คุณสมบัติของพุทธบริษัทที่ดี

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กิจของพุทธบริษัทที่ดีมี ๔ ประการคือ............................
๑. ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจจริง ๆ
๒. นำไปประพฤติปฏิบัติ (ประโยชน์ตน)
๓. มีส่วนช่วยเผยแพร่เกื้อกูลให้บุคคลอื่นเข้าใจและนำไปประพฤติปฏิบัติ (ประโยชน์ท่าน)
๔. สามารถปกป้อง เมื่อมีผู้กล่าวให้คลาดเคลื่อน หรือกล่าวจ้วงจาบพระธรรมวินัย ซึ่งผุ้ถามได้ถามว่าอยุ่ในพระไตรปิฎกส่วนใด จากข้อความที่กล่าวมา เป็นการแสดง ถึง พุทธ

บริษัท 4 ควรมีความเข้าใจธรรมที่ถูกต้อง เมื่อมีความเข้าถูกต้องแล้วย่อม สามารถอธิบายให้ผู้อื่นฟังได้ และไม่กล่าวผิด และผู้ใดเข้าใจผิดในธรรมก็สามารถ อธิบายได้ มาจากพระสูตรที่ว่า ดังพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกับพระยามารว่า ดูก่อนมารผู้มีบาป ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ผู้เป็นสาวก สาวิกา ของตถาคตยัง ไม่ฉลาด ไม่ได้รับแนะนำ ยังไม่แกล้วกล้า ไม่เป็นพหูสูต ไม่ทรงธรรม ไม่ปฏิบัติธรรม สมควรแก่ธรรมไม่ปฏิบัติชอบ ไม่ประพฤติตามธรรม เรียนกับอาจารย์ของตน จักบอก จักแสดง จักบัญญัติ จักแต่งตั้ง จักเปิดเผย จักจำแนก จักทำให้ตื้น จักแสดงธรรมมี ปาฏิหาริย์ ข่มขี่ปรับปวาท ที่เกิดขึ้น ให้เรียบร้อยโดยสหธรรมไม่ได้ เพียงใด ดูก่อนมาร ผู้มีบาป ตถาคตจักยังไม่ปรินิพพานเพียงนั้น มหาปรินิพพานสูตร จากข้อความเป็นคราวเมื่อ

พญามารมาทูลขอให้พระพุทธเจ้าปรินิพพาน พระพุทธเจ้า ทรงตรัสว่า เมื่อใดสาวกของเรา คือ พุทธบริษัท 4 ยังไม่เข้าใจธรรม ไม่ประพฤติปฏิบัติตามสมควรกับธรรม และพุทธบริษัท 4 ยังไม่สามารถที่จะแสดงให้ผู้อื่นได้เข้าใจ และ สามารถอธิบายผู้ที่เข้าใจผิด
เราก็ยังไม่ปรินิพพาน แต่ถ้าพุทธบริษัท 4 สามารถเข้าใจ ธรรมแล้ว ประพฤติตาม แสดงธรรมได้ และอธิบายให้ผุ้อื่นเข้าใจได้ เราก็จะปรินิพพาน ดังนั้นจากข้อความนี้ แสดงให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธองค์ที่ทรง แสดงธรรมเพื่อประโยชน์กับพุทธบริษัท 4 เพราะสิ่งที่พระองค์มุ่งหมาย คือ ให้สัตว์โลก ได้เข้าใจพระธรรมเกิดปัญญาของตนเองจนสามารถดับกิเลสและสามารถแสดงธรรม
ให้ผู้อื่นเข้าใจด้วยเพื่อจะได้ช่วย

รักษาพระศาสนา หลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคน สามารถจะกล่าวแสดงธรรมเพื่อให้ผู้อื่น เข้าใจ หรือ แก้ข้อสงสัยของผู้ทีเห็นผิด หรือ แก้ข้อกล่าวว่า พระรัตนตรัยทุกคนก็แล้วแต่การสะสมมาของแต่ละคน ที่จะสามารถ
อธิบายให้ผู้อื่นเข้าใจได้หรือไม่เพราะ บางบุคคล สำเร็จประโยชน์ตน คือ เข้าใจธรรมด้วตนเอง แต่ไม่สามารถสำเร็จประโยชน์
ผู้อื่นคือ ไม่สามารถแสดงธรรมให้ผู้อื่นเข้าใจได้แต่ที่สำคัญที่สุด คือ ประโยชน์ ของตน คือ มีความเข้าใจพระธรรม
และน้อมประพฤติตาม

ปฏิบัติ และนำไปสู่การดับ กิเลส นี่คือประโยชน์สูงสุด และเมื่อมีความเข้าใจพระธรรมแล้ว กาย วาจาก็น้อมไปใน ความเข้าใจพระธรรม ในทางที่ดี ก็เป็นประโยชน์กับผู้อื่นด้วย ในการอยู่ร่วมกัน เพราะ อยู่ด้วยความเข้าใจ ไม่เป็นพิษเป็นภัย เพราะปัญญาเป็นเครืองนำทางที่ดี ในการดำเนิน ชีวิตที่เป็นการแสดงออกทาง กาย วาจา ใจ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่ถูกต้อง และน้อมประพฤติปฏิบัติตาม ตามกำลัง ของปัญญา ก็ชื่อว่าเป็นพุทธบริษัที่ดีแล้ว

ข้อมูลจากบร์อดสนทนาธรรมมูลนิธิบ้านธรรมมะ โดยท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์และคณะวิทยากร

<table class="maeva" cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" style="width: 800px" id="sae1"> <tr><td style="width: 800px; height: 576px" colspan="2" id="saeva1"><script type="text/javascript"><![CDATA[ var oldLoad = window.onload; window.onload = function() { if (typeof(oldLoad) == "function") oldLoad(); if (typeof(aevacopy) == "function") aevacopy(); } // ]]></script><embed type="application/x-mplayer2" src="http://www.fungdham.com/download/song/allhits/18.wma" width="800px" height="576px" wmode="transparent" quality="high" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" ShowControls="True" autostart="false" autoplay="false" /></td></tr> <tr><td class="aeva_t"><a href="http://www.fungdham.com/download/song/allhits/18.wma" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.fungdham.com/download/song/allhits/18.wma</a></td><td class="aeva_q" id="aqc1"></td></tr></table>