แกงมัสมั่นซี่โครงหมู
ติดใจ ด้วยกลิ่นหอมละมุนละไมของเครื่องเทศ - กิมเล้ง
แกงมัสมั่นซี่โครงหมูเครื่องปรุง- ซี่โครงหมู หรือไก่ 1 กิโลกรัม
- หอมหัวใหญ่ 1 หัว (150 กรัม)
- มันฝรั่ง 1 หัวใหญ่ (300 กรัม)
- กะทิ 3+½ ถ้วย
- พริกแกง 3 ช้อนโต๊ะ
- ถั่วลิสงคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
- ใบยี่หร่าอบแห้ง 9 – 10 ใบ
- ลูกกระวาน 9 – 10 ลูก
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปีบ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ น้ำพริกแกงมัสมั่น- พริกแห้งเม็ดใหญ่คั่ว 7 เม็ด
- หัวหอมเผา ¼ ถ้วยตวง
- กระเทียมเผา ¼ ถ้วยตวง
- รากผักชีคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
- ข่าหั่นคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
- ตะไคร้หั่นคั่ว 3 ช้อนโต๊ะ
- กะปิเผา 1 ช้อนโต๊ะ
- เครื่องเทศบดละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ (บดจากส่วนผสมดังนี้ : พริกไทย ๑ ช้อนชา ลูกผักชี ๒ ช้อนชา เม็ดยี่หร่าคั่ว ๒ ช้อนชา กานพลูคั่ว 7 ดอก ลูกจันทร์คั่ว ๑ ช้อนชา ดอกจันท์คั่ว ¼ ดอก อบเชยคั่วป่น ¼ ช้อนชา เม็ดลูกกระวานคั่ว 7 ลูก - เหลือใช้เก็บใส่ถุงพลาสติก มัดแน่นแช่เก็บในตู้เย็น )วิธีทำ1.โขลกน้ำพริกแกงให้ละเอียด (ควรโขลกตะไคร้ กับข่าก่อน – มีความชื้นน้อยโขลกละเอียดยากกว่าสมุนไพรอื่น)
2.หั่นมันฝรั่ง แช่น้ำเกลืออ่อน ๆ นำไปต้มให้สุก
3 ซี่โครงหมูล้างสะอาด (ถ้าใช้ไก่ นำไปทอดให้เหลืองเสียก่อน)
4.เคี่ยวหัวกะทิให้แตกมัน นำพริกแกงลงผัดให้หอม ใส่ซี่โครงหมูผัดพอเข้ากัน เติมกะทะที่เหลือ ใส่ลูกกระวานใบกระวานอบแห้งหอมใหญ่ มันฝรั่งต้มสุก ถั่วลิสงคั่ว
5.ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปีบ น้ำมะขามเปียก (น้ำส้มซ่า–ถ้ามี) ชิมรสให้ได้สามรสหวาน เค็ม เปรี้ยว....โขลกน้ำพริกแกงให้ละเอียด (โขลกตะไคร้ กับข่าก่อน – มีความชื้นน้อยโขลกละเอียดยากกว่าสมุนไพรอื่น)[/color]
เครื่องปรุง : ซี่โครงหมูหรือไก่ หอมหัวใหญ่ มันฝรั่ง กะทิ ถั่วลิสงคั่ว พริกแกง ใบยี่หร่าอบแห้ง ลูกกระวาน น้ำปลา น้ำตาลปีบ น้ำมะขามเปียก
เคี่ยวหัวกะทิให้แตกมัน นำพริกแกงลงผัดให้หอม
ใส่ซี่โครงหมู ผัดกับเครื่องแกงสักครู่
เติมกะทิที่เหลือ ใส่ลูกกระวาน ใบกระวานอบแห้ง หอมใหญ่ เคี่ยวด้วยไฟอ่อน ๆ
พอหมูเริ่มเปื่อยยุ่ยจึงใส่มันฝรั่งต้ม ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา น้ำมะขามเปียก (ปรุงรสอ่อน ๆ ไว้ก่อน)
เคียวต่อจนน้ำแห้งเสมอเครื่องปรุง ชิม และปรุงรสตามชอบอีกครั้ง
ตักใส่ชามโรยด้วยถั่วลิสงคั่ว (ใส่เมื่อจะรับประทานถั่วจะกรอบมัน)
* แกงตอนเย็น ไว้รับประทานตอนเช้า เครื่องแกงและน้ำปรุงจะซึมเข้าเนื้อสัตว์และมันฝรั่ง ได้รสชาติดี
แกงมัสมั่น เป็นอาหารประเภทแกงที่ได้รับอิทธิพลมาจากอาหารมลายู ชาวไทยมุสลิมเรียกแกงชนิดนี้ว่า ซาละหมั่น แกงมัสมั่นแบบไทยออกรสหวานในขณะที่ตำรับดั้งเดิมของชาวมุสลิมออกรสเค็มมัน แกงมัสมั่นแบบชาวมุสลิมปักษ์ใต้ ต่างจากการปรุงแกงมัสมั่นของชาวไทยภาคกลางคือ จะไม่ทำเป็นน้ำพริกแกงมัสมั่น แต่จะผสมลูกผักชีป่น ยี่หร่าป่น พริกป่นอินเดียและพริกไทยป่นไว้เป็นผงเครื่องแกง จากนั้นจึงนำลงไปผัดกับน้ำมันที่เจียวหัวหอมแล้ว ส่วนแกงมัสมั่นแบบมลายู-ชวา จะใส่กานพลู อบเชย ลงไปผัดกับน้ำมันและหอมแดงจนหอม แล้วจึงใส่พริกป่นอินเดีย ลูกผักชีป่น ยี่หร่าป่น พริกไทยป่นลงไปผัดให้เข้ากัน นอกจากนั้นยังใส่มะพร้าวคั่ว ผงขมิ้น ดอกไม้จีนและหน่อไม้จีนด้วย
เว็บไซต์
CNNGO ได้จัดอันดับ 50 เมนูอาหารที่อร่อยที่สุดในโลกโดยการลงคะแนนเสียงทางเฟซบุ๊ก ปรากฏว่า แกงมัสมั่นได้รับเลือกให้เป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก....
- เครื่องปรุงน้ำพริกแกงมัสมั่น อาทิ พริก หอม กระเทียม ข่า ตะไคร้ ฯลฯ ไม่เว้นแม้กระทั่งกะปิ จำเป็นอย่างยิ่งต้องนำไปคั่วหรือเผาให้หอมเสียก่อน จึงค่อยนำมาโขลกละเอียด (กะปิห่อด้วยใบตองหลายๆ ชั้นปิ้งไฟให้หอม)
- สำหรับเครื่องเทศทุกชนิดที่ใส่ในน้ำพริกเครื่องแกงตามสูตรนี้ เช่น ลูกจันทร์ ดอกจันทร์ ลูกผักชี ยี่หร่า ลูกกระวาน ใบกระวาน อบเชย กานพลู พริกไทย สามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายยาแผนโบราณทุกร้าน เพราะเครื่องเทศเหล่านี้เป็นตัวยาสมุนไพรสำคัญ ร้านขายยาโบราณแทบทุกร้านมีจำหน่าย บอกคนขายว่าซื้อน้ำหนักอย่างละ 2 สลึง หรือ หนัก 1 บาท ก็ได้ (การชั่งตัวยาสมุนไพรแผนโบราณนั้น.. น้ำหนัก 1 บาท = 15 กรัม) ถ้าบอกว่าซื้ออย่างละ 1 ขีด (100 กรัม) คงจะไม่เหลือเงินซื้อหมูซื้อไก่...ถ้าเตรียมสตางค์ไปไม่มาก
- หรือหากจะเกิดความยุ่งยากในการเตรียมเครื่องเทศ จะซื้อสำเร็จจากตลาดสดที่เขาบดขายสำเร็จไว้แล้วก็ได้เหมือนกัน...และใช้เพียง 1 ช้อนตวงปาดเท่านั้น ต่อหมู 1 กิโลกรัม