่นนำยาวๆ (ให้ดู John White : Pole Shift, Scientific Predictions, 1990) และมักจะเกิดขึ้นพร้อมๆ กันกับการลดลงหรือหายไปหมดของสนามจีโอแม็กเนติกเหมือนสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มีแผ่นดินใหวและภูเขาไฟใกล้ระเบิดเหมือนกับสภาพโลกในปัจจุบันนี้ มีจุดดำของดวงอาทิตย์จะหายไปหมดหรือเหลือน้อยเต็มทีเหมือนสภาพดวงอาทิตย์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มีการเปลี่ยนแปลงของดินฟ้าอากาศและฤดูกาลเหมือนสภาพโลกในปัจจุบันนี้ มีอย่างหนึ่งที่เรามีในปัจจุบัน แต่เราก็ไม่รู้ว่าเมื่อมีการย้ายที่ของขั้วโลกเหนือครั้งที่แล้วๆ ดวงอาทิตย์จะมีช่องเปิด (magnetic portal) เช่นที่เรามีในช่วงนี้หรือไม่ ส่วนอีกสองอย่างที่ในปัจจุบันโลกเราไม่มีหรือยังไม่มี คือยุคน้ำแข็งใหญ่หรือย่อย (ice age or little ice age) กับการย้ายที่ของขั้วโลกเหนือ (polar shift) แต่ทั้งสองอย่างนั้น ทางวิทยาศาสตร์เรารู้ว่า มันเกิดช้าหรือเร็ว หรือเมื่อไรก็ได้

ฤดูกาลที่โลกประสบกับความหนาวเย็นจัดประดุจยุคน้ำแข็งเล็กหรือใหญ่มาเยือนเช่นในอดีตเมื่อ 300-500 ปีที่แล้วเรียกกันว่ามูแอนเตอร์มินิมัม (Muander minimum) เมื่อจุดดำของดวงอาทิตย์หายไปแทบหมด (คือเหลือไม่ถึง 50 จุดจากหมื่นๆ จุดที่เคยมี) และความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ลดลงอย่างมาก สถานภาพของจุดดำและความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กก็ยังเป็นเหมือนสภาพปัจจุบันของดวงอาทิตย์และโลก (มีทั้งการหายไปของจุดดำและความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์กับการหายไปของแมกนีโตสเฟียร์และแผ่นดินไหวภูเขาไฟทำท่าจะระเบิดของโลก) ในปัจจุบันเพียงแต่โลกยังไม่มียุคน้ำแข็งเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดทำให้ผู้เขียนเชื่อว่า อย่างน้อย โลกและมนุษยชาติจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงของสังคมวัฒนธรรมอย่างใหญ่หลวงที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในช่วงนี้ ไม่จำเป็นต้อง 2012-13 หรือว่าจำเป็นต้อง - ก็ได้ อย่าลืมว่ากราฟที่ศูนย์สังเกตดวงอาทิตย์ (NSO) บอกว่า จุดดำและความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กดวงอาทิตย์จะเหลือน้อยกว่าครึ่งในปี 2012-13 และดวงอาทิตย์จะหมุนรอบตัวเองช้าลงด้วย แต่อย่างมาก โลกจะมีการย้ายที่ของขั้วโลกเหนือพ่วงยุคน้ำแข็งจริงๆ พร้อมๆ กับมนุษย์ - สัตว์โลกจะเหลือน้อยลงเพราะสวิตช์ของสายพานกัลฟ์สตรีมหยุดลงด้วย

ทั้งหมดนี้เป็นการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ที่ผู้เขียนรู้ - คิด - และเชื่อเท่านั้น.
 
http://www.thaipost.net/sunday/100110/16138

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.433 วินาที กับ 28 คำสั่ง

Google visited last this page 01 กรกฎาคม 2568 21:52:52