[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
19 เมษายน 2567 02:59:58 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รู้จัก ผีเปรต ชนิดต่าง ๆ  (อ่าน 4197 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 2.0.157.2 Chrome 2.0.157.2


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 25 ธันวาคม 2552 16:35:54 »

รู้จัก ผีเปรต
ผีเปรตในโลกมีอยู่ 12 ตระกูลใหญ่ๆ ละเอียดต้องไปดูในคัมภีร์ว่าด้วยเรื่องเปรตโดยเฉพาะ นิรยกถา เป็นคัมภีร์ว่าด้วยเรื่องเปรตโดยเฉพาะ หรือดูจากจารึกการเปรียญ ณ วัดพระเชตุพนฯ และหาอ่านได้จากประชุมศิลาจารึกวัดพระเชตุพนฯ เล่ม 1 ซึ่งคัดลอกและถ่ายทอดมาโดยย่อ ดังนี้






หิมวนตปปเทเส วิชาติเปโต นาม เปตวิสโย กาลครั้งหนึ่งยังมี ประเทศแห่งหนึ่งในป่าหิมพานต์ ชื่อว่า วิชาตประเทศ ตั้งอยู่เบื้องบนแห่งนรกขึ้นมา อันเป็นที่อยู่แห่งเปรตทั้งหลายมีมหิทธกาเปรตเป็นอธิบดีแก่เปรตทั้งปวง และตระกูลเปรตนั้นมีอยู่ 12 ตระกูล คือ
1. วันตาสาเปรตตระกูล
2. กูณปขาทเปรตตระกูล
3. คูถขาทเปรตตระกูล
4. อัคคิชาลมุขเปรตตระกูล
5. สุจิมุขเปรตตระกูล
6. ตัณหาชิตาเปรตตระกูล
7. นิชฌามกเปรตตระกูล
8. สัตตังคาเปรตตระกูล
9. ปัพพตังคาเปรตตระกูล
10. อัชครังคาเปรตตระกูล
11. เวมานิกเปรตตระกูล
12. มหิทธิกาเปรตตระกูล



นอกจากเปรต 12 ตระกูลนี้ ยังมีเปรตอีก 19 จำพวก ได้แก่
1. สุจิโลมา คือ เปรตผู้มีขนเป็นเข็ม
2. ขุรโลมา คือ เปรตผู้มีขนเป็นกรด
3. เอกปาทา คือ เปรตผู้มีเท้าข้างเดียว
4. อเนกปาทา คือ เปรตผู้เท้ามาก
5. เอกหตถา คือเปรตผู้มีมือข้างเดียว
6. อเนกหตถา คือ เปรตผู้มีมือมาก
7. เอกเจตตา คือ เปรตผู้มีจักษุข้างเดียว
8. อเนกเนตตา คือ เปรตผู้มีจักษุมาก
9. เปรตจำพวกที่กินมลทินครรภ์เป็นอาหาร
10. เปรตจำพวกขนหยักเยื่อทูลศีรษะไว้เป็นนิตย์
11. เปรตจำพวกกายยาว 25 เส้น นอนกลิ้งอยู่ดุจแผ่นศิลา
12. เปรตจำพวกตัวจมอยู่บนภูเขาเพียง สะเอว ไฟไหม้อยู่
13. เปรตพวกไถนาอยู่ทั้งกลางวันและกลางคืน
14. เปรตจำพวกมีกายสูง มีกลิ่นตัวเหม็นยิ่งนัก
15. เปรตจำพวกมีพืชเป็นเหล็กเป็นเปลวเพลิงรัดศีรษะอยู่
16. เปรตจำพวกมีร่างกายผอม และเปลือยกายอยู่ตลอดเวลา
17. เปรตจำพวกรูปชั่วตัวผอม สะพรั่งไปด้วยเส้นเอ็น ศีรษะกลั้วไปด้วยฝุ่น
18. เปรตจำพวกดำดุจตอไฟไหม้ และ
19. เปรตจำพวกสูงเท่าลำตาล มีแต่หนังหุ้มกระดูก








เปรตไม่สมประกอบ 4 ชนิด
1. เปรตชนิดที่มีรูปร่างไม่สมประกอบ ร่างกายซูบผอมอดโซ
2. เปรตชนิดที่มีรูปร่างพิการ เช่น กายเป็นอย่างร่างของมนุษย์ แต่ศีรษะ เป็นอย่างสัตว์ดิรัจฉาน เช่น ตัวเป็นคนหัวเป็นนกกาบ้าง...เป็นสุกรบ้าง...เป็นสุนัขบ้าง
3. เปรตชนิดที่มีรูปร่างพิกล เสวยกรรมกรณ์ (รับกรรม รับอาญา) อยู่ตา มลำพังด้วยอำนาจบาปกรรมที่ได้กระทำเอาไว้สมัยเมื่อยังมีชีวิตอยู่บนโลก มนุษย์
4. เปรตชนิดที่มีรูปร่างอย่างมนุษย์ปกติ แม้เป็นผู้เสวยก็มีวิมานอยู่ แต่ใน ราตรีต้องออกจากวิมานไปเสวยกรรมจนกว่าจะรุ่งเช้า เรียกว่าวิมานนิกเปรต

เปรต เป็นผีจำพวกหนึ่ง ซึ่งเคยทำบาปสร้างกรรมเอาไว้สมัยเมื่อยังมีชีวิตอยู่ครั้น ตายลงแล้วก็ต้องมารับผลกรรมตามที่ได้สร้างไว้ทำให้ต้องมีความเป็นอยู่ อย่างอดอยาก ผอมโซ ชอบส่งเสียงร้องหรือปรากฏตัวให้ชาวบ้านเห็นเพื่อขอส่วนบุญให้ช่วยทำบุญอุทิศ ส่วนกุศลไปให้บ้างเพราะอดอยากหิวโหยซะเหลือเกิน

โดยทั่วไปคนส่วน ใหญ่เข้าใจว่า เปรตเป็นผีชนิดหนึ่งที่มีลำตัวสูง บ้างว่าสูงเท่าลำตาล สูงเท่าต้นตาลหรือยอดตาล บ้างว่าสูงเท่าเสาชิงช้าวัดสุทัศน์ บ้างว่าสูงเท่ายอ ดธง หากเป็นสมัยนี้คงต้องเปรียบเทียบให้เห็นภาพกันใหม่ว่า สูงกว่าตึกห้าชั้น หรือสูงเท่ากับคอนโดมิเดียมริมน้ำอะไรทำนองนี้ สรุปใจความก็คือ เปรตเป็นผีที่มี รูปร่างสูงมาก จนมีคำพูดติดปากล้อใครที่ตัวโย่งๆว่า ....สูงยังกับเปรต แต่เนื่องจากกรรมหรือการกระทำในทางที่ชั่วร้ายมีแตกต่างกันไป เมื่อตายแล้วจึงได้เกิดเ ป็นเปรตชนิดต่างๆกัน เช่น คนที่ชอบดุด่าตบดีพ่อแม่ผู้มีพระคุณ จะต้องไปเกิดเป็นเปรตจำพวกที่มีปากเท่ารูเข็ม มือโตเท่าใบพายหรือใบตาล อดอยากและหิวโ หยอยู่เป็นนิตย์ ลองคิดดูว่าหากใครเกิดมามีปากเท่ารูเข็ม เวลาจะกินข้าวต้องเอายัดเข้าปากไปทีละเมล็ดมันจะทรมานทรกรรมขนาดไหน เป็นคำขู่หรือเตือนสติข องคนโบราณ ให้ลูกหลาน มีความกตัญญู ให้การเลี้ยงดูพ่อแม่ยามแก่ชราและไม่ทำร้ายทั้งร่างกายจิตใจใครขืนเป็นอย่าง ที่ว่ารวมทั้งพวกเกกมะเหรกเกเร ชาวบ้ านก็จะพากันด่าประณามว่า...ไอ้เปรต คนที่ชอบฆ่าเป็ดฆ่าไก่ ตีไก่ เชือดหมู เชือดวัว อยู่เป็นอาจิณ เวลาตายไปแล้วอาจต้องไปเกิดเป็นเปรตประเภท ตัวเป็นค นหัวเป็นไก่ หรือหัวเป็นหมู ตามแต่ผลกรรม ใครทำกรรมเอาไว้อย่างไรก็จะได้ผลกรรมอันนั้นตอบสนอง ฉะนั้นเปรตอาจมีอยู่หลายชนิดหลายจำพวก

เปรตมีที่อยู่อาศัยแตกต่างกันไปตามประเภทและ เผ่าพันธ์รวมทั้งคติความเชื่อที่บอกต่อหรือสืบทอดกันมา บางตำราว่าอาศัยอยู่ตามวัดคอยปรากฏตัวหลอกหลอนหรือแสดงร่างให้เห็นเพื่อขอส่วนบุญ บ้างว่าอยู่ตามท้องทุ่งตามทางเปลี่ยวใครไปเที่ยวดึกๆ กลับบ้านคนเดียวเดินผ่านศาลาวัด หรือตามทางแยก อาจเจอเปรตเดิ นตามหลังมาส่งถึงบ้าน หรือเดินเป็นเพื่อนมาตลอดทาง ซึ่งหากเจอเปรตก็ไม่ต้องตกอกตกใจอะไร วิ่งลูกเดียว หรือหากว่ามีเปรตและผีชนิดใดก็ตามขวางหน้าเรา อยู่ โบราณว่าอย่าวิ่งหันหลังกลับ เพราะจะโดนมันดักหน้า ให้วิ่งไปข้างหน้าหรือวิ่งฝ่าไปเลย แต่ถ้าจะให้ดีกลางค่ำกลางคืน นอนอยู่บ้านสบายที่สุด

เปรตกินอะไรเป็นอาหารคงไม่ ต้องบอก เพราะไม่รู้เหมือนกันนอกจากมีความเชื่อกันว่า เวลาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว พวกเปรตก็จะมารับ ส่วนบุญจากลูกหลานได้กินอิ่มหมีพีมันไปมื้อหนึ่งคราวหนึ่ง ไม่อย่างนั้นก็อดอยากหิวโหย นอกจากพวกอาหารคาวหวานแล้ว บางทีลูกหลานจะถวายเสื้อผ้าเครื่งอนุ่งห่มแก่พระสงฆ์ด้วย เพื่อให้ผีญาติๆ ของตนไม่ต้องโป๊หรือเปลือยกายล่อนจ้อน หากไม่มีญาติหรือ ลูกหลานคอยทำอุทิศส่วนกุศลไปให้พวกเปรตเหล่านี้จะหิวโหย ร้องโหยหวล เสียงร้องของเปรต นอกจากในบางตำรา บอกไว้ว่า มันส่งเสียงร้องดังกรี๊ดๆ เป็นเสียงหวิวหวีดฟังแล้วชวนวังเวง วิเวกวิโหวเหว คนล่ะอย่างกับที่พวก วัยรุ่นกรี๊ดกร๊าดเวลาเจอดารายอดนิยมหรือตอนดูคอนเสิร์ตหลังหมอชิต ว่ากันว่าที่เสียงมันดังกรี๊ดๆ ก็เพราะเกิดจากแรงดันของลมจากท้องผ่านช่องปากที่เล็กเท่า รูเข็ม เลยกลายเป็นเสียงอย่างที่บอก ถ้าใครทำบุญหากจะอุทิศก็ขอให้กล่าวหรือออกนามพวกผีไม่มีญาติ หรือบรรดาผีๆ ทั้งหลายรวมทั้งคุณผีเปรตด้วย เพื่อที่จะได้ไม่หิวโหยร่างกายผอมโซจนน่าสงสาร

ผีเปรต หรือชาวอีสานเรียกว่า ผีเผด เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เกิดหรือถือกำเนิดขึ้นตามผลกรรมที่เคยได้กระทำเอาไว้ สมัยเมื่อยังมีชีวิตอยู่ ตำราโบราณกล่าวว่า เวลาที่เปรตตัวเดิมจะพ้นจากกรรมได้ไปผุดไปเกิด จะมีเปรตตัวใหม่ มารับตำแหน่งแทนดังมีเค้ามาจากนิทานพระมาลัย(พระอรหันต์ในพุทธกาล 2500กว่าปี)เรื่องหนึ่ง ดังนี้

ยังมีมานพหนึ่งคนหนึ่งชื่อว่า มิตตวินทุ อยากจะไปเที่ยวทะเลกับพ่อค้าสำเภา จึงเคี่ยวเข็ญเอาเงินทองจากมารดาซึ่งเป็นแม่ม่ายใจบุญ ด้วยความเป็นห่วงลูกชายมารดาก็ขัดขวาง มิตตวินทุปกติเป็นคนเกกมะเหรกเกเรอยู่แล้ว จึงโกรธจนลืมตัวถีบแม่จนล้มแล้วหนีไปเที่ยวทะเลจนได้ แต่ผลกรรมตามทันทำให้เรือแตก มิตตวินทุว่ายน้ำไปขึ้นฝั่งที่เกาะแห่งหนึ่งอันเป็นที่อยู่ของพวกเปรต แต่ชายหนุ่มกลับมองเห็นกงจักรที่หมุนคว้างผ่าศีรษะของพวกเปรตเหล่านั้นเป็นดอกบัวซึ่ง ประดิษฐ์เป็นมาลาสวมใส่ไว้อย่างสวยงาม..เห็นเลือดที่ไหลย้อยมาตามตัวเป็น สังวาลสาย สร้อย เห็นพวกเปรตที่กำลังร้องครวญครางยกมือยกไม้ชักดิ้นชักงอด้วยความเจ็บปวดเป็น การร้องรำทำเพลงอย่างมีความสุข มิตตวินทุจึงเอ่ยปากขอพวกเปรตรู้ ว่ามีผู้มารับกรรมหรือรับช่วงต่อ แสดงว่าพวกตนได้พ้นจากกรรมที่เคยกระทำเอาไว้แล้วก็ดีใจ รีบยกให้อย่างไม่ลังเล จึงเป็นที่มาของคำพังเพยไทยที่ว่า "เห็นกงจักรเป็นดอกบัว เห็นสองโพดำเป็นสเปโต..." อะไรทำนองนี้แหละ

ใน พจนานุกรมฉบับต่างๆ กล่าวถึงเปรตพอรวมความได้ว่าเป็นสัตว์พวกหนึ่ง เกิดในอบายภูมิ แปลว่า แดนแห่งความทุกข์เป็นผีเลวจำพวกหนึ่ง มีหลายชนิด รูปร่างสูงโย่งยังกับลำตาล ผมยาว คอยาว ผอมโซเพราะอดอยาก ปากเท่ารูเข็ม..... สงสัยจะหมายถึงเข็มเย็บผ้ามากกว่าเข็มเย็บกระสอบ มีมือโตเท่าใบตาล กินเลือดและหนองเป็นอาหาร ร้องเสียงดังกรี๊ดๆ ส่วนในตำราไตรภูมิพระร่วง พรรณนาเกี่ยวกับเปรตเอาไว้ว่า บางจำพวกอยู่ในมหาสมุทร บนยอดเขา ตามไหล่เขา แต่บางจำพวกก็อยู่ในปราสาท มีช้างม้าเป็นข้าทาส บางจำพวกเวลาข้างแรม เป็นเปรต เวลาข้างขึ้นเป็นเทวดา ฯลฯ อันนี้แล้วแต่บุญกรรมที่ได้กระทำเอาไว้

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
เลือกพืชผัก กินต้านมะเร็ง ชนิดต่าง ๆ
สุขใจ อนามัย
หมีงงในพงหญ้า 0 2420 กระทู้ล่าสุด 23 ตุลาคม 2553 12:20:10
โดย หมีงงในพงหญ้า
รู้จัก “เต่า” ก่อนปล่อยไปแล้วได้บาป
กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
เงาฝัน 3 6688 กระทู้ล่าสุด 24 มิถุนายน 2555 14:16:03
โดย เงาฝัน
รู้จัก “โลก” ที่แท้จริง อาจารย์ประเสริฐ อุทัยเฉลิม
ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
มดเอ๊ก 0 1483 กระทู้ล่าสุด 25 กรกฎาคม 2559 14:40:49
โดย มดเอ๊ก
รู้จัก พญาศรีสัตตนาคราช ที่มาของแลนด์มาร์กแห่งใหม่ นครพนม หลวงปู่คำพันธ์เล่าไว้
ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
มดเอ๊ก 1 4067 กระทู้ล่าสุด 07 ตุลาคม 2559 23:47:52
โดย มดเอ๊ก
รู้จัก LGBTQ ความหลากหลายทางเพศ และธงสีรุ้ง
สุขใจ จิบกาแฟ
ฉงน ฉงาย 0 676 กระทู้ล่าสุด 10 กันยายน 2564 18:59:48
โดย ฉงน ฉงาย
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.325 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page วานนี้