[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
24 เมษายน 2567 21:22:03 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สุนทรภู่ ๕ "นิราศเมืองแกลง"  (อ่าน 4460 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5458


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 9.0 MS Internet Explorer 9.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 29 มิถุนายน 2555 14:41:18 »

ยิ้ม

งานของสุนทรภู่

ประเภทนิราศ - นิราศเมืองแกลง

นิราศเมืองแกลง เป็นผลงานกลอนประพันธ์ นิราศเรื่องแรกของสุนทรภู่  แต่งขึ้นในปี พ.ศ. ๒๓๔๙  พรรณาการเดินทางโดยเรือไปยังเมืองแกลง  หลังจากสุนทรภู่ถูกปล่อยตัวจากการถูกจองจำ อันเนื่องจากการลอบรักใคร่กับสาวชาววังชื่อ “จัน”  เลยถูกกริ้วต้องเวรจำทั้งชายหญิง  เมื่อกรมพระราชวังหลังเสด็จทิวงคต เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๔๙  จึงพ้นโทษถูกปล่อยเป็นอิสระ   แล้วเดินทางไปหาบิดาที่เมืองแกลง    เป้าหมายการเดินทางของสุนทรภู่ไม่ปรากฏแน่ชัด  บ้างว่าท่านต้องการไปบวชกับบิดา  บ้างว่าเดินทางไปขอเงินเพื่อกลับมาแต่งงานกับแม่จัน    นักวิชาการยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่าสุนทรภู่กลับไปทำไม   แต่ทางจังหวัดระยองได้นำเรื่องราวของการเดินทางในช่วงนั้นไปสร้างเป็นอนุสาวรีย์สุนทรภู่ที่เมืองแกลง
 
ผู้ร่วมทางของสุนทรภู่ในการเดินทางคราวนี้ ได้แก่ นายแสง เป็นผู้นำทาง และน้อยกับพุ่ม ศิษย์น้องสองคน ทั้งหมดล่องเรือไปตามแม่น้ำเจ้าพระยา ลัดเลาะคลองบางนาไปออกแม่น้ำบางปะกงแล้วลงสู่ทะเล เลียบริมทะเลไปขึ้นฝั่งที่บริเวณหาดบางแสน จากนั้นจึงเดินเท้าต่อ สุนทรภู่ได้แวะพักที่บ้านขุนรามอยู่หลายวัน ก่อนจะออกเดินทางต่อไปเมืองแกลง ซึ่งในเวลานั้นยังเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนอยู่ในป่าทึบ  หนทางจะไปถึงนั้นแสนทุรกันดารและเต็มไปด้วยอันตราย  ทั้งคณะเดินทางกันต่อจนไปถึงเมืองระยอง ถึงตรงนี้ นายแสงมิได้ร่วมเดินทางต่อไปด้วย
 
สุนทรภู่กับน้องทั้งสองเดินทางต่อไปอีกจนถึงบ้านกร่ำ เมืองแกลง ได้พบบิดาของตนซึ่งบวชเป็นพระมาตลอดนับแต่สุนทรภู่เกิด สุนทรภู่ได้ถือศีลกินเจอยู่กับบิดาพักหนึ่ง แล้วเกิดล้มป่วยเป็นไข้ ต้องพักรักษาตัวอยู่นานหลายเดือนกว่าจะเดินทางกลับมาถึงพระนคร


          ๑.
โอ้สังเวชวาสนานิจจาเอ๋ย
จะมีคู่มิได้อยู่ประคองเชย
ต้องละเลยดวงใจไว้ไกลตา
            ถึงทุกข์ใครในโลกที่โศกเศร้า
            ไม่เหมือนเราภุมรินทร์ถวิลหา
            จะพลัดพรากจากกันไม่ทันลา
            ใช้แต่ตาต่างถ้อยสุนทรวอน



          ๒.
โอ้จำใจไกลนุชสุดสวาสดิ์
จึงนิราศเรื่องรักเป็นอักษร
ให้เห็นอกตกยากเมื่อจากจร
ไปดงดอนแดนป่าพนาวัน



                    ๓.
ถึงบางสมัครเหมือนพี่รักสมัครมาด
มาแคล้วคลาดมิได้อยู่เป็นคู่สม
ถึงยามนอนนอนเดียวเปลี่ยวอารมณ์
จะแลชมอื่นอื่นไม่ชื่นใจ
            แสนกันดารบ้านเมืองไม่แลเห็น
            ยะเยือกเย็นหย่อมหญ้าพฤกษาไสว
            โอ้คลองเปลี่ยวพี่ก็เปล่าเศร้าฤทัย
            จะถึงไหนก็ไม่แจ้งแห่งสำคัญ           



          ๔.
ถึงหย่อมย่านบ้านกร่ำพอค่ำพลบ
ประสบพบเผ่าพงศ์พวกวงศา
ขึ้นกุฎีที่สถิตย์ท่านบิดา
กลืนน้ำตาก็ไม่ฟังเฝ้าพรั่งพราย
            ศิโรราบกราบเท้าให้เปล่าจิต
            รำคาญคิดอาลัยมิใคร่หาย
            ชรอยกรรมทำสัตว์ให้พลัดพราย
            จึงแยกย้ายบิตุราชญาติกา
มาพบพ่อท้อใจด้วยไกลแม่
ให้ตั้งแต่เศร้าสร้อยละห้อยหา
ชนนีอยู่ศรีอยุธยา
บิดามาอ้างว้างอยู่กลางไพร
            ภูเขาขวางทางกั้นอรัญเวศ
            ข้ามประเทศทุ่งท่าชลาศัย
            เดินกันดารปานปิ่มจะบรรลัย
            จึงมาได้เห็นหน้าบิดาตัว
ท่านชูช่วยอวยพรให้ผ่องแผ้ว
ดังฉัตรแก้วกางกั้นไว้เหนือหัว
อุตส่าห์ฝนไพลทารักษาตัว
ค่อยยังชั่วมึนเมื่อยที่เหนื่อยกาย



          ๕.
อยู่บ้านกร่ำทำบุญกับบิตุเรศ
ถึงเดือนเศษโศกซูบจนรูปผอม
ทุกคืนค่ำกำสรดสู้อดออม
ประณตน้อมพุทธคุณกรุณา
            ทั้งถือศีลกินเพลเหมือนเช่นบวช
            เย็นเย็นสวดศักราชพระศาสนา
            พยายามตามติดด้วยบิดา
            เป็นฐานานุประเทศอธิบดี
จอมกษัตริย์มัสการขนานนาม
เจ้าอารามอรัญธรรมรังสี
เจริญพรตยศยิ่งมิ่งโมลี
กำหนดยี่สิบวสาสถาวร


          ๖.
กระแสชลวนเชี่ยวเรือเลี้ยวลด
ดูค้อมคดขอบคุ้งคาคาไหล
แต่สายชลเจียวยังวนเป็นวงไป
นี่หรือใจที่จะตรงอย่าสงกา

          ๗.
พี่เล็งแลดูกระแสสายสมุทร
ละลิ่วสุดสายตาเห็นฟ้าขวาง
เป็นฟองฟุ้งรุ่งเรืองอยู่รางราง
กระเด็นพร่างพรายพราวราวกับพลอย


          ๘.
คำโบราณท่านผูกถูกทุกสิ่ง
เขาว่าลิงจองหองมันพองขน
ทำหลุกหลิกเหลือกลานพานลุกลน
เขาด่าคนจึงว่าลิงโลนลำพอง

          ๙.
ถึงทับนางวังเวงฤทัยวับ
เห็นแต่ทับชาวนาอยู่อาศัย
นางชาวนาก็ไม่น่าจะชื่นใจ
คราบขี้ไคลคร่ำคร่าดังทาคราม  ยิ้ม





.

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น: สุนทรภู่ 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
สุนทรภู่ ๒ "นิทานคำกลอน-พระอภัยมณี"
สุขใจ ใต้เงาไม้
Kimleng 0 4475 กระทู้ล่าสุด 29 มิถุนายน 2555 09:55:22
โดย Kimleng
สุนทรภู่ ๓ "นิทานคำกลอน-โคบุตร"
สุขใจ ใต้เงาไม้
Kimleng 0 6315 กระทู้ล่าสุด 29 มิถุนายน 2555 09:59:04
โดย Kimleng
สุนทรภู่ ๔ "นิทานคำกลอน - สิงหไตรภพ"
สุขใจ ใต้เงาไม้
Kimleng 0 6645 กระทู้ล่าสุด 29 มิถุนายน 2555 14:34:33
โดย Kimleng
สุนทรภู่ ๖ "นิราศพระบาท"
สุขใจ ใต้เงาไม้
Kimleng 0 2427 กระทู้ล่าสุด 29 มิถุนายน 2555 14:45:19
โดย Kimleng
สุนทรภู่ ๗ "นิทานคำกลอน เรื่องลักษณวงศ์"
สุขใจ ใต้เงาไม้
Kimleng 0 9108 กระทู้ล่าสุด 29 มิถุนายน 2555 19:36:40
โดย Kimleng
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.323 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 09 เมษายน 2567 09:06:41