[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
19 เมษายน 2567 23:43:01 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รำลึกถึงพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ที่พิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์  (อ่าน 4147 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5444


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 9.0 MS Internet Explorer 9.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 01 มีนาคม 2556 18:58:35 »

.

แสงเทียนสิโชติช่วง  รุจิโรจน์ล้านนาไทย
ส่องดาวจุติใน  คุ้มเจ้าหลวงนครพิงค์
เฉิดโฉมบรรโลมลาน   ชนกล่าวขานคือยอดหญิง
แห่งลุ่มลำน้ำปิง   สืบสายใยไทยล้านนา
สนองเบื้องพระยุคลบาท   ปิยมหาราชกษัตรา
ทรงยศพระราชชายา   เจ้าดารารัศมี
                 ม.ร.ว. อรฉัตร  ซองทอง - ร้อยกรอง


พระตำหนักดาราภิรมย์
อำเภอแม่ริม  จังหวัดเชียงใหม่

[พระราชชายาเจ้าดารารัศมี
พระราชชายาเจ้าดารารัศมี  พระภริยาเจ้าพระองค์หนึ่ง ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีส่วนสำคัญในการผนวกล้านนาเข้าเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรไทย  นอกจากนี้ยังทรงมีบทบาทสำคัญในการศึกษารวบรวมเรื่องราวด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี ตลอดจนฟื้นฟูส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีของล้านนาให้คงความเป็นเอกลักษณ์ตราบจนทุกวันนี้

พระราชชายาเจ้าดารารัศมีทรงเป็นพระธิดาพระเจ้าอินทวิชยานนท์  เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ พระองค์ที่ ๗ ประสูติแต่แม่เจ้าเทพไกรสร เมื่อวันอังคารที่ ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๑๖ ณ คุ้มหลวงกลางนครเชียงใหม่  ทรงได้รับการศึกษาจากพระชนกชนนีในเรื่องอักษรไทยเหนือและใต้เช่นเดียวกับกุลบุตรกุลธิดาในสมัยนั้น   เมื่อเจ้าดารารัศมีทรงเจริญพระชันษาได้ ๑๓ ปี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าอินทวิชยานนท์จัดพิธีโสกันต์พร้อมกับพระราชทานเครื่องโสกันต์ระดับเจ้าฟ้าให้เจ้าดารารัศมีทรงในพิธีอีกด้วย


เมื่อเจ้าดารารัศมีได้ตามเสด็จพระบิดาซึ่งเสด็จมาร่วมงานพระราชพิธีลงสรงและเฉลิมพระนามสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯให้เจ้าดารารัศมีถวายตัวเข้ารับราชการในพระราชสำนักฝ่ายใน  ตำแหน่งเจ้าจอม เมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๒๙   และโปรดเกล้าสถาปนาเป็นพระราชชายา เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๑  เจ้าดารารัศมีมีพระราชธิดาพระองค์หนึ่ง พระนามว่า พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าวิมลนาคนพีสี  แต่ทรงเจริญพระชันษาเพียง ๓ ปีเศษ ก็ประชวรสิ้นพระชนม์

เมื่อพระเจ้าอินทวิชยานนท์พระบิดาถึงแก่พิราลัย  เจ้าดารารัศมีจึงทรงกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเสด็จขึ้นไปเยี่ยมนครเชียงใหม่ เนื่องจากได้เสด็จประทับที่กรุงเทพฯ เป็นเวลาถึง ๒๒ ปี  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตอีกทั้งยังโปรดเกล้าฯ จัดงานพระราชพิธีสถาปนาพระอิสริยยศเจ้าดารัศมี จากเจ้าจอมมารดาขึ้นเป็นพระราชชายาเจ้าดารารัศมี


แต่หลังจากพระราชชายาฯ เสด็จกลับจากเชียงใหม่ได้เพียง ๑๐ เดือน ก็ต้องทรงประสบความเศร้าโศกอันยิ่งใหญ่ เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๓  เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเถลิงถวัลยราชสมบัติสืบต่อมา พระราชชายาฯ ยังคงประทับ ณ พระตำหนักสวนฝรั่งกังไส พระราชวังดุสิต  จนกระทั่ง ปี พ.ศ. ๒๔๕๗  จึงได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเสด็จกลับมาประทับ ณ เชียงใหม่ บ้านเกิดเมืองนอน ในชั้นแรกโปรดประทับ ณ คุ้มท่าเจดีย์กิ่วริมแม่น้ำปิง ของเจ้าแก้วนวรัฐผู้เป็นพระเชษฐา

จนถึง พ.ศ. ๒๔๗๒  พระชนมายุประมาณ ๕๖ พรรษา ย่างเข้าเขตปัจฉิมวัย ทรงมีพระประสงค์ประทับอยู่ที่ซึ่งสงบเงียบ จึงทรงซื้อที่นาเนื้อที่ประมาณ ๗ ไร่เศษ อยู่อำเภอแม่ริม ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ ๑๔ กิโลเมตร และสร้างพระตำหนักขนาดเล็ก ครึ่งตึกครึ่งไม้หลังคาทรงปั้นหยา  ประทานนามว่า ตำหนักดาราภิรมย์  และบริเวณทั้งหมดเรียก สวนเจ้าสบาย

เมื่อประทับอยู่ ณ พระตำหนักดาราภิรมย์  พระราชชายาฯ ทรงสนพระทัยการทำสวน  โปรดให้เจ้าชื่น สิโรรส  พระญาติคนหนึ่งซึ่งเคยรับราชการเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนฝึกหัดครูกสิกรรมประจำจังหวัด  ปัจจุบันคือ วิทยาลัยครูเชียงใหม่มาเป็นผู้ดูแลบุกเบิกที่นาอำเภอแม่ริมให้กลายเป็นที่สวน นับเป็นสวนแห่งแรกในเชียงใหม่ที่ใช้เครื่องมือและวิธีการทำสวนตามหลักวิชาการเกษตรแผนใหม่  พันธุ์พืชที่โปรดให้นำมาปลูกโดยมากนำพันธุ์มาจากต่างประเทศ เช่น หน่อไม้ฝรั่ง เชอรี่ บีทรูท แครอท กะหล่ำปลีสีม่วง และข้าวโพดพันธุ์ฝรั่ง


นอกจากนี้ยังทรงนำพันธุ์มะขามหวาน ลางสาด มังคุด และแอปเปิลเข้ามาทดลองปลูก เมื่อพืชพันธุ์ใดที่สามารถปลูกได้ผลผลิตดี ก็จะโปรดให้นำพันธุ์พืชนั้นไปแนะนำให้ราษฎรในแถบนั้นได้ปลูกด้วย  นอกจากพันธุ์พืชดังกล่าวแล้วยังมีพันธุ์ไม้ดอกต่างๆ ที่โปรดมากที่สุดคือ ดอกกุหลาบ ทรงเป็นสมาชิกสมาคมกุหลาบแห่งประเทศอังกฤษ ทรงผสมพันธุ์กุหลาบด้วยพระองค์เอง จนได้กุหลาบพันธุ์ใหม่ดอกใหญ่สีชมพูกลิ่นหอมเย็น ทรงตั้งชื่อกุหลาบพันธุ์นี้เป็นพระบรมราชานุสรณ์ในพระบรมราชสวามี ว่าจุฬาลงกรณ์ จึงอาจนับได้ว่าสวนเจ้าสบายของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี เป็นสถานที่ทดลองการเกษตรแผนใหม่เป็นแห่งแรกของจังหวัดเชียงใหม่

พระราชชายาเจ้าดารารัศมีทรงดำเนินพระชนมชีพในบั้นปลายอย่างสงบสุข ณ ตำหนักดาราภิรมย์ สวนเจ้าสบาย จนถึง พ.ศ. ๒๔๗๖  จึงเริ่มประชวรพระโรคปัปผาสะพิการ (โรคปอด) เมื่อพระอาการทรุดหนักลง เจ้าหลวงแก้วนวรัฐพระเชษฐา จึงเชิญเสด็จให้ทรงย้ายจากตำหนักดาราภิรมย์ มาประทับอยู่ ณ คุ้มรินแก้ว ในตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อรักษาพระโรคได้สะดวก  แต่พระอาการมีแต่ทรงกับทรุดจนสิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๖ ณ คุ้มรินแก้ว รวมสิริพระชันษาได้ ๖๐ ปี  พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดงานพระศพเป็นงานพิธีหลวง  พระอัฐิส่วนหนึ่งบรรจุไว้ที่พระกู่ วัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่  ซึ่งทรงสร้างขึ้นด้วยพระองค์เอง  อีกส่วนหนึ่งอัญเชิญไปบรรจุไว้ ณ สุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

เมื่อพระราชชายาเจ้าดารารัศมีสิ้นพระชนม์แล้ว ตำหนักดาราภิรมย์และสวนเจ้าสบายตกเป็นสมบัติของทายาท คือ เจ้าลดาคำ ณ เชียงใหม่ พระนัดดาที่ทรงเลี้ยงมาแต่เยาว์ และธิดา ๒ คน ของเจ้าลดาคำ  คือ ท่านผู้หญิงฉัตรสุดา  วงศ์ทองศรี และ หม่อเจ้าภัทรลดา  ดิศกุล  จนถึง พ.ศ. ๒๔๙๖  สมัยพลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมตำรวจ และมีนโยบายปราบปรามโจรจีนฮ่อที่ทำการค้าฝิ่นอย่างเด็ดขาด จำเป็นต้องมีกองบัญชาการรักษาชายแดนภาคเหนือ กรมตำรวจในนามของกระทรวงมหาดไทย จึงเจรจาขอซื้อที่ดินส่วนหนึ่งของสวนเจ้าสบายจากทายาท ตั้งเป็นกองบัญชาการตำรวจรักษาชายแดน โดยมีตำหนักดาราภิรมย์เป็นที่ตั้งกองบัญชาการ ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ ๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๙๖  และตั้งชื่อสถานที่ตั้งกองบัญชาการหน่วยนี้ตามพระนามขององค์เจ้าของสถานที่ว่า “ค่ายดารารัศมี”


มูลเหตุที่พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ทรงเข้ามามีบทบาทในการประสานความสัมพันธ์ระหว่างล้านนาและราชอาณาจักรไทย มีเรื่องราวความเป็นมา ดังนี้

พระเจ้าอินทวิชยานนท์ พระบิดาในพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ทรงสืบเชื้อสายมาจากพระยาสุลวะฤาไชยสงคราม (หนานทิพย์ช้าง) ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มการรวบรวมล้านนาให้เป็นปึกแผ่นมั่นคง แต่ก็ยังคงอยู่ในอำนาจการปกครองของพม่า จนถึงรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เชื้อสายพระยาสุลวะฤาไชยสงคราม ซึ่งเรียกกันว่า เจ้าเจ็ดตนได้ขอให้ไทยช่วยเหลือล้านนาให้พ้นจากการปกครองของพม่า ครั้นพ้นจากอำนาจพม่าแล้ว เจ้าเจ็ดตนจึงได้นำล้านนาเข้าสวามิภักดิ์ต่อไทยในฐานะประเทศราช

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ตรงกับสมัยที่พระเจ้าอินทวิชยานนท์เป็นเจ้าเมืองเชียงใหม่  ชาวยุโรปชาติต่างๆ โดยเฉพาะอังกฤษ ได้เข้าครอบครองดินแดนหัวเมืองมอญของพม่าบางส่วน  และเริ่มแผ่ขยายอิทธิพลเข้ามาสู่ล้านนา   เริ่มจากการติดต่อค้าขายเล็กๆ น้อยๆ จนถึงธุรกิจสำคัญ คือ กิจการทำป่าไม้  ซึ่งขณะนั้นทางเมืองหลวงจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเพราะถือเป็นทรัพย์สินของเจ้าเมือง  แต่กิจการให้เช่าทำป่าไม้ดังกล่าวได้สร้างปัญหาทางด้านการเมือง เพราะไม่มีกฎระเบียบแน่นอน จึงมักเกิดการขัดแย้งทะเลาะวิวาทระหว่างคนอังกฤษและคนในบังคับอังกฤษกับชาวเมืองล้านนา  เป็นเรื่องราวฟ้องร้องให้เมืองหลวงต้องเข้าไปตัดสินเนืองๆ นับเป็นอันตรายใหญ่หลวงต่อเอกราชของชาติ  เพราะจะเป็นโอกาสให้ชาวยุโรป ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำคัญในการแสวงหาอาณานิคมในภูมิภาคนี้ได้เข้ามามีส่วนในการบริหารประเทศ โดยอ้างว่าเพื่อระงับความวุ่นวายที่เกิดขึ้น


พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงต้องทรงปรับเปลี่ยนนโยบายการปกครองหัวเมืองที่แต่เดิมต่างปกครองตนเอง โดยรวมเข้าเป็นกลุ่ม เรียก มณฑล และดึงอำนาจการปกครองเข้าสู่ศูนย์กลางคือ เมืองหลวง โดยส่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ทรงไว้วางพระราชหฤทัยให้ออกไปเป็นข้าหลวงปกครอง  ด้วยเหตุนี้ ล้านนาจึงได้กลายเป็นมณฑลพายัพส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรไทย

ในการดำเนินพระราชวิเทโศบายผนวกอาณาจักรล้านนาเข้าเป็นมณฑลหนึ่งในการปกครองของไทยครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงดำเนินการอย่างนุ่มนวลและรอบคอบ เพื่อมิให้เกิดการกระทบกระเทือนกระด้างกระเดื่อง วิธีหนึ่ง คือ การผูกความสัมพันธ์กันฉันท์เครือญาติดังกรณีที่ทรงรับเจ้าดารารัศมี พระธิดาพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เป็นพระภริยาเจ้า  ตำแหน่ง พระราชชายา


พระตำหนักดาราภิรมย์ สร้างขึ้นหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ทรงย้ายกลับมาประทับที่เชียงใหม่หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต

ห้องต่างๆ ในพระตำหนักดาราภิรมย์ (ชั้นบน) ประกอบด้วย
๑.โถงทางเดิน  จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระประวัต  พระตำหนักที่ประทับในพระราชชายาเจ้าดารารัศมี
๒.ห้องรับแขก  จัดแสดงของถวายอันเกี่ยวเนื่องกับพระราชชายาเจ้าดารารัศมี และเครื่องเรือนร่วมสมัย
๓.ห้องบรรทม  จัดแสดงของถวายอันเกี่ยวเนื่องกับพระราชชายาเจ้าดารารัศมี และเครื่องเรือนร่วมสมัย
๔.ห้องพักผ่อนอิริยาบถ จัดแสดงจานชาม เครื่องเสวย ของใช้ส่วนพระองค์และเครื่องดนตรี
๕.ห้องจัดแสดงพระราชวงศ์  จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชวงศ์ในสายสกัลเจ้าหลวงเชียงใหม่
๖.ห้องจัดแสดงฉลองพระองค์  ผ้าทอที่พระราชชายาฯ ทรงออกแบบลวดลายและส่งเสริมการทอชุดการแสดงที่พระราชชายาฯ ได้ทรงฟื้นฟู
    และทรงดัดแปลงศิลปะภาคกลางให้เข้ากับศิลปะภาคเหนือ
๗.ห้องสรง


ชั้นล่าง จัดแสดงเครื่องมือเกษตร ที่ทรงใช้ในการทดลองการเกษตรแผนใหม่ ในส่วนเจ้าสบาย นอกจากนั้นยังมีเครื่องทอผ้า ซึ่งใช้ทอผ้าสำหรับพระราชชายาฯ โดยเฉพาะ











วัน - เวลา เปิดพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชม
วันอังคาร - วันอาทิตย์  เวลา ๙.๐๐ - ๑๗.๐๐ น.
(วันจันทร์ปิดทำการ)
อัตราค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์
ราคา ๒๐ บาท
พระสงฆ์/นักเรียนในเครื่องแบบ ฟรี
โทรศัพท์ ๐๕๓-๒๙๙-๑๗๕  โทรสาร ๐๕๓-๒๙๘-๐๖๑

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 กันยายน 2558 19:11:53 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.461 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 27 มีนาคม 2567 13:01:08