[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
26 เมษายน 2567 19:38:33 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความรัก 10 มิติ (Theory of the 10 Dimensions of Love) โดย สมณะโพธิรักษ์  (อ่าน 2788 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5065


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 15 มิถุนายน 2553 20:52:34 »


 
(จากหนังสือ ความรัก ๑๐ มิติ โดยสมณะโพธิรักษ์)
 
---------------------------------------------------------
 
มิติที่ ๑๐ คือ ความรักของผู้ที่ "จบสัจจะแห่งความรัก" สำเร็จสมบูรณ์สำหรับประโยชน์ตนแล้ว ตนจึง "ไม่มีความรัก" สำหรับตนอีก เหลือแต่ "ความรัก" ผู้อื่น หรือความรักที่เป็นอุดมการณ์ ความรักเพื่อ มวลมนุษยชาติ
 
"ความรัก" ที่เป็นอุดมการณ์ ขั้นมิติที่ ๑๐ นี้ก็คือ ความรักที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ผู้อื่น ชนิดสุจริตใจอย่างบริสุทธิ์แท้ จริง หรือเป็นความต้องการ "ให้" แก่ผู้อื่น ชนิดที่ "ไม่มีความลำเอียง" (ไม่มีอคติ ๔) สมดุลสมบูรณ์ที่สุด
 
เพราะความรักมิติที่ ๑๐ นี้ หากจะพูดให้ละเอียดลงไปอีกที ก็เป็นความรัก ที่ "ไม่มีความรัก" ฟังเพียงคำพูดขั้นต้นนี้ ก็คงจะงงๆ อยู่ ความจริงของสภาวะก็คือ ในจิตมีอาการ "เกิดความต้องการ" จริง แต่อาการต้องการนั้น มิใช่ "ความต้องการเพื่อตนเองจะได้ ตนเองจะมี ตนเองจะเป็น แม้แต่ตนเอง จะเสพรส" หรือ "มิใช่อาการต้องการเพื่อตนเอง จะได้เสพผล ของความต้องการนั้นๆ ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม" เรียกด้วยภาษากันว่า "ความรัก" หรือเรียกว่า "ความต้องการ" ก็ไม่ผิดเลย แต่เป็น "ความรัก-ความต้องการ" ที่มิได้ "ต้องการผลของความต้องการ จากกรรมหรือจากการกระทำนั้นๆมาเพื่อตนเอง โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง เพื่อ 'เป็นรสอร่อย' (อัสสาทะ) บำเรอตนเลย อย่างสะอาดบริสุทธิ์ที่สุด"
 
"ความรัก" ที่ไม่มีความรัก นี้ จึงแปลกไปจากความรักมิติอื่นๆ อย่างสัมบูรณ์สูงสุด โดยเฉพาะ แปลกจาก "ความรัก แบบโลกีย์" คนละโลก คนละทิศ คนละเรื่องไปเลย เพราะเป็น "ความต้องการ" ที่ "ปราศจากตัวตน" อย่างสัมบูรณ์ที่สุด ดังนั้น คำว่า "ความเห็นแก่ตัว" จึงไม่มีอย่างสะอาดบริสุทธิ์ที่สุด แต่ผู้ มี "ความรัก"มิติที่ ๑๐ นี้ แน่นอนว่า... หาก "ทำงาน" ท่านก็ต้อง ทำด้วย "ความต้องการ" หรือทำด้วย "ความอยากได้" ด้วย "ความยินดี" ด้วย "ความประสงค์" ด้วย "ความมุ่งหมาย" ด้วย "ความรัก" ด้วย "ความปรารถนา" ด้วย "ความเผื่อแผ่" ด้วย "ความเกื้อกูล" ฯลฯ อะไรอีกมากมาย หลากหลายคำความ ที่มีนัยะนี้ ทว่าท่าน "ทำ" ชนิดไม่มีตัวตนของท่านต้องการมา ให้ท่านได้ ท่านมี ท่านเป็นเลย
 
แม้คำว่า "เพื่อท่านจะได้เป็นพระพุทธเจ้า" ท่านก็รู้แจ้งเป็นที่สุดแล้วว่า ท่านไม่ต้อง "อยากได้อยากเป็น" เลย เพราะหากท่าน "ทำ" อะไรที่เป็นสมรรถนะ เป็นทักษะใดๆ อันจะพึงเกิด พึงเป็น ที่พึงเรียกว่า "บารมี ๑๐ ทัศ" ก็ตาม ที่จะสะสมตามกรรม มันก็ย่อมเป็นไปตาม "กรรม" ที่ท่านต้องอุตสาหะวิริยะนั้นๆ ถ้า แม้นไม่ "ทำ" มันก็ไม่เกิดไม่เป็นไม่มี ไม่ได้สั่งสม หากท่าน "ทำ" มันก็เกิดมันก็มีมันก็สะสม ท่านก็ไม่เห็นจะต้องการ ไม่เห็นจะต้องอยากได้ มันก็เป็นของท่านโดยธรรม โดยอัตโนมัติอยู่แล้ว
 
เมื่อท่าน "ทำ" ลงไปจริง เท่าที่ท่านสามารถอุตสาหะ "มีกรรม" หรือ "มีการกระทำ" "ทำ" ในที่ลับ "ทำ" ในที่แจ้ง ใครอื่นจะรู้จะเห็น หรือไม่รู้ไม่เห็นด้วยก็ตาม ไม่ว่า "ทำ" ทางกาย (กายกรรม) "ทำ" ทางวาจา (วจีกรรม) "ทำ" ทางใจ (มโนกรรม) ล้วนเป็นของท่านจริงทั้งสิ้น ไม่มีขาดหกตกหล่น หรือไม่มีรั่วซึม สูญหายไปไหน แม้แต่นิดน้อยยิ่งกว่าธุลี ใครแบ่ง "กรรม" ใครแย่ง "การกระทำ" ของท่านไปไม่ได้ ท่านจะไม่รับ ไม่เอาเป็นของท่านก็ไม่ได้ เพราะ "กัมมัสสโกมหิ กัมมทายาโท กัมมโยนิ กัมมพันธุ กัมมปฏิสรโณ" เป็น "ทรัพย์" ของตนที่แน่นอนที่สุด ยิ่งกว่าสัจจะใดๆ
 
ชีวิตที่มีของท่านจึงคือ "กรรม" ชีวิตของท่าน ท่านรู้แจ้งชัดที่สุดแล้วว่า มี "กรรม" เป็น "ทรัพย์แท้" ดังนั้น แน่นอน.. ท่านไม่ทำบาปทั้งปวง (สัพพปาปัสส อกรณัง) เด็ดขาด เพราะท่าน สามารถ "ไม่ทำ" ได้เด็ดขาดแล้วจริง ท่านทำแต่กุศลให้ถึงพร้อม (กุสลัสสูปสัมปทา) และเป็น "กุศล" ที่สะอาดบริสุทธิ์ แน่แท้ด้วย เพราะท่านได้ทำการ "ชำระจิตของตนให้ผ่องแผ้วสะอาดหมดจด" (สจิตตปริโยทปนัง) จนเสร็จแล้ว อย่างถาวรยั่งยืนแน่แท้ (ธุวัง, สัสสตัง)
 
ท่าน "ทำงาน" ก็คือ เพื่องานเท่านั้น ทำให้โลก (โลกานุกัมปา) ทำให้มนุษยชาติ ทำเพื่อความเป็นประโยชน์ ของมวลมนุษยชาติ (พหุชนหิตายะ) ทำเพื่อเป็นความสุข ของมวลมนุษยชาติ (พหุชนสุขายะ)
 
ดังนั้น "กุศล" ที่ท่านทำทั้งหลาย ย่อมมีเกิด ย่อมมีเป็น ตามจริง ถ้าจะว่า "กุศลกรรม" ที่เกิดที่เจริญนั้น เป็น "ของท่าน" โดยธรรม..ก็ใช่ แต่มันก็เป็นเพียงภาวะของ "รูปธรรม" มันย่อมมีเกิด..มีเป็น..ก็จริง แต่ภาวะของ "นามธรรม" ในจิตท่านมันมิได้มี "ตัวตน" ใดๆเกิด โดยเฉพาะไม่มี "กิเลส" ใดๆเกิดด้วยเลย
 
นั่นคือ ไม่มี "ความรัก" ที่หมายถึง "ความเห็นแก่ตัว"
 
ความจริงนั้นอาการชนิดนี้คืออาการของ "ความรู้ขั้นพิเศษ" หรือ "โลกุตรปัญญา" เต็มๆ ล้วนๆ ที่ "ต้องการทำ" อะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการกระทำทางกาย หรือวาจาหรือใจ ก็ให้เกิดผลเพื่อผู้อื่น เป็นเป้าหมายตรงนั่นเอง เพราะท่านไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ท่านทำโดยไม่มีความเสพแก่ตนแล้ว แม้แต่ความลำเอียง เพื่อ "เห็นแก่พวกของตัว" ก็ไม่มีแล้วจริง [การ "เห็นแก่พวกของตัว" นั้นก็เพื่อสร้างมวล ขึ้นมาเป็นองค์ประกอบ ให้เกื้อหนุนความได้เปรียบ อันจะมีผลต่อตนในที่สุดโดยแท้] เมื่อไม่เหลือ "ความเป็นตน (อัตตา) และของตน (อัตตนียา)" สิ้นเชิงแล้วฉะนี้ การกระทำใดๆจึงเป็น ความซื่อสัตย์สุจริต เที่ยงธรรม ที่สุด
 
ดังนั้น จึงไม่มี "ความรัก" ที่เป็นของตนเอง หรือ เพื่อตนเอง จะมีก็แต่ "ความรัก" ที่เป็นของผู้อื่น หรือท่านจะรักเหมือนผู้อื่นเขารักก็ได้ทั้งนั้น แต่ความรักของท่านเป็นไปเพื่อผู้อื่นเป็นหลัก ที่ตนเองได้นั้น เป็นเพียงผลพลอยได้ ตามธรรมดา
 
ดังนั้น หากจะมี "ความรัก" ท่านก็สามารถมีได้หลายแบบ
 
ท่านสามารถมี "ความรักแบบ 'อมตชน' ก็ได้"
ท่านสามารถมี "ความรักแบบ 'อาริยชน' ก็ได้"
ท่านสามารถมี "ความรักแบบ 'พระเจ้า' ก็ได้"
ท่านสามารถมี "ความรักแบบ 'กัลยาณปุถุชน' ก็ได้"
ยกเว้น "ความรักแบบ 'ปุถุชน' ไม่มีอีกแล้ว ท่านมีไม่ได้"
 
สรุปแล้วก็คือ ท่านสามารถมี "ความรักแบบโพธิสัตว์" ตามฐานะของแต่ละท่าน เท่าที่ "ภูมิจริง" ของแต่ละท่านมี หรือเท่าที่ท่านได้สร้าง สะสมบารมีมาเท่าใด ก็เท่านั้น ของแต่ละท่าน
 
ลองนึกทบทวนดูซิ ที่ได้อธิบายมาแล้วในมิติที่ ๘ ว่า "ความรัก" นั้น มันคืออะไร? ความรัก ก็คือ "ความปรารถนา" หรือแปลว่า "ความต้องการ" และแยกเป็นความต้องการ "ให้" กับ ความต้องการ "เอา" สำหรับผู้มีความรักมิติที่ ๑๐ นี้ มีแต่ความต้องการ "ให้" ไม่มีความต้องการ "เอา" แล้วนั่นเอง
 
และคงพอจำได้ ภาษาทางศาสนาเรียก "ความต้องการ" ว่า ตัณหา ซึ่งแบ่งออกเป็น
 
๑. กามตัณหา
๒. ภวตัณหา
๓. วิภวตัณหา
 
แต่สำหรับผู้มีความรักมิติที่ ๑๐ นี้ มีก็เพียงวิภวตัณหาเท่านั้น ไม่มีกามตัณหา ไม่มีภวตัณหาแล้ว อีกทั้งวิภวตัณหาของผู้มีความรักระดับมิติที่ ๑๐ นี้ ก็มิใช่วิภวตัณหาที่มีคุณลักษณะ อยู่แค่ขั้น "กัลยาณปุถุชน" หรือ "อาริยชน" เท่านั้นแค่นั้น แต่เป็น วิภวตัณหา ที่มีคุณภาพถึงขั้น "อมตชน" ซึ่งสูงขึ้นๆไปตามภูมิ แห่งบารมีของพระโพธิสัตว์ แต่ละองค์กันทีเดียว
 
เพราะฉะนั้น ท่านผู้มี "ความรักขั้นมิติที่ ๑๐" จึงได้แก่บุคคลที่เป็น "อมตชน" เท่านั้น จึงจะเป็น "ความรัก มิติที่ ๑๐" ได้อย่างเข้มข้นบริสุทธิ์สัมบูรณ์จริง

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
Wow เชิญชม ภาพสเก็ตช์ 3 มิติ ฝีมือจิตรกรชิลี วัย 20 ปี
สุขใจ ไปรษณีย์
【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ 4 5826 กระทู้ล่าสุด 08 กันยายน 2554 23:29:17
โดย 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪
ทฤษฏีแห่งสรรพสิ่ง (Theory of Everything) มีจริงในพุทธศาสนา
กระบวนการ NEW AGE
มดเอ๊ก 0 3499 กระทู้ล่าสุด 26 กรกฎาคม 2559 12:34:07
โดย มดเอ๊ก
ตำนานโลกแบน ทำไม เขาเหล่านั้นถึงเชื่อว่าโลกนี้ไม่ได้มีทรงกลม (Flat Earth Theory)
วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
มดเอ๊ก 0 266 กระทู้ล่าสุด 19 กุมภาพันธ์ 2566 10:06:17
โดย มดเอ๊ก
Long Live Love อัปลักษณ์และงดงามที่เกิดจาก ‘ความรัก’
หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
มดเอ๊ก 0 141 กระทู้ล่าสุด 10 ธันวาคม 2566 18:53:50
โดย มดเอ๊ก
[ข่าวมาแรง] - 'สมณะโพธิรักษ์' เจ้าสำนักสันติอโศก ผู้นำกองทัพธรรม ต้านระบอบทักษิณ มรณภาพใน
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 37 กระทู้ล่าสุด 11 เมษายน 2567 19:34:15
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 1.983 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 24 มีนาคม 2567 18:00:31