การงานธารธรรม : ความน่าจะเป็น

[ โดย อ.มด บอร์ดเก่า ]

ในช่วงชั่วชีวิตคนคนหนึ่งนอกจากการเกิดแก่เจ็บตายอันเป็นเรื่องราวแน่นอนของชีวิตแล้ว การประสบเหตุการณ์บังเอิญ ได้คนยื่นมือมาช่วยเหลือเมื่อเกิดอุปสรรคปัญหาก็ผ่านเข้ามาไม่น้อย

หากแต่ถ้าประกอบกิจวัตรด้วยการมีสติมุ่งมั่นเพิ่มพูนความสุขและลดทอนทุกข์ของผู้อื่นตลอดมา ก็จะทำให้ความเผอิญที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดหมายชั่วครั้งชั่วคราวจากการมีคนเข้ามาช่วยเหลือแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ กลับกลายเป็นความเที่ยงแท้จริงแท้ที่เกิดสม่ำเสมอต่อเนื่องได้

เสมือนฉากชีวิตของภัณฑิรา โมสิกะ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ งานเวชปฏิบัติครอบครัวและชุมชน โรงพยาบาลนาหม่อม อ.นาหม่อม จ.สงขลา ที่ห้วงขณะขวากหนามรุมเร้าหน้าที่การงานอยู่นั้นก็มีคนมากมายเข้ามาคอยช่วยเหลือแผ้วถางทางจนวิกฤตการณ์ต่างๆ นานาเหี้ยนเตียนพังทลายลง

เนื่องด้วยการคิดดีทำดีเพื่อผู้อื่น และมีเพียงพอพร้อมที่จะให้ผู้อื่นเสมอมาของเธอนั้นเองที่เหนี่ยวนำคนมากหน้าหลายตาเข้ามาเป็นพลังสำคัญในการคลี่คลายแก้ไข

"บางทีที่เจออะไรร้ายๆ ก็จะกลายเป็นดี มีคนมาช่วยเรา เหมือนกับว่าเราเคยทำสิ่งดีๆ ไว้ แล้วเป็นดอกผลตอบแทน พอเจออุปสรรคปัญหาก็มีคนมาช่วย ทำให้ดีขึ้น ทุกอย่างจะสะดวกหมด นั่นคือสิ่งที่ได้รับ ถึงไม่ใช่เงิน แต่เป็นความรู้สึกดีๆ ที่คนอื่นเขามองเราในสิ่งดีๆ แง่ดีๆ"

ภัณฑิราเล่าแง่มุมงดงามที่เหมือนความประจวบเหมาะบังเอิญ หากแต่ในความเป็นจริงแล้วทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากการสร้างสรรค์เส้นทางแห่ง "โอกาส" ผ่านการปฏิบัติการงานด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ของเธอเองทั้งนั้น ดังทุกครั้งเมื่อเกิดวิกฤติ โอกาสที่เธอรังสรรค์ไว้ก็จะผลิบานเป็นช่องทางให้คนอื่นเต็มใจที่จะก้าวเข้ามาช่วยเหลือร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม เป็นความน่าจะเป็นที่เป็นไปได้จริง ดุจเดียวกับค่า "1" ในคณิตศาสตร์ความน่าจะเป็นที่หมายถึงโอกาสที่มั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเกิดขึ้นแน่นอน

ไม่ใช่แค่นั้น การใส่หัวใจทำงานทั้งในและนอกเวลาราชการเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของคนไข้โดยไม่เคยปัดปฏิเสธก็ทำให้ห้วงเวลาส่วนใหญ่ในการปฏิบัติงานมีแต่ความสุขใจจากการได้สัมผัสแววตาและคำขอบคุณของคนไข้และญาติๆ อันเนื่องมาจากเธอสามารถเป็นที่พึ่งพิงของพวกเขาได้ในยามทุกขเวทนา

"ได้เห็นแววตาคนไข้และญาติๆ ที่มีความสุข เราก็อิ่มใจ เป็นความอิ่มใจที่หล่อเลี้ยงใจเรา เสริมพลังเรา อยากให้น้องๆ พยาบาลทำได้เหมือนกันเพื่อจะได้สัมผัสความรู้สึกนี้เหมือนกับเรา เพราะเราได้ใจคนไข้ แล้วก็ได้งานกลับมาด้วย การใส่ใจจึงเป็นหลักในการทำงานและใช้ชีวิตเสมอมา"

พยาบาลเกื้อการุณย์เล่าหลักชีวิต พลางเน้นหนักแน่นว่าสติคือสิ่งกำกับหลักชีวิตให้ตั้งมั่นคงเรื่อยมาจนสามารถฝ่าข้ามขวากหนามปัญหานานา พร้อมๆ กับถากถางทางเดินแก่คนรุ่นต่อมาได้ด้วย

"หลักในการทำงานและใช้ชีวิตประจำวันคือการใช้สติ ทำให้เราไม่ประมาท รู้ว่ากำลังทำอะไร ทำให้ควบคุมอารมณ์ได้ มีสมาธิ ค่อนข้างนิ่ง ฟังคนอื่นเยอะ มองคนอื่นในแง่ดี และก็ให้โอกาสคน นอกจากนั้นก็ใช้ใจเป็นหลัก คือพยายามใส่ใจเข้าไปในทุกเรื่อง เต็มร้อยกับคนไข้ ไม่ว่าจะเป็นการเยี่ยมบ้าน การดูแลผู้พิการ ทำให้ตัวเองทั้งมีทั้งความสุขและผลงานออกมามีคุณภาพ"

เพียงเท่านี้คนไข้ที่อยู่ในความดูแลของเธอก็มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นมากจากเคยถูกทอดทิ้งราวไร้ตัวตน เพราะความพิการและถูกรังเกียจเดียดฉันท์จากสภาพจิตไม่ปกติก็กลับมามีที่ทางในสังคมได้

"รับผิดชอบงานเยี่ยมบ้าน งานผู้พิการ ทำทั้งคู่ไปด้วยกัน รวมถึงคนไข้จิตเวช คนไข้อัมพฤกษ์อัมพาต คนไข้ไม่มีญาติด้วย มีเคสคนไข้สูงอายุเส้นเลือดในสมองตีบ แขนขาซีกหนึ่งขยับไม่ได้ เดินไม่ได้ เราตามไปดูที่บ้าน พบแกคลานอยู่ที่พื้น เราก็เข้าไปจับ ประเมินกำลังแขนขาคนไข้ พบว่าฟื้นฟูได้เป็นไปได้ รุ่งเช้าวันต่อมาจึงขับรถส่วนตัวไปรับคนไข้มาโรงพยาบาล เอกซเรย์ดูกระดูกเชิงกรานพบว่าไม่หัก ก็พามาฟื้นฟูที่ศูนย์แพทย์แผนไทย ตอนหลังญาติเห็นคนไข้ดีขึ้นก็พามาเอง ใช้เวลา 2 สัปดาห์ก็กลับมาเดินได้ คนไข้บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ยิ่งกว่านั้นยังไปขับมอเตอร์ไซค์ได้อีกด้วย"

ความสำเร็จในการเปลี่ยนชีวิตคนไข้จากเดิมเดินไม่ได้กลับมาเดินได้โดยญาติๆ เห็นความสำคัญเช่นนี้มีศูนย์แพทย์แผนไทยที่อยู่ในความรับผิดชอบของภัณฑิราเป็นหัวจักรสำคัญ ที่ทั้งนำชีวิตใหม่ที่มีคุณค่ามาให้คนไข้และครอบครัว รวมถึงความสุขความภาคภูมิใจมาสู่ตัวเธอและทีมงาน

"ทำตรงนี้แล้วเรามีความสุข ได้เห็นคนไข้ช่วยเหลือตัวเองได้ จากอยู่บ้านต้องคลานตามพื้น พอมาที่เราแล้วเขากลับไปเดินได้ ไม่ใช่แค่เคสนี้ แต่มีแบบนี้อีก 5-6 เคสที่เป็นคนไข้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่เมื่อกลับไปจากเราแล้วเขาเดินได้ สภาพเกือบปกติ อิ่มใจทุกครั้งที่เห็นแววตาคนไข้มองมาที่เรา"

ทั้งนี้ ไม่ใช่ว่าทำโดยขาดความรู้ แต่ทุกเคสจะประเมินแนวโน้มก่อนว่าฟื้นฟูได้ไหม ถ้าไม่ได้อย่างน้อยสุดก็ต้องทำให้คนไข้มีกำลังใจสู้ เพราะบางคนท้อแท้ไม่อยากรักษาแล้ว จึงต้องทุ่มเทถึงขนาดทำกะลาเองที่บ้านเพื่อให้คนไข้นำไปฝึกทำกายภาพบำบัดที่บ้านตนเอง

นอกจากนั้นเธอยังเป็นผู้บุกเบิกจิตอาสาในโรงพยาบาลนาหม่อมเพื่อพัฒนาจิตอาสาแก่บุคลากร โดยมีจิตอาสาชมรมแพทย์แผนไทยเป็นหัวขบวนเคลื่อนงานช่วยเหลือดูแลคนไข้ที่ต้องกลับไปดูแลตัวเองที่บ้าน จนทำให้เกิดกระแสจิตเสียสละอาสาที่หลอมรวมคนหลากหลายเข้ามาร่วมด้วยช่วยกันดูแลคนไข้ที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกันนั้นยังเป็นกำลังสำคัญทำวัดส่งเสริมสุขภาพ จนปัญหาภายในวัดที่หยั่งรากลึกมานานถูกถอนโค่นลงได้จากการมุ่งมั่นทุ่มเทไม่ถอดใจ เหนืออื่นใดยังทำหน้าที่ประสานอำนวยความสะดวกในการนำบุคลากรโรงพยาบาลไปพัฒนาจิตที่สวนโมกข์ด้วย

ด้วยเหตุปัจจัยชีวิตภัณฑิราที่สั่งสมโอกาสพัฒนาจิตสำหรับตัวเองและสร้างสรรค์หนทางสำหรับผู้มาใหม่สม่ำเสมอเช่นนี้ ส่งผลให้ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆ ก็จะมีคนคอยช่วยเหลือจนพ้นผ่านวิกฤตินั้นๆ ไปได้ ด้วยส่วนผสมของการคิดดีทำดีมีใจอยากให้ผู้อื่นพัฒนาจิตของเธอนี้เหนี่ยวนำดึงดูดให้ใครๆ ก็อยากสนับสนุนส่งเสริม เพราะทุกคนที่เข้ามาสัมผัสสัมพันธ์ด้วยจะมีแต่ความสุขใจกลับไป เป็นความสุขที่มีน้ำหนักหรือค่าของความน่าจะเป็นเท่ากับ 1 คือเชื่อมั่นได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเกิดขึ้นแน่นอน ดังสายตาคนไข้และญาติๆ ที่มองมายังพยาบาลเอื้ออารีผู้นี้.

http://www.thaipost.net/tabloid/081109/13183