[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 00:41:03 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: จิตอยู่ที่สมองหรือ แล้วผีหัวขาด มันไม่มีสมองแล้ว ก็ไม่มีจิตใช่ไหม?  (อ่าน 1946 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
I WILL BE BACK
นักโพสท์ระดับ 3
***

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 10


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2555 18:49:22 »

มีคนไปถามผมในเว็บเว็บหนึ่งว่า  จิตคือสมอง หรือสมองคือจิต ใช่หรือเปล่า?

ตอบ

ตอนที่เราเป็นมนุษย์ จิตคือสมอง และระบบประสาททั้งหมด  เพราะเราจดจำได้(สัญญาขันธ์) รู้สึกได้(เวทนาขันธ์) คิดเรื่องราวสารพัดได้(สังขารขันธ์) เราต้องใช้สมองและระบบประสาททั้งหมด 
- ดังนั้น เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ ซึ่งเป็นจิต ก็คือ สมอง และระบบประสาททั้งหมด 

แล้วรูปขันธ์ วิญญาณขันธ์ล่ะ  มันก็เป็นจิตด้วยนะ....ใช่

รูปขันธ์ วิญญาณขันธ์ = กาย พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ตถาคตเรียก ร่างกายอันเป็นที่ประชุมแห่งมหาภูตทั้ง ๔ นี้ว่า จิตบ้าง มโนบ้าง วิญญาณบ้าง"

จึงไม่ต้องเลยว่า รูปขันธ์ ก็เป็นจิตด้วย วิญญาณขันธ์ก็เป็นจิตด้วยเหมือนกัน  วิญญาณขันธ์เป็นเหมือนแหล่งหลังงานให้กาย(รูปชันธฺ์) กายเปรียบเหมือนหุ่นยนต์ วิญญาณขันธ์เปรียบเหมือนแบตเตอรี่ หรือถ่านที่ใส่ในหุ่นยนต์ให้มันทำงาน

มหาวรรคที่ ๗
๑. อัสสุตวตาสูตรที่ ๑.....แต่ตถาคตเรียก ร่างกายอันเป็นที่ประชุมแห่งมหาภูตทั้ง ๔ นี้ว่า จิตบ้าง มโนบ้าง วิญญาณบ้าง


สรุป

ในระดับมนุษย์   ขันธ์ 5 หรือกาย ไม่เพียงเวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ ที่เป็นจิตมนุษย์  ทำหน้าที่เป็น สมอง และระบบประสาททั้งหมด  แม้แต่รูปขันธ์ วิญญาณขันธ์ มันก็เป็นจิตมนุษย์ด้วย รูปขันธ์(กาย)เปรียบเหมือนหุ่นยนต์ วิญญาณขันธ์เปรียบเหมือนแบตเตอรี่ หรือถ่านที่ใส่ในหุ่นยนต์ให้มันทำงาน

พูดอีกนัยหนึ่ง จิตมนุษย์ = ขันธ์ 5  (รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์)
   
   อย่างไรก็ตาม เมื่อขันธ์ 5 ที่เป็นจิตมนุษย์ ตายหรือแตกสลาย  สมองของเรามันได้คิดปรุงแต่ง จดจำ และบันทึกเรื่องราวต่างๆเอาไว้ในจิตใต้สำนึก(ภวังค์จิต)แล้ว 
   
   ผมก็เคยบอกแล้วว่า  จิตใต้สำนึก(ภวังค์จิต)มันมีโลกของมันอยู่  เรียกว่า โลกทิพย์ หรือโลกของจิตธาตุ หรือโลกของวิญญาณธาตุ  พลังงานสมองได้สร้างตัวของเรา ที่เรียกว่า กายทิพย์หรืออทิสมานกายตัวใหม่เสร็จสมบูรณ์เมื่อเราdeadแล้ว เข้าไปอยู่ในโลกแห่งจิตใต้สำนึก(ภวังค์จิต)
   
   ผมเป็นคนหนึ่งที่ถอดจิตได้  จึงรู้ว่า กายทิพย์หรือกายฝันของเราในจิตใต้สำนึก(ภวังค์จิต)...มันมีอยู่  และมันก็มีที่อยู่ของกายทิพย์(กายฝัน)ด้วย คือ นรก/สวรรค์/พรหมโลก   พระพุทธเจ้าและฤาษีต่างๆ เป็นผู้ที่เข้าฌาน 4 ได้ และถอดจิตได้  พวกท่านจึงถอดจิตไปดูนรก/สวรรค์/พรหมโลก แล้วนำมาบอกมนุษย์ธรรมดา
   
   จิตของพระพุทธเจ้าสงบที่สุดแล้ว และด้วยบุญบารมีที่สะสมมามากมาย (ผมจำไม่ได้ว่ากี่กัปกี่กัลป์)  ทำให้พระพุทธองค์สามารถเปิดห้องจิตในจิตใต้สำนึกได้ทุกบาน  ทำให้เข้าไปดูอดีตชาติได้ไม่สิ้นสุด แล้วยังท่องเที่ยวดูโลกและจักรวาลอื่นๆในทุกมิติได้ด้วย  เพราะแม่กุญแจลับเปิดเข้าไปในโลกและจักรวาลต่างๆทุกมิติ  มันอยู่ในจิตใต้สำนึก(ภวังค์จิต)  ส่วนลูกกุญแจมันก็คือบุญบารมีของเรานั่นเอง
   
  ในระดับกายทิพย์ จิตคือสมองของกายทิพย์หรือเปล่า
   
   กายทิพย์เป็นพลังงานอย่างหนึ่งที่ออกจากสมองตอนเป็นมนุษย์อยู่  พลังงานกายทิพย์นี้  ถ้ามันมีพลังงานด้านลบมาก คือทำบาปมาก  กายทิพย์มันก็หนักตอนอยู่ในโลกของจิตใต้สำนึก  พลังงานกายทิพย์นี้  ถ้ามันมีพลังงานด้านบวกมาก คือทำบุญมามาก  กายทิพย์มันก็เบา
   
 การแสดงออกมาภายนอกโลกแห่งจิตใต้สำนึก(ภวังค์จิต) คือ แสดงเป็นโลกและจักรวาล  
 
   คนที่มีพลังงานด้านบวกมาก คือทำบุญมามาก  กายทิพย์มันก็เบา  มันก็ต้องลอยขึ้นไป ยิ่งบุญมาก ก็ยิ่งลอยสูงมาก สวรรค์มันจึงอยู่บนท้องฟ้าและในอวกาศนั่นเอง สวรรค์ชั้นจาตุ จึงอยู่ต่ำกว่าดาวดึงส์  ชั้นปรมินก็จะอยู่สูงไปไกลกว่าโลกมากๆๆๆ
   
   ส่วนนรกมันก็เป็นดาวอีกดวงในอวกาศนั่นเอง  ไม่ได้อยู่ใต้พื้นดินแต่อย่างใด  แต่ในจิตมันจะดูเหมือนถูกดูดเข้าไปในอุโมงค์  สวรรค์ก็เหมือนลอยขึ้นไปด้านบน  หรือขึ้นลิฟต์
   
   การแสดงออกภายในโลกแห่งจิตใต้สำนึก(ภวังค์จิต) ทั้งสวรรค์นรกพรหมโลก  เป็นเพียงการเปลี่ยนภาพหรือมิติของจิตใต้สำนึกเท่านั้นเอง คนทำบาปมากก็เปลี่ยนภาพหรือมิติไม่ได้  ต้องอยู่ในภาพที่แย่และเลวร้ายตลอด   
       
   
      คราวนี้มาดูหลักฐานพุทธพจน์บ้างว่า ในระดับกายทิพย์ หรือนามกาย(อทิสมานกาย) จิตคือสมองของกายทิพย์หรือเปล่า
     
      พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอยู่ในมหานิทานสูตร พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐ ว่า:
         
         "ดูกรอานนท์เพราะนามรูปเป็นปัจจัยดังนี้แล จึงเกิดวิญญาณ
         เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดนามรูป..."
         
      และในสูตรที่ ๕ มหาวรรค อภิสมยสํยุตต์ นิทาน. สํ. ๑๖/๑๒๖/๒๕๐. ตรัสแก่ภิกษุ ท. ที่เชตวัน.
           
      ทรงค้นลูกโซ่แห่งทุกข์ ก่อนตรัสรู้
         
            ...เพราะ วิญญาณ นั่นแล มีอยู่ นามรูป จึงได้มี : เพราะมีวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนาม
         รูป" ดังนี้.
         
         ภิกษุ ท.! ความฉงนนี้ได้เกิดขึ้นแก่เราว่า "เมื่ออะไรมีอยู่หนอ วิญญาณ จึงได้มี : เพราะมีอะไรเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ" ดังนี้.
         
         ภิกษุ ท.! ความรู้สึกอย่างยิ่งด้วยปัญญา เพราะการทำในใจโดยแยบคายได้เกิดขึ้นแก่เราว่า "เพราะ นามรูป นั่นแล มีอยู่ วิญญาณ จึงได้มี : เพราะมีนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ" ดังนี้.
         
         ภิกษุ ท.! ความรู้แจ้งนี้ได้เกิดขึ้นแก่เราว่า "วิญญาณนี้ ย่อมเวียนกลับจากนามรูป : ย่อมไม่เลยไปอื่น; ด้วยเหตุเพียงเท่านี้ สัตว์โลกนี้ พึงเกิดบ้าง พึงแก่บ้าง พึงตายบ้าง พึงจุติบ้าง พึงอุบัติบ้าง : ข้อนี้ได้แก่การที่ เพราะมีนามรูป เป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ; เพราะมีวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป


      วิญญาณ(ธาตุ)เป็นปัจจัยให้เกิดนามรูป หรือ ขันธ์ 5 ที่เป็นจิตมนุษย์ - อธิบายไปแล้วว่าขันธ์ 5 ของมนุษย์ทั้งหมดนั่นแหละคือจิต
     
      นามรูป(ขันธ์ 5)  เป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ(ธาตุ) = กายมนุษย์ที่มีสมองเป็นหลักใหญ่ที่สุดในการคิดปรุงแต่ง ก็เป็นปัจจัยให้เกิดวิญญาณ(ธาตุ)ดวงใหม่ขึ้นมานั่นเอง
     
      แล้วไอ้ตัววิญญาณ(ธาตุ) หรืออทิสมานกาย หรือกายทิพย์ หรือนามกายในโลกวิญญาณ มันก็มีสมองเหมือนกันนี่ มันก็ต้องเป็นจิตเหมือนกันดิ  จะว่าใช่ก็ได้  ไม่ใช่ก็ได้  เพราะคราวนี้นามกายในโลกวิญญาณ  มันเกิดจากพลังงานความคิดของมนุษย์ ซึ่งเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง  แล้วเอาสมองเป็นตัวคิด มันเลยมีหัวมีสมองของวิญญาณธาตุ
     
      ผีหัวขาด....มันไม่มีสมองแล้ว  มันคิดปรุงแต่งได้ยังไงหว่า  จิตซึ่งเป็นพลังงานต่างหาก เป็นตัวคิดปรุงแต่ง  พระพุทธเจ้าจึงเรียกพลังงานจิตตัวนี้ว่า นามกาย  คือทุกจุตในร่างมายา - กายทิพย์ หรือนามกาย(อทิสมานกาย นี่แหละ คือจิต
     
      สรุป
     
      จิตของมนุษย์ คือ ขันธ์ 5 โดยมีส่วนสมองทำหน้าที่สำคัญในการคิดปรุงแต่ง(สังขารขันธ์) จดจำ(สัญญาขันธ์) รู้สึก(เวทนาขันธ์)
     
      จิตของอทิสมานกาย คือ ทุกส่วนของนามกายหรือกายทิพย์ = จิต
     
      .....ยังมีจิตของธรรมกาย และจิตของนิพพานอีก  แต่เรื่องพวกนี้ต้องไว้คราวหน้า.....

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪
ลั้ลลา
ผู้ดูแลบ้านสุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +8/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 2097


【ツ】ต้นไม้แห่งแสง

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Firefox 10.0.1 Firefox 10.0.1


หน้ากู
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 17 กุมภาพันธ์ 2555 14:14:41 »

อ้างถึง
.....ยังมีจิตของธรรมกาย และจิตของนิพพานอีก  แต่เรื่องพวกนี้ต้องไว้คราวหน้า.....

พอเถอะนะ อย่าง phonsak อย่ามีคำว่าคราวหน้าอีกเลย
รู้ไหมช่วงที่ phonsak หายตัวไปนาน ทุกเว็บต่างอยู่กันอย่างมีความสุข
พวกผู้ดูแลเว็บอย่างผมก็ไม่ต้องเหนื่อยไม่ต้องมาปวดหัว
บันทึกการเข้า

เราช่วยกันนำต้นรักที่เพาะได้
   ส่งไปตาม บ้านที่ต้องการ
       อยากจะได้...
   หรืออยากจะเติม
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.413 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 25 กุมภาพันธ์ 2567 16:17:38